ใครได้ดูดีเบตเมื่อค่ำวันนี้ของไทยรัฐทีวีบ้างครับ สนุกมากเลย ผมเลยจะมาสรุปให้ เพราะชอบมาก

เนื่องจากตั้งใจฟังมาก และรู้สึกสนุกดี จึงอยากจะสรุปให้ทุกท่านได้อ่าน (สรุปตามความจำ + ความเข้าใจ หาก จขกท เข้าใจผิดใคร โปรดทักท้วง แต่เรื่องลำดับเวลาว่าคนนั้นพูดอย่างนั้นก่อนคนนี้พูดอย่างนี้ทีหลัง จำไม่ได้จริง ๆ แต่เนื้อความหรือใจความที่พูดนั้นพอจำได้ จะให้ดีคือไปดูเองครับ สนุกดี ถ้าจะดูให้ดูก่อน เพราะข้างล่างนี้เหมือนจะเป็นการสปอยล์)

เริ่มจาก

พี่ธนาธร : ถ้าพลังประชารัฐได้เสียงน้อยกว่า 124 เขาตั้งรัฐบาลไม่ได้ แล้วสภาล่าง มีพรรคที่รวมพรรคอื่นได้เกิน 250 ให้ทุกพรรคยกมือสนับสนุนพรรคนั้น ก็ไม่ต้องสนใจ สว. 250 เสียงอีกเลย การเลือกนกยกฯ จะจบที่สภาล่าง นี่เป็นการปิดสวิตช์ สว 250 เสียง แต่ปัญหามันอยู่ที่ว่า สมมติว่า ถ้ามีพรรคหนึ่งได้ 130 เสียง เขาจะยอมโหวตให้อีกพรรคหรือเปล่า เขาจะยอมทำตามเจตจำนงค์ของเสียงส่วนมาก เคารพตามเสียงข้างมากจริง ๆ ตามที่เขาพูดหรือเปล่า

พี่มาร์ค : เคยคิดเรื่องนี้อยู่เหมือนกันนะ แต่ถ้าเริ่มต้นเราไปสร้างบรรทัดฐานที่ว่า เราจะต้องต่อสู้กับเสียงทั้ง 250 เสียงของ สว. มันก็จะเป็นอย่างนั้นไป 5 ปีนะ เพราะเขาจะอยู่ไป 5 ปี แล้วเราจะอยู่กันได้อย่างไร เอาอย่างนี้ไม่ดีกว่าหรือว่า เราเรียกร้องให้ สว. ทำตามความประสงค์ของเสียงข้างมากในสภาล่าง

คุณพี่จอม : แล้วเขาจะฟังเราหรอคะ อย่างตอนนี้เขาก็ไม่ฟังเราเลยค่ะ  ถ้าอย่างนี้ใครจะไปเรียกร้องอะไรเขาได้คะ 

พี่มาร์ค : ก็คุณไงก็ต้องทำหน้าที่ของสื่อ สื่อต้องเรียกร้อง เราทุกคนนั่นแหละต้องเรียกร้อง ประชาชนต้องกดดัน

คุณพี่จอม : อ่ะ คุณลุง เอาไงคะ (หันไปหาลุงเสรี) จะเอาตามที่ว่าปิด สวิตช์ สว. รึเอาตามที่ว่า เรียกร้อง สว. 

ลุงเสรี : คืออย่างนี้นะ พวกคุณไปพูดเรื่อง 124 เสียง 250 เสียง 300 เสียง ผมฟังแล้วก็หัวหมุน คนฟัง ชาวบ้านฟัง หลายคนก็งง ๆ เอาอย่างนี้ ไม่ต้องไปคิดไรมาก ผมคุยกับพี่มาร์ค ก็คุยได้ คุยกับคุณหญิงก็คุยได้ คุณทั้งสอง (พี่มาร์คและคุณหญิง) บอกว่าไม่เอาอีกฝ่าย ก็ไม่ต้อง พี่มาร์คก็ไม่ต้องยกมือให้คุณหญิง คุณหญิงก็ไม่ต้องยกมือให้พี่มาร์ค พี่มาร์คยกมือให้ผมได้ คุณหญิงก็ยกมือให้ผมได้ เราทุกคนไม่เอาเผด็จก็ให้ผมเป็นนายกสิ เดี๋ยวผมจัดการเผด็จการให้ 

คุณพี่จอม : เอาไงดีคะพี่มิ่ง 

ลุงมิ่ง : ก็ตามพี่เสรีนั่นแหละ ประเด็นมันอยู่ที่ว่าคนนี้ (คุณหญิง) กับคนนี้ (พี่มาร์ค) เขาไม่เลือกกันอยู่แล้ว แต่เขาจับมือกันได้ มันก็จบ 

คุณพี่จอม : เอาไงคะพี่สุ

พี่สุ : ผมไม่มีปัญหา ฝ่ายไหนก็ได้ ตามธรรมเนียมที่ปฏิบัติกันมาก็คนที่ได้เสียงเกินครึ่งของสภานั่นแหละ แต่ขออย่างหนึ่งคือ อยากให้รวมให้ได้เสียงถึง 300 ก็จะดีมาก เพราะจะได้รัฐบาลที่มีเสถียรภาพ และแก้ปัญหาประเทศได้ 

คุณพี่จอม : คุณหญิงคะ

คุณหญิง : บางพรรคเขาจะไปจับมือกับ พรรคเผด็จการหรือเปล่านะ มันก็เป็นการสืบทอดอำนาจเหมือนกันนะ เรื่องนี้มันไม่ใช่แค่ไม่เอา คุณ ปย อย่างเดียวนะ

พี่มาร์ค : ในเวทีอื่น มีคนพรรคของคุณหญิงบอกว่า ถ้าพรรคนั้นไม่สืบทอดอำนาจ ก็ร่วมได้เหมือนกันนิ คุณลุงที่นั่งอยู่ใกล้ ๆ ผมที่ไปนั่งคุยมาวันนั้นเหมือนกันเป็นพยานได้นะ 

คุณหญิง : ไม่ค่ะ 

คุณพี่จอม : เอาล่ะ คุณพี่มาร์คไม่ยกมือให้คุณหญิงแน่นอน และคุณหญิงก็ไม่ยกมือให้พี่มาร์คแน่นอน เพราะจะเสียฐานเสียง

พี่มาร์ค : มันไม่ใช่เรื่องฐานเสียง ถ้าผมกังวลเรื่องฐานเสียง ผมไม่ประกาศจุดยืนหรือ ผมทำให้มันคลุมเครือก็ได้ เพื่อรักษาฐานเสียง แต่นี่ผมทำนั่นทำนี่ ดังนั้นมันไม่ใช่ มันคือเรื่องของคำพูด คำพูดก่อนหาเสียงจะเป็นตัวผูกมัดเรา เราหาเสียงยังไงก็ต้องทำตามนั้น การที่ประชาชนเขาเลือกเรา เขาก็ต้องการให้เราเป็นนายก ไม่ใช่เลือกเราเพื่อให้ไปยกมือให้คนอื่น ถ้าเราบอกไม่เอาพรรคนี้ แต่พอเข้าสภาไป กลับไปยกมือให้ ถ้าทำอย่างนั้น ประชาชนก็หมดศรัทธานักการเมือง เกิดวิกฤตศรัทธา แล้วเราจะไปแก้ปัญหาของประเทศได้ยังไง

คุณพี่จอม : มันจะหมดเวลาแล้วค่ะ ๆ 

พี่ธนาธร : ยืนยันให้ปิด สวิตช์ สว. 

จบละครับ ถ้าไม่ถูกใจใครต้องขออภัย แต่ดีเบตนี้ทำให้เห็นถึงวาทะศิลป์ของเหล่านักการเมือง ถ้าพวกเขาฉลาดพอที่จะสามารถตอบคำถามยาก ๆ จากพิธีกร หรือการโยน จากผู้ร่วมดีเบตได้ ก็ถือว่าเขาฉลาดระดับหนึ่ง เพียงพอที่จะบริหารประเทศนี้ได้ครับ ไม่ว่าท่านจะเลือกอะไรก็ตาม ขอเชิญชวนทุกท่านไปเลือกตั้งนะครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่