"ไม่ได้เผื่อใจ....ให้กับความไม่เดียงสา" ประสบการณ์ของชายคนหนึ่งในวัยที่รู้เดียงสาแล้ว

        จากหัวข้อกระทู้เป็นเพลงของ Big Ass ชื่อเพลง "ไม่เดียงสา" หลายคนคงเคยฟังมาแล้ว และคงจะพอเดาออก ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในประสบการณ์ความรักในวัยที่รู้เดียงสาแล้วและกำลังเรียนจบที่ผมกำลังจะเล่านี้
      เรื่องมันเกิดเมื่อช่วงปลายๆเทอม ตอนนั้นผมคบกับแฟนได้หกเดือนกว่าๆ แต่เพิ่งจะได้อยู่ด้วยกันอย่างจริงๆจังๆก็ตอนที่ผมใกล้จะเรียนจบเต็มที่แล้ว จากนั้นก็มีเหตุให้ต้องคิดหนัก เมื่อแฟนบอกเราว่าท้อง เทส2รอบ ก็ได้ผลเหมือนเดิม
       ตอนนั้นในหัวผมคือ มืดไปหมด คิดอะไรไม่ออกเลย พอตั้งสติได้ก็ถามกลับไปว่าเอาไงดี แฟนผมก็บอกไม่รู้เหมือนกัน แต่ที่แน่ๆ ความคิดเห็นแก่ตัวผมเกิดขึ้นหลังจากนั้นเลย  เพราะผมไม่มีอะไรพร้อมเลย ทางบ้านตั้งความหวังกับผมไว้มาก ไหนจะต้องปลูกบ้านให้พ่อแม่ตามความฝัน พาพ่อกับแม่ไปเที่ยว แต่ในขณะที่เราเพิ่งเรียนจบและขอตังจากทางบ้านทุกเดือนแบบนี้ งานยังไม่มีทำด้วยซ้ำ ต้องสอบ แก่งแย่งแข่งขันเพื่อเข้าบรรจุในสาขาที่เรียนมา(บรรจุยากมาก ในหน่วยงานราชการอ่ะ) ผมจึงมีคำพูดสั้นๆว่าไม่พร้อม แค่นั้น
         หลังจากนั้นเราก็เริ่มทะเลาะกัน แต่เราทั้งคู่ไม่มีความคิดที่จะเอาออกนะ มีแค่ผมต้องรับผิดชอบ กับไม่รับผิดชอบ แต่ผมเลือกที่จะถอย เพราะอย่างที่บอกว่า ผมไม่มีอะไรพร้อมเลย ทั้งงานทั้งเงิน และผมก็ไม่อยากบอกที่บ้านของผมให้รู้ด้วย เพราะกลัวพ่อแม่ท่านจะเสียใจและผิดหวัง  สุดท้ายแฟนผมบอกจะเลี้ยงลูกเอง ไม่รับก็ไม่รับ และบอกว่าเขาไม่มีอะไรต้องห่วงเพราะมีงานกิจการของครอบครัวอยู่แล้ว จะเลี้ยงลูกเอง แล้วจะบอกพ่อแม่ของเขาว่าเลิกกับเราก่อนจะรู้ตัวว่าท้อง
        วินาทีนั้นผมเสียใจนะ เสียใจมาก  ที่ต้องเลือกตัดสินใจถอยออกมา และในใจก็คิดมาตลอดว่าซักวันถ้าเราพร้อม จะกลับไป ถึงแม้มันจะสายไปแล้ว เราจะชดใช้และรับผิดชอบทุกอย่างให้ลูกของเราเอง
        ส่วนแฟนเรา เขาผิดหวังกับเรามาก เขาเสียใจ ตั้งแต่วันนั้นมา ไม่มีวันไหนเลยที่ผมไม่คิดถึงคนที่เราเรียกว่าแฟน (สำหรับเขาเราอาจไม่ใช่อีกแล้ว) ผมร้องไห้แทบทุกวัน เป็นแบบนี้อยู่เป็นเดือนๆ ด้วยความเสียใจและคิดถึงมากๆ
        หลังจากที่เราไม่มีการติดต่อกันอีกเลยนั้น ตลอด2ปีที่ผ่านมา ไม่มีวันไหนที่ผมไม่คิดถึงเขากับลูก ผมยังรักเขาเหมือนเดิม รักสุดหัวใจ
        จนวันนี้ ลูกของผมน่าจะเกือบ2ขวบแล้ว ผมได้รับการบรรจุเข้าทำงาน มีเงินเดือนและสวัสดิการพร้อมทุกอย่าง ถึงแม้เงินเดือนจะยังน้อยนิด ผมก็อยากจะกลับไปรับผิดชอบในสิ่งที่ผมทำไว้เต็มที่แล้ว ผมคิดถึงแฟนกับลูกมาก รักและคิดถึงมาตลอด
         ผมเริ่มจากการบอกพ่อกับแม่ ท่านตกใจมาก และแน่นอน ท่านก็โกรธเราอย่างเห็นได้ชัด แต่เราบอกท่านไปว่าอย่างน้อยผมก็มีงานแล้ว มีสวัสดิการให้พ่อกับแม่ แล้วสิ่งที่ผมทำไว้ มันก็เกิดขึ้นแล้ว ก็ต้องยอมรับ สุดท้ายท่านก็เข้าใจเรานะ ที่เรายอมรับสิ่งที่เกิดขึ้น
         จากนั้นผมพยายามติดต่อไปหาแฟนกับลูก (ผมยังใช้คำว่าแฟนนะ สำหรับผมเขาเป็นแฟนเสมอ) พอติดต่อได้ เธอก็ยังเคืองเรานะ แบบว่ามาทำไมตอนนี้ ไม่คิดหรอว่าเขาจะมีใหม่แล้ว อะไรประมานนี้ เราก็ตอบไปประมานว่าถ้าเธอไม่โอเคก็ไม่เป็นไร แต่เราขอรับผิดชอบลูก เราจะให้ลูกทุกอย่าง หรือเธออยากได้อะไรเราก็จะหาให้ ยอมทุกอย่างแล้ว ละก็บอกความในใจทั้งหมด ตลอด2ปีที่เราทิ้งเขาไป ว่าเรายังมีแค่เธอกับลูก สุดท้ายเธอก็บอกว่ายังไม่ได้มีใครใหม่หรอก ก็เลี้ยงลูกด้วยตัวเองมาตลอดและทางบ้านเขาก็ช่วยดูหลานอยู่แล้ว อยากจะกลับมาก็ได้ เธอก็ยังมีใจอยู่บ้าง แต่เรื่องจะให้ไว้ใจมันก็ต้องใช้เวลากันหน่อย
          วินาทีนั้นเราดีใจมาก ดีใจที่สุด คว้าแฟนมากอด ร้องไห้หนักมากด้วยความดีใจที่ได้แฟนกลับมา แล้วก็บอกขอโทษที่เราทิ้งเธอไป
          จนถึงตอนนี้คงมีคนคิดว่าผมแต่งขึ้นมา รึอาจแต่งเติมบ้าง แล้วแต่ท่านจะคิดนะครับ  แต่นี่คือชีวิตจริงของผมที่อัพเดทล่าสุดปัจจุบันนี้ ล้าน%  และผมสัญญาว่าจะดูแลครอบครัวของผมให้ดีที่สุด จนกว่าผมจะสิ้นลมหายใจ
           ลงวันที่ 24 มี.ค. 62
         ปล.1 ผมเขียนต่อจากน้องชายของแฟนผมที่เคยเขียนไว้ในกระทู้นี้ >>> https://m.pantip.com/topic/38656279?
และผมคือนาย A นามสมมติในกระทู้นั้นเองครับ
         ปล.2 ขอบใจน้องเมียที่ให้พี่ยืมแอคเคาท์มาบอกเล่าประสบการณ์ในวันนี้
          และสำหรับใครที่มีเรื่องราวประสบการณ์ในลักษณะนี้ก็สามารถนำมาบอกเล่า มาแลกเปลี่ยนความเห็น หรือมีคำแนะนำใดๆก็สามารถคอมเม้นบอกกล่าวกันได้นะครับ และขอความกรุณาใช้ภาษาสุภาพด้วยนะครับ
         สุดท้ายนี้ ผมขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านและขอบคุณทุกคอมเม้นล่วงหน้าครับผม^^
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่