เปลี่ยนจากความกดดันมาเป็นแรงผลักดันให้เราทำงานอย่างมีความสุข (งานสายแฟชั่น สายอาร์ต การตลาด)

สวัสดีค่ะ ชาวPantip ทุกท่าน 

ชื่อสมายนะคะ มายจะมาแชร์ประสบการณ์การก้าวข้ามผ่านความกดดันในการทำโปรเจค ที่คิดว่าอาจจะเป็นประโยชน์ต่อชาว Pantip ทุกท่าน ซึ่งมายเชื่อว่าเคล็ดลับอันนี้น่าจะเป็นประโยชน์ต่อคนที่กำลังทำงานที่มีความกดดันในการทำงาน รวมถึงทั้งคนที่เรียนหนังสือและต้องเจอโปรเจคมากมาย

ก่อนอื่นขอเล่าที่มาที่ไปก่อนนะคะ คือ มายกำลังศึกษาต่ออยู่ที่ประเทศอิตาลี เมืองฟลอเรนซ์ โรงเรียนชื่อ POLIMODA เป็นโรงเรียนชื่อดังในสายแฟชั่น สาขาที่มายมาเรียนคือ ART DIRECTION คือการกำกับศิลป์ ซึ่งสาขานี้ยังไม่มีมากที่เมืองไทย
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
มายเลยตัดสินใจมาเรียนต่อด้านนี้โดยตรงเพื่อจะเอาความรู้มาแชร์ต่อและกลับมาสอนที่เมืองไทย นี้คือสิ่งที่ตั้งใจไว้ และตอนนี้มายมีเพจเกี่ยวกับการเรียนแฟชั่นและศิลปะทั้งเฟสบุ๊คและยูทูปด้วยเพื่อเป้นแหล่งการศึกษาให้คนไทยที่ชอบแฟชั่นได้เรียนรู้ไปพร้อมๆกับมาย
https://www.facebook.com/Smile.Multi.Stories/

สาขาที่มายเรียนเป็นสาขาแรกของโรงเรียนซึ่งตัวโรงเรียนได้ partnership กับ VOGUE ITALIA ซึ่งเป็นบริษัทแฟชั่นที่มีผู้อ่านเยอะที่สุดในอิตาลี!!! 
แน่นอนใครๆก็ต้องรู้จัก VOGUE อยู่แล้วผู้นำสายแฟขนาดนี้ ดังนั้นโปรเจคที่มายมีกับ VOGUE จะเกิดขึ้นทุกๆเดือน เพราะทางบริษัทเองส่งคนมาสอนพวกมายซึ่งเนื้อหาก็ต่างกันไปและนี้คือที่มาของวิชาแรกที่มายเรียนกับ VOGUE ITALIA!!!!

พี้ค พี้ค พี้ค ตื่นเต้นระดับ 10 100 1,000 10,000 100,000 1,000,000 เวอร์มากกกก 555555
คือVOGUE ITALIA ส่งโจทย์มาทางอีเมล์ ว่าให้พวกเราไปคิดมาว่า
โจทย์คือ "คุณจะต้องผลิตนิตยสารขายภายใน 24 ประเทศ ให้ไปคิดมาตั้งแต่เนื้อหา รูปลักษณ์ ตั้งแต่ โลโก้ ดีไซร์ งานถ่ายแบบ ทั้งในรูปแบบ ออนไลน์ เวป โซเชียลมีเดีย จนถึงงานปริ้นเป็นเล่มว่าจะออกมาในรูปลักษณ์แบบไหน"

ว่าง่ายๆ รอบแรกก็เปิดมาเพื่อขอดู "ความคิดสร้างสรรค์" ของพวกเธอหน่อยสิ เพราะสิ่งที่เราต้องคิดมันคือ Branding
เราจะเอาความคิดสร้างสรรค์ของเราออกมาในรูปแบบเดียวกัน ทำทุกอย่างให้เป็นเรื่องเดียวกันต้องทำยังไง
ดังนั้นการวางกลยุทธ์เรื่องของการสือสารในมุมมองที่กว้างในวงการแฟชั่นและการตลาดสำคัญมากกกกกกกก

มายพอได้โจทย์มาก็ถึงกับหัวใจเต้นตุบ ตุบ ด้วยความตื่นเต้น ก็ไปแอบเผือกว่าครูที่มาสอนจาก VOGUE ITALIA นี้ เค้าเป็นใคร อะไรยังไง ทำงานอะไรมาบ้าง พอเผือกไปได้ระดับนึงหัวใจเต้นหนักกว่าเดิม 55555 เพราะว่าเค้าเก่งมากกกกกก ทำงานในวงการจะ 20กว่าปี
มายก็ด้วยความที่อยากจะเป็นดาวโดดเด่นบนฟากฟ้า  #งานAFก็มาาาา 555555
คือมายก็อยากที่จะชนะใจ อยากให้เค้าจำเราได้ 

ช่วงนี้ละคะ คือตัวดี ตัวปัญหา คือเรากำลังพยายามในสิ่งที่เป็นผลลัพธ์ คือไม่คิดถึงว่าเราอยากจะทำอะไร แทนที่จะคิดว่าจะทำนิตยสารเรื่องไหนดี มีประเทศอะไรบ้าง และต้องดีไซย์แบบไหน กลายเป็นว่าไปโฟกัสผิดจุด คืออยากเป็นที่ยอมรับ อยากเป็นดาวเด่น ถ้าเทียบกับการทำงานก็คืออยากให้นายชอบนายโปรด ประหนึ่งโปรโมตให้เกรดสี่กรูเดี๋ยวนี้ อะไรประมานนี้เลย

นี้ละคะจะถึงจุดพี้คละคือ ความคิดสร้างสรรค์ไม่มา คือ มันมานะ แต่เหมือนมันถูกปัดออกไป เพราะเราไม่เชื่อในความคิดที่วิ่งเข้ามาในหัว
เพราะเราอยากจะเป็นที่หนึ่ง เป็นที่น่าจดจำ เราเลย "กดดันตนเอง" และจุดนั้นเองมันนำพาให้เรา "ไม่เชื่อมั่นในตนเอง"
เพราะไอเดียต่างๆที่เข้ามาในหัว แทนที่มายจะจดและชอบเอนจอยไปกับมัน กลับกลายเป็นว่ามายปัดมันออก และก็ "กลัว" ว่าไอเดียของมายจะเหมือนคนอื่น

พี้คสุด คือไม่สนุกละ ตอนนี้มันเหมือนเป็นทุกข์ คือไม่อยากทำละ เพราะคิดว่าไอเดียอะไรก็ไม่ดีพอ ถึงขั้นมีไอเดียจะหนีไม่เข้าเรียนเลยจ้า
คือบ้ามากกกก แบบโอ้ยบ้าไปแล้ว!!!

สุดท้ายมายเลยลองใจเย็นๆ คุยกับตัวเองว่ามายเป็นอะไร อะไรที่ทำให้เราไม่มีความสุขได้ขนาดที่จากตื่นเต้นเป็นคนโคตรนอย
ผลลัพธ์ออกมา #ติ๊งนองงง คือ เราอยากจะเป็นที่หนึ่ง เราอยากชนะใจคนที่จะมาสอนเพราะเราหวังว่าถ้าเค้าชอบเรา เราอาจะได้ไปต่อในที่นี้คือ โอกาสอะไรดีๆที่เข้ามาอย่างเช่นได้ทำงาน หรือ ฝึกงานทดลองงาน มันก็เป็นโอกาสที่ดีในชีวิตเราที่เราไม่ควรพลาดดดดด

อ่ะ ถามตรงตอบตรงsession Q&A กับตัวเองเรียบร้อย 555555 ก็เลยถามตัวเองว่า แล้วถ้าเราอยากจะชนะใจคนๆนั้น เราก็ต้องเป็นที่น่าจดจำสิ และการที่เราจะเป็นที่น่าจดจำ ก็คือ "เราต่างจากคนอื่น" ซึ่งมันปลดล้อคมายตรงนี้มากกกก เพราะก่อนหน้านี้คือเรา "กลัว" ที่จะเหมือนคนอื่น จนลืมมองข้ามเอกลักษณ์ของตนเองไป และมากไปกว่านั้นคือ คนทุกคนไม่เหมือนกัน ทุกคนมีเอกลักษณ์และเรื่องราวเป็นของตนเอง และเราควรจะเชื่อและเคารพในสิ่งที่เราเป็น

เท่านั้นละจ้าาาา หลังจากที่มายให้เกียรติ เชื่อมั่นในตนเองแล้ว #มายไปต่อไม่รอละนะ 55555
ทุกกกกไอเดียที่เข้ามาในหัว มายจดหมดเลย มายจดทุกอันจริงๆ และมายค่อยๆเอาเรื่องแต่ละเรื่องและไอเดียมาร้อยต่อกันเป็นเรื่องที่เราอยากจะเล่า
หลังจากนั้นสามสี่วันที่ต้องทำงานโปรเจคนี้ มายไม่อยากนอน และอยากตื่นขึ้นมาทำงานต่อเพราะมายบ้ามากกก 55555
มายรู้ว่ามันจะต้องออกมาดี มายรู้ว่าสิ่งที่มายกำลังทำอยู่มันสนุก เพราะมาย "เชื่อ" ว่ามันดี

ความคิดสร้างสรรค์มันมาได้หลังจากที่ใจเราว่างและเราเชื่อมั่นในสิ่งที่เป็นเรา
ความกดดันมันมีประโยชน์ในตัวของมันถ้าเราใช้มันให้ถูกเวลาและจัดการกับมันให้ดี
ถ้าชีวิตไม่มีความกดดันเลย มายเชื่อว่าเราไม่มีแรงผลักดันที่อยากจะลุกขึ้นมาทำงานหรือสร้างผลงานดีๆเพื่อพัฒนาความสามารถของตัวเราเอง

ตอนที่มายพรัเซ้นงานซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ตื่นเต้นมากกกก แต่เชื่อมั้ยว่า มายสนุก มายชิวมากกก เพราะมายเชื่อในสิ่งที่มายทำ มายเลิกกังวลไปเลยว่างานของมายจะเหมือนคนอื่นหรือเปล่า เพราะท้ายที่สุดแม้ว่างานของมายจะเหมือนกับคนอื่นมากน้อยแค่ไหน
ยังไงมันก็ยัง "แตกต่าง" เพราะงานชิ้นนี้ มันคือเรื่องราวของมาย แรงบันดาลใจก็มาจากตัวมายเอง มันมาจากความชอบในสิ่งที่เรารัก มายไม่ด้ไปก๊อปงานใครมาขาย ดังนั้น ตัวมายเองรู้ดีที่สุดว่ามายไม่เหมือนใคร
มายสามารถอธิบายได้หมด ว่าทำไม โลโก้จะต้องสีนี้ ชื่อนี้ ทำไมกราฟฟิคเลย์เอาท์จะต้องวางแบบนี้ ลุกค้าที่มายจะคุยด้วยคือกลุ่มไหน อินสตราแกรมหน้าตาจะออกมาเป็นอย่างไร มายรู้ดีหมด ฉะนั้น มายไม่เหมือนใคร!!!

ที่พี้คของพี้คที่สุดที่ทำให้มายมีกำลังใจเดินหน้าต่อ หลังจากที่มายได้พรัเซ้นงานเสร็จ เพื่อนในห้องเค้าชอบงานมายมากกก เค้าได้แรงบันดาลใจจากงานมาย  ส่งเมสเสจมาหาว่าชั้นมีอะไรจะเซอร์ไพรส์เธอ มายก็งง อะไรของนาง

คือสุดท้าย นางเอาชื่อนิตยสารที่มายตั้งและแฮชแทคที่มายเล่นเพื่อกลยุทธ์มาร์เกตติ้ง นางเอาคำนั้น ไปเพ้นท์เสื้อจ้าาานางไปซื้อสีมาเพ้นเสื้อนาง พร้อมมาเซอร์ไพรซ์เรา คือเราแบบ ช้อคคคคค ช้อคมากกก
แต่ดีใจมาก ประทับใจมาก ไม่อยากเชื่อว่าสิ่งที่เราทำมันสามารถส่งคลื่นกระทบพลังงานที่ดี และพลังความคิดสร้างสรรค์ไปปลุกไฟในตัวคนที่อยู่รอบข้างเราด้วยสุดท้ายมายเลยขอเสื้อนางตอนจบเรียนว่าขอเอากลับไทยนะ จะได้คิดถึงกันตอนไม่ได้เจอกันแล้ว


เรื่องราวดีๆที่เกิดขึ้นมันเกิดจากความทุกข์
มันจะเกิดขึ้นได้เราต้องเข้าใจสาเหตุของปัญหาให้ได้ก่อน
มายขอเป็นกำลังใจให้ชาว Pantip ทุกท่าน ที่กำลังเครียดกดดันในที่ทำงาน ทั้งการเมืองในบริษัท แย่งกันเอาหน้าโชว์ผลงานตนเองไม่เอาพวกพ้องไม่ให้เครดิต หรือคนที่กำลังเครียดในการเรียนเพราะอยากได้เกรดสี่มาประดับใบจบ

สำหรับมาย ผลลัพธ์ที่สุดยอดมากกว่าเรื่องพวกนี้คือการพัฒนาตนเอง การเชื่อมั่นในศักยภาพของเราเองจะลดความอยากอีกหลายอย่างที่ไร้สาระออกไป เราไม่จำเป็นต้องอยากเด่น เพราะเราเด่นในแบบของเราอยู่แล้ว เหลือที่ว่าใครจะหันมามองเราในเวลาไหน 
มายขอเป็นกำลังใจให้คนไทยทุกท่านต่อสู้กับความกดดันของตนเองและเอาศักยภาพของเราออกมาใช้สร้างผลงานที่สร้างสรรค์ตาม-ดจทย์ในชีวิตที่ได้มาอย่างภาคภูมิใจในทุกๆวันนะคะ

สุดท้ายมายมาขายเรื่องนิตยสารท่องเที่ยว เจาะกลุ่มวัยรุ่นผู้ฆญิงโดยเฉพาะ มายเอารูปงานพร้เซ้นของมายมาฝากกัน หวังว่าจะอยากซื้อนิตยสารมายกันนะคะ
ส่วนใครอยากเห็นเป็นภาพเคลื่อนไหวมันส์ๆ เข้ายูทูปได้เลยค่ะ

https://www.youtube.com/watch?v=KnlMlhfWhMI&t=9s

ถ้าชอบเรื่องราวนี้ ฝากกดไลค์ Subscribe ให้ความเห็นได้หมดนะคะ มายพร้อมแชร์เรื่องราวดีๆ และรับฟังเสมอค่ะ เยเย้!!!
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่