เรื่องแรก...
เราได้มาทำงานที่หน่วยงานรัฐแห่งหนึ่ง ได้มาจากการคุยกับพนักงานคนนึงแจ้งว่า เงินเดือนตำแหน่งนี้ 10k ตอนแรกเราก็ถามหาประกาศรับสมัครงานจากหน่วยงาน แต่เขาแจ้งว่านี่เปิดรับคนด่วนเลยใช้วิธีติดต่อให้มาทำงานแทน ไม่มีการเปิดสอบใด ๆ เราก็ตกลง เห็นว่าเป็นงานราชการ ก็โอเค ตอบตกลงมาทำงานวันที่ 2 ม.ค. 62
พอวันแรกมาทำงานหัวหน้าเรียกพบแล้วแจ้งว่า “น้องจะได้รับเงิน 12k นะ แต่ว่าน้องต้องเอามาคืนพี่ 2k เพราะว่าในสัญญาเขาเขียนผิด” ...
เราก็แบบเงิบติดสตั้นไปพักนึง แล้วเราก็อ่อ แต่ไม่ได้ต่อความอะไร เราเป็นเจ้าหน้าที่บริหารทั่วไป จ้างในอัตรา 12k เป็นเวลา 3 เดือน จ้างปฏิบัติงานตามโครงการที่มีการเบิกของบจากจังหวัดมาค่ะ และมีการต่อสัญญาเรื่อย ๆ ตามความเหมาะสม
อย่างแรกเรื่องเงินเดือนที่ไม่ได้ตามสัญญาแบบนี้ เราสามารถร้องเรียนอะไรได้บ้างไหมคะ ว่าเป็นการหักเงินของเราคืนไป โดยที่เงินที่หักกลับไปนั้นก็ไม่รู้ที่ไปของมัน แต่เบิกงบจังหวัดมาเกิน แต่เราได้ไม่ครบตามที่ลงไว้ในสัญญา
เรื่องสอง...
เรื่องนี้เราไม่ติดใจค่ะ แค่อยากเล่าเสริม
ด้วยความที่เราเป็นคนค่อนข้างตรงไปตรงมา น่าจะไม่เข้าตาหัวหน้าด้วย จึงไม่ได้รับการต่อสัญญาโดยที่หัวหน้าแจ้งว่า สัญญาของเรามีปัญหา (มีเพื่อนที่ทำสัญญาเดียวกันอีกสองคนที่เป็นผู้รอดชีวิต) มีแค่เราคนเดียวค่ะที่หัวหน้าไม่ต่อสัญญาให้ เรามารู้ความจริงว่าหัวหน้าวางแผนจะไม่ต่อสัญญาของเราตั้งแต่แรก ๆ แล้ว เรารู้ว่าอาจจะเพราะเราเป็นคนที่ค่อยข้างพูดอะไรตรงไปตรงมา ไม่ปกปิดความผิดให้ ไม่เข้าข้างหรือแสวงหาผลประโยชน์อะไร (เหมือนเป็นคนละพวกกับหัวหน้าค่ะ) เราเลยโดนเฉดหัวส่งไป แล้วไปบ่นกับลูกน้องคนอื่นๆ ว่าเราไม่ทำงาน (เราไม่มีงานที่ได้รับมอบหมายเลยค่ะ เราค่อนข้างว่าง ในขณะที่อีกสองคนทำงานหนักมาก ซึ่งเราเองก็ไม่ได้รับสารหรือมอบหมายงานจากใครเลย ทุกงานที่มามอบหมายให้เราทำ เราทำเสร็จเร็ว ไม่บกพร่อง ไม่ค่อยผิดพลาด ทำให้ตลอด แต่หัวหน้าเองวันๆแทบจะไม่พูดกับเรา แต่สั่งงานผ่านอีกสองคนให้มาบอกเราว่าเราต้องทำอะไร แต่ด้วยความที่อีกสองคนไม่มาบอกเรา เราก็เลยไม่ค่อยได้รับมอบหมายงานอะไร อีกทั้งยังบอกอีกสองคนว่า เรามีปัญหา มีปากเสียงกับห้องข้าราชการชั้นบน พวกนั้นเลยจะไม่ต่อสัญญาให้เรา ซึ่งน้อยมากที่เราจะได้คุยหรือพบเจอคนชั้นบน และไม่เคยมีปากเสียงหรือทะเลาะกับใครในสำนักงานเลย นอกจากหัวหน้าที่ดูไม่ถูกอดถูกใจกับเรา **หัวหน้าเองก็ไม่ถูกกับใครเขาไปทั่ว มีแต่คนนินทาและไม่ชอบ** เรางงมากว่าเราไปมีปัญหากับใครตอนไหน ซึ่งเพื่อนก็งงเช่นกัน เรื่องที่เราไม่ได้ต่อสัญญาเราไม่ติดใจอะไรหรอกค่ะ เพราะเราก็วางแผนจะลาออกอยู่แล้ว หนึ่งคือเรื่องเงินเดือนไม่ตรงตามสัญญา สองคือเรื่องเงินเดือนเข้าช้าสองเดือน ซึ่งเรายังไม่ได้แจ้งออกนะคะ แต่หัวหน้าไปบอกคนอื่นๆรวมถึงข้าราชการชั้นบนว่าเราขอลาออกเอง ! หัวหน้าเราเก่งค่ะ คุยไว้สามที่หนังคนละม้วน
เรื่องสาม .. อันนี้เรารู้สึกว่าเราไม่อยากทำงานที่นี่ต่อแล้ว เราอยู่ไม่สุขเลยค่ะ คือเรื่องการทำงานของหัวหน้า ข้าราชการเข้างาน 8.30 - 16.30
1. หัวหน้ามาไม่เร็วกว่า 09.30 เลยซักวันค่ะ มาๆหายๆ เข้ามาได้ซักพักก็ออกไปไหนไม่มีใครรู้ งานก็ส่งมอบให้ลูกน้องอีกสองคนทำให้ แม้กระทั่งประชุม สัมมนา ก็ยังจะมอบให้คนอื่นๆ (บางครั้งคนละส่วนงาน) รับผิดชอบแทนแก บ่อยครั้งที่เรารู้สึกว่าแกโยนงานไปทั่ว (แต่นั่นเรื่องส่วนตัวหัวหน้า เราไม่ยุ่งค่ะ แค่รู้สึกว่านี่หรอคนเป็นหัวหน้า)
2. การทำงานตามโครงการที่เสนอเบิกงบของจังหวัดมาทำ ยอดเงินที่ขอเบิก กับที่ใ่ช้จ่ายจริงค่อนข้างซับซ้อน เราเพิ่งมาตอนที่โครงการผ่านแล้วไม่ทันตอนที่เขียนเสนอโครงการ แต่คร่าวๆ คือการจัดอบรมนักเรียนตามโรงเรียนต่างๆ ซึ่งตามหลักความเป็นจริงนั้น เราต้องจัดกิจกรรมอบรมเต็มวันต่อหนึ่งโรงเรียนค่ะ แต่หัวหน้ารวบเอาหมดเลย โรงเรียนละครึ่งวัน แล้วเอาสองโรงเรียนมารวบไว้วันเดียวกัน จึงพ่วงไปถึงค่าใช้จ่ายของวิทยากรซึ่งขอเบิกไปเป็นชั่วโมง ๆ ละ 600 สองท่าน สามชั่วโมง ต่อวัน เป็นเงิน 3,600 ต่อวัน แต่ได้จ่ายให้แก่วิทยากรแค่คนเดียว 600 ต่อวัน เท่านั้น **ค่าวิทยากรเห็นได้ชัดที่สุดเพราะเรารู้เรทการจ่าย และยังมีค่าอื่น ๆ เช่นค่าอาการกลางวันนักเรียนที่ขอเบิกงบไว้ตก 150 คนๆ ละ 120 บาท แต่ให้กับโรงเรียนไม่ถึงหรอกค่ะ ค่าอื่นที่เราเองก็ไม่รู้ แต่เราคิดว่าค่าใช้จ่ายทุกรายการถูกปรับลงไปมาก แต่ในเอกสารโครงการหัวหน้าสามารถถัวเฉลี่ยจัดสรรเงินเองได้ เราไม่แน่ใจว่าตรงนี้คือเรื่องปกติหรือมีซัมติงนะคะ เรารู้สึกไม่สบายใจที่จะทำงานนี้
เรื่องสี่ ... คือหัวหน้าของเราเองค่ะ
กิจกรรมอบรมที่จัดขึ้นเกือบ 20 วัน หัวหน้าเราไปด้วยแค่ 4-5 ครั้ง เท่านั้นค่ะ เราไม่รู้เหตุผลว่าทำไมแกถึงไม่ไปด้วย และแกก็ไม่เข้าสำนักงานด้วย เพราะเวลามีหนังสือหรืองานแจ้งไปถึงหัวหน้า เจ้าหน้าที่ที่อยู่สำนักงานจะติดต่อแกไป แกแจ้งกับเจ้าหน้าที่ว่ามาอบรมกับเรา แต่ความจริงคือไม่รู้ว่าแกไปอยู่ไหน แกไม่ไปทำงาน หลายครั้งที่แกอ้างที่อยู่ของตนไปเรื่อยๆ เช่น บอกคนที่ออกพื้นที่ด้วยกันว่าวันนี้เข้าสำนักงาน แต่บอกคนที่สำนักงานว่าออกพื้นที่ เป็นแบบนี้แทบทุกครั้งที่เราไปจัดกิจกรรมอบรม
หัวหน้ามักจะบอกข้อผิดพลาดของลูกน้อง ว่าลูกน้องเป็นคนทำเอง แกไม่รู้แกไม่ได้สั่ง และเมื่อไรที่มีคนทำให้แกระแคะระคาย แกก็จะเอาออก เหมือนที่เราโดนเลย
เราอาจจะเป็นคนไม่มีความอดทน หรือปากแรงไปหน่อย แต่เราทำงานบนความจริง เราไม่เคยฟ้องนายขายเพื่อนหรอก ถ้าเราไม่รู้ เราก็บอกรู้ ไม่เห็นเราก็บอกไม่เห็น ไม่ได้อ้าง หรือออกตัวแทนแก เราคิดว่าแกคงไม่ปลอดภัยที่เราเป็นแบบนี้ คงไม่อยากได้ลูกน้องแบบนี้อะคะ เรื่องการออกจากงานไม่ติดใจอะไร เพราะเราก็ไม่ได้อยากอยู่ตรงนี้เลย แต่เรื่องของการทำงานของข้าราชการคนนี้ เราอยากปรึกษาค่ะ อยากให้มีการตรวจสอบทั้งการทำงานของข้าราชการและการจัดทำโครงการต่างๆ เราต้องทำยังไงได้บ้างคะ เราไม่ค่อยมีหลักฐานหรือรู้เรื่องอะไรหรอกค่ะ เพราะเอกสารไม่ถึงมือเราเลยซักอย่าง คือไม่สั่งงานเราเลยอะค่ะ
ปรึกษาผู้รู้หน่อยนะคะ
แท็กห้องผิดขออภัยนะคะ
ได้รับเงินเดือนไม่เท่าที่ปรากฎในสัญญาจ้าง
เราได้มาทำงานที่หน่วยงานรัฐแห่งหนึ่ง ได้มาจากการคุยกับพนักงานคนนึงแจ้งว่า เงินเดือนตำแหน่งนี้ 10k ตอนแรกเราก็ถามหาประกาศรับสมัครงานจากหน่วยงาน แต่เขาแจ้งว่านี่เปิดรับคนด่วนเลยใช้วิธีติดต่อให้มาทำงานแทน ไม่มีการเปิดสอบใด ๆ เราก็ตกลง เห็นว่าเป็นงานราชการ ก็โอเค ตอบตกลงมาทำงานวันที่ 2 ม.ค. 62
พอวันแรกมาทำงานหัวหน้าเรียกพบแล้วแจ้งว่า “น้องจะได้รับเงิน 12k นะ แต่ว่าน้องต้องเอามาคืนพี่ 2k เพราะว่าในสัญญาเขาเขียนผิด” ...
เราก็แบบเงิบติดสตั้นไปพักนึง แล้วเราก็อ่อ แต่ไม่ได้ต่อความอะไร เราเป็นเจ้าหน้าที่บริหารทั่วไป จ้างในอัตรา 12k เป็นเวลา 3 เดือน จ้างปฏิบัติงานตามโครงการที่มีการเบิกของบจากจังหวัดมาค่ะ และมีการต่อสัญญาเรื่อย ๆ ตามความเหมาะสม
อย่างแรกเรื่องเงินเดือนที่ไม่ได้ตามสัญญาแบบนี้ เราสามารถร้องเรียนอะไรได้บ้างไหมคะ ว่าเป็นการหักเงินของเราคืนไป โดยที่เงินที่หักกลับไปนั้นก็ไม่รู้ที่ไปของมัน แต่เบิกงบจังหวัดมาเกิน แต่เราได้ไม่ครบตามที่ลงไว้ในสัญญา
เรื่องสอง...
เรื่องนี้เราไม่ติดใจค่ะ แค่อยากเล่าเสริม
ด้วยความที่เราเป็นคนค่อนข้างตรงไปตรงมา น่าจะไม่เข้าตาหัวหน้าด้วย จึงไม่ได้รับการต่อสัญญาโดยที่หัวหน้าแจ้งว่า สัญญาของเรามีปัญหา (มีเพื่อนที่ทำสัญญาเดียวกันอีกสองคนที่เป็นผู้รอดชีวิต) มีแค่เราคนเดียวค่ะที่หัวหน้าไม่ต่อสัญญาให้ เรามารู้ความจริงว่าหัวหน้าวางแผนจะไม่ต่อสัญญาของเราตั้งแต่แรก ๆ แล้ว เรารู้ว่าอาจจะเพราะเราเป็นคนที่ค่อยข้างพูดอะไรตรงไปตรงมา ไม่ปกปิดความผิดให้ ไม่เข้าข้างหรือแสวงหาผลประโยชน์อะไร (เหมือนเป็นคนละพวกกับหัวหน้าค่ะ) เราเลยโดนเฉดหัวส่งไป แล้วไปบ่นกับลูกน้องคนอื่นๆ ว่าเราไม่ทำงาน (เราไม่มีงานที่ได้รับมอบหมายเลยค่ะ เราค่อนข้างว่าง ในขณะที่อีกสองคนทำงานหนักมาก ซึ่งเราเองก็ไม่ได้รับสารหรือมอบหมายงานจากใครเลย ทุกงานที่มามอบหมายให้เราทำ เราทำเสร็จเร็ว ไม่บกพร่อง ไม่ค่อยผิดพลาด ทำให้ตลอด แต่หัวหน้าเองวันๆแทบจะไม่พูดกับเรา แต่สั่งงานผ่านอีกสองคนให้มาบอกเราว่าเราต้องทำอะไร แต่ด้วยความที่อีกสองคนไม่มาบอกเรา เราก็เลยไม่ค่อยได้รับมอบหมายงานอะไร อีกทั้งยังบอกอีกสองคนว่า เรามีปัญหา มีปากเสียงกับห้องข้าราชการชั้นบน พวกนั้นเลยจะไม่ต่อสัญญาให้เรา ซึ่งน้อยมากที่เราจะได้คุยหรือพบเจอคนชั้นบน และไม่เคยมีปากเสียงหรือทะเลาะกับใครในสำนักงานเลย นอกจากหัวหน้าที่ดูไม่ถูกอดถูกใจกับเรา **หัวหน้าเองก็ไม่ถูกกับใครเขาไปทั่ว มีแต่คนนินทาและไม่ชอบ** เรางงมากว่าเราไปมีปัญหากับใครตอนไหน ซึ่งเพื่อนก็งงเช่นกัน เรื่องที่เราไม่ได้ต่อสัญญาเราไม่ติดใจอะไรหรอกค่ะ เพราะเราก็วางแผนจะลาออกอยู่แล้ว หนึ่งคือเรื่องเงินเดือนไม่ตรงตามสัญญา สองคือเรื่องเงินเดือนเข้าช้าสองเดือน ซึ่งเรายังไม่ได้แจ้งออกนะคะ แต่หัวหน้าไปบอกคนอื่นๆรวมถึงข้าราชการชั้นบนว่าเราขอลาออกเอง ! หัวหน้าเราเก่งค่ะ คุยไว้สามที่หนังคนละม้วน
เรื่องสาม .. อันนี้เรารู้สึกว่าเราไม่อยากทำงานที่นี่ต่อแล้ว เราอยู่ไม่สุขเลยค่ะ คือเรื่องการทำงานของหัวหน้า ข้าราชการเข้างาน 8.30 - 16.30
1. หัวหน้ามาไม่เร็วกว่า 09.30 เลยซักวันค่ะ มาๆหายๆ เข้ามาได้ซักพักก็ออกไปไหนไม่มีใครรู้ งานก็ส่งมอบให้ลูกน้องอีกสองคนทำให้ แม้กระทั่งประชุม สัมมนา ก็ยังจะมอบให้คนอื่นๆ (บางครั้งคนละส่วนงาน) รับผิดชอบแทนแก บ่อยครั้งที่เรารู้สึกว่าแกโยนงานไปทั่ว (แต่นั่นเรื่องส่วนตัวหัวหน้า เราไม่ยุ่งค่ะ แค่รู้สึกว่านี่หรอคนเป็นหัวหน้า)
2. การทำงานตามโครงการที่เสนอเบิกงบของจังหวัดมาทำ ยอดเงินที่ขอเบิก กับที่ใ่ช้จ่ายจริงค่อนข้างซับซ้อน เราเพิ่งมาตอนที่โครงการผ่านแล้วไม่ทันตอนที่เขียนเสนอโครงการ แต่คร่าวๆ คือการจัดอบรมนักเรียนตามโรงเรียนต่างๆ ซึ่งตามหลักความเป็นจริงนั้น เราต้องจัดกิจกรรมอบรมเต็มวันต่อหนึ่งโรงเรียนค่ะ แต่หัวหน้ารวบเอาหมดเลย โรงเรียนละครึ่งวัน แล้วเอาสองโรงเรียนมารวบไว้วันเดียวกัน จึงพ่วงไปถึงค่าใช้จ่ายของวิทยากรซึ่งขอเบิกไปเป็นชั่วโมง ๆ ละ 600 สองท่าน สามชั่วโมง ต่อวัน เป็นเงิน 3,600 ต่อวัน แต่ได้จ่ายให้แก่วิทยากรแค่คนเดียว 600 ต่อวัน เท่านั้น **ค่าวิทยากรเห็นได้ชัดที่สุดเพราะเรารู้เรทการจ่าย และยังมีค่าอื่น ๆ เช่นค่าอาการกลางวันนักเรียนที่ขอเบิกงบไว้ตก 150 คนๆ ละ 120 บาท แต่ให้กับโรงเรียนไม่ถึงหรอกค่ะ ค่าอื่นที่เราเองก็ไม่รู้ แต่เราคิดว่าค่าใช้จ่ายทุกรายการถูกปรับลงไปมาก แต่ในเอกสารโครงการหัวหน้าสามารถถัวเฉลี่ยจัดสรรเงินเองได้ เราไม่แน่ใจว่าตรงนี้คือเรื่องปกติหรือมีซัมติงนะคะ เรารู้สึกไม่สบายใจที่จะทำงานนี้
เรื่องสี่ ... คือหัวหน้าของเราเองค่ะ
กิจกรรมอบรมที่จัดขึ้นเกือบ 20 วัน หัวหน้าเราไปด้วยแค่ 4-5 ครั้ง เท่านั้นค่ะ เราไม่รู้เหตุผลว่าทำไมแกถึงไม่ไปด้วย และแกก็ไม่เข้าสำนักงานด้วย เพราะเวลามีหนังสือหรืองานแจ้งไปถึงหัวหน้า เจ้าหน้าที่ที่อยู่สำนักงานจะติดต่อแกไป แกแจ้งกับเจ้าหน้าที่ว่ามาอบรมกับเรา แต่ความจริงคือไม่รู้ว่าแกไปอยู่ไหน แกไม่ไปทำงาน หลายครั้งที่แกอ้างที่อยู่ของตนไปเรื่อยๆ เช่น บอกคนที่ออกพื้นที่ด้วยกันว่าวันนี้เข้าสำนักงาน แต่บอกคนที่สำนักงานว่าออกพื้นที่ เป็นแบบนี้แทบทุกครั้งที่เราไปจัดกิจกรรมอบรม
หัวหน้ามักจะบอกข้อผิดพลาดของลูกน้อง ว่าลูกน้องเป็นคนทำเอง แกไม่รู้แกไม่ได้สั่ง และเมื่อไรที่มีคนทำให้แกระแคะระคาย แกก็จะเอาออก เหมือนที่เราโดนเลย
เราอาจจะเป็นคนไม่มีความอดทน หรือปากแรงไปหน่อย แต่เราทำงานบนความจริง เราไม่เคยฟ้องนายขายเพื่อนหรอก ถ้าเราไม่รู้ เราก็บอกรู้ ไม่เห็นเราก็บอกไม่เห็น ไม่ได้อ้าง หรือออกตัวแทนแก เราคิดว่าแกคงไม่ปลอดภัยที่เราเป็นแบบนี้ คงไม่อยากได้ลูกน้องแบบนี้อะคะ เรื่องการออกจากงานไม่ติดใจอะไร เพราะเราก็ไม่ได้อยากอยู่ตรงนี้เลย แต่เรื่องของการทำงานของข้าราชการคนนี้ เราอยากปรึกษาค่ะ อยากให้มีการตรวจสอบทั้งการทำงานของข้าราชการและการจัดทำโครงการต่างๆ เราต้องทำยังไงได้บ้างคะ เราไม่ค่อยมีหลักฐานหรือรู้เรื่องอะไรหรอกค่ะ เพราะเอกสารไม่ถึงมือเราเลยซักอย่าง คือไม่สั่งงานเราเลยอะค่ะ
ปรึกษาผู้รู้หน่อยนะคะ
แท็กห้องผิดขออภัยนะคะ