[CR] รีวิว เที่ยวน่านหน้าร้อน ทริปโดนเท เลยเซไปคนเดียว เที่ยว2วัน1คืน

ก่อนอื่น ผมต้องขอออกตัวก่อนเลยครับว่า ไม่เคยเขียนรีวิวเที่ยวที่ไหนเลย smilewink
กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกที่ตั้งใจเขียน เพราะเป็นประสบการณ์ดีๆที่อยากมาแชร์ให้กับทุกท่านที่สนใจ อาจจะเขียนงงๆบ้าง ก็ต้องขออภัยด้วยนะครับ

----------------------------

หลายท่านอาจสงสัยว่าไปเที่ยวน่านในฤดูร้อน จะมีอะไรให้ดู หรือมีอะไรน่าสนใจ แต่ถ้าท่านได้ลองไป จะรู้ว่าจังหวัดเล็กๆเงียบๆ แห่งนี้ มีดีตลอดทั้งปี

ผมเคยมาน่านครั้งแรก เมื่อ 7 ปีที่แล้ว ตอนนั้นมาลงพื้นที่เก็บข้อมูลวิจัยที่ อ.เวียงสา เป็นการมาน่านครั้งแรกและประทับใจกับจังหวัดนี้เป็นอย่างมาก น่านเป็นเมืองเล็กๆกลางหุบเขา ผู้คนมีเสน่ห์ มีสถานที่ท่องเที่ยว วัฒนธรรม และสิ่งดีๆอีกหลายอย่าง มันบอกผมว่าต้องมาที่นี่อีกครั้งให้ได้ แต่ไม่เคยมีโอกาสได้มาอีกเลย

จนเมื่อเดือนก่อน มีพี่คนหนึ่งที่ผมรู้จักอยากจะไปเที่ยวน่าน เลยมาชวนผมไปเที่ยว ผมรีบตอบตกลงจะพาไปแบบไม่ลังเล และออกแบบทริปเที่ยว อาศัยประสบการณ์ว่าเคยไปมาแล้วครั้งนึง รวมทั้งนึกได้ว่ามีเพื่อนที่เรียน ป.ตรี ที่มหิดล บ้านอยู่อำเภอท่าวังผา จังหวัดน่าน ผมรีบปรึกษาเพื่อนคนนี้เพื่อขอข้อมูลแหล่งท่องเที่ยวมาวางแผนทริปนี้ และก็เป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการมาเที่ยวน่านในครั้งนี้

พอใกล้วันเดินทาง ให้เพื่อนที่น่านวางแผนทุกอย่างให้แล้ว แต่สุดท้ายพี่ที่จะไปด้วยเกิดไม่สบายกะทันหัน คิดในใจ เอาไงดี 5555+ แต่ไม่เป็นไร เพราะปกติผมก็เดินทางท่องเที่ยวคนเดียวอยู่แล้ว ผมชอบการไปเที่ยวคนเดียว อยากไปไหนก็ได้ไป เหนื่อยก็พัก ง่วงก็หลับ มีแรงก็ไปต่อ ก่อนหน้านี้ก็ไปเที่ยวนครพนม และเที่ยวเมืองเลย 3วัน2คืน ก็ไปคนเดียว แค่นี้ชิวๆไม่เป็นปัญหาอะไรเลยสำหรับผม เสียดายก็แต่คนที่อยากจะไปเที่ยวด้วย ไม่ได้เห็นเสน่ห์ความงามของเมืองน่านเหมือนที่ตั้งใจไว้ อิอิ

บางคนสงสัย อ้าววว แล้วใครถ่ายรูปให้ คำตอบคือ ผมใช้ขาตั้งกล้อง ต่อกับ App ของกล้อง Nikon ให้มือถือเป็นรีโมท จะถ่ายกี่ชอตกี่ท่าก็ได้ ไม่ก็ถ่ายใหม่ ถ้าถ่ายแล้วโอเคก็ย้ายไปจุดใหม่ จึงไม่แปลกที่จะเห็นรูปที่ผมหยิบจับมือถือเหมือนว่ากำลังเล่นมือถืออยู่ตลอดเวลา

ร่ายมาซะยาว เข้าเรื่องเลยดีกว่า 5555

...ในเมื่อทริปถูกออกแบบไว้แล้ว และใจก็อยากไปมากๆ การเดินทางของผมจึงเริ่มต้นขึ้น ผมนั่งรถทัวร์จากร้อยเอ็ด (บ้านผมอยู่ร้อยเอ็ด) ในตอนค่ำวันศุกร์ มาถึงหมอชิตรุ่งเช้าวันเสาร์ แล้วขึ้นเครื่องหางแดงรอบเช้าจากดอนเมืองไปลงที่สนามบินน่านนคร (เรื่องตั๋วเครื่องบิน ผมให้เพื่อนที่ทำงานที่สายการบินแห่งหนึ่ง หาตั๋วไป-กลับแบบถูกๆ และก็ได้ราคาถูกจนไม่น่าเชื่อ ต้องขอบคุณเพื่อนคนนี้มากๆ ครับ)

ผมมาถึงน่าน เกือบๆเก้าโมงเช้า บรรยากาศเมืองน่านในตอนนี้ ไม่แน่ใจว่าหมอกหรือควัน 5555
คิดในใจว่า เอาว่ะ ไหนๆก็มาถึงน่านแล้ว จะกลัวทำไมแค่ฝุ่นแค่นี้ 55555 บางทีฝุ่นหนาๆมันก็สวยไปอีกแบบ และมันอาจเป็นมนต์เสน่ห์ของเมืองเหนือในฤดูร้อนก็ได้ (พยายามคิดเข้าข้างตัวเอง) แล้วผมรีบไปรับรถเช่าที่ติดต่อไว้ก่อนหน้านี้ เพื่อไปยังจุดหมายแรกของทริปนี้

จุดหมายแรกที่ไป คือ........ ร้านขายยา

ใช่ครับ ผมไปซื้อหน้ากากอนามัย คือตั้งแต่เห็นฝุ่นหมอกที่สนามบิน ก็เป็นกังวลบ้าง เลยต้องไปหาซื้อมาปิดปากปิดจมูกให้อุ่นใจซักหน่อย แล้วผมก็เริ่มทริปวันแรกด้วยการตะลอนไหว้พระในเมืองน่าน เริ่มจากวัดภูมินทร์ อำเภอเมือง จังหวัดน่าน 


จิตรกรรมฝาผนัง “ปู่ม่าน ย่าม่าน กระซิบบันลือโลก”
ในวันเสาร์อาทิตย์ จะมีน้องๆนักเรียนเป็นไกด์พาเที่ยว และให้ความรู้แก่นักท่องเที่ยวที่มาเยือนวัดภูมินทร์

จุดหมายต่อไป คือวัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหาร อยู่เยื้องๆกับวัดภูมินทร์
ภายในวัดประดิษฐานเจดีย์ช้างค้ำ ซึ่งเป็นศิลปะสมัยสุโขทัย อายุประมาณพุทธศตวรรษที่ 20

จากนั้นก็ข้ามถนนมาฝั่งพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ น่าน ที่นี่มีซุ้มต้นลีลาวดี เป็นอีกหนึ่งอุโมงค์ต้นไม้ที่ไม่ควรพลาด

เล่นมือถือตลอดนะเรา ฮ่าๆๆ

ถ่ายรูปไปได้ซักพัก มองดูนาฬิกาเพิ่งจะสิบโมงเช้า ยังไม่ถึงเวลาที่จะเข้าเช็คอินที่โรงแรม ตัดสินใจขับรถเช่าขึ้นดอย แต่จะไปดอยไหนดี เพื่อนที่น่านบอกมีดีทุกดอย แต่ต้องเลือกว่าจะขึ้นดอยโซนเหนือ หรือดอยโซนใต้ สุดท้ายเลยเลือกดอยโซนเหนือ คือ ดอยภูคา อำเภอปัว เพราะอยากไปเห็นดอกชมพูภูคา

ถนนเส้นนี้ทางโค้งคดเคี้ยวพอสมควร ต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ
ขับประมาณชั่วโมงครึ่ง เราก็ถึงอุทยานฯ ผมตั้งกล้องถ่ายกับป้ายอุทยาน เผื่อคนอื่นเห็นรูปจะได้มั่นใจว่ามาถึงแล้ว 555

เส้นทางไปอุทยานแห่งชาติดอยภูคา ไปตามถนนหมายเลข 101 ผ่านอำเภอท่าวังผา อำเภอปัว ระยะทางประมาณ 86 ก.ม. ผ่านตัวอำเภอปัว จะทางลาดชันขึ้นดอย ต้องขับอย่างระมัดระวัง

อุทยานแห่งชาติดอยภูคา มีจุดสูงสุดคือยอดดอยภูคา 1,980 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง

ลานดูเดือน จุดกางเต๊นท์สำหรับนักท่องเที่ยว แต่ช่วงนี้หน้าร้อน เลยเหลือแค่เต๊นท์ของเจ้าหน้าที่อุทยาน

โซนนี้เป็นที่พักของอุทยานฯไว้บริการนักท่องเที่ยว ถ้าเป็นช่วงหน้าหนาวที่พักตรงนี้จะเต็มตลอด

นี่ไง ดอกชมพูภูคา ที่เราขับรถตามหามาทั้งวัน

จากนั้นแวะไปจุดชมวิว 1715 อยู่ห่างจากอุทยานฯ 8 ก.ม.
(1715 คือ ระดับความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง)

ขากลับมาตัวเมืองน่าน ใช้เส้นทางอำเภอบ่อเกลือ
แวะถ่ายรูปข้างทางซักหน่อย 

เมืองน่านเวลานี้ ตอนกลางคืนและตอนเช้าไม่ร้อนมาก พอสายๆเริ่มร้อน แต่ถ้าขึ้นดอยก็ไม่ค่อยร้อนเท่าไหร่

จากนั้นกลับมาเช็คอินที่พักที่จองไว้คือ “ศรีนวล ลอดจ์” ถนนหน่อคำ ใกล้ๆโรงเรียนสตรีศรีน่าน
หนึ่งในที่พักฮิตแบบเงียบๆ ของจังหวัดน่าน “ฮิตแบบเงียบๆ” เพราะรู้จักกันแบบปากต่อปาก จนทำให้มีผู้มาเยี่ยมเยือนอย่างไม่ขาดสาย


เช็คอินเสร็จ ไม่รีรอเพราะแสงอาทิตย์ใกล้จะหมด รีบขับรถขึ้นไปชมวิวเมืองน่าน บนวัดพระธาตุเขาน้อย อยู่ห่างจากที่พัก 4.5 ก.ม.

บริเวณลานชมทิวทัศน์ ประดิษฐานพระพุทธมหาอุดมมงคลนันทบุรีศรีน่าน
เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กยอดฮิตของชาวน่านและผู้มาเยือน

รอจนแสงอาทิตย์ใกล้จะลับขอบฟ้า แล้วมาต่อที่ถนนคนเดิน กาดข่วงเมืองน่าน ที่นี่มีของกินเพียบ

ใกล้ถนนคนเดิน จะเป็นวัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหาร ที่เราเห็นเมื่อเช้า
ตอนนี้ วัดนี้ในยามใกล้ค่ำก็จะสวยงามไปอีกแบบ

ซื้ออาหารเสร็จ ก็มานั่งทานข้าว ตรงจุดนี้จะมีดนตรีบรรเลงให้ฟัง ช่วงเสาร์อาทิตย์คนก็จะเยอะๆหน่อย

จากนั้นนึกขึ้นได้ว่า มาถึงน่านแต่ยังไม่ได้ไปชิม บัวลอยป้านิ่ม
ผมรีบเปิด Google Map นำทางไปที่ร้านขนมหวานป้านิ่ม อยู่แถวสนามกีฬาจังหวัดน่าน ไม่ใช่ร้านเดิมที่อยู่ข้างวัดศรีพันต้น

เมนูแนะนำ คือ บัวลอยไข่หวานไอศกรีม และรวมมิตรสลิ่มน้ำแข็ง

ว่ากันว่า มาถึงน่านต้องมาลองชิมบัวลอยป้านิ่ม ตามที่พี่ ศุ บุญเลี้ยง ร้องไว้ในเพลง “น่านนะสิ”

.... บัวลอยไข่หวาน ไม่ต้องเติมน้ำตาล ก็หวานจับใจ
ด้วยรอยยิ้ม ป้านิ่มสดใส ละไมละมุน...


---------------------------------------------------------
ตอนที่ 2 ปิ่นโตมื้อเช้า

เช้าวันใหม่ ที่ศรีนวล ลอดจ์ มีปิ่นโต 2 ชุด เป็นชุดอาหารภาคเหนือ และอาหารภาคกลาง

ชุดอาหารภาคเหนือ ประกอบด้วย น้ำพริกอ่อง แอ็บปลา ผักต้ม และข้าวเหนียว

ที่นี่เป็นทั้งที่พัก และร้านกาแฟ มีมุมให้นั่งชิลล์เยอะมาก หากใครชอบการถ่ายภาพมาพักที่นี่รับรองไม่ผิดหวังครับ

ทานข้าวอิ่ม นั่งย่อยซักพัก แล้วก็เดินทางต่อสักการะพระธาตุแช่แห้ง
(หนึ่งในสามสัญลักษณ์ที่โดดเด่นของจังหวัดน่าน ได้แก่ งาช้างดำ วิหารวัดภูมินทร์ และวัดพระธาตุแช่แห้ง)

ช่วงนี้ที่วัดพระธาตุแช่แห้ง จัดงาน 666 ปี พระมหาธาตุเจ้าภูเพียงแช่แห้ง ซึ่งเป็นพระธาตุประจำปีเถาะ

มีขบวนแห่สมโภชน์องค์พระธาตุฯ จากข่วงในเมือง ถึงบริเวณวัด ระยะทางกว่า 4 ก.ม.

แวะมากราบสักการะที่วัดศรีพันต้น วัดนี้สร้างโดยพญาพันต้น เจ้าผู้ครองนครน่าน แห่งราชวงศ์ภูคา 
พระอุโบสถแห่งนี้เป็นสีทองทั้งหลัง

รออีกแป๊ป จะมาต่อตอนที่ 3 ร้านกาแฟ ครับ  coffeesmile
ชื่อสินค้า:   ศรีนวล ลอดจ์ Srinual Lodge
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่