JJNY : 4in1 ชัชชาติย้ำนโยบายไม่เน้นใช้เงิน/หญิงหน่อยหาเสียง/ร้องศาลเปิดเผยรายชื่อว่าที่ ส.ว. /พีเน็ตเกาะติดลต.ล่วงหน้า

'ชัชชาติ'ย้ำนโยบายเพื่อไทยไม่เน้นใช้เงิน
https://www.dailynews.co.th/politics/698664

เมื่อวันที่ 15 มี.ค. นายชัชชาติ สิทธิ์พันธุ์ แคนดิเดตนายกฯของพรรคเพื่อไทย (พท.) ลงพื้นที่เขตพระนคร ช่วย น.ส.ลีลาวดี วัชโรบล ผู้สมัครส.ส. กทม. เขต 1 พรรคเพื่อไทยหาเสียงที่ตลาดรวมยาง โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคักพ่อค้า แม่ค้า และประชาชนที่มาเดินจับจ่ายซื้อของที่ตลาดต่างตื่นเต้นเข้ามาทักทาย และขอเข้ามาถ่ายภาพคู่กับนายชัชชาติจำนวนมาก บางคนนำดอกไม้มามอบให้ และสวมกอดกับนายชัชชาติด้วย

โดยนายชัชชาติ ให้สัมภาษณ์ว่า การลงพื้นที่วันนี้ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี แต่มี 2 เรื่องที่ต้องฝากคือ

1.พ่อค้า แม่ค้าหลายท่านยังไม่เข้าใจถึงการเลือกตั้งครั้งนี้ว่าจะลงคะแนนให้พรรค หรือผู้สมัครอย่างไร จึงอยากให้กกต.ทำงานให้หนักมากขึ้น เพื่อชี้แจงวิธีการกาบัตรเลือกตั้ง รวมถึงวิธีการคำนวนคะแนนปาร์ตี้ลิสต์ที่ต้องให้มีความชัดเจนมากขึ้น มีตัวอย่างประกอบ เพราะเมื่อหลายคนไม่เข้าใจจะมีผลต่อการเลือกตั้ง

และ 2.ปัญหาปากท้อง กำลังซื้อที่ลดลง รวมถึงปัญหายาเสพติดที่มีการระบาดมากในพื้นที่กรุงเทพฯ ซึ่งตนมองว่าเป็นเรื่องสำคัญ โดยไม่ต้องรอหลังเลือกตั้งก็สามารถทำได้ และต้องรีบดำเนินการ

เมื่อถามถึงนโยบายโค้งสุดท้ายของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ที่ตั้งเป้าขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็น 425 บาท และเงินเดือนของเด็กจบใหม่วุฒิปริญญาตรี เป็น 20,000 บาท นายชัชชาติ กล่าวว่า เรื่องนี้พรรคเพื่อไทยกำหนดเป็นเป้าหมายไว้ ซึ่งค่าแรงขั้นต่ำในอนาคตต้องมีการปรับขึ้น เพราะที่ผ่านมาปรับขึ้นไม่มาก ต้องรอให้เศรษฐกิจเข้มแข็งขึ้นก่อนจึงจะปรังค่าแรงขั้นต่ำขึ้นได้ หัวใจหลักของรัฐบาลตอนนี้ ไม่ใช่ขึ้นทันที แต่ต้องทำให้เศรษฐกิจดีขึ้นก่อน เพราะจะทำให้ค่าแรงขึ้นตามไปด้วยได้ ทั้งนี้ การขึ้นค่าแรงมี 2 มิติ คือ ทำให้ประชาชนได้เงินเยอะขึ้น ขณะเดียวกันก็เป็นการผลักคนออกจากระบบ มีการจ้างงานน้อยลง ดังนั้น นโยบายของพรรคเรามีเป้าหมายเพิ่มค่าแรงถึง 400 บาท แต่ต้องขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไปตามสภาดเศรษฐกิจ

เมื่อถามว่า เป็นการแข่งขันกันโดยการนำเอาตัวเลขมาใช้ในการหาเสียง เปรียบเหมือนการใช้นโยบายเดิมๆในลักษณะเน้นประชานิยม กับประชารัฐ นายชัชชาติ กล่าวว่า ต้องระวังเรื่องดังกล่าว อย่างกรณีการปรับค่าแรงซึ่งเป็นภาระของภาคเอกชน รัฐบาลไม่ได้รับผิดชอบ และอาจส่งผลต่อความมั่นใจ ดังนั้น ต้องพูดให้ชัดเจนว่าการเพิ่มค่าแรงจำนวน 400 กว่าบาทนี้จะขึ้นอย่างไร และจะขึ้นเมื่อใด หรือต้องรอเศรษฐกิจดีขึ้นก่อน อย่างพรรคเพื่อไทยเราชัดเจนอยู่แล้วว่า การจะปรับขึ้นค่าแรงต้องรอให้เศรษฐกิจดีก่อน ส่วนเงินที่ต้องใช้เงินของรัฐในการจ่ายลงบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ต้องระวัง เพราะเข้าใจว่าเงินจะหมดแล้ว

เมื่อถามถึงกรณีนายฯ ออกสารเตือนพรรคการเมืองให้ระมัดระวัง รวมถึงบอกที่มาของเงินที่จะมาใช้จ่ายตามนโยบาย นายชัชชาติ กล่าวว่า เป็นกฎหมายอยู่แล้วที่จะทำอะไรก็ต้องส่งให้ กกต. ทั้งนี้ ท่านอาจจะพูดถึงพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ เพราะเขาเสนอนโยบายที่ใช้เงินเยอะ อย่างไรก็ตาม พรรคเพื่อไทยไม่ได้เน้นเรื่องการใช้เงิน เพราะเรารู้ว่ามีข้อกำหนดอยู่ และมองว่าสถานการณ์ปัจจุบันจะต้องเข้าไปเป็นรัฐบาลก่อน จะเห็นสภาพที่แท้จริงว่าสถานะทางการเงินการคลังเป็นอย่างไร

เมื่อถามถึงกรณีที่ท่าทีของนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐเปลี่ยนไป โดยระบุหากอนาคตทางออกคือการจับมือกับพรรคเพื่อไทย ก็พร้อม นายชัชชาติ กล่าวว่า ตนยังไม่ทราบรายละเอียด อีก 7 วันหลังการเลือกตั้ง เราชัดเจนว่าจะไม่ร่วมกับพรรคที่มีการสืบทอดอำนาจ [เผล่ะจัง] ไม่ใช่ที่ตัวบุคคล แต่เป็นเรื่องนโยบาย และปรัชญาของพรรคด้วย

เมื่อถามถึงกรณี นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์รองนายกฯ ระบุ หากไม่สนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ เป็นนายกฯต่อจะไม่มีนักลงทุนมาลงทุน นายชัชชาติ กล่าวว่า “จริงเหรอ ผมคิดว่าไม่น่าเกี่ยวกับตัวบุคคล แต่เป็นเรื่องของความมั่นใจ และหัวใจคือการทำเลือกตั้งให้โปร่งใส ให้ทุกคนตรวจสอบได้ ส.ว.ต้องไม่ฝืนเสียงของประชาชน ถ้าทำแบบนี้ได้นักลงทุนจะมีความมั่นใจ”.

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

"หญิงหน่อย" โหมลุยหาเสียง อ้อนเทคะแนน พท. สกัด "บิ๊กตู่" คัมแบ็กอำนาจ
"สุดารัตน์" ฟิตจัดลุยอีสาน ช่วยลูกพรรคหาเสียง อ้อน ปชช.เลือก "เพื่อไทย" ถล่มทลาย แก้ปัญหาเศรษฐกิจ ปราบยาเสพติด สกัด "บิ๊กตู่" หวนนั่งเก้าอี้นายกฯ
เมื่อวันที่ 15 มี.ค.62 ที่ จ.ศรีสะเกษ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคและแคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย (พท.) พร้อมด้วย นายธเนศ เครือรัตน์ ผู้สมัคร ส.ส.ศรีสะเกษ เขต 1 หมายเลข 5 ขึ้นรถแห่ปราศรัยไปยังตลาดเทศบาลเมือง อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ
โดย คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวปราศรัยบนรถติดเครื่องขยายเสียงว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ขอให้เลือกพรรคเพื่อไทยให้มากพอ ถึงจะเปลี่ยนนายกฯ ได้ ดังนั้นหากเลือกพรรคเพื่อไทย จะได้ตนและทีมงานเข้าไปบริหารประเทศ การเลือกตั้งครั้งนี้จะเกรงใจใครไม่ได้ ขอให้เลือก นายธเนศ ไปรับใช้ประชาชน ในกระเป๋าพรรคเพื่อไทยยังไม่ตุง แต่ในกระเป๋าลุงมี 250 ส.ว.แล้ว
จากนั้น คุณหญิงสุดารัตน์ พร้อมคณะ เดินเข้าตลาดเทศบาล พร้อมกล่าวกับประชาชนว่า ขอให้เลือกพรรคเพื่อไทย จะให้คะแนนพรรคเพื่อไทยน้อยไม่ได้ ถ้าจะเอาเศรษฐกิจดีๆ ต้องเลือกพรรคเพื่อไทยให้ถล่มทลาย โดยมีประชาชนภายในตลาดที่มาเดินซื้อของได้ตะโกนให้การสนับสนุนว่า "จะไปเลือกพรรคเพื่อไทย เพื่อมาแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ"
จากนั้น คุณหญิงสุดารัตน์ ได้เดินทางมาปราศรัยที่ อ.เมือง จ.สุรินทร์ เพื่อช่วย นายพันธ์เทพ ฐานุพงศ์ชรัช ผู้สมัคร ส.ส.สุรินทร์ เขต 1 และนายชูชัย มุ่งเจริญพร ผู้สมัคร ส.ส.สุรินทร์ เขต 2 และเดินทางไปปราศรัยที่ อ.ท่าตูม เพื่อช่วย นายคุณากร ปรีชาชนะภัย ผู้สมัคร ส.ส.สุรินทร์ เขต 3 และ นายพูนศรี ธนากูล ผู้สมัคร ส.ส.สุรินทร์ เขต 4
จากนั้นช่วงบ่าย คุณหญิงสุดารัตน์ ได้เดินทางไป อ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด เพื่อหาเสียงช่วย นายกิตติ สมทรัพย์ ผู้สมัคร ส.ส.ร้อยเอ็ด เขต 6 และเดินทางต่อมาปราศรัยที่ อ.โพนทอง เพื่อช่วย นายนิรมิต สุจารี ผู้สมัคร ส.ส.ร้อยเอ็ด เขต 3 และปิดท้ายมาปราศรัยต่อที่ อ.เมือง เพื่อช่วย นายวราวงษ์ พันธุ์ศิลา ผู้สมัคร ส.ส.ร้อยเอ็ด เขต 1
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการหาเสียงช่วยวันนี้ (15 มี.ค.) คุณหญิงสุดารัตน์ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว โดยระบุว่า
"วันนี้เดินสายเยี่ยมเยียนพ่อแม่พี่น้องชาวอีสาน เป็นวันที่ 4 แล้วค่ะ ไล่ตั้งแต่ จ.สกลนคร จ.มุกดาหาร จ.นครพนม จ.ร้อยเอ็ด จ.ศรีสะเกษ และ จ.สุรินทร์ ทุกเวทีปราศรัย หน่อยได้พบกับพ่อแม่พี่น้องหลายคน ที่เข้ามาสวมกอด มาร้องไห้ มาเล่าถึงความทุกข์ใจเหลือเกิน ห่วงลูกหลานตกอยู่ในอันตราย เพราะยาบ้าระบาดหนักเหลือเกินขณะนี้ อยู่รอบตัวทุกหมู่บ้านทุกชุมชน และราคาถูกมาก 3-5 เม็ด 100 บาท เท่านั้นเอง พอหน่อยเอ่ยถามบนเวทีปราศรัยทุกคนส่งเสียงดังพร้อมกันทั้งเวที แสดงว่ายาบ้ากำลังเป็นปัญหาใหญ่ของทุกหมู่บ้าน พอปราศรัยเสร็จกลับขึ้นรถมา มีคนส่ง clip ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้า คสช. ในฐานะแคดิเดตนายกฯ พรรคพลังประชารัฐ พูดหาเสียงมาให้ดู ว่า 5 ปีที่ผ่านมาได้แก้ไขปัญหาต่างๆ ได้สำเร็จลุล่วงไปได้มาก และยกมาอ้างหลายเรื่องนะคะ หนึ่งในนั้นก็คือเรื่องยาเสพติด ก็ไม่ทราบว่าทำไม พล.อ.ประยุทธ์ จึงกล้าพูดว่าได้แก้ไขปัญหายาเสพติดลุล่วงไปแล้ว ทั้งที่ข้อเท็จจริงยาบ้ากำลังระบาดหนักและราคาถูกมาก เป็นทุกข์ของทุกครอบครัวที่มีลูกมีหลาน เรายังไม่เคยเห็นภาพการออกมาปราบยาเสพติดอย่างจริงจัง ทั้งที่รัฐบาล คสช.มีอำนาจเต็มที่มากกว่ารัฐบาลจากการเลือกตั้ง และมี ม.44 อยู่เต็มมือ ที่พูดแบบนี้เป็นเพราะ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ทราบจริงๆ ว่ายาบ้าระบาดทั้งประเทศ หรือว่าทราบแต่ก็พูดๆ ไปก่อน เพราะต้องการจะหาเสียงเท่านั้น ถ้าไม่เชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ ลองมาลงเดิน "ฟัง" เสียงชาวบ้านด้วยตัวเองดูซิคะ และเวลาชาวบ้านเขาพูดความจริงก็อย่าไปดุเขาแล้วกัน".
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่