เด็กวัยมัธยมต้นกับมารยาทในการชมภาพยนตร์ ?

กระทู้สนทนา
               สวัสดีชาวพันทิปทุกท่านค่ะ เนื่องด้วยวันนี้จขกท.มีโอกาสได้ไปชมภาพยนตร์เรื่องหนึ่งในช่วงบ่าย ซึ่งดันตรงกับวันที่เด็กๆวัยกำลังขึ้นมัธยมต้นและจขกท.คาดว่าเพิ่งเลิกจากพิธีปัจฉิมนิเทศของโรงเรียนได้นัดแนะกันมาชมภาพยนต์ต่อในชุดนักเรียน ส่งผลให้ผู้ชมส่วนใหญ่เป็นนักเรียน จขกท.ตัดสินใจจองบัตรตั้งแต่คืนก่อน และมาเช็คอีกทีพบว่าเริ่มมีคนจองเข้ามามากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อใกล้ถึงเวลาหนังฉายจขกท.เข้าไปเช็คอีกรอบจึงพบว่าที่หนังแถวด้านบนจากจขกท.มีการจองเต็มทั้งแถวทั้งที่เวลาผ่านไปเพียงไม่นาน แต่ก็คิดเพียงว่าคงจะมีคนสนใจหนังเรื่องนี้ไม่น้อยเลยทีเดียว 
               
              เมื่อเข้าโรงภาพยนตร์ไปสักพักโฆษณาเริ่มฉายก็เริ่มมีคนเข้ามามากขึ้นเรื่อยๆ และแน่นอนค่ะแถวบนของจขกท.ก็เข้ามาพร้อมกับเสียงคุยจ้อกแจ้กเช่นกัน เมื่อจขกท.เงยหน้าขึ้นไปมองพบว่าเด็กกลุ่มนี้น่าจะจองกันเองจนหมดแถว และเมื่อเด็กๆนั่งลงก็ยังคงคุยกันพร้อมกับโฆษณาที่ฉายไปเรื่อยๆ ในตอนนั้นจขกท.ก็คิดว่าเด็กๆคงคุยกันเพราะเบื่อที่จะชมโฆษณาและอยากจะชมภาพยนตร์ ...แต่จขกท.คิดผิดค่ะ หลังจากจอเริ่มเข้าสู่เนื้อเรื่อง เด็กๆยังคงคุยกันไม่หยุด และยังส่งเสียงอย่างสม่ำเสมอจนผู้ชมคนอื่นๆในแถวจขกท.เริ่มจะหันไปมองกันเป็นระยะๆ สถานการณ์นี้ดำเนินไปเรื่อยๆ ผู้ชมข้างๆจขกท.ก็แอบส่งสัญญาณว่าน้องๆควรเบาเสียงลงได้แล้ว แต่เด็กๆก็คงจะไม่รู้ตัว(หรือไม่สนใจก็ไม่ทราบได้)  

              หนังดำเนินเรื่องจนถึงจุดไคลแม็กซ์และจวนจะจบเต็มที มีผู้ชมบางคนรู้สึกตามจนแอบน้ำตาไหล และมีอารมณ์ร่วมไปกับตัวละคร แต่มีเด็กคนหนึ่งพูดคุยกับเพื่อนด้วยเสียงที่ดังจนได้ยินทั้งโรงพร้อมกับส่งเสียงหัวเราะที่ไม่เข้ากับสถานการณ์ของหนังในตอนนั้นเลย ซึ่งยังไม่จบแค่นี้ค่ะ ...พอเด็กคนนี้เงียบเสียงกลับมีเด็กอีกคนพูดขึ้นมาด้วยเสียงที่ดังพอให้ได้ยินกันทั่วในแถบนั้นว่า " ร้องไห้ทำไมกันอ่ะ ? " ตอนนั้นเพื่อนจขกท.ที่นั่งด้วยกันเริ่มทนไม่ไหวที่จะทนดูต่อไปแล้วค่ะ แต่โชคดีที่ภาพยนตร์จบลงก่อน 
  
               บอกเลยค่ะว่าเสียใจกับเหตุการณ์นี้มาก เราทุกคนเสียตังค์เพื่อมาชมภาพยนตร์ไม่ใช่หรือคะ ? หรือน้องๆเสียเงินมาเพื่อพากย์หนังให้เป็นตลกคาเฟ่(ที่คนอื่นไม่ตลกด้วย)กันแน่ ?
              
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่