ยอมรับว่าเปลี่ยนงานบ่อย เหตุผลปัญหาจากงาน และด้วยเหตุผลต่างๆ แต่ก็ได้สิ่งหนึ่ง คือได้เลือกงานที่ให้เงินเดือนเพิ่มขึ้น (ในหลากสายงานต่างๆที่ผ่านมา) เปลี่ยนงานทั้งที ไหนๆก็เปลี่ยนแล้วใครๆก็อยากได้เพิ่มใช่ไหมครับ
ขออนุญาติไม่ลงรายละเอียดและชีวิตในการทำงาน มิเช่นนั้น ผมคงต้องเขียนเป็นหนังสือหนาๆ สักเล่มหนึ่งได้เลย
เริ่มที่ทำงานบริษัทแรก
เนื่องจากอยากทำงานไวๆ เรื่องเงินไม่ได้คิดมาก เน้นใกล้บ้าน สะดวก อยู่กับครอบครัว ไม่ต้องเดินทางไกล ขอให้มีงานทำเอาไว้อวดเพื่อนๆ อยากมีเงินที่หาได้เองไวๆ สมกับที่จบ 3 ปีครึ่ง รีบเรียนรีบจบ เราไม่ตกงาน สาขาที่เรียน คือ คณะ การจัดการธุรกิจระหว่างประเทศ หลักสูตร นานาชาติ
จากวันนั้นถึงวันนี้น่าจะเกือบ 10 ปีได้แล้ว มาดูกันว่าผมเปลี่ยนมาทั้งหมดกี่แห่ง เงินเดือนเพิ่มเท่าไหร่ เปลี่ยนตามใจ ซึ่งงานที่เลือกทำ เรทเงินเดือนที่ได้ กับคณะที่เรียน ไม่สัมพันธ์กันเลย กับ หลักสูตรนานาชาติที่เรียนมา 555
เริ่มกันที่แรก แผนก Help desk บริษัท เกี่ยวกับ การให้บริการอินเตอร์เน็ต และโทรศัพท์บ้าน
เงินเดือน 9,500+ มี OT ทำงานเข้ากะ
บริษัทที่สอง บริษัท ทันตกรรม
แผนก Customer Service (English)
เงินเดือน 12,500+ บาท มี OT หยุดวันเสาร์วันเดียว
หลังจากที่สำเหนียกได้ว่าทำงานไม่ตรงสาขาที่เรียนเริ่มเปลี่ยนมาที่ บริษัทที่สาม บริษัท โลจิสติกส์ ระหว่างประเทศ สัญญาติ ใต้หวัน
แผนก Customer Support
เงินเดือน 15,000 บาทถ้วน หยุดวันเสาร์วันเดียว
ด้วยความที่ขี้เกียจนั่ง ติดแสตมป์ กับนั่งทำเอกสารทั้งวัน ด้วยความที่ชอบเจรจา ชอยคุย ไม่ชอบงานเอกสาร ก็ไปสมัคร บริษัทที่สี่ บริษัท ซอฟแวร์ สัญชาติไทย
เงินเดือน 15,000+ บาท เจ้าของปลื้ม ค่อยๆอัพให้ทุกเดือน 16,500+ แถมยังหยุด เสาร์-อาทิตย์ ปลื้ม
จริงๆ สี่ที่แรก ด้วยความที่อาศัยอยู่กับครอบครัว ก็มีเก็บ แต่ก็ มีเอาไปเล่นหุ้น เล่น Tfex เที่ยวเมืองนอกกระจุย พอเป็นก้อนให้ใช้ก็ต้องใช้ 555 เดี๋ยวค่อยเก็บใหม่ทีหลัง
แต่หาได้ เกรงกลัวอนาคตไม่ อยากเที่ยว อยากกิน เงินก็ทำงานหาเองแล้ว เดี๋ยวหมดค่อยหาใหม่ ชีวิตวัยรุ่น
#ยิ่งอายุมากขึ้นภาระยิ่งมากขึ้น
บริษัทที่ห้า บริษัทหลักทรัพย์
รายได้ตามความสามารถ จากค่าคอมมิชชั่นและลูกค้า เป็นอาชีพในฝัน ตั้งแต่เด็ก เนื่องจากเวลาอ่านหนังสือ ตามร้านหนังสือ มุม Best seller ก็มีแต่คนรวยจากหุ้น ผมก็อยากรวยบ้าง แต่ก็ได้พบว่ามีอาชีพที่ดูแลคนเล่นหุ้นอยู่ เปรียบเสมือน เลขาส่วนตัว ฟังสำคัญ และเท่ส์มาก ดูแลลูกค้า เราก็ได้ทั้งเงินค่าคอม ได้ทั้งบุญ และก็ตราบาปกรณีติดหุ้น ต้องแก้ไขและให้กำลังใจและช่วยเหลือ ลูกค้า ส่งออกเดอร์ ตามข้อมูลข่าวสาร อาชีพ ที่ เครียด สนุก และท้าทาย ตลอดเวลา หลงรักมันเลยครับ
#เนื่องจาก อยากใช้ชีวิตส่วนตัว อยากมีอิสระ ตัดสินใจต่างๆด้วยตัวเองแบบผู้ใหญ่ ผมจึงตัดสินใจต้องออกมาใช้ชีวิตคนเดียว พึ่งพาตนเอง ได้เรียนรู้ชีวิตที่แท้จริง แบบฝรั่ง ที่ต้องออกมาฝึกดูแลตัวเองตั้งแต่เด็ก ถึงได้รู้ว่า ชีวิตมันไม่ง่าย แต่ก็ไม่ยาก
ขอชื่นชมคนที่หารายได้ส่งตัวเองตั้งแต่เด็ก สุดยอดมาก ทั้งตื่นเต้นและท้าทายตลอดเวลา เพราะมันคือชีวิตจริง เราเข้มแข็งขึ้น ไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรค มั่นใจและยอมรับการตัดสินใจของตัวเอง เรียนรู้ชีวิต เรียนรู้ความผิดพลาดและแก้ไข ปรับปรุง ข้อผิดพลาด
อายุ 28+ เงินเดือนเฉลี่ย 40,000+- บาท ก็ต้องขอบคุณพี่ๆเพื่อนร่วมงาน และบริษัท หลายๆสิ่งที่ผ่านเข้ามาในชีวิต ซึ่งทุกอย่างดีเสมอ เพราะมันทำให้ เราเป็นเรา เข้าใจตัวเอง เติบโตขึ้น
รายได้อาชีพนี้ สวิงไม่แน่นอน ทุกอาชีพถ้าขาดการวางแผนการใช้เงิน ก็จะมีปัญหา การมีสติ เราจะรู้เท่าทัน ลิเลส ของตนเอง การออกมาใช้ชีวิต อาจจะช้าไปสักนิด แต่ก็ไม่สายเกินไป ภาระค่าใช้จ่ายประจำวัน รายเดือนต่าง ค่าใช้จ่ายบางอย่างที่อยู่ๆก็มาแบบไม่ทันตั้งตัว เช่น ค่ารักษาพยาบาล ส่วนเกิน หรือส่วนนอกเหนือประกันคุ้มครอง โรคร้าย อุบัติเหตุฯลฯ
เหตุการไม่คาดฝันต่างๆ ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับสังคม ยิ่งมีบัตรเครดิตเป็นหนี้บัตรเครดิตใช้เพลินไปเลย 555 หมุนเงินจนตาลาย ค่าใช้จ่ายต่างๆ โบราณว่า ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา หุ้นก็เช่นกัน
กระแสเงินสด สำคัญมาก เราดูแลพอร์ตลูกค้าหุ้นได้ แต่ชีวิตเราจะดูแลไม่ได้ มันไม่เป็น professional อะไรจะดีกว่าเงินสดสำรองฉุกเฉิน ที่สามารถ ช่วยเราได้ทันทีในเหตุการณ์ที่ไม่คาดณ์ฝัน หนังสือการวางแผนการเงิน วางแผนเกษียณ มีขายเยอะแยะ แต่ผมกับใช้ชีวิต ประมาท อยู่บนเส้นด้าย
แล้วถ้าวันหนึ่งเงินเดือนเราพุ่งมา 100,000 บาท 1,000,000 บาท ต่อเดือนหรือมากกว่านี้ (กรณีสมมุติ) การที่ผมประมาท ไม่ระวังตัว ไม่เก็บออม หรือวางแผนชีวิต อย่างจริงจังอนาคตก็อยู่บนความเสี่ยง ผมต้องมองไกลถึงอนาคตชีวิตวัยเกษียณ ให้ความสำคัญ กับแผนแต่ล่ะช่วงอายุ หากวันหนึ่ง ผมต้องอยู่คนเดียว
#จะโทษใครได้ผมผิดเอง
#สนับสนุนให้หักกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเต็มMax15% หักลดหย่อนภาษีได้ ถือซะว่าเป็นเงินเก็บที่เรา ไม่ต้องคิดว่ามี ลืมมันไปเลยิแต่สะสมทุกเดือนยันเกษียณ
#คนเราไม่รู้จะมีชีวิตอยู่ในโลกอีกกี่ปี
บางทีเราอาจจะมีชีวิตอยู่กับปัจจุบันมากจน จนลืมให้ความสำคัญกับอนาคตที่ยังมาไม่ถึงแบบจริงๆจังๆ สักที ด้วยคิดว่ามันยังมาไม่ถึง แต่จริงๆแล้วมันอาจจะสำคัญมากที่สุด เลยเป็นว่าได้ อะไรที่ว่าแน่นอน ก็อาจจะไม่แน่นอน เป็นอนิจจัง
จนบางทีกับตัวผมเองก็ลืม คิดไปว่า อนาคต ชีวิต หลังเกษียณ ถ้าต้องอยู่ตัวคนเดียวจริงๆ ไม่มีครอบครัว ไม่มีใครเลย ไม่มีเงินเดือนประจำแล้ว เราจะมีอะไร รับประกันได้ว่า เราจะมีชีวิตอยู่ได้ มีเงินใช้ ทานข้าวหาหมอ และจะใช้ชีวิตหลังเกษียณอย่างมีความสุข โดยที่เราไม่ต้องพึ่งพาเดือดร้อนใครหรือสังคม อยู่ได้ด้วยตัวเราเอง ตนเป็นที่พึ่งแห่งตนแบบที่พระพุทธเจ้าสอนไว้ ได้อย่างไร
ด้วยลักษณะสังคมและวิธีชีวิตคนเราในปัจจุบัน ทุกๆคนก็มีภาระส่วนตัวของตัวเอง
แล้วถ้าเราไม่ได้เตรียมเสบียงไว้ยาม เกษียณ เผื่ออนาคต ชีวิตวันข้างหน้า
นี่ยังไม่รวมภาวะเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น ลดมูลค่าเงิน ของเราทุกปี เราจะต้องต่อสู้กับมันทุกคน แล้ววิธีไหนจะทำให้เงินเราชนะเงินเฟ้อ
ถ้าเสีย ภาษี ไม่ถึง 20% อาจไม่ต้องหาทางวิธีมาลด หย่อน เช่น กอง ltf rmf ประกันนู่นนี้ มากมาย เพราะที่จ่ายไปเมื่อเทียบเงินที่จ่ายไปแลกค่าลดหย่อน มันไม่คุ้มกัน ถ้าต้องจ่ายภาษี ก็ต้องยอมจ่าย
ต้องภาษี 30% ขึ้นไป แล้วค่อยใช้สิทธิลดหย่อนเต็มสิทธิ
ผมคิดจริงจังกับ ชีวิตและอนาคต มากขึ้น
#การวางแผนชีวิต
#ชีวิตไม่มีอะไรแน่นอน
#อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด
#รู้ตัวเร็วชีวิตเปลี่ยน
เกือบ ปี 10 ที่ผ่านมา ก็ผ่านอะไรมาเยอะทั้งดีและไม่ดีแต่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น สุดท้ายมันก็จะผ่านไป
#แค่คิดชีวิตก็เปลี่ยนปัจจุบันสร้างอนาคต
การเก็บออมเงิน วางแผนการเงิน การลงทุน เพื่ออนาคต และแผนชีวิตยามเกษียณ สำคัญใช่ไหมครับ
การลงทุนคือความเสียงการไม่ลงทุนก็เสี่ยง
เป็นกำลังใจให้ครับ ถึงผมจะเสียดายช่วงเวลา ที่ไม่ได้ออมเงิน วางแผนชีวิต การเงิน การลงทุน ใช้ชีวิตอยู่บนความเสี่ยง แต่ก็ไม่มีอะไรสายเกินแก้ใช่ไหมครับ พี่ตูน ร้องไว้ว่า ชีวิตยังมีพรุ่งนี้เสอม
#แล้วพี่ๆน้องๆชาวพันทิพย์มีประการณ์เปลี่ยนงานเพื่ออัพเงินเดือนยังไงบ้าง วางแผนอนาคต การเงินการลงทุนยังไงบ้าง เล่าให้ฟังหรือแนะนำเพิ่มเติมได้น่ะครับ ผมรอศึกษาจากประสบการณ์ดีๆพี่น้องครับ ขอบคุณครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ใส่ข้อความ
ปล.รายได้อาจจะไม่ตรง 100% เผื่อให้ง่ายต่อการเห็นภาพชัดเจน
@Anglekittisak
รีวิวเรทเงินเดือนจากการเปลี่ยนงานตลอดเกือบ 10 ปี เงินเดือนเพิ่ม ถ้าไม่วางแผนชีวิตดีๆ หลอนถึงตอนเกษียณ
ขออนุญาติไม่ลงรายละเอียดและชีวิตในการทำงาน มิเช่นนั้น ผมคงต้องเขียนเป็นหนังสือหนาๆ สักเล่มหนึ่งได้เลย
เริ่มที่ทำงานบริษัทแรก
เนื่องจากอยากทำงานไวๆ เรื่องเงินไม่ได้คิดมาก เน้นใกล้บ้าน สะดวก อยู่กับครอบครัว ไม่ต้องเดินทางไกล ขอให้มีงานทำเอาไว้อวดเพื่อนๆ อยากมีเงินที่หาได้เองไวๆ สมกับที่จบ 3 ปีครึ่ง รีบเรียนรีบจบ เราไม่ตกงาน สาขาที่เรียน คือ คณะ การจัดการธุรกิจระหว่างประเทศ หลักสูตร นานาชาติ
จากวันนั้นถึงวันนี้น่าจะเกือบ 10 ปีได้แล้ว มาดูกันว่าผมเปลี่ยนมาทั้งหมดกี่แห่ง เงินเดือนเพิ่มเท่าไหร่ เปลี่ยนตามใจ ซึ่งงานที่เลือกทำ เรทเงินเดือนที่ได้ กับคณะที่เรียน ไม่สัมพันธ์กันเลย กับ หลักสูตรนานาชาติที่เรียนมา 555
เริ่มกันที่แรก แผนก Help desk บริษัท เกี่ยวกับ การให้บริการอินเตอร์เน็ต และโทรศัพท์บ้าน
เงินเดือน 9,500+ มี OT ทำงานเข้ากะ
บริษัทที่สอง บริษัท ทันตกรรม
แผนก Customer Service (English)
เงินเดือน 12,500+ บาท มี OT หยุดวันเสาร์วันเดียว
หลังจากที่สำเหนียกได้ว่าทำงานไม่ตรงสาขาที่เรียนเริ่มเปลี่ยนมาที่ บริษัทที่สาม บริษัท โลจิสติกส์ ระหว่างประเทศ สัญญาติ ใต้หวัน
แผนก Customer Support
เงินเดือน 15,000 บาทถ้วน หยุดวันเสาร์วันเดียว
ด้วยความที่ขี้เกียจนั่ง ติดแสตมป์ กับนั่งทำเอกสารทั้งวัน ด้วยความที่ชอบเจรจา ชอยคุย ไม่ชอบงานเอกสาร ก็ไปสมัคร บริษัทที่สี่ บริษัท ซอฟแวร์ สัญชาติไทย
เงินเดือน 15,000+ บาท เจ้าของปลื้ม ค่อยๆอัพให้ทุกเดือน 16,500+ แถมยังหยุด เสาร์-อาทิตย์ ปลื้ม
จริงๆ สี่ที่แรก ด้วยความที่อาศัยอยู่กับครอบครัว ก็มีเก็บ แต่ก็ มีเอาไปเล่นหุ้น เล่น Tfex เที่ยวเมืองนอกกระจุย พอเป็นก้อนให้ใช้ก็ต้องใช้ 555 เดี๋ยวค่อยเก็บใหม่ทีหลัง
แต่หาได้ เกรงกลัวอนาคตไม่ อยากเที่ยว อยากกิน เงินก็ทำงานหาเองแล้ว เดี๋ยวหมดค่อยหาใหม่ ชีวิตวัยรุ่น
#ยิ่งอายุมากขึ้นภาระยิ่งมากขึ้น
บริษัทที่ห้า บริษัทหลักทรัพย์
รายได้ตามความสามารถ จากค่าคอมมิชชั่นและลูกค้า เป็นอาชีพในฝัน ตั้งแต่เด็ก เนื่องจากเวลาอ่านหนังสือ ตามร้านหนังสือ มุม Best seller ก็มีแต่คนรวยจากหุ้น ผมก็อยากรวยบ้าง แต่ก็ได้พบว่ามีอาชีพที่ดูแลคนเล่นหุ้นอยู่ เปรียบเสมือน เลขาส่วนตัว ฟังสำคัญ และเท่ส์มาก ดูแลลูกค้า เราก็ได้ทั้งเงินค่าคอม ได้ทั้งบุญ และก็ตราบาปกรณีติดหุ้น ต้องแก้ไขและให้กำลังใจและช่วยเหลือ ลูกค้า ส่งออกเดอร์ ตามข้อมูลข่าวสาร อาชีพ ที่ เครียด สนุก และท้าทาย ตลอดเวลา หลงรักมันเลยครับ
#เนื่องจาก อยากใช้ชีวิตส่วนตัว อยากมีอิสระ ตัดสินใจต่างๆด้วยตัวเองแบบผู้ใหญ่ ผมจึงตัดสินใจต้องออกมาใช้ชีวิตคนเดียว พึ่งพาตนเอง ได้เรียนรู้ชีวิตที่แท้จริง แบบฝรั่ง ที่ต้องออกมาฝึกดูแลตัวเองตั้งแต่เด็ก ถึงได้รู้ว่า ชีวิตมันไม่ง่าย แต่ก็ไม่ยาก
ขอชื่นชมคนที่หารายได้ส่งตัวเองตั้งแต่เด็ก สุดยอดมาก ทั้งตื่นเต้นและท้าทายตลอดเวลา เพราะมันคือชีวิตจริง เราเข้มแข็งขึ้น ไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรค มั่นใจและยอมรับการตัดสินใจของตัวเอง เรียนรู้ชีวิต เรียนรู้ความผิดพลาดและแก้ไข ปรับปรุง ข้อผิดพลาด
อายุ 28+ เงินเดือนเฉลี่ย 40,000+- บาท ก็ต้องขอบคุณพี่ๆเพื่อนร่วมงาน และบริษัท หลายๆสิ่งที่ผ่านเข้ามาในชีวิต ซึ่งทุกอย่างดีเสมอ เพราะมันทำให้ เราเป็นเรา เข้าใจตัวเอง เติบโตขึ้น
รายได้อาชีพนี้ สวิงไม่แน่นอน ทุกอาชีพถ้าขาดการวางแผนการใช้เงิน ก็จะมีปัญหา การมีสติ เราจะรู้เท่าทัน ลิเลส ของตนเอง การออกมาใช้ชีวิต อาจจะช้าไปสักนิด แต่ก็ไม่สายเกินไป ภาระค่าใช้จ่ายประจำวัน รายเดือนต่าง ค่าใช้จ่ายบางอย่างที่อยู่ๆก็มาแบบไม่ทันตั้งตัว เช่น ค่ารักษาพยาบาล ส่วนเกิน หรือส่วนนอกเหนือประกันคุ้มครอง โรคร้าย อุบัติเหตุฯลฯ
เหตุการไม่คาดฝันต่างๆ ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับสังคม ยิ่งมีบัตรเครดิตเป็นหนี้บัตรเครดิตใช้เพลินไปเลย 555 หมุนเงินจนตาลาย ค่าใช้จ่ายต่างๆ โบราณว่า ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา หุ้นก็เช่นกัน
กระแสเงินสด สำคัญมาก เราดูแลพอร์ตลูกค้าหุ้นได้ แต่ชีวิตเราจะดูแลไม่ได้ มันไม่เป็น professional อะไรจะดีกว่าเงินสดสำรองฉุกเฉิน ที่สามารถ ช่วยเราได้ทันทีในเหตุการณ์ที่ไม่คาดณ์ฝัน หนังสือการวางแผนการเงิน วางแผนเกษียณ มีขายเยอะแยะ แต่ผมกับใช้ชีวิต ประมาท อยู่บนเส้นด้าย
แล้วถ้าวันหนึ่งเงินเดือนเราพุ่งมา 100,000 บาท 1,000,000 บาท ต่อเดือนหรือมากกว่านี้ (กรณีสมมุติ) การที่ผมประมาท ไม่ระวังตัว ไม่เก็บออม หรือวางแผนชีวิต อย่างจริงจังอนาคตก็อยู่บนความเสี่ยง ผมต้องมองไกลถึงอนาคตชีวิตวัยเกษียณ ให้ความสำคัญ กับแผนแต่ล่ะช่วงอายุ หากวันหนึ่ง ผมต้องอยู่คนเดียว
#จะโทษใครได้ผมผิดเอง
#สนับสนุนให้หักกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเต็มMax15% หักลดหย่อนภาษีได้ ถือซะว่าเป็นเงินเก็บที่เรา ไม่ต้องคิดว่ามี ลืมมันไปเลยิแต่สะสมทุกเดือนยันเกษียณ
#คนเราไม่รู้จะมีชีวิตอยู่ในโลกอีกกี่ปี
บางทีเราอาจจะมีชีวิตอยู่กับปัจจุบันมากจน จนลืมให้ความสำคัญกับอนาคตที่ยังมาไม่ถึงแบบจริงๆจังๆ สักที ด้วยคิดว่ามันยังมาไม่ถึง แต่จริงๆแล้วมันอาจจะสำคัญมากที่สุด เลยเป็นว่าได้ อะไรที่ว่าแน่นอน ก็อาจจะไม่แน่นอน เป็นอนิจจัง
จนบางทีกับตัวผมเองก็ลืม คิดไปว่า อนาคต ชีวิต หลังเกษียณ ถ้าต้องอยู่ตัวคนเดียวจริงๆ ไม่มีครอบครัว ไม่มีใครเลย ไม่มีเงินเดือนประจำแล้ว เราจะมีอะไร รับประกันได้ว่า เราจะมีชีวิตอยู่ได้ มีเงินใช้ ทานข้าวหาหมอ และจะใช้ชีวิตหลังเกษียณอย่างมีความสุข โดยที่เราไม่ต้องพึ่งพาเดือดร้อนใครหรือสังคม อยู่ได้ด้วยตัวเราเอง ตนเป็นที่พึ่งแห่งตนแบบที่พระพุทธเจ้าสอนไว้ ได้อย่างไร
ด้วยลักษณะสังคมและวิธีชีวิตคนเราในปัจจุบัน ทุกๆคนก็มีภาระส่วนตัวของตัวเอง
แล้วถ้าเราไม่ได้เตรียมเสบียงไว้ยาม เกษียณ เผื่ออนาคต ชีวิตวันข้างหน้า
นี่ยังไม่รวมภาวะเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น ลดมูลค่าเงิน ของเราทุกปี เราจะต้องต่อสู้กับมันทุกคน แล้ววิธีไหนจะทำให้เงินเราชนะเงินเฟ้อ
ถ้าเสีย ภาษี ไม่ถึง 20% อาจไม่ต้องหาทางวิธีมาลด หย่อน เช่น กอง ltf rmf ประกันนู่นนี้ มากมาย เพราะที่จ่ายไปเมื่อเทียบเงินที่จ่ายไปแลกค่าลดหย่อน มันไม่คุ้มกัน ถ้าต้องจ่ายภาษี ก็ต้องยอมจ่าย
ต้องภาษี 30% ขึ้นไป แล้วค่อยใช้สิทธิลดหย่อนเต็มสิทธิ
ผมคิดจริงจังกับ ชีวิตและอนาคต มากขึ้น
#การวางแผนชีวิต
#ชีวิตไม่มีอะไรแน่นอน
#อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด
#รู้ตัวเร็วชีวิตเปลี่ยน
เกือบ ปี 10 ที่ผ่านมา ก็ผ่านอะไรมาเยอะทั้งดีและไม่ดีแต่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น สุดท้ายมันก็จะผ่านไป
#แค่คิดชีวิตก็เปลี่ยนปัจจุบันสร้างอนาคต
การเก็บออมเงิน วางแผนการเงิน การลงทุน เพื่ออนาคต และแผนชีวิตยามเกษียณ สำคัญใช่ไหมครับ
การลงทุนคือความเสียงการไม่ลงทุนก็เสี่ยง
เป็นกำลังใจให้ครับ ถึงผมจะเสียดายช่วงเวลา ที่ไม่ได้ออมเงิน วางแผนชีวิต การเงิน การลงทุน ใช้ชีวิตอยู่บนความเสี่ยง แต่ก็ไม่มีอะไรสายเกินแก้ใช่ไหมครับ พี่ตูน ร้องไว้ว่า ชีวิตยังมีพรุ่งนี้เสอม
#แล้วพี่ๆน้องๆชาวพันทิพย์มีประการณ์เปลี่ยนงานเพื่ออัพเงินเดือนยังไงบ้าง วางแผนอนาคต การเงินการลงทุนยังไงบ้าง เล่าให้ฟังหรือแนะนำเพิ่มเติมได้น่ะครับ ผมรอศึกษาจากประสบการณ์ดีๆพี่น้องครับ ขอบคุณครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ปล.รายได้อาจจะไม่ตรง 100% เผื่อให้ง่ายต่อการเห็นภาพชัดเจน
@Anglekittisak