ใครที่กำลังมองหา Notebook ที่มีน้ำหนักเบา พกสะดวก แนะนำ ASUS ZenBook 13 เป็นโน๊ตบุ๊กที่ได้ชื่อว่ามีขนาดเล็กที่สุดในโลก บางเพียง 16.9 มม. จอขอบบาง NanoEdge display ทั้ง 4 ด้าน บางจนแทนจะเรียกว่าไร้ขอบ (ถ้าไม่ต้องใส่กล้อง WebCAM ใช้สแกนใบหน้า Windows Hello ขอบจอด้านบนน่าบางกว่านี้ได้อีก แสดงผลคมชัด Full HD 1920X1080
สังเกตขอบจอทั้ง 4 ด้าน (ขอบซ้าย - ขวา และบน - ล่าง ขอบบาง ทำให้ตัวเครื่องเล็ก)
เล็กกว่ากระดาษ A4 เทียบแล้ว กระดาษ A4 ยังใหญ่กว่า
ความพิเศษคือ ขนาดบางกว่ากระดาษ A4 เพราะขอบจอบาง ขนาดหน้าจอ 13.3” FHD display แต่เทียบกับกระดาษ A4 แล้วยังเล็กกว่า (สีขาวที่เหลือคือกระดาษ A4)
ถ่ายให้เห็นอีกมุม เห็นแม็กซ์เย็บกระดาษที่วงไว้ไหมครับ นั่นแหล่ะครับ เอาโน๊ตบุ๊กวางบนกระดาษ A4 ยังเล็กกว่า
Adaptor ชาร์จไฟขนาดเท่านี้ครับ เบาๆ พกง่าย
แบตเตอรี่ใช้ได้ร่วมๆ 4 - 5 ชั่วโมงนิดๆ ใช้ต่อเนื่อง
กระทู้นี้ ไม่ถือเป็นรีวิวนะครับ แต่ได้มาทดลองใช้แล้วก็เอามาบอกต่อ ดังนั้นผมไม่ได้มีพวก Benchmark อะไรมาโชว์ แต่หยิบมาใช้จริงเลยครับ อะไรเกะกะลูกหูลูกตาก็บอกตามตรง แต่โดยรวมประทับใจครับ
ASUS ZenBook 13 UX333 มีขาย 3 ขนาดหน้าจอคือ 13, 14 และ 15 นิ้ว โดยมีราคาตามสเปค ส่วนรุ่นที่ได้รับมาทดสอบคือรุ่น Intel® Core™ i7-8565U ราคา 35,990 บาท มาพร้อม Windows 10 และมี NumberPad บน TouchPad ให้ด้วย (กดปิดได้)
คุณสมบัติเด่น
- ขนาดเครื่องเล็กที่สุด เล็กกว่ากระดาษขนาด A4
- จอ NanoEdge ขอบบางไม่แพ้มือถือ
- 3D IR Camera สแกนใบหน้าปลดล็อกหน้าจอได้ไวมาก
- PCIe SSD เร็วกว่า SATA SSD 3 เท่า
- วัสดุ Military-Grade เกรดทหาร
- ทำงานเงียบมาก พัดลมเงียบมาก
สเปค [อ้างอิงจากรุ่นที่ได้มาทดสอบ]
• Royal Blue/ Icicle Silver
• 8th Gen Intel® Core™ i7-8565U processor
• Windows 10
• Nvidia® GeForce MX150
• RAM 8GB LPDDR3
• 512 PCIE SSD
• 13” FHD 4-side NanoEdge display
• 1.19kg น้ำหนักเบา และขนาดตัวเครื่องเล็กกว่า A4
• แบตเตอรี่ ใช้งานได้ยาวถึง 14 ชั่วโมง แต่ใช้จริงๆ (เขียนบทความบนเว็บไซต์ ใช้ได้ประมาณ 4 ชั่วโมงกว่าๆ)
• 2 years global warranty/ 1st year perfect warranty
* NumberPad มีเฉพาะรุ่น Intel® Core™ i7 เท่านั้น

การปลดล็อกหน้าจอ Face Unlock บน Windows 10 มี Windows Hello เป็น 3D IR Camera ให้เราลงทะเบียนปลดล็อกหน้าจอได้

สิ่งที่ผมชอบคือ น้ำหนักเบา 1.09 กิโล บวกน้ำหนัก อแดปเตอร์ชาร์จไฟ เม้าส์ ก็ยังถือว่าเบา ผู้หญิงก็พกใส่กระเป๋าถือได้สบาย ส่วนวัสดุ ใช้วัสดุที่เป็น US military-grade ที่ได้รับมาตรฐานทางทหาร ดังนั้น แม้จะออกแบบสวยงาม เราก็ไม่ต้องกังวลอะไร แต่ผมก็ใส่กระเป๋า BriefCase อยู่ตลอด

แล้วด้วยความที่รุ่นที่ได้ทดสอบคือ รุ่น Intel Core i7 มี NumberPad บน TouchPad มาให้ด้วย ส่วนตัวมองว่า ตอนพิมพ์งาน มือไปโดนบ่อย แต่ก็อำนวยความสะดวกคนที่ไม่ถนัดพิมพ์ตัวเลขบนแป้นพิมพ์แถว 2 พิมพ์ตัวเลขบน NumberPad บน TouchPad ก็สะดวกดี


อีกอย่างที่ผมตื่นเต้นคือ การ Left คือตอนเปิดจอ กางจอเนี่ย จะยกให้เครื่องเอียงลาดสูงขึ้น 3 องศา ทำให้เราพิมพ์สะดวกขึ้น


โดยปกติแล้วกางจอได้ 143 องศา

พอร์ตเชื่อมต่อ

ซ้าย - ไล่เรียง พอร์ตชาร์จไฟ, HDMI, USB 3.1, USB Type-C 3.1 Gen 2

ส่วนการกางจอสุด กางได้ 143 องศา ชอบตรงที่จอสะท้อนแสงแต่ก็แสดงผลสว่าง คมชัดดี
ด้านล่าง เป็นลำโพง มี 2 ข้างครับ เป็นลำโพง Harman / Kardon
เล่าหลังใช้งานครบ 7 วัน
พกไปทำงานที่ออฟฟิศ, นอกสถานที่ แบตอึดดี แป้นพิมพ์ พิมพ์สะดวกดี ปกติผมพิมพ์สัมผัสไม่ต้องมองแป้น พิมพ์ถนัดไม่กดผิดแป้นเลย วางปุ่มมาดีมากๆ ส่วน NumberPad ถ้าแตะไปโดนบ่อยก็กดปิดได้ หรือไม่ก็กด F6 ปิด TouchPad ไปเลยถ้าเราใช้เม้าส์
แต่ว่าติดนิดนึง ช่วงแรกๆ ไม่คุ้นกับตำแหน่งปุ่ม Delete เผลอไปกดโดนปุ่ม Power กลายเป็น Sleep เครื่องซะงั้น แต่ใช้ไปเรื่อยๆก็ชิน แบบพอจะกด Delete ขอจ้องๆ เล็งๆ ปุ่ม Delete ให้ดีก่อนกด
MicroSD Card Reader
สะดวกมากครับ ผมใช้ OSMO Pocket เอาไฟล์มาตัดต่อ ใส่ MicroSD จบเลย สะดวกมากๆ [ในภาพ เด้งการ์ดออกมาให้ดูชัดๆ เสียบเข้าไปโผล่มานิดเดียวครับ]
พฤติกรรมที่ผมใช้
ใช้ทำงานด้าน Social Media ใช้ Facebook บน Browser, เล่นเน็ต คุย LINE บน PC ตัดวีดีโอผ่าน Movie Studio 13 Platinum บน Stream คือใช้งานได้ดี ไม่ติดปัญหาอะไร ส่วนการปลดล็อกหน้าจอด้วยใบหน้า เดี๋ยวนี้เหมือนมือถือเลย เปิดจอปุ๊บ สแกนใบหน้าเรา ไม่ต้องใส่รหัสผ่าน สะดวกมากๆ
โดยรวม จากการใช้งาน ผมเองยังอยากได้เลย เพราะเน้นตัดต่อวีดีโอด้วย Steam (ซื้อมาแล้วนี่เนอะ) เรื่องงานเอกสาร สบาย ความบันเทิง สบาย อ่อ ลำโพงเป็น Harman/Kardon ด้วย ส่วนลำโพงอยู่ข้างใต้เครื่อง ส่วนแบตเตอรี่ ถือว่าใช้งานได้นานครับ แต่ใจจริงแอบอยากได้นานกว่านี้ แฮ่
ถือเป็นรุ่นที่เล็ก บาง เบา สำหรับ ASUS Zenbook 13 ที่สเปคครบครัน มี NumberPad สำหรับรุ่น i7 จอขอบบาง พอร์ตมีมาให้ครบ ลองใช้ USB Type-C ชาร์จไม่เข้า อันนี้ไม่แน่ใจว่าต้องใช้หัวชาร์จที่รองรับหรือเปล่า (ไม่มีให้ลอง)
ส่วนการต่อ Wi-Fi นั้นหายห่วง รองรับ Dual-band 802.11ac และ Bluetooth® 5.0 รวมความครบครันในราคาสามหมื่นหก ที่ผมมองว่า จ่ายแล้วจบ ถ้าซื้อจากร้านต่างๆ ได้ของแถม เม้าส์ แผ่นรองเม้าส์ น้ำยาทำความสะอาด ก็จบแล้วครับ ครบเครื่องพร้อมทำงานได้
เรื่องน้ำหนัก การพกพา สอบผ่าน การใช้งาน สอบผ่าน ตัดต่อวีดีโอ ก็รอเรนเดอร์นิดนึง ก็โอเค คือสเปคมันใช้ได้ยาวหลายปีเลยล่ะครับ ถ้างบคุณมี 4 หมื่น บอกเลยว่าซื้อเหอะ แต่สำหรับการ์ดจอ NVIDIA® GeForce® MX150 เนี่ยก็พอเล่นเกมได้อยู่ เอาเป็นว่าถ้าอยากได้โน๊ตบุ๊กบางเบาก็ยอมใช้ MX150 แหล่ะครับ
ถามว่า ข้อเสียมีไหม เรียกว่า แอบอยากได้ จอ 4K แต่จอกลับเป็น Full HD แต่ก็ถือว่าเพียงพอกับการใช้งานของเราครับ
ส่วน ASUS มีซอฟต์แวร์น่าสนใจ ลองไปดูที่ https://www.asus.com/Laptops/ASUS-ZenBook-13-UX333FN/ASUS-software-and-technology/
ตั้งแต่เขียนกระทู้ ตอน 14.50น. มาจนถึงตอนนี้ 18.10น. ที่จบกระทู้ แบตเตอรี่ก็ยังอยู่ เหลือ 38% ครับ
ZenBook 13 UX333FN ราคา 35,990 บาท ข้อมูลผลิตภัณฑ์ https://www.asus.com/Laptops/ASUS-ZenBook-13-UX333FN/
แนะนำ ASUS ZenBook 13 UX333 โน้ตบุ๊กขนาดเล็กกว่ากระดาษ A4 น้ำหนักเบา 35,900 บาท
ASUS ZenBook 13 UX333 มีขาย 3 ขนาดหน้าจอคือ 13, 14 และ 15 นิ้ว โดยมีราคาตามสเปค ส่วนรุ่นที่ได้รับมาทดสอบคือรุ่น Intel® Core™ i7-8565U ราคา 35,990 บาท มาพร้อม Windows 10 และมี NumberPad บน TouchPad ให้ด้วย (กดปิดได้)
คุณสมบัติเด่น
- จอ NanoEdge ขอบบางไม่แพ้มือถือ
- 3D IR Camera สแกนใบหน้าปลดล็อกหน้าจอได้ไวมาก
- PCIe SSD เร็วกว่า SATA SSD 3 เท่า
- วัสดุ Military-Grade เกรดทหาร
- ทำงานเงียบมาก พัดลมเงียบมาก
• Royal Blue/ Icicle Silver
• 8th Gen Intel® Core™ i7-8565U processor
• Windows 10
• Nvidia® GeForce MX150
• RAM 8GB LPDDR3
• 512 PCIE SSD
• 13” FHD 4-side NanoEdge display
• 1.19kg น้ำหนักเบา และขนาดตัวเครื่องเล็กกว่า A4
• แบตเตอรี่ ใช้งานได้ยาวถึง 14 ชั่วโมง แต่ใช้จริงๆ (เขียนบทความบนเว็บไซต์ ใช้ได้ประมาณ 4 ชั่วโมงกว่าๆ)
• 2 years global warranty/ 1st year perfect warranty
* NumberPad มีเฉพาะรุ่น Intel® Core™ i7 เท่านั้น
MicroSD Card Reader
ใช้ทำงานด้าน Social Media ใช้ Facebook บน Browser, เล่นเน็ต คุย LINE บน PC ตัดวีดีโอผ่าน Movie Studio 13 Platinum บน Stream คือใช้งานได้ดี ไม่ติดปัญหาอะไร ส่วนการปลดล็อกหน้าจอด้วยใบหน้า เดี๋ยวนี้เหมือนมือถือเลย เปิดจอปุ๊บ สแกนใบหน้าเรา ไม่ต้องใส่รหัสผ่าน สะดวกมากๆ
โดยรวม จากการใช้งาน ผมเองยังอยากได้เลย เพราะเน้นตัดต่อวีดีโอด้วย Steam (ซื้อมาแล้วนี่เนอะ) เรื่องงานเอกสาร สบาย ความบันเทิง สบาย อ่อ ลำโพงเป็น Harman/Kardon ด้วย ส่วนลำโพงอยู่ข้างใต้เครื่อง ส่วนแบตเตอรี่ ถือว่าใช้งานได้นานครับ แต่ใจจริงแอบอยากได้นานกว่านี้ แฮ่
ถือเป็นรุ่นที่เล็ก บาง เบา สำหรับ ASUS Zenbook 13 ที่สเปคครบครัน มี NumberPad สำหรับรุ่น i7 จอขอบบาง พอร์ตมีมาให้ครบ ลองใช้ USB Type-C ชาร์จไม่เข้า อันนี้ไม่แน่ใจว่าต้องใช้หัวชาร์จที่รองรับหรือเปล่า (ไม่มีให้ลอง)
ส่วนการต่อ Wi-Fi นั้นหายห่วง รองรับ Dual-band 802.11ac และ Bluetooth® 5.0 รวมความครบครันในราคาสามหมื่นหก ที่ผมมองว่า จ่ายแล้วจบ ถ้าซื้อจากร้านต่างๆ ได้ของแถม เม้าส์ แผ่นรองเม้าส์ น้ำยาทำความสะอาด ก็จบแล้วครับ ครบเครื่องพร้อมทำงานได้
เรื่องน้ำหนัก การพกพา สอบผ่าน การใช้งาน สอบผ่าน ตัดต่อวีดีโอ ก็รอเรนเดอร์นิดนึง ก็โอเค คือสเปคมันใช้ได้ยาวหลายปีเลยล่ะครับ ถ้างบคุณมี 4 หมื่น บอกเลยว่าซื้อเหอะ แต่สำหรับการ์ดจอ NVIDIA® GeForce® MX150 เนี่ยก็พอเล่นเกมได้อยู่ เอาเป็นว่าถ้าอยากได้โน๊ตบุ๊กบางเบาก็ยอมใช้ MX150 แหล่ะครับ
ถามว่า ข้อเสียมีไหม เรียกว่า แอบอยากได้ จอ 4K แต่จอกลับเป็น Full HD แต่ก็ถือว่าเพียงพอกับการใช้งานของเราครับ
ส่วน ASUS มีซอฟต์แวร์น่าสนใจ ลองไปดูที่ https://www.asus.com/Laptops/ASUS-ZenBook-13-UX333FN/ASUS-software-and-technology/
ตั้งแต่เขียนกระทู้ ตอน 14.50น. มาจนถึงตอนนี้ 18.10น. ที่จบกระทู้ แบตเตอรี่ก็ยังอยู่ เหลือ 38% ครับ
ZenBook 13 UX333FN ราคา 35,990 บาท ข้อมูลผลิตภัณฑ์ https://www.asus.com/Laptops/ASUS-ZenBook-13-UX333FN/