ขอความเมตราจากผู้รู้และเคยเจอแบบนี้หน่อยนะครับผม อันนี้คือแฟนผมโดนมาจากที่บริษัทแห่งหนึ่ง กลัวจะไม่เหลือเงินกัน เพราะตอนนี้ติดค่าห้องมา1เดือนแล้วเดือนใหม่ก็กำลังจะมาโดนค่าปรับอีกวันละ100 ส่วนตัวผมก็ทำงานพอได้ค่ากินกินให้แฟนไปทำงาน ที่ตัวตอนนี้ยังมีกันไม่ถึง 100฿ เลยและกลัวว่าจะไม่มีที่นอนกันสิ้นเดือน มีนาคมนี้ 2562 เดี๋ยวจะขอให้แฟนเป็นคนเล่าเหตุการณ์นะครับผม ขอขอบคุณล่วงหน้าจากใจครับทางผมควไม่มีเงินไปปรึกษาทนาย ขอโอกาส ณ ที่นี้ด้วยนะครับผม ขอบคุณมากๆครับ
หนูเป็นพนักงานแห่งหนึ่ง เข้ามาสมัครงานในตำแหน่ง Store Manager trainee ซึ่งมีกำหนดระยะเวลาทดสอบทดลองงาน 3 เดือนหรือไม่เกิน 120 วัน ในระหว่างนั้นก็คือมีเหตุการณ์ทำให้เกิดขึ้นทำให้หนูพลาดในส่วนตรงนี้ไป และได้โดนทางบริษัทได้เรียกเข้าไปคุยเพื่อปรับลดให้เป็นพนักงานแต่ เพราะว่า เกิดเรื่องทะเลาะวิวาทกับเด็กในร้านต่อให้เป็นการถกเถียงไม่ได้ถึงขั้นลงมือ ก็ทำให้ผิดกฎทำให้โดนใบเตือนไป 1 ครั้งนี่คือสาเหตุที่เขาบอกว่าไม่ให้ผ่านแต่ครั้งนั้นที่เกิดเหตุตอนที่ได้ใบเตือนใบ warning เขาไม่ได้แจ้งว่าจะมีผลกระทบต่อตำแหน่งที่สมัครไว้อยู่ เลยยังทำหน้าที่ของตัวเองตามปกติเช่นเคยซึ่งทำให้รู้สึกว่าเสียเวลาเกือบ 1 เดือน ถ้าท่าแจ้งตั้งแต่แรกว่ามีผลกระทบ ก็คงไม่ต้องทำงานอยู่ คงจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดคือการขอลาออกตั้งแต่วันนั้นเพื่อฃม่ต้อวเสียเวบาและหลังจากนั้นพอได้ยินคำตัดสินบอกตั้งแต่ตอนนั้นเลยว่าขอลาออกทั้งฝ่ายหัวหน้างานฝ่ายที่รับเข้ามาทำงานฝ่ายดูแลจะเรียกตัวให้กลับเข้ามาคุยภายในวันนั้นอีกสองสามครั้ง เพื่อให้เปลี่ยนใจและตัดสินใจใหม่อีกที เรื่องที่ยื่นลาออกฉันยืนกระต่ายขาเดียวและยืนยันว่าจะขอลาออกไม่ขอรับข้อเสนอใดๆทั้งสิ้นต่อให้ไม่ได้ลดเงินเดือนในฐานเงินเดือน 15,000 บาทแต่ให้ลดลงเป็นพนักงานขายจากตำแหน่งผู้จัดการหรือตามขั้รตอนคือผู้ช่วยผู้จัดการตามขั้นตอนต้องผ่านกระบวนการการเป็น Store Manager traineeแล้วเป็นผู้ช่วยก่อนถึงจะเป็นผู้จัดการดูความเรียบร้อยและความเหมาะสม ว่าสมควรเหมาะที่จะขึ้นหรือยังพร้อมรึยัง แต่กรณีของดิฉันเขาไม่ได้ยื่นข้อเสนอใดๆทั้งสิ้น หากบทลงโทษที่จะมีบอกว่ายังไม่พร้อมที่จะเลื่อนตำแหน่งใดๆให้คงสถานะเดิมไว้แล้วทำงานต่อไปด้วยเงินเดือน ฐานเงินเดือน 15,000 บาท(ไม่มีโอทีแบะค่าคอมมิชชั่นและบอกเหตุผลว่าเงินเดือนจากฐานที่ได้เยอะพอแล้ว)และ ได้ คอมมิชชั่นตามที่ตกลงกันไว้ ก็คงจะยอมรับข้อเสนอไปแล้วแต่ให้ลดลงมาเป็นพนักงานขายเลยนั้นรับไม่ได้จริงๆจึงขอลาออกทันทีพอบริษัทเห็นว่าไม่มีท่าทางจะรั้งได้แล้วจึงใช้มาตรการคำพูดที่ว่าต้องแจ้งล่วงหน้า 1 เดือนตามกฎของบริษัทถ้าจะลาออกและต้องทำงานต่อให้ครบ 1 เดือนถึงจะออกได้ ถ้าออกตอนนี้จะโดนใบเตือนและโดน Blacklist ทันที ซึ่งเราก็เข้าใจอยู่แล้วว่าเขาเป็นบริษัทใหญ่ก็กลัวมีผลกระทบต่อหน้าที่การงานในครั้งหน้าหรือครั้งต่อไป ในอนาคตจึงยอมทนทำต่อ และสาเหตุนี้ทำให้เกิดเรื่องหลายๆอย่างทั้งโดนบีบโดนกดดันความเข้าใจผิดเป็นสาเหตุที่ทำให้เขามีข้ออ้างหรือเหตุผลมาหักเงินอย่างเช่น 1 ขอลาป่วยเนื่องจากตกลงมาจากที่สูง ได้ถามเขาไปว่าจำเป็นต้องใช้ใบรับรองแพทย์ไหมถ้าจำเป็นจะไปโรงพยาบาลให้เพราะประกันสังคมมันอยู่โรงพยาบาลวิภารามซึ่งไกลจากที่พักมากเพราะยังไม่ได้แต้งย้ายแต่ถ้าหากไม่จำเป็นอะไรมากไม่ได้ซีเรียสเพราะว่าได้แจ้งหัวหน้างานแล้วแต่หัวหน้างานรับรู้แล้วฉันก็จะขอพักแค่ 1 วันกินยาทายาแล้วก็ไปทำงานต่อพรุ่งนี้แต่ก็ไม่มีการตอบรับใดๆกลับมาถึงแม้เขาจะอ่านแต่ก็ไม่ตอบทำให้ข้อนี้เขาบอกว่าถ้าไม่อยากโดนหักตังค์ก็ต้องทำมาทำงานชดเชยเพราะไม่มีใบรับรองแพทย์ กรณีที่ 2 อย่างเราอย่างเราแจ้งหัวหน้างานอีกคนนึง ว่าขอลาหรือขอเป็นวันหยุดได้ไหม เขาตอบว่าได้ตกลงแต่ไม่ได้แจ้งทางหน้าร้านหรือแจ้งฝ่ายบุคคลหรือ HR ใดๆสุดท้ายพอเรื่องเกิด ทางเราก็บอกว่าได้แจ้งแล้ว หน้าร้านจึงบอกว่าให้หาหลักฐานหรือให้หัวหน้าคนที่เราแจ้งมายืนยัน ถ้าไม่งั้นเราจะโดนหักนะ สรุปคือเขาไม่ยืนยันอะไรและบอกว่าถ้าอยากยืนยันตัวเองก็หาหลักฐานมาตอนนี้เลยไม่รู้ว่าจากเงินเดือน 15,000 บาท จะเหลือเท่าไหร่ พอจะมีทางออกอย่างไรบ้างคะถ้าหากโดนหักเกินเหตุเกินผลที่ไม่สมเหตุสมผล และเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุของบริษัท ที่มีต่อลูกจ้าง รบกวนผู้รู้ด้วยนะค่ะ ขอบคุณล่วงหน้าจากใจค่ะ
อยู่ในช่วงทดลองงาน และโดนลดตำแหน่ง และเหมือนทางบริษัทบีบให้ออก เราลาหยุดทักไลน์ก็ไมอ่านโทรหาก็ไม่รับ ควรทำอย่างไรดีครับ?
หนูเป็นพนักงานแห่งหนึ่ง เข้ามาสมัครงานในตำแหน่ง Store Manager trainee ซึ่งมีกำหนดระยะเวลาทดสอบทดลองงาน 3 เดือนหรือไม่เกิน 120 วัน ในระหว่างนั้นก็คือมีเหตุการณ์ทำให้เกิดขึ้นทำให้หนูพลาดในส่วนตรงนี้ไป และได้โดนทางบริษัทได้เรียกเข้าไปคุยเพื่อปรับลดให้เป็นพนักงานแต่ เพราะว่า เกิดเรื่องทะเลาะวิวาทกับเด็กในร้านต่อให้เป็นการถกเถียงไม่ได้ถึงขั้นลงมือ ก็ทำให้ผิดกฎทำให้โดนใบเตือนไป 1 ครั้งนี่คือสาเหตุที่เขาบอกว่าไม่ให้ผ่านแต่ครั้งนั้นที่เกิดเหตุตอนที่ได้ใบเตือนใบ warning เขาไม่ได้แจ้งว่าจะมีผลกระทบต่อตำแหน่งที่สมัครไว้อยู่ เลยยังทำหน้าที่ของตัวเองตามปกติเช่นเคยซึ่งทำให้รู้สึกว่าเสียเวลาเกือบ 1 เดือน ถ้าท่าแจ้งตั้งแต่แรกว่ามีผลกระทบ ก็คงไม่ต้องทำงานอยู่ คงจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดคือการขอลาออกตั้งแต่วันนั้นเพื่อฃม่ต้อวเสียเวบาและหลังจากนั้นพอได้ยินคำตัดสินบอกตั้งแต่ตอนนั้นเลยว่าขอลาออกทั้งฝ่ายหัวหน้างานฝ่ายที่รับเข้ามาทำงานฝ่ายดูแลจะเรียกตัวให้กลับเข้ามาคุยภายในวันนั้นอีกสองสามครั้ง เพื่อให้เปลี่ยนใจและตัดสินใจใหม่อีกที เรื่องที่ยื่นลาออกฉันยืนกระต่ายขาเดียวและยืนยันว่าจะขอลาออกไม่ขอรับข้อเสนอใดๆทั้งสิ้นต่อให้ไม่ได้ลดเงินเดือนในฐานเงินเดือน 15,000 บาทแต่ให้ลดลงเป็นพนักงานขายจากตำแหน่งผู้จัดการหรือตามขั้รตอนคือผู้ช่วยผู้จัดการตามขั้นตอนต้องผ่านกระบวนการการเป็น Store Manager traineeแล้วเป็นผู้ช่วยก่อนถึงจะเป็นผู้จัดการดูความเรียบร้อยและความเหมาะสม ว่าสมควรเหมาะที่จะขึ้นหรือยังพร้อมรึยัง แต่กรณีของดิฉันเขาไม่ได้ยื่นข้อเสนอใดๆทั้งสิ้น หากบทลงโทษที่จะมีบอกว่ายังไม่พร้อมที่จะเลื่อนตำแหน่งใดๆให้คงสถานะเดิมไว้แล้วทำงานต่อไปด้วยเงินเดือน ฐานเงินเดือน 15,000 บาท(ไม่มีโอทีแบะค่าคอมมิชชั่นและบอกเหตุผลว่าเงินเดือนจากฐานที่ได้เยอะพอแล้ว)และ ได้ คอมมิชชั่นตามที่ตกลงกันไว้ ก็คงจะยอมรับข้อเสนอไปแล้วแต่ให้ลดลงมาเป็นพนักงานขายเลยนั้นรับไม่ได้จริงๆจึงขอลาออกทันทีพอบริษัทเห็นว่าไม่มีท่าทางจะรั้งได้แล้วจึงใช้มาตรการคำพูดที่ว่าต้องแจ้งล่วงหน้า 1 เดือนตามกฎของบริษัทถ้าจะลาออกและต้องทำงานต่อให้ครบ 1 เดือนถึงจะออกได้ ถ้าออกตอนนี้จะโดนใบเตือนและโดน Blacklist ทันที ซึ่งเราก็เข้าใจอยู่แล้วว่าเขาเป็นบริษัทใหญ่ก็กลัวมีผลกระทบต่อหน้าที่การงานในครั้งหน้าหรือครั้งต่อไป ในอนาคตจึงยอมทนทำต่อ และสาเหตุนี้ทำให้เกิดเรื่องหลายๆอย่างทั้งโดนบีบโดนกดดันความเข้าใจผิดเป็นสาเหตุที่ทำให้เขามีข้ออ้างหรือเหตุผลมาหักเงินอย่างเช่น 1 ขอลาป่วยเนื่องจากตกลงมาจากที่สูง ได้ถามเขาไปว่าจำเป็นต้องใช้ใบรับรองแพทย์ไหมถ้าจำเป็นจะไปโรงพยาบาลให้เพราะประกันสังคมมันอยู่โรงพยาบาลวิภารามซึ่งไกลจากที่พักมากเพราะยังไม่ได้แต้งย้ายแต่ถ้าหากไม่จำเป็นอะไรมากไม่ได้ซีเรียสเพราะว่าได้แจ้งหัวหน้างานแล้วแต่หัวหน้างานรับรู้แล้วฉันก็จะขอพักแค่ 1 วันกินยาทายาแล้วก็ไปทำงานต่อพรุ่งนี้แต่ก็ไม่มีการตอบรับใดๆกลับมาถึงแม้เขาจะอ่านแต่ก็ไม่ตอบทำให้ข้อนี้เขาบอกว่าถ้าไม่อยากโดนหักตังค์ก็ต้องทำมาทำงานชดเชยเพราะไม่มีใบรับรองแพทย์ กรณีที่ 2 อย่างเราอย่างเราแจ้งหัวหน้างานอีกคนนึง ว่าขอลาหรือขอเป็นวันหยุดได้ไหม เขาตอบว่าได้ตกลงแต่ไม่ได้แจ้งทางหน้าร้านหรือแจ้งฝ่ายบุคคลหรือ HR ใดๆสุดท้ายพอเรื่องเกิด ทางเราก็บอกว่าได้แจ้งแล้ว หน้าร้านจึงบอกว่าให้หาหลักฐานหรือให้หัวหน้าคนที่เราแจ้งมายืนยัน ถ้าไม่งั้นเราจะโดนหักนะ สรุปคือเขาไม่ยืนยันอะไรและบอกว่าถ้าอยากยืนยันตัวเองก็หาหลักฐานมาตอนนี้เลยไม่รู้ว่าจากเงินเดือน 15,000 บาท จะเหลือเท่าไหร่ พอจะมีทางออกอย่างไรบ้างคะถ้าหากโดนหักเกินเหตุเกินผลที่ไม่สมเหตุสมผล และเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุของบริษัท ที่มีต่อลูกจ้าง รบกวนผู้รู้ด้วยนะค่ะ ขอบคุณล่วงหน้าจากใจค่ะ