สวัสดีครับ เรื่องนี้ผมได้รับการบอกเล่าต่อมาอีกที ตั้งเเต่ปี 2550 ครับ เป็นเรื่องเกี่ยวกับ Taxi กะดึก
เรื่องมีอยู่ว่า Taxi ท่านนี้ ได้ขับรถหาผู้โดยสารในเวลากลางคืน โดยสุดท้ายได้เจอชาย 3 คนยืนโบกรถ Taxi อยู่ด้านหน้า จึงเปิดกระจกถาม
หนึ่งในชายสามคน จึงบอกว่าไปอำเภอแห่งหนึ่งในจังวัดสุพรรณบุรี
Taxi ตกลงไป แต่จะคิดราคาเหมา ชายทั้ง 3 คนไม่ติดขัด และตอบตกลง โดยมีเรื่องแปลกคือชายทั้ง 3 คนนั่งเบาะหลังทั้งหมด ไม่ยอมมานั่งข้าง Taxi ตอนนั้นเวลาประมาณ ตี 1
การเดินทางออกจากกรุงเทพไปสู่พื้นที่ใกล้จุดหมายนั้นใช้เวลาร่วมชั่วโมงครึ่ง
และจากการบอกทางของชายทั้ง 3 คนในที่สุดก็เริ่มเข้าใกล้ถึงจุดหมาย โดยออกจากถนนหลักที่มีไฟทั้งสองข้างทาง และมีรถสวนไปมาอย่างต่อเนื่อง มาสู่ถนน ที่ไม่มีแม้เเต่รถสวนออกมาเลยในเวลา เกือบ 20 นาที
และในที่สุดต้องออกจากถนนลาดยางที่ไม่มีไฟส่องสว่าง มาสู่ถนนดินลูกรัง ที่ไม่มีไฟส่องสว่างเข่นเดียวกัน สองข้างทางของถนนเส้นนี้ มีลักษณะเป็นทุ่งหญ้า และป่า Taxi จึงถามชายทั้งสามคนว่า “เข้าไปลึกไหม”
ระหว่างที่มองกระจกหลังไป รอฟังคำตอบจากชายทั้งสามอยู่พบว่า
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ชายทั้งสามคนได้อยู่ในท่าทางหวาดกลัว ลำตัวติดชิดกัน
หนึ่งในชายทั้งสามคนตอบว่า “ไม่ถึง 10 km“
หลังจากนั้นประมาณ 10 นาที Taxi ก็ได้เห็นหมู่บ้าน และมีเสาไฟส่องสว่างอยู่ โดยมีบ้านอยู่ประมาณ 20 หลังคาเรือน
ชายทั้ง 3 คนจึงบอกว่าให้จอด และชำระค่าโดยสารตามที่ตกลงกันไว้
เรื่องที่แปลกคือ 2 ใน 3 คนนั้นหลังจากที่จอดรถเสร็จก็เปิดประตูรถ วิ่งไปเข้าบ้าน อย่างกับกลัวอะไรบางสิ่ง ส่วนชายอีกคนที่กำลังจ่ายเงิน หลังจากจ่ายเงินเสร็จก็วิ่งตามไปเช่นกัน
Taxi ก็ไม่ติดใจอะไร คิดว่า อาจรีบวิ่งไปเข้าห้องน้ำก็เป็นไปได้ เพราะตลอดระยะทางไม่ได้จอดเเวะเข้าห้องน้ำที่ใดเลย
Taxi จึงขับรถมุ่งหน้ากลับกรุงเทพ ระหว่างที่กำลังจะออกจากถนนดินลูกรังนั้น หางตาได้เห็นเหมือนเป็นลักษณะคล้ายคนสวนทางกับรถไป จึงหันไปมองด้วยความแปลกใจ ว่าทำไมดึก และทางเปลี่ยวขนาดนี้จึงมีคนออกมาข้างนอก เเต่ก็ไม่เห็นใคร
สุดท้ายเขาได้เห็นบางอย่างที่ผิดปกติก็คือ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ประตูรถปิดไม่เเน่น! อาจเป็นเพราะชาย 3 คน รีบวิ่งเข้าบ้าน จึงทำให้ปิดไม่เเน่น Taxi ท่านนี้จึงออกจากรถอ้อมไปปิดประตูให้สนิท หลังจากที่กลับเข้ามาในรถ และกำลังเหยียบคันเร่งออกตัว จมูกของเขาได้กลิ่นแปลกๆ เป็นกลิ่นน้ำหอมกับกลิ่นสาบรวมกัน
เมื่อเลี้ยวเข้ามาสู่ทางลาดยางแล้ว จึงเปิดกระจกไล่กลิ่นออก แต่ก็ยังมีกลิ่นติดอยู่ จนกระทั่งกลับมาถึงบ้านที่กรุงเทพ
เดียวมาต่อครับ (ช่วงบ่าย)
“Taxi กับ เหตุการณ์สยองขวัญ”
เรื่องมีอยู่ว่า Taxi ท่านนี้ ได้ขับรถหาผู้โดยสารในเวลากลางคืน โดยสุดท้ายได้เจอชาย 3 คนยืนโบกรถ Taxi อยู่ด้านหน้า จึงเปิดกระจกถาม
หนึ่งในชายสามคน จึงบอกว่าไปอำเภอแห่งหนึ่งในจังวัดสุพรรณบุรี
Taxi ตกลงไป แต่จะคิดราคาเหมา ชายทั้ง 3 คนไม่ติดขัด และตอบตกลง โดยมีเรื่องแปลกคือชายทั้ง 3 คนนั่งเบาะหลังทั้งหมด ไม่ยอมมานั่งข้าง Taxi ตอนนั้นเวลาประมาณ ตี 1
การเดินทางออกจากกรุงเทพไปสู่พื้นที่ใกล้จุดหมายนั้นใช้เวลาร่วมชั่วโมงครึ่ง
และจากการบอกทางของชายทั้ง 3 คนในที่สุดก็เริ่มเข้าใกล้ถึงจุดหมาย โดยออกจากถนนหลักที่มีไฟทั้งสองข้างทาง และมีรถสวนไปมาอย่างต่อเนื่อง มาสู่ถนน ที่ไม่มีแม้เเต่รถสวนออกมาเลยในเวลา เกือบ 20 นาที
และในที่สุดต้องออกจากถนนลาดยางที่ไม่มีไฟส่องสว่าง มาสู่ถนนดินลูกรัง ที่ไม่มีไฟส่องสว่างเข่นเดียวกัน สองข้างทางของถนนเส้นนี้ มีลักษณะเป็นทุ่งหญ้า และป่า Taxi จึงถามชายทั้งสามคนว่า “เข้าไปลึกไหม”
ระหว่างที่มองกระจกหลังไป รอฟังคำตอบจากชายทั้งสามอยู่พบว่า
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
หนึ่งในชายทั้งสามคนตอบว่า “ไม่ถึง 10 km“
หลังจากนั้นประมาณ 10 นาที Taxi ก็ได้เห็นหมู่บ้าน และมีเสาไฟส่องสว่างอยู่ โดยมีบ้านอยู่ประมาณ 20 หลังคาเรือน
ชายทั้ง 3 คนจึงบอกว่าให้จอด และชำระค่าโดยสารตามที่ตกลงกันไว้
เรื่องที่แปลกคือ 2 ใน 3 คนนั้นหลังจากที่จอดรถเสร็จก็เปิดประตูรถ วิ่งไปเข้าบ้าน อย่างกับกลัวอะไรบางสิ่ง ส่วนชายอีกคนที่กำลังจ่ายเงิน หลังจากจ่ายเงินเสร็จก็วิ่งตามไปเช่นกัน
Taxi ก็ไม่ติดใจอะไร คิดว่า อาจรีบวิ่งไปเข้าห้องน้ำก็เป็นไปได้ เพราะตลอดระยะทางไม่ได้จอดเเวะเข้าห้องน้ำที่ใดเลย
Taxi จึงขับรถมุ่งหน้ากลับกรุงเทพ ระหว่างที่กำลังจะออกจากถนนดินลูกรังนั้น หางตาได้เห็นเหมือนเป็นลักษณะคล้ายคนสวนทางกับรถไป จึงหันไปมองด้วยความแปลกใจ ว่าทำไมดึก และทางเปลี่ยวขนาดนี้จึงมีคนออกมาข้างนอก เเต่ก็ไม่เห็นใคร
สุดท้ายเขาได้เห็นบางอย่างที่ผิดปกติก็คือ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ Taxi ท่านนี้จึงออกจากรถอ้อมไปปิดประตูให้สนิท หลังจากที่กลับเข้ามาในรถ และกำลังเหยียบคันเร่งออกตัว จมูกของเขาได้กลิ่นแปลกๆ เป็นกลิ่นน้ำหอมกับกลิ่นสาบรวมกัน
เมื่อเลี้ยวเข้ามาสู่ทางลาดยางแล้ว จึงเปิดกระจกไล่กลิ่นออก แต่ก็ยังมีกลิ่นติดอยู่ จนกระทั่งกลับมาถึงบ้านที่กรุงเทพ
เดียวมาต่อครับ (ช่วงบ่าย)