^_________^
ก่อนอื่น...ไม่รู้ว่าเพราะ บุญเก่า โชคช่วย แต้มบุญ หรืออะไรก็แล้วแต่ ซึ่งผมถือว่าเป็นการเดินทางที่คุ้มค่าที่สุดครั้งหนึ่งของผมกับแฟน
เพราะการไปเที่ยวครั้งนี้ ฟรีครับ ย้ำว่าฟรี ล่องใต้เที่ยวปลายด้ามขวานไทย ในวันธรรมดาน่าเที่ยว
กับกิจกรรม ลองรักปักษ์ใต้ เที่ยวสบายๆ วันธรรมดา (สตูล-สงขลา-ปัตตานี)
นี่....เป็นกระทู้แรกของการเขียนรีวิว นำเที่ยว
ผมขอฝาก ต. ต้น คือต้นไม้ ไว้ด้วย ถ้าผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี่ด้วยครับ
แต่ขอฝากกระทู้รีวิวนี้ไว้เป็นแนวทางด้วยนะครับ
มาถึงตรงนี้ พวกเราได้รับการสนับสนุนจาก Pantip.com ร่วมกับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และ สายการบินแอร์เอเชีย
ในการเที่ยวครั้งนี้ ซึ่งการเดินทางของเรา ได้เลือกไปเส้นทางที่ 2 หาดใหญ่-สตูล
โค ตะ ระ โชคดี ที่ทีมงานพันทิป โทรมาแจ้งว่าผมเป็นผู้โชคดี ได้ไปเที่ยวในครั้งนี้ ถือว่าได้ไป ฉลองวันเกิดครบ 26 ปี ของผมพอดี
(ขอบคุณสำหรับของขวัญวันเกิดชิ้นใหญ่นี้นะครับบบ)
- วันแรกของทริปล่องใต้ สงขลา สตูล
วันอาทิตย์ ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562
เรามีนัดกับสมาชิกท่านอื่น ที่ท่าอากาศยานดอนเมือง เวลา ตี 5
พอถึงสนามบิน ก็รีบไปลงทะเบียน รับเสื้อ ป้ายชื่อ และหมอนรองคอ จากทีมงานพันทิป เอาไว้นอนพักเวลาเดินทาง
ระยะเวลาที่เครื่องบินออกเดินทางไป สนามบินหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ด้วยสายการบินแอร์เอเชีย เที่ยวบินที่ FD 3102 เวลา 06.30 - 08.05 น.
(ผู้สนับสนุนในการเดินทางครั้งนี้ อิอิ)
โดยการเดินทาง ที่เพื่อนๆสามารถเลือการเดินทางได้ตามด้านล่างครับ
V V
- เดินทางโดยรถยนต์ จากกรุงเทพมหานคร ใช้ทางหลวงหมายเลข 35 (ธนบุรี - ปากท่อ) ระยะทางประมาณ 950 กิโลเมตร
- เดินทางด้วยรถโดยสารปร ะจำทาง บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) สายกรุงเทพ - สงขลา และ กรุงเทพ - หาดใหญ่ จากสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (สายใต้ใหม่) ถนนบรมราชชนนี ทุกวัน สอบถามข้อมูลโทร 1490 , 02-8946122
- เดินทางด้วยรถไฟ นั่งจากสถานีหัวลำโพง มีขบวนรถ กรุงเทพ - หาดใหญ่ ทุกวัน สอบถามข้อมูล โทร 1690 , 02-2204334 (4444)
- เดินทางด้วยเครื่องบิน
ออกจากท่าอากาศยานดอนเมือง สายการบินแอร์เอเชีย โทร 02-5159999 www.airasia .com
(แนะนำสายการบินแอร์เอเชียครับ บินสบายๆ แอร์สวย สบายใจตลอดการเดินทาง )
สายการบิน นกแอร์ โทร 1318
ออกจากท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ สายการบินไทย สมายล์ โทร 1181
เวลา 8:00 น. พวกเราเดินทางมาถึงสนามบินหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา
ก็เดินทางโดยรถตู้ ต่ออีกประมาณเกือบ 1 ชั่วโมง
>> จุดเชคอินที่ 1.ย่านเมืองเก่าสงขลา ^^
ระหว่างทางนอนหลับไปพล่างๆ เก็บแรงไว้เดินเที่ยว ถ่ายรูป และกิน
ถ้าหากเพื่อนๆคนไหนที่เดินทาง จากสนามบิน สามารถเช่ารถ หรือ เรียกแทคซี่มิตเตอร์ (ใช้เวลาเดินทางไปที่ย่านเมืองเก่า ประมาณ 45 นาที )
ซึ่งการเดินเที่ยวย่านเมืองเก่าสงขลา จะเต็มไปด้วยอาคาร สถาปัตยกรรมเก่าเก่าที่งดงาม สไตล์ ไทย จีน ยุโรป เหมาะสมกับการเป็นเมืองท่าการค้าสมัยเก่า ระหว่างทางยังมีภาพ STREET ART ที่สะท้อนวิถีชีวิต ของคนสงขลาในอดีต
ภาพ STREET ART บางส่วน สวยๆทั้งนั้น
ไหว้ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง จังหวัดสงขลากันครับ
ไอ ติม โอ่ง อันเลื่องชื่อ อร่อยมาก พิกัด อยู่เยื้องๆ กับศาลเจ้าพ่อหลักเมือง
แนะนำร้านนี้ อร่อยมาก สังเกตุร้านตามรูปเลยนะครับ โดยเดินตรงจากร้าน ไอ ติม โอ่ง ไปเรื่อยๆ
จะเป็นร้านแนว ชา กาแฟ โบราณ คนเยอะมากครับ อารมณ์ สภากาแฟ ผู้คนนั่งดื่มกาแฟพูดคุยกัน ตามประสา
ทีเด็ดคือ...หน้าร้าน มี ก๋วยเตี๋ยวหลอด และ ขนมจีบ ซาลาเปา (อร่อยสุด ถูกด้วยย นั่งกินที่ร้านได้เลย)
เราก็เดินชมภาพ วิถีชีวิต โดยรวม ของย่านเมืองเก่า กันสนุกเลย แต่แอบเสียดายที่พวกเรามีระยะเวลาการเที่ยวตรงนี้น้อยไปหน่อย เนื่องจากต้องเดินทางไปอีกหลายที่ เลยไม่สามารถรีวิวตรงส่วนนี้ได้ละเอียดมากนัก หากเพื่อนๆพี่ๆคนไหน อยากแนะนำ เชิญแนะนำได้เลยนะครับ
มีโอกาสจะมาอีกแน่นอน เลิฟๆ เมืองเก่า สงขลา
>> จุดเชคอินที่ 2.พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สงขลา
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สงขลา
เป็นแหล่งศึกษาโบราณคดี ประวัติศาสตร์ศิลปะ ชาติพันธุ์วิทยา ศิลปวัตถุของภาคใต้ตอนล่าง
สามารถเข้าชมได้ วันพุธ - วันอาทิตย์ เวลา 09.00 น. - 16.00 น. (ปิด วันจันทร์ - อังคาร และวันนักขัตฤกษ์) ค่าเข้า ชาวไทย 30 บาท ชาวต่างชาติ 150 บาท และเข้าฟรี สำหรับ พระภิกษุ สามเนตร นักเรียน นักศึกษาในเครื่องแบบ และผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป
ข้อมูล เบอร์โทร 074-3111728 www.finearts.go.th/songkhlamuseum
หลังจากที่รับฟังการบรรยาย โบราณคดี ประวัติศาสตร์ศิลปะ ชาติพันธุ์วิทยา ศิลปวัตถุของภาคใต้ตอนล่าง จากวิทยากร (คุณเมย์)
แล้วนั้นพวกเราเดินถัดไปไม่ไกลมากครับ ประมาน 300 เมตร น่าจะได้ ตรงจุดนี้เราจะถึง พิพิธภัณฑ์พธำมะรงค์
>> จุดเชคอินที่ 3.พิพิธภัณฑ์พธำมะรงค์
เป็นสถานที่ตั้งบ้านพักเดิมของรองอำมาตย์โทขุนวินิจทัฑกรรม (บึ้ง ติณสูลานนท์)
เป็นบิดา ของพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ อดีตนายกรัฐมนตรี คนที่ 16 และรัฐบุรุษ ของประเทศไทย ซึ่งเป็นชาวจังหวัดสงขลา ตัวบ้านเป็นสถาปัตยกรรมแบบเรือนไทย ไม้ยกพื้นชั้นเดียว หลังคาทรงปั้นหยา สองหลังคู่ มีชานเปิดโล่งเชื่อมถึงกัน ภายในจัดแสดงข้าวของเครื่องใช้ของครอบครัวติณสูลานนท์ ในอดีต ( ไม่เสียค่าเข้าชม )
และแล้วก็ถึงเวลา..อาหารมื้อเที่ยงที่เรารอคอย มื้อนี้ทางทีมงานพาพวกเรามาทานกันแถวถนนนางงาม
>> ที่ร้าน แต้
งอิ๊ว (Tae Hiang Aew)
ซึ่งร้านนี้เปิดมายาวนาน เนื่องจากร้านเปิดตั้งแต่ปี 2480 กว่า 82 ปี ถือว่าเป็นโชคดีของเราที่ได้มาทานอาหารร้านนี้
ใครจะมาต้องตรวจเช็ค เวลาการเปิด - ปิด ของร้านให้ดีๆ ก่อนนะครับ
โดยร้านจะ เปิด - ปิด 2 ช่วงเวลา คือ 11.30 น. - 14.00 น. และ 17.00 น. - 20.00 น. หากมาเป็นหมู่คณะให้โทรจองโต๊ะไว้ล่วงหน้า
เมนูที่พวกเราได้ทานกันวันนี้ เริ่มเรียงลำดับจากความชอบนะครับ
1. กุ้งผัดพริกขี้หนู 2. แกงส้มเนื้อท้องปลากระพง 3. ต้มยำแห้งปลากระพง 4.ยำมะม่วงเบา 5.ลูกชิ้นปลากราย 6.ยำหมู 7.คะน้าน้ำมันหอย 8.ไข่เจียว
บอกเลยใครที่แวะผ่านมาย่านเมืองเก่า ต้องมาลองครับ มันดีย์มากจริงๆ
ที่ร้าน แต้
งอิ๊ว (Tae Hiang Aew)
V V V V
อิ่มพุงโตกันแล้ว ไปต่ออีกที่ แลนด์มาร์คสำคัญของจังหวัดสงขลา
จุดเชคอินที่ 4. แหลมสมิหลา หาดสมิหลา
ตรงจุดนี้นักท่องเที่ยวสามารถไปมาได้สะดวก ทั้งรถส่วนตัวและรถโดยสาร เพราะตั้งอยู่ไม่ห่างไกลจากอำเภอหาดใหญ่ รอบๆจะมีร้านขายอาหารเครื่องดื่ม และของที่ระลึก สามารถซื้อของกินตามชายหาดไปนั่งทานรับลมทะเลได้ (ราคาไม่แพง แม่ค้าใจดีครับ) ใครมาสงขลา อย่าลืมถ่ายรูปกับนางเงือกทองกันด้วยนะครับ เดี๋ยวจะหาว่ามาไม่ถึง
แดดร้อน แต่มีลมพัดเย็นดี มองไปอีกที ผิวเริ่มเปลี่ยนสี
สำหรับนักท่องเที่ยวคนไหนที่อยาก ลองขี่น้องม้า เดินชมรอบๆหาด ที่นี่เค้ามีบริการด้วย ครับ
เดินเล่น หาของกิน ของฝากกันไปพล่างๆ เริ่มเหนื่อย ก็ถึงเวลาเก็บสัมภาระเข้าที่พักคืนแรกกันได้แล้วววว
นั่งรถตู้มุ่งหน้า โรงแรม เซนทารา หาดใหญ่ ^^
[SR] ทริปล่องใต้ สงขลา สตูล จุดเชคอินที่คุณควรรู้ !!!
ผมขอฝาก ต. ต้น คือต้นไม้ ไว้ด้วย ถ้าผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี่ด้วยครับ
แต่ขอฝากกระทู้รีวิวนี้ไว้เป็นแนวทางด้วยนะครับ
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้
ข้อมูลเพิ่มเติม