หย่ากับภรรยา จะเดินหน้าต่อหรือหยุดแค่นี้…

ผมแต่งงานมา16ปีแล้วครับ ครอบครัวดูปกติดี มีบ้านในเมือง ซื้อรถดีๆให้ภรรยาใช้ มีน้องหมาน่ารักน่าชัง พาไปเที่ยวต่างประเทศกันเป็นประจำ สนิทกับครอบครัวของภรรยาเป็นอย่างดี เพียงแต่ว่า มีความลับที่ผมไม่ได้บอกใคร ไม่ว่าเพื่อนสนิทหรือญาติคนไหน ก็ไม่มีใครทราบ ผมคงได้พูดที่นี่เป็นที่แรก และคงไม่พูดถึงมันอีก

ผมกับภรรยาไม่เคยมีอะไรกันเลยแม้แต่ครั้งเดียว…

ก่อนแต่งงาน เรามีกุ๊กกิ๊กกันบ้างตามประสาหนุ่มสาว แต่เราก็หยุดเอาไว้ เพื่อรอให้แต่งงานก่อน คบกันได้ 4-5 ปีก็ตัดสินใจแต่งงาน หลังแต่งงานผมก็พยายามจะมีอะไรกันอยู่หลายครั้ง แต่ทุกครั้งก็โดนปัดป้องเหมือนว่ารังเกียจ หลังๆนี่แค่จะกอดก็ต้องมีเสียงห้าม ไปหาหมอที่ดังๆหลายครั้ง แต่ก็ไม่เป็นผล แต่เรื่องนี้ก็ช่างเถอะ มันยังไม่ใช่ประเด็นสำคัญ

เรื่องมันมีอยู่ว่า ภรรยาผมไปทำงานต่างจังหวัดได้ 3 ปี ผมก็เริ่มเสียคนตอนแก่ ผมรู้จักกับผู้หญิงคนนึง อายุน้อยกว่าผม 14-15 ปีได้ หน้าที่การงานดีมาก เรามีความสัมพันธ์กันอยู่ประมาณปีกว่าๆ เค้าก็เริ่มถามผมว่า จะให้เค้าเป็นเมียน้อยเหรอ จะแนะนำกับครอบครัวเค้ายังไง เค้ามีครอบครัวนะ ไม่ใช่ตัวคนเดียว และเริ่มส่งรูปเด็กมาให้ดู ว่าจะเอาแบบนี้ และสุดท้ายเค้าบอกให้ผมหย่า…

ผมรู้ว่าการมีชู้มันผิด คนเป็นชู้ก็จะดูไม่ดี และมีโอกาสถูกฟ้องร้องได้ ซึ่งครอบครัวภรรยาผมก็ไม่ใช่ไก่กาที่ไหน ซึ่งผมก็บอกกับน้องเค้าว่า ถ้าจะจริงจัง เราควรเลิกกันเสียก่อน แล้วซักพักผมจะไปจัดการหย่าให้เรียบร้อย จะได้ไม่ข้อครหา เราจะได้คบกันอย่างเปิดเผย และอาจจะดูไม่แย่ไปนัก ว่าน้องเค้ามาแย่งสามีใคร ซึ่งตอนแรกเหมือนเธอเข้าใจ ประมาณเดือนกันยายนปีที่แล้วผมเลยเริ่มห่างกับเธอ ไม่ไปไหนด้วยกันอีก คุยกันทางไลน์เท่านั้น

ผมเริ่มซื้อบ้านใหม่ ติดกับบ้านญาติของภรรยาผม ตามแผนที่วางไว้คือ เมื่อเลิกกันแล้ว ภรรยาผมยังอยู่ได้อย่างปลอดภัยและไม่เหงาอยู่กับกลุ่มญาติๆ ซึ่งหมู่บ้านหรูที่ญาติเธออยู่ ทำให้ผมต้องเป็นหนี้ก้อนโต
Facepalm

แต่ผมกับน้องเค้า พอเริ่มห่าง นานๆจะไปทานข้าวกันทีนึง ก็เริ่มมีปัญหา เราทะเลาะกันหลายครั้ง เพราะผมไม่อาจให้กำหนดการได้ เนื่องด้วยธุรกิจผมเริ่มไม่ค่อยดี ไม่มียอดมาหลายเดือนทำให้การจ่ายเงินค่าบ้านล่าช้า เลยบอกไม่ได้ว่าเรื่องทั้งหมดจะจบเมื่อไหร่ บางครั้งทะเลาะกันรุนแรงเหมือนว่าจะเกลียดกัน ซึ่งหนึ่งในเรื่องที่ทำให้มันแย่ลง ผมคิดว่าอาจจะมาจากการที่น้องเค้าเอาเรื่องของเราไปปรึกษาเจ้านายเค้าซึ่งเป็นชาวต่างชาติและรู้จักกับผมมานาน เจ้านายเค้าก็บอกว่าผมไม่เลิกกับภรรยาหรอก เพราะผมจะเดือดร้อนเรื่องเงินถ้าเลิกกับภรรยา(เฮ้ออออออ.....เห็นตูเป็นแมงดาเหรอนี่ ทั้งบ้านสองหลัง รถยุโรปอีกหลายคันก็เงินตูทั้งนั้น) ผมจึงคิดว่าต้องจบเรื่องของผมกับน้องเค้าอย่างเด็ดขาด ก่อนเราจะเกลียดกันจริงๆ

วันนั้นผมจำได้ดี 18 พฤศจิกายน ปีที่แล้ว ทั้งความเครียดเรื่องธุรกิจ ทั้งแรงกดดันจากน้องเค้า ผมจึงพยายามทำทุกอย่างให้เค้าตัดใจ ไม่ว่าจะบอกว่าเลิกไปเหอะ ไม่รักแล้ว ไม่ว่าจะบอกว่าเครียด กดดัน(อันนี้เรื่องจริง) ไม่ว่าจะแกล้งขับรถพุ่งไปจอดใกล้ๆรถเค้า เหมือนจะชน น้องเค้าบอกจะเลิกก็ได้ แต่ขอคุยกับภรรยาผมก่อน ผมก็ให้คุย แล้วหลังจากนั้นเราก็ไม่ติดต่อกันอีก

พอตัดการติดต่อกับน้องเค้าได้ ผมก็เดินตามแผนการเดิม เริ่มจากพาภรรยาไปเที่ยวต่างประเทศ ทำให้เหมือนปกติ ผมพยายามแก้ปัญหาเรื่องงานจนพอรอดได้บ้าง ทำตามสัญญากับกิ๊กเก่า(มากกก)ที่ไม่ได้มีอะไรมานานแล้ว ว่าจะพาไปเที่ยวต่างประเทศ ทำทุกอย่างจนไม่ติดค้างอะไรอีก พยายามขายทรัพย์สินที่มีมาแก้ปัญหาบริษัท ก็ทุเลาไปได้ส่วนนึงยกเว้นเรื่องค่าบ้านที่ยังจ่ายไม่ครบ 555

พอต้นเดือนกุมภาพันธ์ ผมก็ขอภรรยาหย่า ซึ่งเธอก็หย่าให้แต่โดยดี ซึ่งเราได้หย่ากันเรียบร้อย แต่ตอนนี้ยังอยู่บ้านเดียวกัน เพราะบ้านใหม่ยังตบแต่งไม่เสร็จ 

มาพีคตอนนี้ครับ ผมก็คิดจะทักไปบอกน้องเค้า ว่าหย่าเรียบร้อย แต่พอไปส่องเฟสเค้า ปรากฎว่าพึ่งฉลองครบรอบสองเดือนกับแฟนใหม่…

ผมไปต่อไม่ถูกมาเป็นเดือนแล้วครับ

จะไปบอกเค้า แฟนเค้าก็ดูรวย ทายาทกิจการเก่าแก่ แถมรุ่นราวคราวเดียวกับเค้า และน้องเค้าก็ขึ้นสเตตัส ”รักแฟนมาก” หรือ ”มีความสุขมาก” ตลอดเวลา ทำให้ผมไม่กล้าที่จะไปรบกวนความสุขของเค้า…

ถ้าไม่บอก มันก็อึดอัดใจ เหมือนที่ผมเคยพูดไว้ ผมต้องรักษาคำพูด ถ้าเค้าไม่รู้ เดี๋ยวคิดว่าผมไม่ทำและเป็นแมงดาเกาะเมียกินเหมือนที่เจ้านายเค้าบอก

เฮ้อ… ถ้าเป็นทุกท่าน จะจัดการกับความรู้สึกแบบนี้ยังไงครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่