-เดือน พ.ค.2560 ตอนนั้น ผมอายุ 62 ปี ไปพบแพทย์เพื่อรับการรักษาโรคประจำตัว
คือ เบาหวาน และความดันสูง ที่ รพ.ศิริราช
-อ.หมอ มองหน้าผม แล้วบอกว่า ผมซีดมาก ขอเจาะเลือดเพื่อตรวจพิเศษ
พอผลออกมา อ.บอกว่า มีค่าโปรตีนที่ อ.อ่านยังไม่ชัดเจน ขอส่งต่อให้แผนกโลหิตวิทยา เพื่อตรวจให้ละเอียด
(ผมเอง มั่นใจว่า อ.ท่านทราบแล้วว่าเป็นอะไร เพียงแต่ว่า ให้ อ.หมอโรคเลือด คอนเฟิร์มผล และเป็นผู้บอกรายละเอียด)
-อ.หมอโรคเลือด ให้เจาะเลือดเพิ่ม และเจาะไขกระดูกจากเชิงกราน เพื่อตรวจสอบทางห้องปฏิบัติการ และให้คอยฟังผล
-มิ.ย.2560 อ.หมอโรคเลือด ได้โทรหาผมตอนเย็น เพื่อบอกผลการวินิจฉัย
ก่อนรับโทรศัพท์ ผมก็นึกในใจว่า มะเร็งแน่ๆ เพราะถ้าไม่หนักจริงๆ ท่านคงไม่โทรมาเอง
ก็เรียนถามท่านเลย อ.ก็บอกว่า ใช่ และนัดให้ผมมากับภรรยา เพื่อบอกรายละเอียด
-อ.หมอ บอกผมและภรรยาว่า ผมเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาว Multiple myeloma
บางทีอาจเรียกว่า มะเร็งไขกระดูก ซึ่งมีคนเป็นน้อยมาก ประมาณ สองคนในแสนคน
โรคนี้ในขณะนี้ ยังไม่มีวิธีรักษาให้หายขาด (Incurable) แต่บำบัดได้ (Treatable)
คือ ควบคุมให้โรคสงบ และให้การรักษาเป็นรอบๆ ไป
-วิธีหลักๆ คือ ให้คีโม จนโรคสงบ เก็บสเต็มเซลล์ของผู้ป่วยเอง แล้วปลูกถ่าย
-อ.บอกว่า การปลูกถ่ายในบ้านเรา กำหนดที่อายุ 65 ปี
ถ้าอายุเกินนั้น มักจะไม่ทำ เพราะต้องมีสุขภาพที่ดีพอสมควร ที่จะรับการปลูกถ่ายได้
-ผมโชคดีที่มีอาการเฉพาะทางเลือด คือ โลหิตจางมาก ไม่มีอาการปวดกระดูก
แม้โรคนี้กระดูกจะถูกสลาย แต่ของผมอาจสลายไม่มากขนาดทำให้ปวด
แต่ก็ต้องระวัง เพราะเหลือกระดูกเท่าไหร่ก็ไม่ทราบ
-ผมได้รับยาเดือนกรกฎาคม เป็นยาสูตร Velcade (Bortizomib) +
Cyclophosphamide + Dexamethasone ซึ่งเป็นสูตรพื้นฐาน
-ผมโชคดีที่โรคของผม รับต่อยาสูตรนี้ อาการค่อยๆ ดีขึ้น ผมรับยาทั้งหมด 4 เดือน
ตอนที่ซีดมากๆ ฮีมาโตคริต ผมเหลือแค่ 26% ปกติเพศชาย จะอยู่ที่ 40-45%
-ระหว่างรับยา ก็มีอาการข้างเคียงของยาคีโม ตามอัตภาพนะครับ (แต่ละคนอาจมีอาการต่างกันนะครับ)
-เท้าบวม เข่าบวม ผื่นคันขึ้นตามแขน (คันมาก) คลื่นไส้มวนท้อง นอนไม่หลับ แขนขาอ่อนแรง (เป็นช่วงๆ)
หายใจลำบาก (ตอนนอน ผมใช้เครื่อง Oxygen concentrator ครับ ช่วยได้เยอะมากครับ)
ปวดหลัง (เป็นไม่นานครับ) เดินได้สัก 50 เมตร ต้องพักหยุดหายใจ แล้วค่อยเดินต่อ
อันนี้เล่าคร่าวๆ หลังจากผ่านเหตุการณ์มาแล้ว ตอนเป็นก็เอาเรื่องอยู่นะครับ
-เมื่อรับการรักษาจนครบคอร์ส ได้ฮีมาโตคริต มา 39% ก็ถือว่า ใกล้เคียงปกติแล้ว
-ผมได้รับการเก็บสเต็มเซลล์เดือนพฤศจิกายน 2560
อ.หมอ บอกว่า ต้องรอห้องปลูกถ่ายประมาณ 1 ปี เพราะห้องปลอดเชื้อ-
ต้องใช้ร่วมกับคนไข้โรคเลือดทุกชนิดที่รักษาด้วยการปลูกถ่ายไขกระดูก
-โดยระหว่างนี้ ผมก็ได้รับยารักษาสภาพ เป็น Cyclophosphamide 11 เม็ด + เด็กซ่า 5 เม็ด ทุกสัปดาห์
ก็มีอาการข้างเคียงตามปกติครับ (เป็นประมาณ 2 วันต่อสัปดาห์ครับ)
-ผมได้รับแจ้งราวๆ เดือนกันยา 2561 ว่า ผมจะได้คิวปลูกถ่ายเดือนธันวาคม 2561
ให้เตรียมตัวทำฟัน ตรวจหัวใจ ตรวจปอด ให้เรียบร้อย
ซึ่งผมก็ได้รับความกรุณาจาก รพ.ปากเกร็ด และรพ.พระนั่งเกล้า จัดการจนเสร็จสิ้น
-ผมได้เข้าห้องปลอดเชื้อ วันที่ 17 ธันวาคม 2561 รับการปลูกถ่าย และพักฟื้น
โดยได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด จากทีมแพทย์และพยาบาล อย่างดียิ่ง
-ผมได้รับอนุญาตให้ออกจากห้องปลอดเชื้อ วันที่ 16 มกราคม 2562 กลับมาพักฟื้นต่อที่บ้าน
-ต้องระวังการติดเชื้อ ทำตามคำแนะนำของคุณพยาบาลอย่างเคร่งครัด เพราะสภาพร่างกายเปราะบางมาก
ภูมิคุ้มกันของร่างกายเกือบเป็นสูญ แค่โดนคนไอ หรือจามใส่ อาจต้องแอดมิตเลย
-เดือนแรก ผมยังเดินสะเงาะสะแงะ ต้องใช้ไม้เท้าช่วยพยุงตลอด ต้องระวังไม่ให้ล้มโดยเด็ดขาด
ประมาณเกือบสองเดือนค่อยเดินดีขึ้น ตอนนี้ก็ยังถือไม้เท้าช่วยประคองครับ
-ผมได้รับยา Thalidomide เป็น Maintenance therapy
-ผมได้รับความรู้เกี่ยวกับโรคนี้จากเว็บต่อไปนี้ครับ
https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=mixall&month=08-2011&date=28&group=2&gblog=1
https://www.chiangraifocus.com/forums/index.php?topic=288178.0
https://visitdrsant.blogspot.com/2011/08/multiple-myeloma.html
https://visitdrsant.blogspot.com/2017/10/multiple-myeloma.html
ใน คคห.1 ผมจะขอเล่าแผนภูมิการรักษาโรคนี้ (เล่าจากประสบการณ์ตัวเอง และความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ)
และข้อมูลที่อ่านจากเว็บ Multiple myeloma patients ซึ่งรับเฉพาะผู้ป่วย MM เข้าเป็นสมาชิก
มะเร็งเม็ดเลือดขาว Multiple myeloma - เล่าตั้งแต่ทราบผลการวินิจฉัย ถึงการรักษา
คือ เบาหวาน และความดันสูง ที่ รพ.ศิริราช
-อ.หมอ มองหน้าผม แล้วบอกว่า ผมซีดมาก ขอเจาะเลือดเพื่อตรวจพิเศษ
พอผลออกมา อ.บอกว่า มีค่าโปรตีนที่ อ.อ่านยังไม่ชัดเจน ขอส่งต่อให้แผนกโลหิตวิทยา เพื่อตรวจให้ละเอียด
(ผมเอง มั่นใจว่า อ.ท่านทราบแล้วว่าเป็นอะไร เพียงแต่ว่า ให้ อ.หมอโรคเลือด คอนเฟิร์มผล และเป็นผู้บอกรายละเอียด)
-อ.หมอโรคเลือด ให้เจาะเลือดเพิ่ม และเจาะไขกระดูกจากเชิงกราน เพื่อตรวจสอบทางห้องปฏิบัติการ และให้คอยฟังผล
-มิ.ย.2560 อ.หมอโรคเลือด ได้โทรหาผมตอนเย็น เพื่อบอกผลการวินิจฉัย
ก่อนรับโทรศัพท์ ผมก็นึกในใจว่า มะเร็งแน่ๆ เพราะถ้าไม่หนักจริงๆ ท่านคงไม่โทรมาเอง
ก็เรียนถามท่านเลย อ.ก็บอกว่า ใช่ และนัดให้ผมมากับภรรยา เพื่อบอกรายละเอียด
-อ.หมอ บอกผมและภรรยาว่า ผมเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาว Multiple myeloma
บางทีอาจเรียกว่า มะเร็งไขกระดูก ซึ่งมีคนเป็นน้อยมาก ประมาณ สองคนในแสนคน
โรคนี้ในขณะนี้ ยังไม่มีวิธีรักษาให้หายขาด (Incurable) แต่บำบัดได้ (Treatable)
คือ ควบคุมให้โรคสงบ และให้การรักษาเป็นรอบๆ ไป
-วิธีหลักๆ คือ ให้คีโม จนโรคสงบ เก็บสเต็มเซลล์ของผู้ป่วยเอง แล้วปลูกถ่าย
-อ.บอกว่า การปลูกถ่ายในบ้านเรา กำหนดที่อายุ 65 ปี
ถ้าอายุเกินนั้น มักจะไม่ทำ เพราะต้องมีสุขภาพที่ดีพอสมควร ที่จะรับการปลูกถ่ายได้
-ผมโชคดีที่มีอาการเฉพาะทางเลือด คือ โลหิตจางมาก ไม่มีอาการปวดกระดูก
แม้โรคนี้กระดูกจะถูกสลาย แต่ของผมอาจสลายไม่มากขนาดทำให้ปวด
แต่ก็ต้องระวัง เพราะเหลือกระดูกเท่าไหร่ก็ไม่ทราบ
-ผมได้รับยาเดือนกรกฎาคม เป็นยาสูตร Velcade (Bortizomib) +
Cyclophosphamide + Dexamethasone ซึ่งเป็นสูตรพื้นฐาน
-ผมโชคดีที่โรคของผม รับต่อยาสูตรนี้ อาการค่อยๆ ดีขึ้น ผมรับยาทั้งหมด 4 เดือน
ตอนที่ซีดมากๆ ฮีมาโตคริต ผมเหลือแค่ 26% ปกติเพศชาย จะอยู่ที่ 40-45%
-ระหว่างรับยา ก็มีอาการข้างเคียงของยาคีโม ตามอัตภาพนะครับ (แต่ละคนอาจมีอาการต่างกันนะครับ)
-เท้าบวม เข่าบวม ผื่นคันขึ้นตามแขน (คันมาก) คลื่นไส้มวนท้อง นอนไม่หลับ แขนขาอ่อนแรง (เป็นช่วงๆ)
หายใจลำบาก (ตอนนอน ผมใช้เครื่อง Oxygen concentrator ครับ ช่วยได้เยอะมากครับ)
ปวดหลัง (เป็นไม่นานครับ) เดินได้สัก 50 เมตร ต้องพักหยุดหายใจ แล้วค่อยเดินต่อ
อันนี้เล่าคร่าวๆ หลังจากผ่านเหตุการณ์มาแล้ว ตอนเป็นก็เอาเรื่องอยู่นะครับ
-เมื่อรับการรักษาจนครบคอร์ส ได้ฮีมาโตคริต มา 39% ก็ถือว่า ใกล้เคียงปกติแล้ว
-ผมได้รับการเก็บสเต็มเซลล์เดือนพฤศจิกายน 2560
อ.หมอ บอกว่า ต้องรอห้องปลูกถ่ายประมาณ 1 ปี เพราะห้องปลอดเชื้อ-
ต้องใช้ร่วมกับคนไข้โรคเลือดทุกชนิดที่รักษาด้วยการปลูกถ่ายไขกระดูก
-โดยระหว่างนี้ ผมก็ได้รับยารักษาสภาพ เป็น Cyclophosphamide 11 เม็ด + เด็กซ่า 5 เม็ด ทุกสัปดาห์
ก็มีอาการข้างเคียงตามปกติครับ (เป็นประมาณ 2 วันต่อสัปดาห์ครับ)
-ผมได้รับแจ้งราวๆ เดือนกันยา 2561 ว่า ผมจะได้คิวปลูกถ่ายเดือนธันวาคม 2561
ให้เตรียมตัวทำฟัน ตรวจหัวใจ ตรวจปอด ให้เรียบร้อย
ซึ่งผมก็ได้รับความกรุณาจาก รพ.ปากเกร็ด และรพ.พระนั่งเกล้า จัดการจนเสร็จสิ้น
-ผมได้เข้าห้องปลอดเชื้อ วันที่ 17 ธันวาคม 2561 รับการปลูกถ่าย และพักฟื้น
โดยได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด จากทีมแพทย์และพยาบาล อย่างดียิ่ง
-ผมได้รับอนุญาตให้ออกจากห้องปลอดเชื้อ วันที่ 16 มกราคม 2562 กลับมาพักฟื้นต่อที่บ้าน
-ต้องระวังการติดเชื้อ ทำตามคำแนะนำของคุณพยาบาลอย่างเคร่งครัด เพราะสภาพร่างกายเปราะบางมาก
ภูมิคุ้มกันของร่างกายเกือบเป็นสูญ แค่โดนคนไอ หรือจามใส่ อาจต้องแอดมิตเลย
-เดือนแรก ผมยังเดินสะเงาะสะแงะ ต้องใช้ไม้เท้าช่วยพยุงตลอด ต้องระวังไม่ให้ล้มโดยเด็ดขาด
ประมาณเกือบสองเดือนค่อยเดินดีขึ้น ตอนนี้ก็ยังถือไม้เท้าช่วยประคองครับ
-ผมได้รับยา Thalidomide เป็น Maintenance therapy
-ผมได้รับความรู้เกี่ยวกับโรคนี้จากเว็บต่อไปนี้ครับ
https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=mixall&month=08-2011&date=28&group=2&gblog=1
https://www.chiangraifocus.com/forums/index.php?topic=288178.0
https://visitdrsant.blogspot.com/2011/08/multiple-myeloma.html
https://visitdrsant.blogspot.com/2017/10/multiple-myeloma.html
ใน คคห.1 ผมจะขอเล่าแผนภูมิการรักษาโรคนี้ (เล่าจากประสบการณ์ตัวเอง และความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ)
และข้อมูลที่อ่านจากเว็บ Multiple myeloma patients ซึ่งรับเฉพาะผู้ป่วย MM เข้าเป็นสมาชิก