เรื่องที่ 4 ที่เหมือนสถานการณ์ในตอนนี้ครับ

สั้นๆ ก็คือ
อัญมณีทั้งห้าก็คือพวกนี้นะครับ
1) กกต.
2) ศาล
3) ม.44
4) องค์กรอิสระ และสว.
5) คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ กรธ.
6) อำนาจกลไกรัฐ
ลองจับคู่ดูนะครับว่า อัญมนีตัวไหนคือตัวไหน
ผมอยากให้ลองดูคลิปนี้ครับ 3 เดือนมาแล้ว แต่ผมเพิ่มดูเมื่อเช้า 555
มียอดวิวแค่ 3 หมื่น แต่เนื้อหามันควรจะได้ยอดวิวมากกว่านั้น ผมลองถอดความออกมาด้วย
ส่วนหนึ่ง ลองอ่านดู แล้วถ้าอยากฟังก็กดวีดีโอดูครับ

สวัสดีครับพบกับรายการคืนวันศุกร์ให้กับประชาชนอีกครั้ง วันนี้เรามากันสองคน...
(พูดถึง Primary vote ซึ่งเป็นการหยั่งเสียงภายในพรรค เป็นครั้งแรก -แบบระบบพรรคในตปท.)
ธนาธร : ...การเลือกตั้งคราวนี้มีแนวโน้มที่จะเป็นการเลือกตั้งที่มีการโกงครั้งมโหฬาร
โกงตั้งแต่การแบ่งเขต จนมาถึงบัตรเลือกตั้ง
บัตรเลือกตั้งล่าสุดจะเป็นบัตรเลือกตั้งที่ไม่มีที่ไหนเคยทำมาก่อน
ในประวัติศาสตร์ ในประเทศไทย แล้วก็ในต่างประเทศ
ธนาธร : ก็คือเป็นบัตรเลือกตั้งที่มีแต่ตัวเลข ไม่มีโลโก้พรรค ไม่มีชื่อพรรค
Dr.ปิยบุตร : แล้วตัวเลขนี่ แต่ละเขตไม่เหมือนกันด้วย
คุณไปหาเสียงชูตัวเลขเบอร์ไม่ได้แล้ว
ธนาธร : ถ้า กกต. ยืนยันจะใช้บัตรแบบนี้ พวกเราก็คงต้องเรียกว่า
นี่ไม่ใช่บัตรเลือกตั้งแล้วครับ ต้องช่วยกันเรียกว่าบัตรโกงเลือกตั้ง
ทุกท่านครับ การเลือกตั้งครั้งนี้โกงมโหฬาร เป็นการนำประเทศไทยกลับไปยัง
วังวนแบบเดิมนะครับ เริ่มตั้งแต่ การดูด สส. การซื้อหัวคะแนนนะครับ ด้วยอุบายต่างๆ
นะครับ ไม่ว่าจะเป็นด้วยการข่มขู่ว่าจะใช้กฎหมายเล่นงานก็ดีนะครับ มีการใช้อำนาจรัฐ
มีการใช้ตำแหน่ง เก้าอี้ อำนาจต่างๆ ล่อลวงให้คนมาเลือกพรรคที่สนับสนุนด คสช. เพื่อสืบทอดอำนาจต่อ
ไล่ตั้งแต่การใช้กลไกของกระทรวงมหาดไทย กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ไล่ไปจนถึงผู้ว่าราชการจังหวัดนะครับ
มีการใช้เงินภาษีประชาชน ทั้งๆ ที่อย่าลืมนะครับ 4 ปี ที่ผ่านมาไม่เคยเห็นหัวคนจนเลย
พอสองเดือนจะถึงเลือกตั้งนะครับ มาแจกเงินประชาชนเต็มไปหมด
นี่คือการเดินทางกลับไปทำการเมืองแบบเก่านะครับ การเมืองแบบโบราณนะครับ
ซึ่งการเมืองแบบนี้นี่เราเคยเห็นมาแล้วนะครับ เมื่อทหารหลังจากทำรัฐประหารเสร็จแล้ว
ต้องการกลับเข้าสู่การเมืองในระบอบประชาธิปไตย ก็ตั้งพรรคของตัวเองขึ้นมานะครับ
แล้วก็ใช้เล่ห์กลอุบายต่างๆ เพื่อที่จะให้ตัวเองกลับมามีอำนาจทางการเมืองได้
ไล่ตั้งแต่พรรคสามัคคีธรรม ในปี 2535 ไล่มาตั้งแต่พรรคเสรีมนังคศิลา 2500
แล้วเราก็เห็นรูปแบบการเมืองแบบเดิม แบบเก่าอีกในปี 2562
ทุกท่านครับ บัตรเลือกตั้งเป็นหนึ่งในรูปแบบการโกงนั้น
เราไม่แน่ใจว่า กกต. นี่เป็นกลางจริงรึเปล่า
.
.
คสช. นะครับเป็นทั้งผู้คุมกฎ เป็นทั้งผู้คุมผู้คุม เป็นทั้งผู้เขียนกฎ เป็นทั้งกรรมการ
แล้วก็เป็นทั้งผู้เล่นในสนามเองด้วย
อันนี้ก็ต้องเรียกว่า อำนาจเบ็ดเสร็จ
เป็นเจ้าของกลไกรัฐอีกด้วย
อำนาจเบ็ดเสร็จอยู่ในมือของ คสช.
.
.
.
แล้วก็ต้องบอกว่าทั้ง 4 ท่าน เวลาจะทำอะไร ไม่มีความเกรงอกเกรงใจประชาชนเลยนะครับ
ไม่มีความละอายต่อสิ่งที่ตัวเองทำอยู่เลยนะครับ ทั้งๆ ที่รัฐบาลนี้ เป็นรัฐบาลที่เรียกร้องเรื่องคุณธรรม
จากนักการเมืองมาโดยตลอด ก็เห็นได้ว่ามันไม่มีความจริงใจ สิ่งที่ตัวเองพยายามเรียกร้องว่าอยาก
ให้นักการเมืองทำ กลับทำเสียเอง
(เน็ดคุง : เหมือนนักเลงเรียกค่าคุ้มครอง แล้วบอกว่าจ่ายเงินมา (ภาษีเรา) แล้วจะทำให้มีความสงบ)
ดร.ปิยบุตร : จริงๆ คนเหล่านี้นะครับ ทั้ง 4 รัฐมนตรีที่เข้าไปอยู่พรรคพลังประชารัฐแล้วนะครับ รวม
ทั้งตัวนายกรัฐมนตรีพลเอกประยุทธ จันทร์โอชาเอกก็ดีนะครับ จริงๆ เขาเป็นนักการเมืองนะครับ
แม้ว่าไม่กี่วันมานี้ พลเอกประยุทธ จันทร์โอชาเพิ่งจะออกมายอมรับแล้วว่าเป็นนักการเมืองนะครับ
แต่จริงๆ แล้ว คนเหล่านี้เป็นนักการเมืองมาตั้งนานแล้วนะครับ
เพียงแต่ว่าเขาเป็นนักการเมืองที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง
เพราะเขาเข้าไปมีส่วนเข้าไปในการใช้อำนาจรัฐนะครับ
แต่ว่าไม่มีฐานความชอบธรรมทางประชาธิปไตยเลย เพราะพวกคุณไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง
แต่มาจากการยึดอำนาจนะครับ
เวลาทั้ง 4 รัฐมนตรีเดินทางไปพูดในที่ต่างๆ ไม่ว่าจะไปพูดในนามรัฐมนตรี หรือในนามของพรรค
บางทีมันแยกไม่ออกนะครับ ผมยกตัวอย่างเช่น เมื่อวานคุณสุวิทย์ เมษินทรีย์ ซึ่งเป็นรัฐมนตรีว่าการ
กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี แต่ว่าปรากฎออกมาพูดเรื่องเกี่ยวกับบัตร การที่ได้รับเงิน 500 บาท
นะครับ ที่จะให้แก่คนจนในช่วงสิ้นปีใหม่นี้นะครับ โดยบอกว่าจะไม่ให้ได้อย่างไรนะครับ ก็คนจนจะแย่อยู่แล้ว
จะอดตายกันอยู่แล้ว
ธนาธร : เพิ่งรู้เหรอ
ดร.ปิยบุตร : คุณสุวิทย์ เมษินทรีย์พูดในฐานะรัฐมนตรี หรือรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ
เพราะว่าถ้าพูดถึงในฐานะรัฐมนตรี คุณเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์ ก็ไม่ใช่ภาระ
หน้าที่ของคุณที่จะพูดเรื่องนี้ ถูกไหมครับ เพราะฉะนั้นผมว่าด้านนี้มันแยกกันไม่ออกเหมือนกันนะ
พอคุณสวมหมวก 2 ใบเนี่ย
แล้วก็เวลาไปเดินทางไปในที่ต่างๆ เนี่ย แม้ไปในนามของรัฐบาลเนี่ย
แต่มันปฎิเสธไม่ได้หรอกว่ามันพัวพันธ์อยู่กับพรรคการเมืองที่ตัวเองสังกัด
เพราะฉะนั้นก็อยากให้ทั้ง 4 ท่านเนี่ย ตัดสินใจให้สง่างามหน่อย
ไหนๆ จะลงมาเล่นการเมืองแล้ว ก็เล่นกันให้แฟร์ๆ หน่อยนะครับ
ทุกท่านก็ได้เปรียบกับพรรคอื่นๆ มากพอแล้วนะครับ
(ดร.ปิยบุตร บ่นเรื่องความยากลำบากลำบนของประเทศในการที่จะมีการเลือกตั้งครั้งนี้
และปัญหาข้อแม้การสร้างพรรคที่ยากเย็นแสนเข็ญเหลือเกิน ธนาธรหัวเราะ)
ดร.ปิยบุตร : สุดท้ายมาคิดว่าประเทศนี้มันเป็นอะไรกันนักกันหนาเนี่ย การเลือกตั้งซึ่งเป็นเรื่องปกติ
ในโลก ปกติในทุกๆ ประเทศต้องมีตามวาระ 4 ปีของมันเนี่ย เฮ้ย กับประเทศนี่มันยากเหลือเกินนะ
มักยากเหลือเกินกว่าจะมีการเลือกตั้งได้อันนึง นะครับ
ธนาธร : กกต.บอกว่าเฮ้ย ถ้ามีโลโก้แล้วชื่อพรรค จะพิมพ์ไม่ทันนะ
ดังนั้นเพื่อที่จะทำให้พิมพ์ทันต้องไม่มีอะไรเลย
ก็กลับไปแก้เหตุผลที่พิมพ์ไม่ทันสิ เหตุผลที่พิมพ์ไม่ทันก็เพราะแต่ละเขตมันคนล่ะเบอร์
ทำกันให้เหมือนต่างประเทศ ทำกันให้เหมือนการเลือกตั้งที่ผ่านๆ มา
ว่ามันเบอร์เดียวกันหมด ใช่ไหมครับ มันก็พิมพ์ทัน ง่ายๆ แค่นี้เองนะครับ
เรากำลังเลือกการทำลายประชาธิปไตยเพื่อมาแก้ปัญหา
ดร.ปิยบุตร : คุณธนาธรจริงๆ มันมีอีกเรื่องหนึ่งนะครับ ผมก็แปลกใจทำไมประเทศไทย
ไม่เอาวิธีนี้มาใช้ หลายประเทศในยุโรปเนี่ย เวลาเขาเลือกตั้งเนี่ย ไม่มีเบอร์นะครับ
แต่ว่ามีโลโก้กับชื่อพรรค อันนี้ง่ายกว่าอีก คือคุณมีโลโก้พรรคไปเลยอ่ะ คุณไม่ต้องมานั่งจับฉลากเบอร์
เมื่อก่อนเนี่ยของไทย เราคิดกันมาโดยตลอดว่า สาเหตุที่เราเอาเรื่องเบอร์มาเนี่ย เพราะกลัวว่า
ประชาชนอ่านหนังสือไม่ได้ จำชื่อพรรค โลโก้พรรคไม่ได้ เลยใช้เลขเอาง่ายๆ หรืออ่านเลขไม่ได้
คุณใช้นับจุดเอาได้ ก็จะรู้ว่าตัวเลขอะไร ...แต่ในต่างประเทศใช้โลโก้ และลงชื่อพรรคไปเลย ผมว่า
นี่อาจจะง่ายกว่าด้วยนะครับ
(หลังจากนั้น ดร.ปิยบุตร พูดเรื่องการปลดล็อคเพื่ออนุญาติให้ทำกิจกรรมหาเสียง แต่ไม่ได้ปลดล็อคจริงๆ
และการเขียนกฎหมายแทรกแซงจนที่ทำให้ศาลงง ซึ่งเป็นการเขียนเพื่อกะเอาให้คู่ต่อสู้ให้ตาย
และเว้นช่องไว้ให้กับตัวเองรอดปลอดภัยจากศาล)
ในฐานะคนที่รักประเทศไทยคนนึง ซึ่งผมแทบจะหมดหวังไปแล้ว จนมีพรรคอนาคตใหม่เข้ามา
ทำให้ความหวังของเรากลับมาอีกครั้ง ความหวังที่จะเห็นประเทศไทยก้าวทันโลก ทันสมัย
ทุกคนสบาย มีความสุข ท้วนหน้า ไม่ใช่บางคนสบาย บางคนเหนื่อยยาก ประเทศที่อนาคตจะไม่มี
คำว่า รากหญ้า หรือชาวบ้าน ซึ่งไม่เคยเห็นคำแบบนี้ในต่างประเทศ ไม่มีบัตรคนจน ซึ่งคำแต่ละคำ
ดูถูกเกียรติและศักดิ์ศรีความเป็นคนยิ่งนัก
ทหารนั้นมาจากการหล่อหลอม และมองเห็นสิ่งต่างๆ เป็นระดับชั้น มีการแบ่งชนชั้น
และเน้นความมั่นคง หมายถึง ทุกคนควรคิดให้เหมือนกัน อย่าคิดต่าง ให้มันเดือดร้อน ให้มี
ความระส่ำระส่าย และอื่นๆ นี่คือความคิดของทหาร เป็นจิตวิทยาพื้นฐานที่สุดของสมองของพวกเขา
และประเทศเรา มีทหารที่กุมอำนาจสูงสุด ไม่ใช่แค่ในกองทัพ แต่เหนือยิ่งไปกว่านั้น
มีเพียงแต่ประชาชนเท่านั้นที่จะต้องตาสว่าง และทำการปฏิรูปร่วมกัน เพื่อให้ประเทศก้าวไป
ในแนวทางของประชาชนอย่างแท้จริง การเลือกตั้งครั้งนี้ ถ้าพรรคพลังประชารัฐซึ่งเป็นพรรคของทหาร
และพรรคเพื่อไทยที่เป็นพรรคตัวแทนของประชาธิปไตยแบบเก่า ไม่ได้คะแนนเสียง
นี่จะเป็นชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ไปสู่ประชาธิปไตยแบบใหม่ของประเทศไทย แต่เป็นแบบที่พิสูจน์มาแล้ว
ในต่างประเทศที่เจริญแล้ว และประเทศต้นแบบประชาธิปไตย ว่ามันช่วยให้ทุกอย่างเจริญงอกงาม
ทั้งเศรษฐกิจ ชีวิตความเป็นอยู่ อิสรภาพ ความยุติธรรม สถาบันครอบครัว และอื่นๆ เท่าที่จะนึกได้
ศาสนาก็จะไปในทางที่ดีขึ้น เน้นแบบเหตุผลที่พระพุทธองค์เน้นหนัก ไม่ใช่ไปในแนวทางงมงายในปัจจุบัน
ที่เอามาจากศาสนาพราหม
มันไม่ใช่เรื่องของคนแก่ กับคนหนุ่ม ในการบริหารประเทศ
มันเป็นเรื่องของใครที่มีกึ๋นที่สุด และนึกถึงประเทศมากที่สุด ทำเพื่อประเทศมากที่สุด และทำเพื่อทุกๆ คน
ท่วนหน้า ไม่ใช่ทำเพื่อตัวเอง ทำเพื่อพวกพ้อง จนประเทศกลายเป็นประเทศแห่งอภิสิทธิ์ชนเหมือนในปัจจุบัน
คุณพร้อมหรือยังที่จะก้าวไปข้างหน้า
พร้อมหรือยังที่จะทำให้ความฝันของพ่อนั้นสำเร็จ
ประเทศที่จะทัดเทียมอารยะ และทุกสถาบันเจริญงอกงามสง่างาม
หนังที่เหมือนกับสถานการณ์การเมืองในตอนนี้เรื่องที่ 4 (ตอนจบ) และความคิดเห็นจากผู้เขียน
สั้นๆ ก็คือ
อัญมณีทั้งห้าก็คือพวกนี้นะครับ
1) กกต.
2) ศาล
3) ม.44
4) องค์กรอิสระ และสว.
5) คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ กรธ.
6) อำนาจกลไกรัฐ
ลองจับคู่ดูนะครับว่า อัญมนีตัวไหนคือตัวไหน
ผมอยากให้ลองดูคลิปนี้ครับ 3 เดือนมาแล้ว แต่ผมเพิ่มดูเมื่อเช้า 555
มียอดวิวแค่ 3 หมื่น แต่เนื้อหามันควรจะได้ยอดวิวมากกว่านั้น ผมลองถอดความออกมาด้วย
ส่วนหนึ่ง ลองอ่านดู แล้วถ้าอยากฟังก็กดวีดีโอดูครับ
สวัสดีครับพบกับรายการคืนวันศุกร์ให้กับประชาชนอีกครั้ง วันนี้เรามากันสองคน...
(พูดถึง Primary vote ซึ่งเป็นการหยั่งเสียงภายในพรรค เป็นครั้งแรก -แบบระบบพรรคในตปท.)
ธนาธร : ...การเลือกตั้งคราวนี้มีแนวโน้มที่จะเป็นการเลือกตั้งที่มีการโกงครั้งมโหฬาร
โกงตั้งแต่การแบ่งเขต จนมาถึงบัตรเลือกตั้ง
บัตรเลือกตั้งล่าสุดจะเป็นบัตรเลือกตั้งที่ไม่มีที่ไหนเคยทำมาก่อน
ในประวัติศาสตร์ ในประเทศไทย แล้วก็ในต่างประเทศ
ธนาธร : ก็คือเป็นบัตรเลือกตั้งที่มีแต่ตัวเลข ไม่มีโลโก้พรรค ไม่มีชื่อพรรค
Dr.ปิยบุตร : แล้วตัวเลขนี่ แต่ละเขตไม่เหมือนกันด้วย
คุณไปหาเสียงชูตัวเลขเบอร์ไม่ได้แล้ว
ธนาธร : ถ้า กกต. ยืนยันจะใช้บัตรแบบนี้ พวกเราก็คงต้องเรียกว่า
นี่ไม่ใช่บัตรเลือกตั้งแล้วครับ ต้องช่วยกันเรียกว่าบัตรโกงเลือกตั้ง
ทุกท่านครับ การเลือกตั้งครั้งนี้โกงมโหฬาร เป็นการนำประเทศไทยกลับไปยัง
วังวนแบบเดิมนะครับ เริ่มตั้งแต่ การดูด สส. การซื้อหัวคะแนนนะครับ ด้วยอุบายต่างๆ
นะครับ ไม่ว่าจะเป็นด้วยการข่มขู่ว่าจะใช้กฎหมายเล่นงานก็ดีนะครับ มีการใช้อำนาจรัฐ
มีการใช้ตำแหน่ง เก้าอี้ อำนาจต่างๆ ล่อลวงให้คนมาเลือกพรรคที่สนับสนุนด คสช. เพื่อสืบทอดอำนาจต่อ
ไล่ตั้งแต่การใช้กลไกของกระทรวงมหาดไทย กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ไล่ไปจนถึงผู้ว่าราชการจังหวัดนะครับ
มีการใช้เงินภาษีประชาชน ทั้งๆ ที่อย่าลืมนะครับ 4 ปี ที่ผ่านมาไม่เคยเห็นหัวคนจนเลย
พอสองเดือนจะถึงเลือกตั้งนะครับ มาแจกเงินประชาชนเต็มไปหมด
นี่คือการเดินทางกลับไปทำการเมืองแบบเก่านะครับ การเมืองแบบโบราณนะครับ
ซึ่งการเมืองแบบนี้นี่เราเคยเห็นมาแล้วนะครับ เมื่อทหารหลังจากทำรัฐประหารเสร็จแล้ว
ต้องการกลับเข้าสู่การเมืองในระบอบประชาธิปไตย ก็ตั้งพรรคของตัวเองขึ้นมานะครับ
แล้วก็ใช้เล่ห์กลอุบายต่างๆ เพื่อที่จะให้ตัวเองกลับมามีอำนาจทางการเมืองได้
ไล่ตั้งแต่พรรคสามัคคีธรรม ในปี 2535 ไล่มาตั้งแต่พรรคเสรีมนังคศิลา 2500
แล้วเราก็เห็นรูปแบบการเมืองแบบเดิม แบบเก่าอีกในปี 2562
ทุกท่านครับ บัตรเลือกตั้งเป็นหนึ่งในรูปแบบการโกงนั้น
เราไม่แน่ใจว่า กกต. นี่เป็นกลางจริงรึเปล่า
.
.
คสช. นะครับเป็นทั้งผู้คุมกฎ เป็นทั้งผู้คุมผู้คุม เป็นทั้งผู้เขียนกฎ เป็นทั้งกรรมการ
แล้วก็เป็นทั้งผู้เล่นในสนามเองด้วย
อันนี้ก็ต้องเรียกว่า อำนาจเบ็ดเสร็จ
เป็นเจ้าของกลไกรัฐอีกด้วย
อำนาจเบ็ดเสร็จอยู่ในมือของ คสช.
.
.
.
แล้วก็ต้องบอกว่าทั้ง 4 ท่าน เวลาจะทำอะไร ไม่มีความเกรงอกเกรงใจประชาชนเลยนะครับ
ไม่มีความละอายต่อสิ่งที่ตัวเองทำอยู่เลยนะครับ ทั้งๆ ที่รัฐบาลนี้ เป็นรัฐบาลที่เรียกร้องเรื่องคุณธรรม
จากนักการเมืองมาโดยตลอด ก็เห็นได้ว่ามันไม่มีความจริงใจ สิ่งที่ตัวเองพยายามเรียกร้องว่าอยาก
ให้นักการเมืองทำ กลับทำเสียเอง
(เน็ดคุง : เหมือนนักเลงเรียกค่าคุ้มครอง แล้วบอกว่าจ่ายเงินมา (ภาษีเรา) แล้วจะทำให้มีความสงบ)
ดร.ปิยบุตร : จริงๆ คนเหล่านี้นะครับ ทั้ง 4 รัฐมนตรีที่เข้าไปอยู่พรรคพลังประชารัฐแล้วนะครับ รวม
ทั้งตัวนายกรัฐมนตรีพลเอกประยุทธ จันทร์โอชาเอกก็ดีนะครับ จริงๆ เขาเป็นนักการเมืองนะครับ
แม้ว่าไม่กี่วันมานี้ พลเอกประยุทธ จันทร์โอชาเพิ่งจะออกมายอมรับแล้วว่าเป็นนักการเมืองนะครับ
แต่จริงๆ แล้ว คนเหล่านี้เป็นนักการเมืองมาตั้งนานแล้วนะครับ
เพียงแต่ว่าเขาเป็นนักการเมืองที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง
เพราะเขาเข้าไปมีส่วนเข้าไปในการใช้อำนาจรัฐนะครับ
แต่ว่าไม่มีฐานความชอบธรรมทางประชาธิปไตยเลย เพราะพวกคุณไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง
แต่มาจากการยึดอำนาจนะครับ
เวลาทั้ง 4 รัฐมนตรีเดินทางไปพูดในที่ต่างๆ ไม่ว่าจะไปพูดในนามรัฐมนตรี หรือในนามของพรรค
บางทีมันแยกไม่ออกนะครับ ผมยกตัวอย่างเช่น เมื่อวานคุณสุวิทย์ เมษินทรีย์ ซึ่งเป็นรัฐมนตรีว่าการ
กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี แต่ว่าปรากฎออกมาพูดเรื่องเกี่ยวกับบัตร การที่ได้รับเงิน 500 บาท
นะครับ ที่จะให้แก่คนจนในช่วงสิ้นปีใหม่นี้นะครับ โดยบอกว่าจะไม่ให้ได้อย่างไรนะครับ ก็คนจนจะแย่อยู่แล้ว
จะอดตายกันอยู่แล้ว
ธนาธร : เพิ่งรู้เหรอ
ดร.ปิยบุตร : คุณสุวิทย์ เมษินทรีย์พูดในฐานะรัฐมนตรี หรือรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ
เพราะว่าถ้าพูดถึงในฐานะรัฐมนตรี คุณเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์ ก็ไม่ใช่ภาระ
หน้าที่ของคุณที่จะพูดเรื่องนี้ ถูกไหมครับ เพราะฉะนั้นผมว่าด้านนี้มันแยกกันไม่ออกเหมือนกันนะ
พอคุณสวมหมวก 2 ใบเนี่ย
แล้วก็เวลาไปเดินทางไปในที่ต่างๆ เนี่ย แม้ไปในนามของรัฐบาลเนี่ย
แต่มันปฎิเสธไม่ได้หรอกว่ามันพัวพันธ์อยู่กับพรรคการเมืองที่ตัวเองสังกัด
เพราะฉะนั้นก็อยากให้ทั้ง 4 ท่านเนี่ย ตัดสินใจให้สง่างามหน่อย
ไหนๆ จะลงมาเล่นการเมืองแล้ว ก็เล่นกันให้แฟร์ๆ หน่อยนะครับ
ทุกท่านก็ได้เปรียบกับพรรคอื่นๆ มากพอแล้วนะครับ
(ดร.ปิยบุตร บ่นเรื่องความยากลำบากลำบนของประเทศในการที่จะมีการเลือกตั้งครั้งนี้
และปัญหาข้อแม้การสร้างพรรคที่ยากเย็นแสนเข็ญเหลือเกิน ธนาธรหัวเราะ)
ดร.ปิยบุตร : สุดท้ายมาคิดว่าประเทศนี้มันเป็นอะไรกันนักกันหนาเนี่ย การเลือกตั้งซึ่งเป็นเรื่องปกติ
ในโลก ปกติในทุกๆ ประเทศต้องมีตามวาระ 4 ปีของมันเนี่ย เฮ้ย กับประเทศนี่มันยากเหลือเกินนะ
มักยากเหลือเกินกว่าจะมีการเลือกตั้งได้อันนึง นะครับ
ธนาธร : กกต.บอกว่าเฮ้ย ถ้ามีโลโก้แล้วชื่อพรรค จะพิมพ์ไม่ทันนะ
ดังนั้นเพื่อที่จะทำให้พิมพ์ทันต้องไม่มีอะไรเลย
ก็กลับไปแก้เหตุผลที่พิมพ์ไม่ทันสิ เหตุผลที่พิมพ์ไม่ทันก็เพราะแต่ละเขตมันคนล่ะเบอร์
ทำกันให้เหมือนต่างประเทศ ทำกันให้เหมือนการเลือกตั้งที่ผ่านๆ มา
ว่ามันเบอร์เดียวกันหมด ใช่ไหมครับ มันก็พิมพ์ทัน ง่ายๆ แค่นี้เองนะครับ
เรากำลังเลือกการทำลายประชาธิปไตยเพื่อมาแก้ปัญหา
ดร.ปิยบุตร : คุณธนาธรจริงๆ มันมีอีกเรื่องหนึ่งนะครับ ผมก็แปลกใจทำไมประเทศไทย
ไม่เอาวิธีนี้มาใช้ หลายประเทศในยุโรปเนี่ย เวลาเขาเลือกตั้งเนี่ย ไม่มีเบอร์นะครับ
แต่ว่ามีโลโก้กับชื่อพรรค อันนี้ง่ายกว่าอีก คือคุณมีโลโก้พรรคไปเลยอ่ะ คุณไม่ต้องมานั่งจับฉลากเบอร์
เมื่อก่อนเนี่ยของไทย เราคิดกันมาโดยตลอดว่า สาเหตุที่เราเอาเรื่องเบอร์มาเนี่ย เพราะกลัวว่า
ประชาชนอ่านหนังสือไม่ได้ จำชื่อพรรค โลโก้พรรคไม่ได้ เลยใช้เลขเอาง่ายๆ หรืออ่านเลขไม่ได้
คุณใช้นับจุดเอาได้ ก็จะรู้ว่าตัวเลขอะไร ...แต่ในต่างประเทศใช้โลโก้ และลงชื่อพรรคไปเลย ผมว่า
นี่อาจจะง่ายกว่าด้วยนะครับ
(หลังจากนั้น ดร.ปิยบุตร พูดเรื่องการปลดล็อคเพื่ออนุญาติให้ทำกิจกรรมหาเสียง แต่ไม่ได้ปลดล็อคจริงๆ
และการเขียนกฎหมายแทรกแซงจนที่ทำให้ศาลงง ซึ่งเป็นการเขียนเพื่อกะเอาให้คู่ต่อสู้ให้ตาย
และเว้นช่องไว้ให้กับตัวเองรอดปลอดภัยจากศาล)
ในฐานะคนที่รักประเทศไทยคนนึง ซึ่งผมแทบจะหมดหวังไปแล้ว จนมีพรรคอนาคตใหม่เข้ามา
ทำให้ความหวังของเรากลับมาอีกครั้ง ความหวังที่จะเห็นประเทศไทยก้าวทันโลก ทันสมัย
ทุกคนสบาย มีความสุข ท้วนหน้า ไม่ใช่บางคนสบาย บางคนเหนื่อยยาก ประเทศที่อนาคตจะไม่มี
คำว่า รากหญ้า หรือชาวบ้าน ซึ่งไม่เคยเห็นคำแบบนี้ในต่างประเทศ ไม่มีบัตรคนจน ซึ่งคำแต่ละคำ
ดูถูกเกียรติและศักดิ์ศรีความเป็นคนยิ่งนัก
ทหารนั้นมาจากการหล่อหลอม และมองเห็นสิ่งต่างๆ เป็นระดับชั้น มีการแบ่งชนชั้น
และเน้นความมั่นคง หมายถึง ทุกคนควรคิดให้เหมือนกัน อย่าคิดต่าง ให้มันเดือดร้อน ให้มี
ความระส่ำระส่าย และอื่นๆ นี่คือความคิดของทหาร เป็นจิตวิทยาพื้นฐานที่สุดของสมองของพวกเขา
และประเทศเรา มีทหารที่กุมอำนาจสูงสุด ไม่ใช่แค่ในกองทัพ แต่เหนือยิ่งไปกว่านั้น
มีเพียงแต่ประชาชนเท่านั้นที่จะต้องตาสว่าง และทำการปฏิรูปร่วมกัน เพื่อให้ประเทศก้าวไป
ในแนวทางของประชาชนอย่างแท้จริง การเลือกตั้งครั้งนี้ ถ้าพรรคพลังประชารัฐซึ่งเป็นพรรคของทหาร
และพรรคเพื่อไทยที่เป็นพรรคตัวแทนของประชาธิปไตยแบบเก่า ไม่ได้คะแนนเสียง
นี่จะเป็นชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ไปสู่ประชาธิปไตยแบบใหม่ของประเทศไทย แต่เป็นแบบที่พิสูจน์มาแล้ว
ในต่างประเทศที่เจริญแล้ว และประเทศต้นแบบประชาธิปไตย ว่ามันช่วยให้ทุกอย่างเจริญงอกงาม
ทั้งเศรษฐกิจ ชีวิตความเป็นอยู่ อิสรภาพ ความยุติธรรม สถาบันครอบครัว และอื่นๆ เท่าที่จะนึกได้
ศาสนาก็จะไปในทางที่ดีขึ้น เน้นแบบเหตุผลที่พระพุทธองค์เน้นหนัก ไม่ใช่ไปในแนวทางงมงายในปัจจุบัน
ที่เอามาจากศาสนาพราหม
มันไม่ใช่เรื่องของคนแก่ กับคนหนุ่ม ในการบริหารประเทศ
มันเป็นเรื่องของใครที่มีกึ๋นที่สุด และนึกถึงประเทศมากที่สุด ทำเพื่อประเทศมากที่สุด และทำเพื่อทุกๆ คน
ท่วนหน้า ไม่ใช่ทำเพื่อตัวเอง ทำเพื่อพวกพ้อง จนประเทศกลายเป็นประเทศแห่งอภิสิทธิ์ชนเหมือนในปัจจุบัน
คุณพร้อมหรือยังที่จะก้าวไปข้างหน้า
พร้อมหรือยังที่จะทำให้ความฝันของพ่อนั้นสำเร็จ
ประเทศที่จะทัดเทียมอารยะ และทุกสถาบันเจริญงอกงามสง่างาม