อีก 5 ปีรถไฟฟ้าในกรุงเทพจะมีระยะมากสุดเป็นระยะทาง 454 กมเป็นอันดับ 3 ของโลกเลยจริงไหม อนาคตรถจะไม่ติดแล้วใช่ไหม

คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 59
http://www.bltbangkok.com/public/core/uploaded/images/CoverStory/%E0%B8%81%E0%B8%97%E0%B8%A1%20%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9A%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%87_infographic04.jpg


ปี 2566 เป็นเป้าหมายแห่งความสำเร็จของกระทรวงคมนาคม ในการพัฒนาโครงข่ายรถไฟฟ้าตามแผนแม่บทระยะที่ 1 (M-Map1) ซึ่งจะทำให้มีเส้นทางรถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ยาวรวมกันเป็น 464 กิโลเมตร ขึ้นแท่นเป็นเมืองที่มีโครงข่ายรถไฟฟ้ายาวเป็นอันดับ 3 ของโลก ถือเป็นการพลิกโฉมการเดินทางและเปลี่ยนเมืองกรุงเทพฯ เป็นมหานครระบบรางอย่างเต็มรูปแบบ

4 ปีลงทุนโครงข่ายระบบรางกว่า 9 แสนล้านบาท   
ทั้งนี้เป็นผลจากการเร่งรัดพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม โดยมีโครงการสำคัญที่กระทรวงคมนาคมเร่งผลักดันจนได้รับการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในรัฐบาลปัจจุบัน (นับตั้งแต่ปี 2558-2561) ทั้งทางราง ทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ รวมกัน 21 โครงการวงเงินรวม 1,099,677  ล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการในส่วนของระบบราง 13 โครงการ วงเงินรวม 916,779 ล้านบาท

จากการเร่งรัดข้างต้น ทำให้การจัดอันดับคุณภาพโครงสร้างพื้นฐานของประเทศไทย โดย International Institute for Management Development (IMD) จัดอันดับให้ไทยมีอันดับคุณภาพด้านโครงสร้างพื้นฐานดีขึ้นจากปี 2558 ได้แก่ โครงข่ายทางถนนปรับดีขึ้น 21 อันดับ  การขนส่งทางอากาศปรับดีขึ้น 1 อันดับ คุณภาพการขนส่งทางอากาศปรับดีขึ้น 3 อันดับ และโครงข่ายทางรางปรับดีขึ้น 1 อันดับ

เร่งอีก 4 โครงการเสนอ ครม. อนุมัติ
และเพื่อให้โครงข่ายรถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ครอบคลุมตามแผนแม่บทกระทรวงคมนาคมมีโครงการจะผลักดันให้ ครม. อนุมัติในรัฐบาลนี้อีก 4 โครงการ วงเงินรวม 144,700 ล้านบาท ประกอบด้วย โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก (ศูนย์วัฒนธรรมฯ-บางขุนนนท์) โครงการรถไฟฟ้าสายสีแดงเข้ม รังสิต-มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โครงการรถไฟฟ้าสายสีแดงอ่อน ตลิ่งชัน-ศาลายา และช่วงตลิ่งชัน-ศิริราช โดยคุณสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ได้ขอให้เร่งรัดการดำเนินงานในช่วงระยะเวลาที่เหลืออีก 7-8 เดือนก่อนการเลือกตั้งให้ประสบผลสำเร็จตามเป้าหมาย




--------------

ครับ...กรุงเทพมหานคร เมืองหลวงของประเทศไทยระยะ

หลังนี้ดูเหมือนจะได้รับการยอมรับว่าเป็นเมืองที่น่ามาเที่ยวติดอันดับต้นๆของโลก

ล่าสุดมีการระบุด้วยว่า ภายใน 5 ปีนับจากนี้ไป กรุงเทพมหานครจะก้าวขึ้นไปเป็นมหานครแห่งใหม่ของโลก เป็นเมืองท่องเที่ยวในภาคตะวันออกที่สามารถเทียบเท่ากับหลายเมือง

ลอนดอน นิวยอร์ก โตเกียว ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้

เมืองใหญ่เหล่านี้ล้วนเป็นเมืองใหญ่ที่มีความเจริญค่อนข้างจะสมบูรณ์แบบในด้านวัตถุ ในด้านความเป็นศูนย์เศรษฐกิจสำคัญ ทำให้มีนักเที่ยวทั้งโลกอยากไปยลโฉมอยากไปเยือน

ปัจจัยสำคัญมาจากศักยภาพของกรุงเทพฯ ที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะโครงสร้างพื้นฐานที่ได้รับการพัฒนาอย่างรวดเร็ว

การเชื่อมโยงระบบคมนาคมขนส่งในระยะ 5 ปี รถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพฯจะมีระยะทาง 464 กม. ทำลายสถิติความยาวของรถไฟฟ้าใต้ดินในลอนดอนที่มี 402 กม. และนิวยอร์ก 380 กม.

ขณะเดียวกัน สถานีรถไฟฟ้าบางซื่อจะเป็นสถานีเชื่อมต่อที่ใหญ่ที่สุดของอาเซียน รวมถึงการพัฒนาเชื่อมต่อสนามบินนานาชาติ 3 แห่ง คือ ดอนเมือง สุวรรณภูมิ และหนองงูเห่า ทำให้การเดินทางสะดวกรวดเร็ว

แสดงถึงความมีศักยภาพที่จะเป็นเมืองท่องเที่ยวระดับโลก

เป็นความจริงที่เราจะได้เห็นกันในไม่ช้าไม่นาน เพราะหลาย โครงการได้เดินหน้ากันเป็นส่วนใหญ่เพียงแต่รอเวลาที่จะมาถึงเท่านั้น

พูดถึงกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นเมืองใหญ่ที่สุดของไทย จนมีการกล่าวถึงกันว่ากรุงเทพฯคือประเทศไทย เพราะทุกสิ่งทุกอย่างเหมือนนำมากองกันอยู่ที่นี่

แม้แต่ในทางการเมืองก็มีเปรียบเทียบกันว่า คนต่างจังหวัดตั้งรัฐบาล แต่คนกรุงเทพฯล้มรัฐบาล นั่นเพราะคนกรุงเทพฯเสียงจะดังกว่าคนต่างจังหวัด

นี่ก็คือปัญหาหนึ่งของประเทศไทย

กรุงเทพฯนั้นถือว่าเป็นเมืองพิเศษมีการปกครองในส่วนที่ให้อำนาจผู้ว่าฯ กทม. ซึ่งมาจากการเลือกตั้งของประชาชน

ผู้ว่าฯ กทม. นั้น ส่วนใหญ่จะสังกัดพรรคการเมือง ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นคนของพรรคประชาธิปัตย์ พูดง่ายๆว่า “ยึดครอง” มาตลอด

คสช.ดูท่าจะกำหนดให้มีการเลือกตั้งระดับท้องถิ่นก่อนการเลือกตั้งใหญ่ คือ เลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. อบจ. ซึ่งคาดว่าน่าจะเกิดขึ้นได้ในปีนี้

แต่ละพรรคการเมืองโดยเฉพาะพรรคการเมืองใหญ่อย่าง

เพื่อไทย ประชาธิปัตย์ คงมีการเตรียมผู้สมัครเป็นการภายในแล้ว

แต่ยังไม่เปิดตัวออกมาเท่านั้น

การที่ คสช.ต้องการให้มีการเลือกตั้งท้องถิ่นระดับนี้ก่อน คงเป็นเพราะต้องการเห็นแนวโน้มการเมืองไทยว่าจะเป็นอย่างไรหลังจากไม่มีการเลือกตั้งมานานแล้ว

เป็นการวัดความนิยมของประชาชนว่าจะเดินไปข้างหน้าหรือยังอยู่กับการเมืองเดิมๆ ซึ่งผมว่าน่าสนใจยิ่ง

แต่ยังเชื่อว่าประชาชนคงตื่นตัวทางการเมืองมากขึ้นอย่างแน่นอน

แม้แต่การเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ก็จะเป็นตัวชี้วัดได้เช่นกัน

กรุงเทพฯเมืองสำคัญของประเทศแม้ด้านหนึ่งจะพัฒนาไปมาก แต่อีกด้านหนึ่งก็ยังมีปัญหาที่จะต้องแก้ไขอย่างชนิดที่เรียกว่าต้องเอาจริงเอาจัง

ไม่ใช่ปล่อยให้ผู้สมัครแต่ละคน แต่ละพรรคเสนอนโยบายอย่างชนิดที่เป็นไปแทบไม่ได้ และมองไม่เห็นปัญหาอย่างแท้จริง ที่สำคัญก็คือจะต้องกล้าตัดสินใจด้วยความมุ่งมั่น

อยากให้เป็นมหานครโลกจริงๆอยู่ในมือคนเมืองหลวงแล้ว.

“สายล่อฟ้า”


https://www.thairath.co.th/content/1186418
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 5
อย่าดูแต่ระยะทางรวม ต้องดูว่ามันครอบคลุมหรือยัง ขนส่งมวลชนอื่นๆ ก็มีความสำคัญในการลำเลียงคนต่อจากระบบรางไปถึงบ้าน ที่ทำงาน โรงเรียน ฯลฯ ถ้ามันไปไม่ถึง หรือด้วยความลำบาก รอบรถช้า อันนี้ก็ไม่ตอบโจทย์ คนก็ยังใช้รถยนต์ส่วนตัวกันต่อไป=รถติดเหมือนเดิม

ดูเมืองใหญ่ๆ ของโลกใกล้บ้านเราอย่างโตเกียวประชากรมหาศาลเลย แต่ระบบรางของเขาครอบคลุมมาก ลงจากสถานีมีรถเมล์ต่อไปได้แทบทุกจุด รถเมล์บ้านเขาก็ตรงเวลามากถึงมากที่สุด ตารางเวลามาถึงชัดเจน แม้แต่จุดขึ้นลงก็ตีเส้นไว้เฉพาะสายนั้นๆ และจอดตรงเส้นทุกครั้ง ไม่มีจอดเลนสองให้คนวิ่งไปขึ้นเลย บัตรเติมเงืนของเขาก็สะดวกมาก ขึ้นรถไฟใต้ดิน บนดิน ของรัฐ เอกชน รถเมล์ ได้หมด ยังเอาไปรูดซื้อของใน 7-11 ก็ได้ ไม่เหมือนบัตรแมงมุมบ้านเรา ทำมาตั้งหลายปียังไม่สามารถเขื่อมต่อระบบได้ครบสมบูรณ์ เพราะภาครัฐไม่ผลักดัน นโยบายไม่ต่อเนื่อง ตอนนี้มัวแต่ไปเข็นบัตรคนจนให้ขึ้น mrt ซะงั้น คงมองไกลต่อไปคนไทยจะถือบัตรนี่กันที้งประเทศกระมัง
ความคิดเห็นที่ 7
รถยังคงติดครับ

1 รถยนต์สำหรับคนไทยแล้วเป็นเหมือนเครื่องแสดงฐานะ    ยังไงก็ต้องหามาไว้ใช้

2 สมมุติคนหันไปขึ้นรถไฟฟ้ากันเยอะ     ก็จะมีคนกลุ่มหนึ่งที่มองว่าคนหันมาขึ้นรถไฟฟ้ากันเยอะแล้วรถก็ไม่ติดมากเป็นโอกาสที่จะขับรถสบายๆ     แล้วก็เลิกใช้รถไฟฟ้าหันกลับมาใช้รถยนต์อีก

3 ค่ารถไฟฟ้าประเทศไทยเทียบกับค่าครองชีพแล้วแพงมากครับ    ขึ้นคนเดียวต่อเดียวยังพอว่าแต่ถ้าไปหลายๆคนรึว่าขึ้นหลายๆต่อไปไกลๆนี่     ขับรถถูกกว่า

4 รถไฟฟ้าของไทยโดยเฉพาะพวกลอยฟ้ามักจะไม่ติดแอร์ในสถานี    ไม่ถูกใจคนชอบความสบาย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่