อย่าพึงด่ากันนะครับอ่านให้จบก่อนแล้วค่อยด่าครับ
การขึ้นเงินค่าแรงขึ้นตํ่าของทุกะรรคที่ประกาศมาว่า 400-500 บาท ปตรีจบใหม่20000
ในปัจจุบันยังทำไม่ใด้ครับเพราะจะมีผลกระทบตามมาหลายอย่างมากเช่นบริษัทขายปุ๋ยขึ้นเงินค่าแรงต่อคนเอาแค่20 บาทเดือนนึง600 โรงงานมี 100 คน เป็นเงิน60000 บาทต่อเดือน
โรงงานจะมีภาระเพิมขึ้นอีก60000บาทมองดูแล้วอาจจะบอกว่าน้อย
แต่ในสถานะการปัจจุบันเศรษฐกิจแย่มากบริษัทต่างๆต้องปรับตัวเพื่อให้อยู่รอดยังต้องมาแบกรับภาระที่เพิ่มขึ้นอีกเกือบ100000ต่อปี ถามว่าเจ้าของกิจจการเดือดร้อนมั้ย
ผมตอบแทนให้เลยครับว่าไม่เพราะคนที่จะใด้รับผลกระทบและเดือดร้อนจริงๆคือพวกคุณเพราะว่าเจ้าของกิจการเขาก็จะหาเรื่องไล่คนออกใด้ง่ายขึ้นไปอีกสู้เอาเงินไปหาซื้อเครื่องจักรรุ่นใหม่ที่ทันสมัยมาทำแทนไม่ดีกว่าเหรอครับไม่ต้องเสียค่า โอที ไม่ต้องเสียค่าประกันสังคม ไม่ต้องกลัวว่างานจะผิดพลาด ประหยัดไปได้เยอะ แล้วก็หาข้ออ้างขึ้นราคาสินค้า เดิมขายกระสอบ100 ก็ขึ้นเป็น 150-200 โดยอ้างว่าต้นทุนสูงขึ้น
ชาวนาซื้อไปใช้ต้นทุนข้าวที่จะขายก็ต้องสูงขึ้นเวลาขายต้องขายแพงขึ้นแต่ก็ใด้เงินเท่าเดิมพ่อค้าที่ซื้อต่อเพื่อเอาไปขายก็ต้องขายแพงขึ้น บวกราคากันเป็นทอดๆไป
พอมาถึงมือร้านขายอาหารตามสั่ง จากจานละ40ก็ต้องขาย50-60 ต่อจาน ราคาแพงขึ้นแต่ใด้ข้าวเท่าเดิมแม่ค้าใด้กำไรเท่าเดิม
ลองคิดกันเล่นๆนะครับ
เงิ่นเดือน15000บวกเงินที่เพิมให้จากนโยบาย600 เป็น15600
กินข้าวสามจานต่อวันไม่รวมอย่างอื่น
ราคาเดิม35*30=1050 ต่อเดือน
ราคาใหม่50*30=1500 ต่อเดือน
ลองคิดกันดูครับว่าคุ้มไหม
ยังไม่รวมนโยบายอื่นนะครับ
นโยบายข้อนี้ถ้าจะแก้ไขกันจริงจังต้องเริ่มจากฐานรากครับคือชาวไร่ชาวนาและคนต่างจังหวัดครับเพราะบุคคลเหล่านี้คือพื้นฐานจริงๆของประเทศถ้าพวกเขามีความเป็นอยู่ที่ดีพูดถึงสภาพโดยรวมนะครับเศรษฐกิจของประเทศทุกอย่างจะดีขึ้นตามมาเองครับ
ต้องขออภัยด้วยครับถ้าพูดถูกใจใครหรือไม่ถูกใจใคร ถ้าท่านใดอยากรู้ผลดีผลเสียของนโยบายไหนถามมาใด้เลยครับผมบอกใด้หมดทุกนโยบาย ทิ้งท้ายครับเอาคนที่ไม่ใด้รู้เรื่องเศรษฐกิจโลกและการค้าระหว่างประเทศมาเป็น ส.ส ทั้งแบบสมัครและบัญชีรายชื่อมาบริหารก็คิดกันเอาเองครับว่าประเทศจะเป็นอย่างไรขอจบแค่นี้ก่อนครับถ้ามีคนที่อยากให้ผมเขียนต่อถึงนโยบายอื่นๆผมก็จะมาเขียนต่อครับ
ปล ผมพิมไม่ค่อยเก่งอาจจะตอบช้าขอโทษด้วยครับ
ไม่ว่าพรรคไหนเป็นเศรษฐกิจก็ไม่ฟื้นครับ
การขึ้นเงินค่าแรงขึ้นตํ่าของทุกะรรคที่ประกาศมาว่า 400-500 บาท ปตรีจบใหม่20000
ในปัจจุบันยังทำไม่ใด้ครับเพราะจะมีผลกระทบตามมาหลายอย่างมากเช่นบริษัทขายปุ๋ยขึ้นเงินค่าแรงต่อคนเอาแค่20 บาทเดือนนึง600 โรงงานมี 100 คน เป็นเงิน60000 บาทต่อเดือน
โรงงานจะมีภาระเพิมขึ้นอีก60000บาทมองดูแล้วอาจจะบอกว่าน้อย
แต่ในสถานะการปัจจุบันเศรษฐกิจแย่มากบริษัทต่างๆต้องปรับตัวเพื่อให้อยู่รอดยังต้องมาแบกรับภาระที่เพิ่มขึ้นอีกเกือบ100000ต่อปี ถามว่าเจ้าของกิจจการเดือดร้อนมั้ย
ผมตอบแทนให้เลยครับว่าไม่เพราะคนที่จะใด้รับผลกระทบและเดือดร้อนจริงๆคือพวกคุณเพราะว่าเจ้าของกิจการเขาก็จะหาเรื่องไล่คนออกใด้ง่ายขึ้นไปอีกสู้เอาเงินไปหาซื้อเครื่องจักรรุ่นใหม่ที่ทันสมัยมาทำแทนไม่ดีกว่าเหรอครับไม่ต้องเสียค่า โอที ไม่ต้องเสียค่าประกันสังคม ไม่ต้องกลัวว่างานจะผิดพลาด ประหยัดไปได้เยอะ แล้วก็หาข้ออ้างขึ้นราคาสินค้า เดิมขายกระสอบ100 ก็ขึ้นเป็น 150-200 โดยอ้างว่าต้นทุนสูงขึ้น
ชาวนาซื้อไปใช้ต้นทุนข้าวที่จะขายก็ต้องสูงขึ้นเวลาขายต้องขายแพงขึ้นแต่ก็ใด้เงินเท่าเดิมพ่อค้าที่ซื้อต่อเพื่อเอาไปขายก็ต้องขายแพงขึ้น บวกราคากันเป็นทอดๆไป
พอมาถึงมือร้านขายอาหารตามสั่ง จากจานละ40ก็ต้องขาย50-60 ต่อจาน ราคาแพงขึ้นแต่ใด้ข้าวเท่าเดิมแม่ค้าใด้กำไรเท่าเดิม
ลองคิดกันเล่นๆนะครับ
เงิ่นเดือน15000บวกเงินที่เพิมให้จากนโยบาย600 เป็น15600
กินข้าวสามจานต่อวันไม่รวมอย่างอื่น
ราคาเดิม35*30=1050 ต่อเดือน
ราคาใหม่50*30=1500 ต่อเดือน
ลองคิดกันดูครับว่าคุ้มไหม
ยังไม่รวมนโยบายอื่นนะครับ
นโยบายข้อนี้ถ้าจะแก้ไขกันจริงจังต้องเริ่มจากฐานรากครับคือชาวไร่ชาวนาและคนต่างจังหวัดครับเพราะบุคคลเหล่านี้คือพื้นฐานจริงๆของประเทศถ้าพวกเขามีความเป็นอยู่ที่ดีพูดถึงสภาพโดยรวมนะครับเศรษฐกิจของประเทศทุกอย่างจะดีขึ้นตามมาเองครับ
ต้องขออภัยด้วยครับถ้าพูดถูกใจใครหรือไม่ถูกใจใคร ถ้าท่านใดอยากรู้ผลดีผลเสียของนโยบายไหนถามมาใด้เลยครับผมบอกใด้หมดทุกนโยบาย ทิ้งท้ายครับเอาคนที่ไม่ใด้รู้เรื่องเศรษฐกิจโลกและการค้าระหว่างประเทศมาเป็น ส.ส ทั้งแบบสมัครและบัญชีรายชื่อมาบริหารก็คิดกันเอาเองครับว่าประเทศจะเป็นอย่างไรขอจบแค่นี้ก่อนครับถ้ามีคนที่อยากให้ผมเขียนต่อถึงนโยบายอื่นๆผมก็จะมาเขียนต่อครับ
ปล ผมพิมไม่ค่อยเก่งอาจจะตอบช้าขอโทษด้วยครับ