เรื่องมีอยู่ว่า เรากับแฟนเริ่มรู้จักกันจากการเป็นเพื่อนร่วมงาน เขาเป็นพนักงานใหม่ที่ไม่ค่อยสุงสิงกับใครสักเท่าไหร่ กลางวันกินข้าวกับเพื่อนร่วมงานบ้างกินคนเดียวบ้าง
ตกเย็น5โมงตรงกลับบ้านไม่สมาคม🍻
(สายงานเราคือก่อสร้างตกเย็นก็จะตั้งวงพูดคุยทั้งเรื่องงานทั้งเฮฮาเพื่อคลายเครียดหลังเลิกงาน🍻) ผ่านไปสัก2เดือนเขาเริ่มเข้ากับเพื่อนร่วมงานได้ดีขึ้นกลางวันเริ่มกินข้าวรวมๆกันแล้ว แต่เย็นยังกลับบ้านไวเหมือนเดิม แต่แปลกตรงเขาชอบทักไลน์มาคุยกับเราถามว่ากลับบ้านหรือยังวันนี้เมาหรือเปล่า ตอนเช้าก็ส่งสติกเกอร์มาตลอดๆ เราเองไม่ได้คิดอะไรคิดว่าคงทักแบบนี้เป็นปกติกับทุกคน ผ่านไปสัก3เดือนได้ เขาเริ่มเข้าสมาคมหลังเลิกงาน🍻 เหมือนเรากับเขาก็เริ่มสนิทกันมากขึ้นด้วยจนวันนึงเรากับเขาต่างคนต่างเมา แต่เรามีสติทุกคำพูดทุกการกระทำนะ เราก็เลยอยากรู้ว่าที่เขาคุยกับเราทักมาหาเช้า-เย็น เขาคิดอะไรเกินเพื่อนร่วมงานกับเราหรือเปล่า หลังจากทุกคนแยกย้ายกันกลับ เราเลยลองโทรหาเขาให้มาหา แล้วเขาก็มา คงไม่ต้องบรรยายต่อนะว่าหลังจากนั้นเกิดอะไรขึ้น........
ตื่นเช้ามาไปทำงานกันตามปกติ แต่เราแยกกันไปนะ เพราะกลัวคนที่ทำงานรู้
แต่ก็นะความลับไม่มีในโลก ตอนนี้ทุกคนก็รู้ว่าเราคบกัน ช่วงแรกก็ไปไหนมาไหนด้วยกันต่างคนต่างพาไปแนะนำให้ครอบครับรู้จัก คบกันได้เกือบปีเราเริ่มรู้สึกว่าเขาไม่ใส่ใจเราเหมือนแต่ก่อน เหมือนเขาไม่เคยรักเราเลยด้วยซ้ำ เราเป็นคนไม่ค่อยอดทนกับความรู้สึกแบบนี้สักเท่าไหร่
เราก็เลยถามเขาว่าอยากเลิกกันมั้ย ถ้าอยากเลิกก็บอกได้นะ ขอแค่อย่านิ่งแล้วหายไปเฉยๆ แบบนั้นมันไม่โอเคร เราขี้เกียจเดา เขาก็บอกว่าไม่ได้อยากเลิก อย่าคิดมาก หลังจากได้คุยกันว่าเรารู้สึกได้ว่าเขาเปลี่ยนไป
เขาก็ดีขึ้นมาสักพัก แล้วไม่นานก็เข้าสู่ภาวะเดิม เขาไม่ใส่ใจเรา อีกแล้ว หนักไปกว่านั้นคือเราทำอะไรก็เหมือนจะผิดไปหมดทุกอย่างเลย เราคุยกันเหมือนเป็นศัตรูคู่อาฆาต จ้องแต่จะเอาชนะกัน
มันเลยกลายเป็นว่า
ทั้งๆที่ทำงานอยู่ด้วยกันแต่วันทั้งวันคุยกันไม่ถึง5คำ บางวันไม่ได้คุยกันเลยสักคำเดียวก็มี
แล้วเมื่อต้นเดือนกุมภาที่ผ่านแฟนเพื่อนที่ทำงานชวนไปเที่ยวทะเล เราก็ตัดสินใจไปเลยทันทีโดยไม่ได้ถามเขาก่อนว่าเขาจะไปด้วยมั้ย เพราะคิดว่าถ้าได้มีเวลาอยู่ด้วยกันนานๆอะไรมันคงดีขึ้นบ้าง เราเลยบอกเขาว่าไปทะเลกันนะ แต่เขาปฎิเสธเราแบบไม่ได้คิดเลยด้วยซ้ำ เราก็พยามยามอ้อนก็แล้วข้อร้องก็แล้ว ให้ข้อเสนอว่าถ้าไปทะเลด้วยกันจะเป็นเด็กดี1เดือน จะไม่ดื้อไม่งี่เง่าไม่ชวนทะเลาะเลย แต่เขาก็ยืนยันว่าไม่ไป
เราก็ท้อแล้วละโอเครไม่ไปก็ไม่ไป เราไป คนเดียวก็ได้
แต่พอถึงวันเดินทางเพื่อนเราก็บอกว่าเขาไปด้วยนะ
แต่เขาบอกเรานี่น่าว่าไม่ไป เราเลยพนันกับเพื่อนไปว่าถ้าเขาไม่ไปเพื่อนต้องเสียเบียร์ลังนึงนะ(พวกเราผีพนันเบียร์เข้าสิง พนันกันแทบทุกเรื่อง บ้าไปแล้วววว5555) สรุปเราเสียเบียร์1ลัง เขาเปลี่ยนใจไป
แต่เรากลับรู้สึกแย่มากๆๆๆ เพราะเราชวนพี่สาวเราไปแทนเขา ที่พักก็จองไปเรียบร้อยแล้วด้วย ลำบากเราต้องจองห้องพักเพิ่มอีกห้อง แทนที่เราจะดีใจนะที่เขาไปด้วยแต่กลับกัน เราทั้งโกรธทั้งโมโหเขามากกกกก ระหว่างการเดินทางไปเรากัดกันตลอดทางคือสรุปไปด้วยกันนอนห้องเดียวกันแต่ทะเลาะกันตลอดทริปเลย(ซึ่งเราเองควบคุมตัวเองไม่ให้โกรธไม่ได้เลยไม่รู้ทำไมเหมือนกัน เคยเป็นแบบนี้กันบ้างมั้ย❓)
ล่าสุดมีทริปใหญ่ไป ตจว.กับที่ทำงานอีกไม่กี่วันนี้ เราก็ถามเขาว่าไปมั้ยถ้าไปเราจะลงชื่อ ก็เหมือนเดิม เขาไม่ไป รอบนี้เราไม่ตื้อให้เขาไปด้วยเหมือนรอบที่แล้ว เพราะไม่อยากลดค่าตัวเองอีกแล้ว (แต่เราก็ไม่ไปนะเพราะถ้าไปคนเดียวก็จะมีคำถามเกิดขึ้นมากมายระหว่างทริป)
แล้วอาทิตย์ถัดไปก็มีทริปไปทะเลอีก1ทริป เราก็ชวนเขาเหมือนเดิม คำตอบที่ได้ก็ยังเป็นคำตอบเดิม
จนเรารู้สึกว่าหรือจริงๆแล้วเขารังเกียจที่ต้องไปกับเราหรือเปล่าวะ
หรือเขาเบื่อเรา
หรือเขาอยากเลิกแต่ไม่กล้าพูดตรงๆเลยเลือกที่จะอยู่ห่างๆให้ห่างกันไปเรื่อยๆจนเราท้อแล้วเลิกกับเขาไปเองหรือเปล่า
ตอนนี้ในหัวเรามันมีคำถามมากมายแต่หาคำตอบไม่ได้เลย 😭
จนถึงตอนนี้ที่เรารู้สึกว่าเราทนกับรู้สึกเหมือนไร้ตัวตนแบบนี้ไม่ไหวแล้ว
เราบอกกับเขาไปว่าตอนนี้เรากำลังคิดทบทวนเรื่องราวระหว่างเราทั้งหมดโดยใช้สติไม่ใช้อารมณ์ แล้วสิ้นเดือน(มี.ค.62)
เราจะบอกเขาว่าเราจะจบหรือไปต่อดี
เราอยากขอคำแนะนำจากทุกคนว่าเราควรทำยังไงดี จะไปต่อหรือพอแค่นี้ดี
***เราเคยขอเลิกกับเขามา3ครั้งแล้วแต่เขาไม่ยอมเลิก เขาบอกแค่ว่าเราคิดมากไปเอง
สำหรับเรา เราว่าการคบกัน
"มันต้องไม่เป็นภาระความรู้สึกซึ่งกันและกัน"
จะไปต่อหรือพอแค่นี้❓คนรักกันหรือความรักมันต้องเป็นความสัมพันธ์แบบ Two way communication. มันถึงจะไปรอด
ตกเย็น5โมงตรงกลับบ้านไม่สมาคม🍻
(สายงานเราคือก่อสร้างตกเย็นก็จะตั้งวงพูดคุยทั้งเรื่องงานทั้งเฮฮาเพื่อคลายเครียดหลังเลิกงาน🍻) ผ่านไปสัก2เดือนเขาเริ่มเข้ากับเพื่อนร่วมงานได้ดีขึ้นกลางวันเริ่มกินข้าวรวมๆกันแล้ว แต่เย็นยังกลับบ้านไวเหมือนเดิม แต่แปลกตรงเขาชอบทักไลน์มาคุยกับเราถามว่ากลับบ้านหรือยังวันนี้เมาหรือเปล่า ตอนเช้าก็ส่งสติกเกอร์มาตลอดๆ เราเองไม่ได้คิดอะไรคิดว่าคงทักแบบนี้เป็นปกติกับทุกคน ผ่านไปสัก3เดือนได้ เขาเริ่มเข้าสมาคมหลังเลิกงาน🍻 เหมือนเรากับเขาก็เริ่มสนิทกันมากขึ้นด้วยจนวันนึงเรากับเขาต่างคนต่างเมา แต่เรามีสติทุกคำพูดทุกการกระทำนะ เราก็เลยอยากรู้ว่าที่เขาคุยกับเราทักมาหาเช้า-เย็น เขาคิดอะไรเกินเพื่อนร่วมงานกับเราหรือเปล่า หลังจากทุกคนแยกย้ายกันกลับ เราเลยลองโทรหาเขาให้มาหา แล้วเขาก็มา คงไม่ต้องบรรยายต่อนะว่าหลังจากนั้นเกิดอะไรขึ้น........
ตื่นเช้ามาไปทำงานกันตามปกติ แต่เราแยกกันไปนะ เพราะกลัวคนที่ทำงานรู้
แต่ก็นะความลับไม่มีในโลก ตอนนี้ทุกคนก็รู้ว่าเราคบกัน ช่วงแรกก็ไปไหนมาไหนด้วยกันต่างคนต่างพาไปแนะนำให้ครอบครับรู้จัก คบกันได้เกือบปีเราเริ่มรู้สึกว่าเขาไม่ใส่ใจเราเหมือนแต่ก่อน เหมือนเขาไม่เคยรักเราเลยด้วยซ้ำ เราเป็นคนไม่ค่อยอดทนกับความรู้สึกแบบนี้สักเท่าไหร่
เราก็เลยถามเขาว่าอยากเลิกกันมั้ย ถ้าอยากเลิกก็บอกได้นะ ขอแค่อย่านิ่งแล้วหายไปเฉยๆ แบบนั้นมันไม่โอเคร เราขี้เกียจเดา เขาก็บอกว่าไม่ได้อยากเลิก อย่าคิดมาก หลังจากได้คุยกันว่าเรารู้สึกได้ว่าเขาเปลี่ยนไป
เขาก็ดีขึ้นมาสักพัก แล้วไม่นานก็เข้าสู่ภาวะเดิม เขาไม่ใส่ใจเรา อีกแล้ว หนักไปกว่านั้นคือเราทำอะไรก็เหมือนจะผิดไปหมดทุกอย่างเลย เราคุยกันเหมือนเป็นศัตรูคู่อาฆาต จ้องแต่จะเอาชนะกัน
มันเลยกลายเป็นว่า
ทั้งๆที่ทำงานอยู่ด้วยกันแต่วันทั้งวันคุยกันไม่ถึง5คำ บางวันไม่ได้คุยกันเลยสักคำเดียวก็มี
แล้วเมื่อต้นเดือนกุมภาที่ผ่านแฟนเพื่อนที่ทำงานชวนไปเที่ยวทะเล เราก็ตัดสินใจไปเลยทันทีโดยไม่ได้ถามเขาก่อนว่าเขาจะไปด้วยมั้ย เพราะคิดว่าถ้าได้มีเวลาอยู่ด้วยกันนานๆอะไรมันคงดีขึ้นบ้าง เราเลยบอกเขาว่าไปทะเลกันนะ แต่เขาปฎิเสธเราแบบไม่ได้คิดเลยด้วยซ้ำ เราก็พยามยามอ้อนก็แล้วข้อร้องก็แล้ว ให้ข้อเสนอว่าถ้าไปทะเลด้วยกันจะเป็นเด็กดี1เดือน จะไม่ดื้อไม่งี่เง่าไม่ชวนทะเลาะเลย แต่เขาก็ยืนยันว่าไม่ไป
เราก็ท้อแล้วละโอเครไม่ไปก็ไม่ไป เราไป คนเดียวก็ได้
แต่พอถึงวันเดินทางเพื่อนเราก็บอกว่าเขาไปด้วยนะ
แต่เขาบอกเรานี่น่าว่าไม่ไป เราเลยพนันกับเพื่อนไปว่าถ้าเขาไม่ไปเพื่อนต้องเสียเบียร์ลังนึงนะ(พวกเราผีพนันเบียร์เข้าสิง พนันกันแทบทุกเรื่อง บ้าไปแล้วววว5555) สรุปเราเสียเบียร์1ลัง เขาเปลี่ยนใจไป
แต่เรากลับรู้สึกแย่มากๆๆๆ เพราะเราชวนพี่สาวเราไปแทนเขา ที่พักก็จองไปเรียบร้อยแล้วด้วย ลำบากเราต้องจองห้องพักเพิ่มอีกห้อง แทนที่เราจะดีใจนะที่เขาไปด้วยแต่กลับกัน เราทั้งโกรธทั้งโมโหเขามากกกกก ระหว่างการเดินทางไปเรากัดกันตลอดทางคือสรุปไปด้วยกันนอนห้องเดียวกันแต่ทะเลาะกันตลอดทริปเลย(ซึ่งเราเองควบคุมตัวเองไม่ให้โกรธไม่ได้เลยไม่รู้ทำไมเหมือนกัน เคยเป็นแบบนี้กันบ้างมั้ย❓)
ล่าสุดมีทริปใหญ่ไป ตจว.กับที่ทำงานอีกไม่กี่วันนี้ เราก็ถามเขาว่าไปมั้ยถ้าไปเราจะลงชื่อ ก็เหมือนเดิม เขาไม่ไป รอบนี้เราไม่ตื้อให้เขาไปด้วยเหมือนรอบที่แล้ว เพราะไม่อยากลดค่าตัวเองอีกแล้ว (แต่เราก็ไม่ไปนะเพราะถ้าไปคนเดียวก็จะมีคำถามเกิดขึ้นมากมายระหว่างทริป)
แล้วอาทิตย์ถัดไปก็มีทริปไปทะเลอีก1ทริป เราก็ชวนเขาเหมือนเดิม คำตอบที่ได้ก็ยังเป็นคำตอบเดิม
จนเรารู้สึกว่าหรือจริงๆแล้วเขารังเกียจที่ต้องไปกับเราหรือเปล่าวะ
หรือเขาเบื่อเรา
หรือเขาอยากเลิกแต่ไม่กล้าพูดตรงๆเลยเลือกที่จะอยู่ห่างๆให้ห่างกันไปเรื่อยๆจนเราท้อแล้วเลิกกับเขาไปเองหรือเปล่า
ตอนนี้ในหัวเรามันมีคำถามมากมายแต่หาคำตอบไม่ได้เลย 😭
จนถึงตอนนี้ที่เรารู้สึกว่าเราทนกับรู้สึกเหมือนไร้ตัวตนแบบนี้ไม่ไหวแล้ว
เราบอกกับเขาไปว่าตอนนี้เรากำลังคิดทบทวนเรื่องราวระหว่างเราทั้งหมดโดยใช้สติไม่ใช้อารมณ์ แล้วสิ้นเดือน(มี.ค.62)
เราจะบอกเขาว่าเราจะจบหรือไปต่อดี
เราอยากขอคำแนะนำจากทุกคนว่าเราควรทำยังไงดี จะไปต่อหรือพอแค่นี้ดี
***เราเคยขอเลิกกับเขามา3ครั้งแล้วแต่เขาไม่ยอมเลิก เขาบอกแค่ว่าเราคิดมากไปเอง
สำหรับเรา เราว่าการคบกัน
"มันต้องไม่เป็นภาระความรู้สึกซึ่งกันและกัน"