สวัสดีครับนี่เป็นกระทู้แรกที่ผมจะมาเล่าประสบการณ์ ตามหัวข้อข้างบนครับ ทำไมคนดีถึงหายาก เมื่อก่อนก็ไม่เคยคิดครับถึงได้มาโดนกับตัว ถึงได้รู้ ต่อให้เราเป็นคนดีก็ไม่ใช่ว่าคนอื่นจะดีกับเราเสมอไป โอเคครับเข้าเรื่องเลยดีกว่า เรื่องราวมันเกิดที่ห้างโลตัสแห่งหนึ่งครับ ขอไม่พูดชื่อสถานที่หรือเขตนะครับ
ผมที่กำลังซื้อของเข้าบ้าน เมื่อซื้อเสร็จ ผมก็เข็นตะกร้ารถเข็นไปที่ลานจอดรถ[มอเตอร์ไซค์] หลังจากนั้นผมก็พยายามเอาของขึ้นไปแขวนไว้ที่รถครับ
พอเอาของแขวนวางได้สักพัก ซักประมาณ 2 3 ถุง ก็มีชายคนนึงมาเรียกผมจากทางด้านข้าง ตอนแรกผมก็คิดว่าเขาเรียกอีกคน เพราะว่าที่จอดมอเตอร์ไซค์ก็มีคนอื่นอยู่ด้วย แต่เขาก็ยังเรียกต่อ
"คุณคุณครับ" ผมเลยต้องหันหน้าไปมองเขา
"ครับ" ผมตอบรับเขาเพื่อให้แน่ใจว่าเขาเรียกผม
"ช่วยอะไรผมหน่อยได้ไหมครับ " ผู้ชายคนนั้นพูดอย่างลุกลี้ลุกลนและเหงื่อท่วมตัว
ลืมบอกไปครับว่าลักษณะผู้ชายคนนั้นเป็นยังไง ก็ประมาณว่าใส่กางเกงชุดบอล สีน้ำเงิน ถือพวกรองเท้าเตะบอลมา 2 คู่ ลักษณะร่างกายดูอ้วนๆหน่อยครับ
ไว้ผมยาว ไว้หนวด น่าจะสูงประมาณสัก 175 ส่วนสูงผมนี่ไม่แน่ใจนะครับ แต่ดูท่าทางเขาหอบเหนื่อยมาก
"ครับเรื่องอะไรหรอครับ" ผมถามเขาออกไป
"คือผมอยากจะยืมเงินหน่อยนะครับผมทำกระเป๋าตังค์หาย ผมไม่ใช่มิจฉาชีพหรืออะไรนะครับ " เขาพูดออกมาอย่างรวดเร็วมาก
ซึ่งตอนนั้นผมก็ยังยืนฟังอยู่ ส่วนเวลาของตอนนั้น ก็น่าจะตอนเวลา 2 ทุ่ม 10 นาทีครับ แต่ผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน
"กระเป๋าตังค์หายหรอครับ" ผมลองถามเขา
"ครับกระเป๋าตังค์ผมหายจริงๆ เนี่ยครับผมเดินออกมาจากที่เขาเตะบอลเล่นบาสกัน " แล้วเขาก็ชี้ไปตรงที่เขาเดินออกมาครับ
ถ้าถามว่าผมรู้จักซอยนั้นไหมก็ยังครับยังไม่เคยเข้าไป ผมได้แต่พยักหน้าให้เขา
"แล้วกระเป๋าตังค์คุณหายังไงครับ" ผมเป็นคนถามเขาอีกครั้ง
เขาบอกว่าเขาวางกระเป๋าตังค์ไว้ที่ล็อกเกอร์หรืออะไรสักอย่างเลยน่ะแล้วมีคนหยิบไป
"ตอนแรกผมก็ไปขอยืมเงินคนอื่นนะครับ แต่เขาไม่ให้เลย ผมเห็นคุณอยู่คนเดียวก็เลยกล้ามาขอ แต่ผมไม่ใช่พวกมิจฉาชีพจริงนะครับถ้าผมได้แล้วผมจะคืนให้จริงๆ"
ผมเห็นสภาพเขาแล้วก็น่าเห็นใจอยู่เหมือนกันครับ
ถามว่าผมเคยมีประสบการณ์แบบเขาไหมก็เคยมีเหมือนกันครับแต่ไม่หนักเท่าเขา เพราะตอนนั้นผมมีเพื่อนอยู่ด้วยเลยขอยืมเงินเพื่อนได้ และครั้งนี้การที่คนมาขอยืมเงินผมโดยบอกว่ากระเป๋าตังค์หายนี่ก็ไม่ใช่แค่ครั้งแรกด้วย เคยเกิดขึ้นมาก่อนหน้านี้แล้วครับแต่ผมขอเล่าเรื่องนี้ก่อน
"แล้วบ้านคุณอยู่ไหนครับ" ผมถามเขาเพื่อลองดูก่อน
"ผมอยู่คอนโดแถว xxx "
"แล้วคุณมาที่นี่ได้ไงครับ"
"นั่งแท็กซี่มาครับ"
"แล้วปกติมาที่นี่บ่อยไหมครับ"
"ก็บ่อยอยู่นะครับ"
"แล้วเพื่อนคุณล่ะครับ"
"ไอ้พวกนั้นมันกลับไปก่อนผมแล้วครับ" เขาพูดแล้วก็ถอนหายใจ ผมก็ยังไม่ปักใจเชื่อเขาหรอกนะครับ
"แต่เชื่อได้นะครับผมไม่ใช่พวกมิจฉาชีพหรือพวกมาขอเงินจริงๆนะครับ ถ้าผมกลับถึงบ้านแล้วเดี๋ยวพรุ่งนี้ผมจะโอนคืนให้เลย"
แล้วหลังจากนั้นผมก็พูดถามเกี่ยวกับเขาสักพักนึงครับ ส่วนใหญ่ก็เป็นเรื่องที่เขามาที่นี่บ่อยไหม อยู่แถวไหน ถนนอะไรคอนโดชื่ออะไร
จนสุดท้ายผมก็ตัดสินใจได้ครับ เลยให้เขายืมเงิน เขาก็ขอบคุณผมยกใหญ่ครับ ที่ผมตัดสินใจให้เขายืมเงินนี้ก็เพราะ
เขาบอกให้ผมถ่ายรูปเขาไว้หรือบัตรประชาชนก็ได้ และเขาก็ขอเบอร์ผมไว้ เลขที่บัญชีธนาคารแต่ผมจำไม่ได้ไง และประจวบเหมาะกับโทรศัพท์ผมเน็ตหมดด้วย
เขาเองก็มีโทรศัพท์นะครับ เป็นโทรศัพท์รุ่น Samsung ก็น่าจะเป็นพวกรุ่น S เดาเอาว่าน่าจะเป็น S8 ครับไม่แน่ใจเหมือนกันว่ารุ่นอะไร แต่เอาเป็นว่าถ้ามีโทรศัพท์รุ่นแพงขนาดนี้ก็น่าจะมีเงินแหละครับ
เขาก็ใช้โทรศัพท์เขาโทรเข้าเครื่องผม ผมก็เลยบันทึกเบอร์เขาไว้
พอเสร็จเขาก็พูดชมผมครับว่าผมเป็นคนดี ชมผมยกใหญ่ว่าคนดีหายาก พอเขาถามชื่อผมผมก็บอกชื่อผมไป
แล้วผมก็เดินไปที่ตู้ atm ครับเขาก็เดินตามมาด้วย เราก็พูดด้วยกันตอนเดินไปครับ เขาก็ถามว่าผมอยู่ไหนผมก็บอกไปว่าผมอยู่ที่ไหนไหนๆ
แล้วเขาก็บอกว่าเขาจะไปขอบคุณถึงบ้านเลย ผมเลยบอกว่าไม่ต้องหรอ แค่คุณจริงใจกับผมก็พอ แต่เขาก็ยังไม่หยุดพูดนะครับ
เขาบอกเขาจะพาผมไปเลี้ยงข้าวเพื่อขอบคุณ เขาก็พูดอีกว่าถ้าเขาเอาเรื่องนี้ไปบอกเพื่อนๆเขาเป็นเพื่อนเขาคงไม่เชื่อ ว่ายังมีคนดีอย่างผมเหลืออยู่
แล้วก็พูดอีกว่าจะโพสต์ขอบคุณผมใน Facebook ด้วย แต่ผมก็สงสัยอยู่ข้อนึงว่าทำไมเขาไม่โทรไปบอกเพื่อน ผมเลยถามเขาไป
"ทำไมคุณไม่โทรไปบอกเพื่อนให้เพื่อนคุณมารับและครับ"
"ไม่ใช่ผมไม่โทรครับผมโทรไปบอกพวกมันแล้ว แต่บางคนก็ถึงบ้านแล้วบางคนก็ไม่รับ"
ผมเลยได้แต่พยักหน้าให้แล้วเอ่อออไป คิดในใจว่าเอาวะถ้าโดนหลอกก็ถือว่าได้เป็นบทเรียน ถ้าเขาไม่หลอกเราก็ได้เป็นพี่เป็นน้องกัน
ผมลืมบอกอายุของเขาไปครับ แต่ผมไม่ได้ถามอายุของเขานะครับแค่เดาเอา น่าจะประมาณแถว 20-30 ไปปายนี่แหละครับ ส่วนผมเองก็ 18
ห่างกันใช่ไหมล่ะครับ ผมเองก็คิดนะครับ ที่เขาเข้าหาผมก็เพราะผมอาจจะอายุน้อยกว่าเขา เลยอาจจะหลอกง่ายหรือเปล่าผมก็คิดนะ
แต่ก็พยายามไม่ใส่ใจคิดในแง่ดีไว้ จนเราสองคนมาถึงตู้ ATM ผมเดินเข้าไปกดเงินส่วนเขาขอรอข้างนอก
เงินที่เขาขอคือ1300 ครับ ตอนแรกผมก็ตกใจนะครับว่าทำไมขอเงินเยอะจัง แต่ก่อนหน้านี้เขาก็เล่าเหตุผลให้ฟังแล้ว
เขาบอกคุณแจคอนโดหรือคีย์การ์ดเขาก็หายเหมือนกัน ไว้ในกระเป๋าตัง แล้วถ้าจะทำกุญแจใหม่ก็ต้องโดนค่าปรับ เลยต้องมีเงินจ่ายค่าปรับด้วยนะครับ
ผมเลยได้แต่พยักหน้าให้ ในใจผมก็เตรียมใจไว้แล้วครับว่าถ้าโดนหลอกนี้ก็ซวยเอง [เพราะเชื่อคนง่าย]
กดเงินเสร็จผมก็เอาเงินมาให้เขา เขาก็ขอบคุณผมยกใหญ่เหมือนเดิม บอกว่าถ้าเขาไม่เจอผมต้องแย่แน่ๆ แล้วก็ทำท่าเหมือนกำลังจะไหว้ผม
อันนี้ผมก็ไม่แน่ใจนะว่าผมคิดไปเองหรือเปล่าแต่เห็นเขาพนมมือเข้ากัน เลยคิดว่าจะไหว้ขอบคุณผม ผมเลยบอกไปว่าไม่ต้องครับไม่ต้อง
ผมเลยเดินกลับไปที่รถมอเตอร์ไซค์โดยที่เขาก็ยังเดินตามผมมาอยู่เหมือนกัน พูดว่าจะโพสต์ขอบคุณผมลง Facebook แล้วเอาไว้ถ้าเขามีเวลาเขาจะมาชวนผมไปกินข้าวเพื่อขอบคุณอีก
แล้วเขาก็ขอจับมือกับผม แล้วก็ขอบคุณผมอีกครั้ง เขาบอกผมก่อนจะไป ตอนเที่ยงจะโอนเงินคืนมาให้ จะโทรมาบอก ไม่ลืมที่จะขอบคุณผมก่อนจะเดินไปโบกแท็กซี่ ผมก็ได้แต่พูดบอกเขาไปว่ากลับบ้านดีๆนะครับ
และเช้าอีกวัน
ผมยังไม่ได้โทรไปหาเขาหรอกครับ กะว่าจะให้เขาโทรมาหาเองมากกว่า อยากจะรู้ว่าเขาจะจริงใจกับผมแค่ไหน ผมก็หาอะไรทำเล่นๆไปในบ้าน
จนเวลาล่วงเลยมาถึงเที่ยง ก็ไม่มีวี่แววว่าเขาจะโทรมา ผมเริ่มใจไม่ดี ตอนนี้มันจะบ่ายนึงแล้วเขายังไม่โทรมาเลย แต่ผมก็ยังทำเป็นว่าเขาอาจจะยุ่งอยู่ก็ได้
อาจจะกำลังทำธุระอยู่ให้เวลาเขาหน่อย จนเวลาล่วงเลยมาถึงบ่าย 3 ผมหมดความอดทน เลยโทรหาเขา แต่รู้ไหมว่าผมได้อะไรกลับมา
' ไม่มีเสียงตอบรับจากเลขหมายที่ท่านเรียก ' คราวนี้ผมใจเสียในทันที แต่ก็ยังทำให้ตัวเองใจเย็นไว้อยู่ เขาอาจจะโทรศัพท์แบตหมดก็ได้คิดในแง่ดีไว้
ผมได้แต่บอกตัวเองอย่างนั้น ผ่านไปอีก 20 นาทีผมลองโทรอีกครั้ง แต่คราวนี้เปิดลำโพงด้วย แต่เหมือนจะโทรติดนะครับ มันขึ้นว่ากำลังโทร
ภายใน 5 วิผมก็โดนตัดสาย คราวนี้ไม่ต้องพูดถึงเลยครับว่าผมรู้สึกยังไง ถามว่าจะโทรต่อไหมผมไม่โทรหรอกครับ แค่นี้ก็ชัดแล้วครับว่าเขาเป็นคนยังไง
และก็อีก 5 นาทีผมก็โทรไปอีก คราวนี้เป็นเหมือนตอนที่โทรครั้งแรก คือไม่สามารถติดต่อได้ มันมี 2 กรณี เขาอาจปิดเครื่องหนีผม หรือ คงบล็อคเบอร์ผมไปแล้ว ตอนนี้ผมไม่คิดเข้าข้างเขาอีกแล้วครับ ถ้าจะขนาดนี้มันก็ชัดแล้ว
ถ้าถามถึงความรู้สึกผมในตอนนี้ ถามว่าโกรธไหมไม่โกรธครับถามว่าแค้นไหมไม่แค้นครับ
แต่ที่เสียไปก็คือจิตใจและความรู้สึกครับ ความรู้สึกที่หลงเชื่อเขา เชื่อในคำที่เขาพูด มันเสียความรู้สึกจริงๆครับ
พ่อแม่ปู่ย่าน้าอาสอนให้เราเป็นคนดีแล้วเราก็เป็นคนดี เห็นใจคนอื่นที่ลำบากกว่าเรา ให้ช่วยเหลือคนที่เขากำลังลำบาก ให้เห็นใจคนอื่นเอาใจเขามาใส่ใจเรา
นั่นคือคำที่ครอบครัวสอนผมไว้ สอนให้ผมเป็นคนดี ผมก็เป็นนะ จนวันนี้ผมถึงได้เข้าใจความหมายที่เขาพูดกัน [คนโง่ย่อมเป็นเหยื่อของคนฉลาด]
[คนดีเหลือน้อยในสังคม] นั่นคือคำที่ผมมักได้ยินบ่อยๆ จากคนรอบตัว จนวันนี้ได้มาเจอกับตัว บอกตามตรงครับผมไม่เคยโดนหลอกหนักขนาดนี้
เคยโดนแต่เติมเกมแล้วมักไม่ได้ของจากพวกเว็บที่ไปเติม ยังไม่เสียใจเท่าตอนนี้เลยครับ ถึงมันจะไม่ใช่เงินมากมายระดับถึง 2-3 พัน
สำหรับผมมันก็ไม่ใช่เงินมากมายหรือเงินน้อยนะครับ แต่อยากให้เขารู้ว่าเงินที่เขาใช้อยู่ในตอนนี้มันเป็นเงินของเรา เป็นเงินที่เขามาขอเราเองแล้วเล่าเรื่องความลำบากของเขา ด้วยการทำให้ผมเชื่อใจ ผมไม่ได้หวังสิ่งตอบแทนจากเขานะครับ แค่เขาโทรกลับมาบอกผมว่าขอบคุณแค่นี้ผมก็ดีใจแล้วครับแล้วก็โอนเงินคืนให้ผม เชื่อเถอะครับว่าผมกับคุณจะได้อยู่กันไปนานๆกว่านี้แน่
ส่วนถ้าถามผมว่าผมจะไปแจ้งความไหม ผมก็คงไม่คิดจะไปแจ้งหรอกครับ ผมไม่ถือขอเอาความกับคนแบบนี้หรอกนะครับ เพราะยังไงมันก็ไม่ใช่เงินมากมายขนาดนั้น แต่อยากให้คุณอย่าไปทำแบบนี้กับคนอื่นเลยครับ เริ่มที่ผมก็จบที่ผมเถอะ
บอกไว้ก่อนนะครับผมไม่ได้เชื่อเรื่องเวรกรรมผมเชื่อผลการกระทำ ใครทำอะไรก็ต้องได้อย่างนั้น ถ้าคุณไปทำอย่างนี้กับคนอื่นที่ไม่ใช่ผม แน่นอนว่าเขาไม่ใช่ผม เขาไม่ได้คนที่ใจดีใจกว้างเหมือน
[เตือนภัย] คนดีด้วยกันสมัยนี้ทำไมหายากจังครับ หรือผมอ่อนต่อโลกเกินไป