ถ้าเราเลือกตัวเองกับลูกก่อนพ่อแม่ จะเป็นอะไรมั้ย หรือใครมีวิธีการอื่นแนะนำบ้างคะ

*** ขออนุญาตลบโพสต์นะคะ ***

หลังจากโพสต์ไป และมีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก
มันเหมือนเราก้าวออกมายืนข้างนอกแล้วอ่านเรื่องราวตัวเอง
ได้อ่านความคิดเห็นจากหลายๆ ท่าน มันช่วยให้เราคิดอะไรได้เยอะมากๆ

ต้องขอบคุณทุกคำแนะนำ ทุกความคิดเห็นมากๆ นะคะ
คุณไม่รู้หรอกว่ามันมีค่ากับผู้หญิงคนนึงที่กำลังสับสนและหาทางออกไม่เจอมากขนาดไหน
กับปัญหาที่ไม่สามารถเล่าให้ใครฟังได้เลย เพราะกลัวคนมองอกตัญญู กลัวคนรู้จักมองครอบครัวตัวเองไม่ดี
คนที่ไม่เคยอยู่ในจุดเดียวกันย่อมไม่มีวันเข้าใจ...

ขอบคุณทุกๆ ท่าน จากใจจริงค่ะ loveพาพันขอบคุณ
แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
ไม่เห็นแก่ตัวครับ เพราะพ่อแม่คุณ ก็เห็นแก่ตัวกับคุณมาตลอดเหมือนกัน ในเมื่อเขาคิดว่า เกิดมาตัวเปล่า ตายตัวเปล่า แล้วตอนนี้จะมาอยากมีอยากได้ทำไม ทำไมตอนที่เขามีแรงมีกำลัง ทำไมเขาไม่สร้างของเขาขึ้นมาเอง ทำไมต้องมากดดันคุณอะไรตอนนี้

ถ้าเขาคิดเก็บ คิดสร้าง ทุกวันนี้เขามีแน่นอนครับ แต่เขาไม่คิดจะทำมัน แถมเลี้ยงดูคุณแบบทิ้งๆขว้างๆอีก เพราะคุณต้องดิ้นรนหาเงินเรียนเอง ในขณะที่พ่อ กินเบียร์ สูบบุหรี่ ไม่คิดสร้างอนาคต

พ่อแม่ ไม่ได้รักลูกทุกคนครับ บางคนมีมา ก็เพื่อให้เอาไว้เลี้ยงตัวเองตอนแกเท่านั้น ก็เลยไม่เคยดูแล ใส่ใจ สนใจอะไรเลย เหมือนเป็นแค่วัตถุๆนึง ที่เอาไว้ใช้ประโยชน์

คนไทยมักติดกับคำว่า บุญคุณ กตัญญู ทั้งๆที่ ลืมนึกไปว่า พ่อแม่ไม่ได้รักและหวังดีกับลูกทุกคน ในเมื่อทำให้เกิดมา บางคนยังไม่รับผิดชอบชีวิตๆนึงเลย เลี้ยงทิ้งๆขว้างๆ ตามมีตามเกิด แต่ดันหวังให้เลี้ยงตัวเองดีๆตอนแก่ เฮ้อออ
ความคิดเห็นที่ 21
เข้ามาล๊อคอินเพื่อกอดเจ้าของกระทู้
เรามีพ่อที่ก่อนหน้านี้เจ้าชู้ มีเมียใหม่และรักลูกบุญธรรมมากกว่าลูกตัวเอง หาเงินได้มาก็เก็บให้ลูกบุญธรรม ส่วนลูกตัวเองไม่ได้อะไร เวรกรรมทดสอบชีวิตเราพ่อประสบอุบัติเหตุช่วงที่หย่ากับแม่เลี้ยงพอดี เรารับดูแลพ่อเพราะพ่อส่งเราเรียนหนังสืออันนี้เป็นพระคุณมาก ถ้าไม่มีพ่อไม่มีเราวันนี้แน่ๆ น้องบุญธรรมช่วยเหลือเงินเดือนละ3,000บาท พ่อยกยอปอปั้นเพราะได้เงินน แต่เราเป็นธุระเรื่องไปรพ.และดูแล ได้คำก่นด่าว่าบังคับขืนใจให้กายภาพบำบัด เราทำได้เท่านี้จริงๆ ส่วนแม่ ที่เพียงแต่ยืมท้องมาเกิดจริงๆ เล่นการพนัน พลาญเงิน มีปัญหาก็กลับมาให้แก้ปัญหาทุกครั้ง  เราเปรยกับสามีตลอดว่าอยากตาย เราไม่ได้เป็นซึมเศร้านะ เราอยากตายเพราะเราอยากชดเชยชีวิตให้พ่อกับแม่จะไม่ต้องติดค้างกัน สามีเราเข้าใจเราทุกอย่าง รับทุกอย่างที่เราเป็น มองแค่ว่าเราเป็นคนดี เราสัญญาว่าเราจะสร้างครอบครัวด้วยกันและมีชีวิตที่ดีกว่าพ่อแม่เราให้ได้ เราอโหสิกรรมให้พ่อกับแม่ค่ะ หากสิ้นเวรสิ้นกรรมคงไปจากกันสักวันนึง วันนี้เราอยู่ได้เพราะสามีเป็นกำลังใจให้จริงๆ  ตรรกะที่บอกว่าพ่อแม่จะเป็นหมูเป็นหมา ยังไงกับพ่อแม่เราอย่าเนรคุณ ถ้าใครไม่เจออย่างเจ้าของกระทู้จะไม่มีวันเข้าใจ  ปล.เราพึ่งแต่งงานแม่ขโมยทองแต่งงานที่ฝั่งสามีให้มาไปหมดเลยค่ะ หายไปหลังจากงานแต่ง 1 อาทิตย์ สิ่งที่เสียใจไม่ใช่ทองที่หาย แต่เสียใจที่แม่เป็นขี้ขโมย สามีเข้าใจและเราคุยกันว่าทั้งหมดเป็นค่าที่ทำให้เราเกิดมา ขอให้แม่ใช้ชีวิตของแม่อย่างมีความสุขต่อไป ---อย่าทำให้ชีวิตคนนึงคนต้องเป็นตราบาปเพราะบรรทัดฐานของสังคมที่บอกว่า ความกตัญญูเริ่มที่คนในบ้าน มันไม่มีบาปอะไรหรอกค่ะ มีแค่ชีวิตที่ต้องเดินต่อไปข้างหน้าให้ดีที่สุดเท่านั้น ----
ความคิดเห็นที่ 11
ไปเยี่ยม ก็หิ้วอาหารแห้ง ผลไม้ ของกินไปฝาก   เงินที่เคยให้ก็ให้เท่าที่ช่วยได้ ช่วยค่าน้ำค่าไฟ ค่ากินอยู่ประหยัดๆ    จขกท มีลูก เอาตัวเองและลูกให้รอดก่อน  เพราะถ้ามัวพะวงเรื่องช่วยพ่อแม่มากเกินไปจนไม่มีเงินเก็บลูกไม่มีอนาคตที่ดี  ในอนาคต ก็จะเข้าวัฏจักรเดิม คือ ลูกของ จขกท อาจจะมีงานทำเงินเดือนน้อยและมีครอบครัวที่ต้องดูแลอีก(เหมือน จขกท ตอนนี้)  ดังนั้นเราคิดว่า เลือกตัวเองและลูกสร้างอนาคตเพื่ออนาคตที่สดใสของลูกๆหลานต่อไป   บางทีต้องคิดว่าเราช่วยได้เท่านี้ดีกว่าไม่ได้ช่วยอะไรเลย  

เหมือนคำกล่าวที่ว่า   คนว่ายน้ำไม่เป็นกระโดดช่วยด้วยใจ  สุดท้ายก็ตายทั้งคู่
ความคิดเห็นที่ 13
เรื่องของแต่ละคนมันไม่มีสูตรสำเร็จหรอกครับ

ผมเองก็หาเงินใช้เองตั้งแต่ประถมจนถึงเรียนจบปริญญามีงานทำในปัจจุบัน
เรื่องเงิน ผมไม่ได้ขอท่านทั้งสองเลย หาเอาเองมาตลอด
ส่วนใหญ่ตอนเด็กๆ ก็ขายของ เช่น ผักผลไม้ตามฤดูกาล ในช่วงมัธยมก็รับจ้างช่วงปิดเทอมและวันหยุดเสาร์อาทิตย์
ส่วนในช่วงปริญญาตรีผมก็ทำงานตอนเย็นหลังเลิกเรียนและรับจ้างทั่วไปในวันหยุด

ที่ไม่ได้ขอเนี่ยไม่ใช่อะไรหรอกครับ  ที่ผมไม่ขอก็เพราะผมมองว่าท่านไม่น่าจะมีให้แน่ๆ
หลักๆ ก็เพราะว่ารายได้ที่ครอบครัวหามาได้ต้องเอาไว้รักษาคุณแม่ (แม่ผมเริ่มป่วยปี 2523 และท่านเสียเมื่อปี 2555)
คุณพ่อคุณแม่ผมท่านเองก็คงจะทุกข์ใจเหมือนกันที่ท่านไม่สามารถดูแลเรื่องเงินให้กับลูกได้เหมือนคครอบครัวอื่นเขา
แต่ผมเองก็ไม่ได้น้อยอกน้อยใจอะไรนะครับ ผมมองว่าท่านให้ผมเกิดมาแบบอาการครบ 32 ผมว่าสิ่งนี้ใหญ่หลวงยิ่งนัก

เรื่องการให้เงินพ่อแม่ผมไม่เคยคิดเล็กคิดน้อยนะ
ผมให้ไปแล้ว ผมว่าท่านจะเอาไปใช้อะไรมันก็เรื่องของท่าน
ช่วงเรียนมัธยมที่ผมไปรับจ้างตอนปิดเทอม เมื่อได้เงินมาผมก็แบ่งให้ท่านส่วนหนึ่ง ที่เหลือเก็บไว้เป็นทุนการศึกษา
ตอนเรียนปริญญาตรีผมก็พอหาเงินได้เยอะขึ้น แต่ก็ต้องแลกกับการนอนน้อยและพักผ่อนไม่เพียงพอนะ
เงินเดือนที่ได้ผมก็แบ่งส่วนหนึ่งส่งกลับไปให้คุณพ่อคุณแม่ได้ใช้จ่ายทุกๆ เดือน

ปัจจุบันผมทำงานอยู่บ้านนอกนะครับ มีรายได้มั่นคง ตอนนี้ก็ดูแลคุณพ่อร่วมกับพี่สาว เพราะคุณแม่ท่านจากไป 7 ปีแล้ว

จขกท. ก็ลองหาทางออกที่เหมาะสมนะครับ อย่าเอาตัวเองไปเทียบกับคนอื่น
ชีวิตและประสบการณ์ของแต่ละคนมันไม่เหมือนกัน ภูมิหลังไม่เหมือนกัน คำตอบจึงไม่เหมือนกัน

ให้ จขกท. เชื่อตัวเองจะดีที่สุดครับ
ความคิดเห็นที่ 9
แม่คุณเห็นแก่ตัว ไม่ได้นึกถึงคุณค่ะ

ทางแก้คือ ให้แยกออกมาอย่างเด็ดขาด อย่าไปยุ่งเกี่ยวบ้านของแม่ อย่าไปใช้ของๆแม่
คือเรียกง่ายๆ อะไรที่เป็นของแม่ อย่าไปยุ่ง เพราะถ้าคุณไปยุ่ง แม่จะเอามาอ้างเป็นเหตุผลได้
ว่าคุณอกตัญญู อะไรทำนองนี้ เพื่อกดดันให้คุณทำสิ่งที่แม่ต้องการ โดยที่แม่เอาแค่ตัวเองเป็นหลัก ไม่ได้นึกถึงคุณ

คุณต้องแยกออกไปอยู่เอง เอาลํกไปเลี้ยงเอง อย่าไปกวนแม่ให้มาเลี้ยงลูกให้ แต่ยังให้หลานเคารพยายอยู่เหมือนเดิม
ส่งเงินให้เท่าเดิม เท่าที่คุณไหวและไม่เดือดร้อนความเป็นอยู่คุณกับลูก
แม่จะขอเพิ่มบอกไปเลยช่วงนี้ลำบากมาก ไม่มีให้ และคุณต้องทำตัวจนๆเข้าไว้ให้เค้าเห็นค่ะ

การเป็นลูก ไม่จำเป็นจะต้องบอกพ่อแม่ให้รู้ไปสะทุกเรื่องของชีวิตเราค่ะ ทุกคนต้องการสเปซ มีพื้นที่ส่วนตัว
ให้แม่ไม่รู้อะไรกับชีวิตคุณบ้างก็ดี โซเชี่ยลอะไรพวกนี้ก็ปิดๆ บล็อกๆไปบ้าง ให้เค้ารู้ชีวิตเราน้อยจะดีกว่าค่ะ

เอาตัวเองให้รอดก่อนนะคะ เรื่องบ้ายอย่าไปสร่งในที่คนอื่น มันจะอึดอัด ทำอะไรก็ไม่ได้เพราะเจ้าของที่อ้างได้ว่าที่เค้าน่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่