ประมูลอู่ตะเภาผ่านโค้งแรกสำเร็จ เอกชนไทย-เทศสนใจร่วมลงทุนคึกคัก

โครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ซึ่งมีมูลค่าการลงทุนกว่า 2.9 แสนล้านบาท ใช้รูปแบบการลงทุนแบบรัฐร่วมเอกชน หรือ PPP

โดยรัฐจะลงทุนราว 2 หมื่นล้านบาท ในส่วนของ
- งานโยธา รันเวย์ที่ 2 (ประมาณ 10,000 ล้านบาท)
- หอบังคับการบินหลังที่ 2 (ประมาณ 5,000 ล้านบาท)

ส่วนเอกชนลงทุนราว 2.7 แสนล้านบาท ในส่วนของ
- อาคารผู้โดยสารหลังที่ 3 (รองรับผู้โดยสารสูงสุด 60 ล้านคนต่อปี)
- ศูนย์การขนส่งภาคพื้นดิน (Ground Transportation Center: GTC) เพื่อเป็นศูนย์กลางการจราจรสำหรับการให้บริการขนส่งสาธารณะไปสู่สนามบิน โดยสร้างลานจอดรถ และสถานีรถไฟความเร็วสูง ซึ่งผู้ชนะต้องประสานงานกับผู้ชนะรถไฟความร็วสูง
- ศูนย์ธุรกิจขนส่งสินค้าทางอากาศและโลจิสติกส์ (Cargo Complex)
- พื้นที่เขตประกอบการค้าเสรีและเขตธุรกิจเกี่ยวเนื่องในสนามบินอู่ตะเภา (Cargo Village or Free Trade Zone: FTZ)
- ศูนย์ธุรกิจการค้า (Commercial Gateway)

ให้ระยะเวลาเอกชนดำเนินการและใช้ประโยชน์พื้นที่โครงการ 50 ปี แยกเป็น
- ก่อสร้าง 3 ปี
- บริหารซ่อมบำรุง 47 ปี

วานนี้ (21 มี.ค. 2562) มีเอกชนยื่นซองประมูล 3 ราย ประกอบด้วย


1. กลุ่มกิจการค้าร่วมบริษัท ธนโฮลดิ้ง จำกัด และพันธมิตร

- บริษัท เจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง จำกัด หรือ CP
- บริษัท อิตาเลียนไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ITD
- บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) หรือ CK
- บริษัท บี.กริม จอยน์ เว็นเจอร์ โฮลดิ้ง จำกัด หรือ B.GRIM
- Fraport AG Frankfurt Airport Services Worldwide จากเยอรมนี


2. กลุ่มแกรนด์ คอนซอร์เทียม (GRAND Consortium)

- บริษัท แกรนด์ แอสเสท โฮเทลส์ แอนด์ พรอพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ GRAND อยู่ในกลุ่ม บริษัท พร็อพเพอร์ซี่ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) หรือ PF ถือหุ้น 80%
- บริษัท ไทยแอร์เอเชีย จำกัด (บริษัทย่อยของ บริษัท เอเชียเอวิเอชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AAV ) ถือหุ้น 10%
- บริษัท คริสเตียนีและนีลเส็น (ไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ CNT ถือหุ้น 10%

โดยมีพันธมิตรต่างชาติ :
- GMR Airport Limited จากอินเดีย รับบริหารจัดการสนามบิน
- China Harbour Engineering Company Limited ผู้ช่วยในงานก่อสร้าง


3. กลุ่มกิจการร่วมค้า BBS (BBS Joint Venture)

- บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BA
- บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS
- บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STEC

รายแรกที่ไปยื่นซองเป็นกลุ่มซีพี ซึ่งถือฤกษ์มงคล ยื่นเอกสารเมื่อเวลา 12:20 น. โดยนายนพปฎล เดชอุดม รองประธานสำนักบริหารความยั่งยืน ธรรมาภิบาลและสื่อสารองค์กร เครือเจริญโภคภัณฑ์ และนายอติรุฒม์ โตทวีแสนสุข รองประธานสำนักพัฒนาโครงการพิเศษ เครือเจริญโภคภัณฑ์ เป็นตัวแทนของกลุ่มเข้ายื่นเอกสารข้อเสนอ


ส่วนรายที่ 2 เป็นกลุ่มแกรนด์ คอนโซเตียม (GRAND Consortium) โดยมีนายสวัสดิ์ หอรุ่งเรือง นักธุรกิจชื่อดัง นำตัวแทนของกลุ่มเข้ายื่นเอกสารในช่วงบ่าย

รายที่ 3 เป็นกลุ่มกิจการร่วมค้า BBS

ทั้งนี้ เอกชนต้องยื่นข้อเสนอ 3 ซอง ได้แก่

1. ซองคุณสมบัติทั่วไป
2. ซองเทคนิคและแผนธุรกิจ
ด้านเทคนิค
- ข้อเสนอการทบทวนแบบแผนแม่บทสนามบิน
- ข้อเสนอแนวคิดการออกแบบอาคารผู้โดยสารหลังที่ 3
- ข้อเสนอแผนการดำเนินโครงการ และ
- ข้อเสนอแผนการดำเนินงานและบำรุงรักษา

ด้านแผนธุรกิจ
- ความสามารถในการจัดหาเงินทุนเพื่อใช้ในการดำเนินโครงการ
- กลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจเชิงพาณิชย์
- ข้อเสนอเกี่ยวกับประสบการณ์และศักยภาพของผู้ยื่นข้อเสนอ
- ความสามารถของบุคคลากรที่จะบริหารงานในโครงการ และ
- แผนการถ่ายทอดความรู้และเทคโนโลยี

3. ซองข้อเสนอส่วนแบ่งรายได้ให้รัฐ
- คณะกรรมการจะพิจารณาข้อเสนอของผู้ยื่นประมูลที่ให้ผลตอบแทนรัฐดีที่สุด

นอกจากนี้ยังมีซองที่ 4 ซึ่งเป็นข้อเสนออื่น ๆ ที่ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของคณะกรรมการว่าจะเปิดหรือไม่

ในสัปดาห์หน้าจะมีการเปิดซองคุณสมบัติ และประกาศรายชื่อผู้ผ่านคุณสมบัติ

การเข้าร่วมประมูลของเอกชนทั้งไทยและต่างประเทศ ในโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออกนี้ เป็นตัวบ่งชี้ว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่น่าลงทุน เพราะเป็นการยกระดับการพัฒนาพื้นที่ภายในสนามบินให้กลายเป็นเมืองการบินภาคตะวันออก และยกระดับให้ประเทศไทยก้าวขึ้นสู่การเป็นศูนย์กลางการบิน (Aviation Hub) ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในอนาคต จึงต้องเอาใจช่วยให้โครงการนี้สำเร็จ เพราะผู้ที่ได้ประโยชน์สูงสุดคือคนไทยทุกคน

-----------------------
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ขอบคุณข้อมูลและภาพจากสื่อต่าง ๆ