#แสงกระสือ
แสง “น้อย” นิดที่ “เจิด” จ้า, คือแสงที่พร่างพรายด้วย “สาย” ใยรัก
----------
----------
“สัตว์ประหลาดมันทั้งน่าเกลียดน่ากลัว พอมาเป็นตัวเอง สายถึงได้รู้ว่า...สัตว์ประหลาดมันก็มีหัวใจ”
----------
ภัณฑิรา พิพิธยากร
โอบนิธิ วิวรรธนวรางค์
สพล อัศวมั่นคง
สุรศักดิ์ วงษ์ไทย
----------
คะแนน : 9/10
----------
เมื่อพูดถึงผีไทยอย่างผีปอบ ผีกระสือ ผีกระหัง ภาพแรกที่แวบมาในความคิดเราไม่ใช่ภาพความสยองขวัญ หากแต่กลับเป็นภาพความตลกโปกฮา คนก็วิ่งหนี ผีก็วิ่งไล่ ภาพจำของเราที่มีต่อผีไทยส่วนมากจะเป็นแบบนี้ “แสงกระสือ” จึงเป็นหนังที่เราไม่คิดจะดูตั้งแต่แรกที่เห็นทีเซอร์หรือหน้าหนัง ยิ่งเป็นผีกระสือที่มีแค่หัวกับไส้ เราไม่คิดว่าจะอินกับความรักของผีประเภทนี้ เราไม่คิดว่าจะรู้สึกทึ่ง ลุ้นระทึก ตื่นตาตื่นใจ หรือสยองขวัญไปกับเรื่องของผีประเภทนี้
----------
ถ้าเพียงแต่เราจะไม่เห็นบทวิจารณ์ รีวิว กระแสเสียงจากหลายผู้คน หลายช่องทางที่ต่างพูดไปในเสียงเดียวกัน เสียงที่เต็มไปด้วยความชื่นชม จนทำให้เรารู้สึกอยากดูขึ้นมาในทันทีทันใด และตัดสินใจตีตั๋วตั้งแต่วันแรกที่หนังเข้าโรง หากไม่มีกระแสเหล่านั้น เราคงพลาดหนังดีๆ เรื่องนี้ไปอย่างน่าเสียดาย
----------
ตำนานกระสือ (พ่วงด้วยกระหัง) ถูกนำมาเล่าในมิติใหม่ ภาพทรงจำผีกระสือแบบไทยๆ ที่เราคุ้นเคย ถูกพัฒนา ยกระดับให้เป็นสากล ชนิดที่ว่าสามารถนำไปฉายที่ต่างประเทศได้อย่างไม่อายใคร ลืมภาพกระสือที่เราท่านคุ้นเคยไปได้เลย เพราะกระสือที่เป็นหัวใจสำคัญของเรื่องก็ไม่ได้ถูกเรียกว่า “ผี” หากแต่ถูกตีความให้เป็น “สัตว์ประหลาด” หรือ อมนุษย์
----------
ฉากหลังของเรื่องคือชนบทฝั่งธนบุรี ในยุคสงครามโลกครั้งที่สอง “แสงกระสือ” แบ่งเรื่องราวเป็นสองพาร์ตอย่างชัดเจน (หากเป็นละครเวที ก็คือสององก์ที่ให้ความรู้สึกคนละขั้ว ให้รสชาติคนละรส แต่กลับไม่แยกออกจากกัน ความต่างนั้นกลับร้อยเรียงเรื่องราวได้เป็นหนึ่งเดียว) พาร์ตแรกคือความรักความผูกพันของสองหนุ่มหนึ่งสาว หนังใช้เวลาพอสมควรในการปูพื้นให้เห็นถึงความสัมพันธ์ของสามตัวละครหลัก เจิดหลงรักสาย ในขณะที่สายกับน้อยนั้นรักกัน มีกระสือปริศนาที่ปรากฏตัวยามรัตติกาล มีกลุ่มคนที่เป็นนักล่ากระสือปรากฏตัวในหมู่บ้านแห่งนี้ พาร์ตแรกยังไม่มีอะไรแปลกใหม่มาก การดำเนินเรื่องเข้าข่ายเรื่อยเรื่อยมาเรียงเรียง ภาพสวย นักแสดงมีเสน่ห์ แต่คนดูยังเรายังเดาทางไปได้ว่าจะนำพาไปสู่จุดไคลแมกซ์ หรือจุดที่ชวนจดจำได้อย่างไร
----------
แต่พาร์ตที่สองนี่สิ ที่ชูรสชาติของภาพยนตร์เรื่องนี้ให้โดดเด่นและจับใจผู้ชม ความรู้สึกของละอย่างกับพาร์ตแรกเลย พาร์ตที่สองใช้เวลายาวนานในการเล่าเรื่อง หนังพาเราดำดิ่งไปกับเรื่องราวตำนานความรัก ความแค้น ความระทึกขวัญ ให้ความรู้สึกทั้งซาบซึ้ง หวาดผวา ลุ้นระทึก และสลดใจ ซึ่งหนังพาไปถึงขีดสุดกับทุกอารมณ์!
----------
กระสือที่ไม่ใช่ผี แต่ถูกตราหน้าว่าเป็นสัตว์ประหลาด ตำนานกระสือที่เกี่ยวพันกับตำนานกระหัง สาวน้อยที่ชื่อ “สาย” พลันสืบทอดทายาทกระสือที่เธอไม่อยากเป็นเลยสักนิด หญิงสาวปรารถนาที่จะเป็นพยาบาล เป็นผู้รักษาชีวิตผู้คน ทว่าโชคชะตา วิบากกรรม หรือคำสาปที่มิอาจรู้ได้ ก็ได้ดลให้เธอกลายเป็นผู้ทำลาย สายกลายเป็นสัตว์ประหลาดที่น่าเกลียดน่ากลัว แต่สัตว์ประหลาดตัวนี้ก็มีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกับมนุษย์ เหมือนกับสรรพสัตว์ทั่วไป, นั่นคือมันมีหัวใจ
----------
กระสือในภาพยนตร์ “แสงกระสือ” ที่เป็นสัตว์ประหลาด จึงเป็นภาพสะท้อนของกลุ่มคนชายขอบในชีวิตจริงที่ไม่ได้รับการยอมรับ โลกความจริงที่ไม่ได้ไปกินซากสัตว์ที่เน่าตาย โลกความจริงที่ไม่ได้มีเพียงหัวกับไส้ หากแต่ถูกตัดสินว่าด้อยค่า ศักดิ์ศรีไม่มีมากพอให้ยอมรับ บางทีคนส่วนใหญ่ก็อาจลืมไปกระมัง ว่าคนชายขอบพวกนี้ก็มีหัวใจ คนชายขอบพวกนี้ก็เจ็บเป็น การต้องมีสภาพเป็น “สัตว์ประหลาด” ท่ามกลางสังคมที่เราพักพิงอยู่ ช่างเป็นความรู้สึกที่ร้าวรานเหลือเกิน ท้ายสุดแล้ว กลุ่มชาวบ้านในหนังที่ได้รับความสูญเสียจนเกิดเป็นแรงอาฆาต พร้อมเข่นฆ่า พร้อมทำลายสัตว์ประหลาดอย่างกระสือจนวินาทีสุดท้าย หรือผู้คนในชีวิตจริง กลุ่มคนที่ให้ค่าตัวเองสูงกว่าผู้ที่ตนกดขี่ หรือแท้จริงแล้ว คนพวกนี้ต่างหากที่เป็นสัตว์ประหลาด?
----------
นี่คือคำถามที่เกิดขึ้นในใจเราหลังชมภาพยนตร์เรื่องนี้ น่าชื่นชมทีมงาน ผู้กำกับ ผู้เขียนบท ที่พาคนดูเข้าไปถึงจิตใจของสาย เห็นใจสาย รักสาย บางช่วงบางตอนเสียน้ำตาให้หญิงสาวที่ถูกตราหน้าว่าเป็นสัตว์ประหลาด ทว่ากลับไม่รู้สึกเกลียดชัง หรือมองว่าพวกชาวบ้านเป็นคนเลว เป็นตัวละครสีดำสนิท ทุกอย่างล้วนมีเหตุมีผล มีเหตุให้สายกลายเป็นกระสือแล้วทำในสิ่งที่เธอไม่อยากทำ มีเหตุให้ชาวบ้านชิงชังและหมายใจจะทำลายกระสือ มีเหตุให้ชายผู้นำในการล่ากระสือต้องออกมาล่า
----------
เหตุส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้นใน “แสงกระสือ” คือ “ความรัก” และเมื่อความรักนั้นกลายเป็นความแค้นขึ้นมาแล้วละก็...ความแค้นนั้นจึงทวีความรุนแรงยิ่งกว่าความแค้นใดๆ
----------
ซึ่งผู้เขียนบทภาพยนตร์เรื่องนี้คือ มะเดี่ยว-ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล เราเคยซาบซึ้ง เคยจับใจในความรักจากบทภาพยนตร์ที่เขาเขียน ตั้งแต่ “รักแห่งสยาม” “Home ความรัก ความสุข ความทรงจำ” มาจนถึงเรื่องนี้ ความรักที่มะเดี่ยวถ่ายทอดใน “แสงกระสือ” ก็ยังคงจับใจเราเช่นเคย
----------
สัตว์ประหลาดอย่างสายยังโชคดีที่มีความรัก มีรักอันบริสุทธิ์ที่ชายสองคนมอบให้เธอ คนหนึ่งคือชายผู้เป็นเพื่อนรักเพื่อนแท้ อีกหนึ่งคือชายที่เธอรักหมดใจ ซึ่งในชีวิตจริงนั้น การที่คนคนหนึ่งถูกตัดสิน ถูกตราหน้าว่าเป็นสัตว์ประหลาดไร้ค่า ความรักนี่ล่ะ คือของขวัญอันล้ำค่าที่สุดสำหรับคนผู้นั้น หน้าหนังเหมือนจะเป็นหนังผี หนังสยองขวัญ เน้นขายความน่ากลัว แต่ท้ายสุดแล้วสิ่งที่เราพบ, แสงกระสือคือหนังรัก
----------
นักแสดงนำวัยรุ่นทั้งสาม ฝีมือกินขาดเกินอายุตัวเอง เกินอายุการเป็นนักแสดง เริ่มตั้งแต่ โอบนิธิ กับบท “น้อย” ชายหนุ่มคนซื่อที่มีใจรักมั่นคง โอบถ่ายทอดคาแรคเตอร์น้อยได้อย่างลุ่มลึก ตั้งใจการเป็นผู้ชายที่ภายนอกดูอ่อนแอ บอบบาง ดูไม่สามารถปกป้องใครได้ แต่เมื่อถึงคราวต้องคุ้มกันคนที่เขารักหมดใจ ผู้ชายอ่อนแอของน้อยก็พร้อมทำทุกทาง สุดแรง สุดชีวิต สุดหัวใจ เกรท สพล กับบทบาท “เจิด” ที่มีหลากหลายอารมณ์ จากผู้ชายเจ้าเสน่ห์ ขี้เล่น รักจริง ไปสู่อารมณ์โกรธ อารมณ์เสียใจเมื่อผิดหวังในรัก และไปสู่จุดที่ไม่คาดคิดว่าผู้ชายคนนี้จะเผชิญ ซึ่งเขาทำได้ดี และ มินนี่ ภัณฑิรา กับบท “สาย” ผู้หญิงที่ไม่ได้สวยราวกับนางฟ้า แต่เธอคือสาวน้อยธรรมดาที่บอบบาง น่าทะนุถนอม สาวน้อยที่มองอยู่ห่างๆ อาจจะเพียงแค่มองแล้วผ่านไป แต่เมื่อได้เข้าไปรู้จัก เข้าไปอยู่ใกล้เธอ คุณอาจหลงรักสายโดยไม่รู้ตัว มินนี่เล่นได้มีเสน่ห์เหลือล้น ทำให้คนดูรักและเห็นใจในชะตากรรมของกระสือที่ชื่อสาย
----------
จุดที่ขัดใจเราจนทำให้เราไม่ได้ให้คะแนนภาพยนตร์เรื่องนี้เต็มสิบ นอกจากความเรียบเรื่อยในช่วงแรก คือการที่ตัวละครตัวหนึ่งปรากฏตัวมาถือปืน เพื่อช่วยเหลือสายกับน้อยในช่วงท้าย ตัวละครที่คนดูอาจไม่คาดคิดว่าเขาจะลุกมาจับปืน แต่การเปิดตัวตัวละครตัวนี้ในซีนนั้น มันดูตลก ดูโอเว่อร์แบบแปลกๆ จนเรียกเสียงหัวเราะจากเราและจากผู้ชมรอบๆ เรา แต่ดันเป็นเสียงหัวเราะที่มาผิดเวลานี่สิ
----------
สิ่งที่โดดเด่นและต้องขอชื่นชมอย่างยิ่งคือซีจี โปรดักชันที่น่าตื่นตา ตระการใจ โดยเฉพาะซีจีกระสือ ที่ยิ่งทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้มีพลังมากขึ้น ซีนที่อยู่ในความทรงจำของเราที่สุด คือซีนการแสดงความรักระหว่างสายกับน้อย การจูบเพื่อแสดงความรัก จูบเพื่อบอกให้รู้ว่าไม่มีอะไรมาทำลายความรักของคนสองคนนี้ได้ และไม่ใช่แค่การแสดงของมินนี่กับโอบที่ทรงพลัง แต่ซีจีก็มีส่วนสำคัญในการสร้างซีนนี้ให้น่าจดจำ เพราะมันคือการจูบกันในชั่วขณะที่สายอยู่ในร่างกระสือ
----------
เราไม่คิดไม่ฝันมาก่อนว่าจะอินกับความรักของกระสือกับมนุษย์ ไม่คิดไม่ฝันมาก่อนว่าเห็นภาพกระสือกอดกับมนุษย์แล้วจะอิ่มเอมในรักนี้ มันดูไม่สวยงามเอาเสียเลย แต่ “แสงกระสือ” ทำให้มันงดงามและทรงพลังได้ ลำไส้ที่ปรากฏ ไส้เล็กไส้น้อยที่พยายามกอดรัดชายหนุ่ม ไม่ต่างอะไรจากสองมือ ไม่ต่างอะไรจากสายใยรัก เราเห็นความมหัศจรรย์ในความรักของสองคนนี้ เห็นความพยายามของสาย ที่ต่อให้ไม่ได้อยู่ในร่างคน เธอจะก็ทำให้น้อยรู้ว่าเธอรักเขา เห็นรักที่มั่นคงของน้อย ที่ไม่ว่าสถานะใดๆ ก็มิอาจเปลี่ยนความรู้สึกที่เขามีต่อสายได้ เราเชื่อว่าหากสายอยู่ในร่างคน ซีนนั้นก็จะไม่ตราตรึงเท่านี้เลย
----------
“แสงกระสือ” จึงเป็นแสงที่สวยงามสำหรับเรา ลำแสงอัน “น้อย” นิด ทว่ากลับส่องสว่าง “เจิด” จ้า เป็นลำแสงที่ส่องสว่าง พร่างพรายด้วย “สาย” ใยรัก , และเราอยากเชิญชวนคุณเข้ามาดื่มดำ เข้ามาสัมผัสความงามของแสงแห่งรักนี้เหลือเกิน.
----------
#อุ้มสม
ปล. --- หากชื่นชอบการเขียนรีวิวของเรา สามารถไปกดไลก์แฟนเพจ “อุ้มสม” ของเราได้ ซึ่งในเพจจะมีทั้งการรีวิวนิยาย ละคร ละครเวทีสลับกันไป
https://www.facebook.com/aumsomjakkri/?ref=br_rs
[CR] #แสงกระสือ : แสง “น้อย” นิดที่ “เจิด” จ้า, คือแสงที่พร่างพรายด้วย “สาย” ใยรัก
แสง “น้อย” นิดที่ “เจิด” จ้า, คือแสงที่พร่างพรายด้วย “สาย” ใยรัก
----------
“สัตว์ประหลาดมันทั้งน่าเกลียดน่ากลัว พอมาเป็นตัวเอง สายถึงได้รู้ว่า...สัตว์ประหลาดมันก็มีหัวใจ”
----------
ภัณฑิรา พิพิธยากร
โอบนิธิ วิวรรธนวรางค์
สพล อัศวมั่นคง
สุรศักดิ์ วงษ์ไทย
----------
คะแนน : 9/10
----------
เมื่อพูดถึงผีไทยอย่างผีปอบ ผีกระสือ ผีกระหัง ภาพแรกที่แวบมาในความคิดเราไม่ใช่ภาพความสยองขวัญ หากแต่กลับเป็นภาพความตลกโปกฮา คนก็วิ่งหนี ผีก็วิ่งไล่ ภาพจำของเราที่มีต่อผีไทยส่วนมากจะเป็นแบบนี้ “แสงกระสือ” จึงเป็นหนังที่เราไม่คิดจะดูตั้งแต่แรกที่เห็นทีเซอร์หรือหน้าหนัง ยิ่งเป็นผีกระสือที่มีแค่หัวกับไส้ เราไม่คิดว่าจะอินกับความรักของผีประเภทนี้ เราไม่คิดว่าจะรู้สึกทึ่ง ลุ้นระทึก ตื่นตาตื่นใจ หรือสยองขวัญไปกับเรื่องของผีประเภทนี้
----------
ถ้าเพียงแต่เราจะไม่เห็นบทวิจารณ์ รีวิว กระแสเสียงจากหลายผู้คน หลายช่องทางที่ต่างพูดไปในเสียงเดียวกัน เสียงที่เต็มไปด้วยความชื่นชม จนทำให้เรารู้สึกอยากดูขึ้นมาในทันทีทันใด และตัดสินใจตีตั๋วตั้งแต่วันแรกที่หนังเข้าโรง หากไม่มีกระแสเหล่านั้น เราคงพลาดหนังดีๆ เรื่องนี้ไปอย่างน่าเสียดาย
----------
ตำนานกระสือ (พ่วงด้วยกระหัง) ถูกนำมาเล่าในมิติใหม่ ภาพทรงจำผีกระสือแบบไทยๆ ที่เราคุ้นเคย ถูกพัฒนา ยกระดับให้เป็นสากล ชนิดที่ว่าสามารถนำไปฉายที่ต่างประเทศได้อย่างไม่อายใคร ลืมภาพกระสือที่เราท่านคุ้นเคยไปได้เลย เพราะกระสือที่เป็นหัวใจสำคัญของเรื่องก็ไม่ได้ถูกเรียกว่า “ผี” หากแต่ถูกตีความให้เป็น “สัตว์ประหลาด” หรือ อมนุษย์
----------
ฉากหลังของเรื่องคือชนบทฝั่งธนบุรี ในยุคสงครามโลกครั้งที่สอง “แสงกระสือ” แบ่งเรื่องราวเป็นสองพาร์ตอย่างชัดเจน (หากเป็นละครเวที ก็คือสององก์ที่ให้ความรู้สึกคนละขั้ว ให้รสชาติคนละรส แต่กลับไม่แยกออกจากกัน ความต่างนั้นกลับร้อยเรียงเรื่องราวได้เป็นหนึ่งเดียว) พาร์ตแรกคือความรักความผูกพันของสองหนุ่มหนึ่งสาว หนังใช้เวลาพอสมควรในการปูพื้นให้เห็นถึงความสัมพันธ์ของสามตัวละครหลัก เจิดหลงรักสาย ในขณะที่สายกับน้อยนั้นรักกัน มีกระสือปริศนาที่ปรากฏตัวยามรัตติกาล มีกลุ่มคนที่เป็นนักล่ากระสือปรากฏตัวในหมู่บ้านแห่งนี้ พาร์ตแรกยังไม่มีอะไรแปลกใหม่มาก การดำเนินเรื่องเข้าข่ายเรื่อยเรื่อยมาเรียงเรียง ภาพสวย นักแสดงมีเสน่ห์ แต่คนดูยังเรายังเดาทางไปได้ว่าจะนำพาไปสู่จุดไคลแมกซ์ หรือจุดที่ชวนจดจำได้อย่างไร
----------
แต่พาร์ตที่สองนี่สิ ที่ชูรสชาติของภาพยนตร์เรื่องนี้ให้โดดเด่นและจับใจผู้ชม ความรู้สึกของละอย่างกับพาร์ตแรกเลย พาร์ตที่สองใช้เวลายาวนานในการเล่าเรื่อง หนังพาเราดำดิ่งไปกับเรื่องราวตำนานความรัก ความแค้น ความระทึกขวัญ ให้ความรู้สึกทั้งซาบซึ้ง หวาดผวา ลุ้นระทึก และสลดใจ ซึ่งหนังพาไปถึงขีดสุดกับทุกอารมณ์!
----------
กระสือที่ไม่ใช่ผี แต่ถูกตราหน้าว่าเป็นสัตว์ประหลาด ตำนานกระสือที่เกี่ยวพันกับตำนานกระหัง สาวน้อยที่ชื่อ “สาย” พลันสืบทอดทายาทกระสือที่เธอไม่อยากเป็นเลยสักนิด หญิงสาวปรารถนาที่จะเป็นพยาบาล เป็นผู้รักษาชีวิตผู้คน ทว่าโชคชะตา วิบากกรรม หรือคำสาปที่มิอาจรู้ได้ ก็ได้ดลให้เธอกลายเป็นผู้ทำลาย สายกลายเป็นสัตว์ประหลาดที่น่าเกลียดน่ากลัว แต่สัตว์ประหลาดตัวนี้ก็มีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกับมนุษย์ เหมือนกับสรรพสัตว์ทั่วไป, นั่นคือมันมีหัวใจ
----------
กระสือในภาพยนตร์ “แสงกระสือ” ที่เป็นสัตว์ประหลาด จึงเป็นภาพสะท้อนของกลุ่มคนชายขอบในชีวิตจริงที่ไม่ได้รับการยอมรับ โลกความจริงที่ไม่ได้ไปกินซากสัตว์ที่เน่าตาย โลกความจริงที่ไม่ได้มีเพียงหัวกับไส้ หากแต่ถูกตัดสินว่าด้อยค่า ศักดิ์ศรีไม่มีมากพอให้ยอมรับ บางทีคนส่วนใหญ่ก็อาจลืมไปกระมัง ว่าคนชายขอบพวกนี้ก็มีหัวใจ คนชายขอบพวกนี้ก็เจ็บเป็น การต้องมีสภาพเป็น “สัตว์ประหลาด” ท่ามกลางสังคมที่เราพักพิงอยู่ ช่างเป็นความรู้สึกที่ร้าวรานเหลือเกิน ท้ายสุดแล้ว กลุ่มชาวบ้านในหนังที่ได้รับความสูญเสียจนเกิดเป็นแรงอาฆาต พร้อมเข่นฆ่า พร้อมทำลายสัตว์ประหลาดอย่างกระสือจนวินาทีสุดท้าย หรือผู้คนในชีวิตจริง กลุ่มคนที่ให้ค่าตัวเองสูงกว่าผู้ที่ตนกดขี่ หรือแท้จริงแล้ว คนพวกนี้ต่างหากที่เป็นสัตว์ประหลาด?
----------
นี่คือคำถามที่เกิดขึ้นในใจเราหลังชมภาพยนตร์เรื่องนี้ น่าชื่นชมทีมงาน ผู้กำกับ ผู้เขียนบท ที่พาคนดูเข้าไปถึงจิตใจของสาย เห็นใจสาย รักสาย บางช่วงบางตอนเสียน้ำตาให้หญิงสาวที่ถูกตราหน้าว่าเป็นสัตว์ประหลาด ทว่ากลับไม่รู้สึกเกลียดชัง หรือมองว่าพวกชาวบ้านเป็นคนเลว เป็นตัวละครสีดำสนิท ทุกอย่างล้วนมีเหตุมีผล มีเหตุให้สายกลายเป็นกระสือแล้วทำในสิ่งที่เธอไม่อยากทำ มีเหตุให้ชาวบ้านชิงชังและหมายใจจะทำลายกระสือ มีเหตุให้ชายผู้นำในการล่ากระสือต้องออกมาล่า
----------
เหตุส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้นใน “แสงกระสือ” คือ “ความรัก” และเมื่อความรักนั้นกลายเป็นความแค้นขึ้นมาแล้วละก็...ความแค้นนั้นจึงทวีความรุนแรงยิ่งกว่าความแค้นใดๆ
----------
ซึ่งผู้เขียนบทภาพยนตร์เรื่องนี้คือ มะเดี่ยว-ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล เราเคยซาบซึ้ง เคยจับใจในความรักจากบทภาพยนตร์ที่เขาเขียน ตั้งแต่ “รักแห่งสยาม” “Home ความรัก ความสุข ความทรงจำ” มาจนถึงเรื่องนี้ ความรักที่มะเดี่ยวถ่ายทอดใน “แสงกระสือ” ก็ยังคงจับใจเราเช่นเคย
----------
สัตว์ประหลาดอย่างสายยังโชคดีที่มีความรัก มีรักอันบริสุทธิ์ที่ชายสองคนมอบให้เธอ คนหนึ่งคือชายผู้เป็นเพื่อนรักเพื่อนแท้ อีกหนึ่งคือชายที่เธอรักหมดใจ ซึ่งในชีวิตจริงนั้น การที่คนคนหนึ่งถูกตัดสิน ถูกตราหน้าว่าเป็นสัตว์ประหลาดไร้ค่า ความรักนี่ล่ะ คือของขวัญอันล้ำค่าที่สุดสำหรับคนผู้นั้น หน้าหนังเหมือนจะเป็นหนังผี หนังสยองขวัญ เน้นขายความน่ากลัว แต่ท้ายสุดแล้วสิ่งที่เราพบ, แสงกระสือคือหนังรัก
----------
นักแสดงนำวัยรุ่นทั้งสาม ฝีมือกินขาดเกินอายุตัวเอง เกินอายุการเป็นนักแสดง เริ่มตั้งแต่ โอบนิธิ กับบท “น้อย” ชายหนุ่มคนซื่อที่มีใจรักมั่นคง โอบถ่ายทอดคาแรคเตอร์น้อยได้อย่างลุ่มลึก ตั้งใจการเป็นผู้ชายที่ภายนอกดูอ่อนแอ บอบบาง ดูไม่สามารถปกป้องใครได้ แต่เมื่อถึงคราวต้องคุ้มกันคนที่เขารักหมดใจ ผู้ชายอ่อนแอของน้อยก็พร้อมทำทุกทาง สุดแรง สุดชีวิต สุดหัวใจ เกรท สพล กับบทบาท “เจิด” ที่มีหลากหลายอารมณ์ จากผู้ชายเจ้าเสน่ห์ ขี้เล่น รักจริง ไปสู่อารมณ์โกรธ อารมณ์เสียใจเมื่อผิดหวังในรัก และไปสู่จุดที่ไม่คาดคิดว่าผู้ชายคนนี้จะเผชิญ ซึ่งเขาทำได้ดี และ มินนี่ ภัณฑิรา กับบท “สาย” ผู้หญิงที่ไม่ได้สวยราวกับนางฟ้า แต่เธอคือสาวน้อยธรรมดาที่บอบบาง น่าทะนุถนอม สาวน้อยที่มองอยู่ห่างๆ อาจจะเพียงแค่มองแล้วผ่านไป แต่เมื่อได้เข้าไปรู้จัก เข้าไปอยู่ใกล้เธอ คุณอาจหลงรักสายโดยไม่รู้ตัว มินนี่เล่นได้มีเสน่ห์เหลือล้น ทำให้คนดูรักและเห็นใจในชะตากรรมของกระสือที่ชื่อสาย
----------
จุดที่ขัดใจเราจนทำให้เราไม่ได้ให้คะแนนภาพยนตร์เรื่องนี้เต็มสิบ นอกจากความเรียบเรื่อยในช่วงแรก คือการที่ตัวละครตัวหนึ่งปรากฏตัวมาถือปืน เพื่อช่วยเหลือสายกับน้อยในช่วงท้าย ตัวละครที่คนดูอาจไม่คาดคิดว่าเขาจะลุกมาจับปืน แต่การเปิดตัวตัวละครตัวนี้ในซีนนั้น มันดูตลก ดูโอเว่อร์แบบแปลกๆ จนเรียกเสียงหัวเราะจากเราและจากผู้ชมรอบๆ เรา แต่ดันเป็นเสียงหัวเราะที่มาผิดเวลานี่สิ
----------
สิ่งที่โดดเด่นและต้องขอชื่นชมอย่างยิ่งคือซีจี โปรดักชันที่น่าตื่นตา ตระการใจ โดยเฉพาะซีจีกระสือ ที่ยิ่งทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้มีพลังมากขึ้น ซีนที่อยู่ในความทรงจำของเราที่สุด คือซีนการแสดงความรักระหว่างสายกับน้อย การจูบเพื่อแสดงความรัก จูบเพื่อบอกให้รู้ว่าไม่มีอะไรมาทำลายความรักของคนสองคนนี้ได้ และไม่ใช่แค่การแสดงของมินนี่กับโอบที่ทรงพลัง แต่ซีจีก็มีส่วนสำคัญในการสร้างซีนนี้ให้น่าจดจำ เพราะมันคือการจูบกันในชั่วขณะที่สายอยู่ในร่างกระสือ
----------
เราไม่คิดไม่ฝันมาก่อนว่าจะอินกับความรักของกระสือกับมนุษย์ ไม่คิดไม่ฝันมาก่อนว่าเห็นภาพกระสือกอดกับมนุษย์แล้วจะอิ่มเอมในรักนี้ มันดูไม่สวยงามเอาเสียเลย แต่ “แสงกระสือ” ทำให้มันงดงามและทรงพลังได้ ลำไส้ที่ปรากฏ ไส้เล็กไส้น้อยที่พยายามกอดรัดชายหนุ่ม ไม่ต่างอะไรจากสองมือ ไม่ต่างอะไรจากสายใยรัก เราเห็นความมหัศจรรย์ในความรักของสองคนนี้ เห็นความพยายามของสาย ที่ต่อให้ไม่ได้อยู่ในร่างคน เธอจะก็ทำให้น้อยรู้ว่าเธอรักเขา เห็นรักที่มั่นคงของน้อย ที่ไม่ว่าสถานะใดๆ ก็มิอาจเปลี่ยนความรู้สึกที่เขามีต่อสายได้ เราเชื่อว่าหากสายอยู่ในร่างคน ซีนนั้นก็จะไม่ตราตรึงเท่านี้เลย
----------
“แสงกระสือ” จึงเป็นแสงที่สวยงามสำหรับเรา ลำแสงอัน “น้อย” นิด ทว่ากลับส่องสว่าง “เจิด” จ้า เป็นลำแสงที่ส่องสว่าง พร่างพรายด้วย “สาย” ใยรัก , และเราอยากเชิญชวนคุณเข้ามาดื่มดำ เข้ามาสัมผัสความงามของแสงแห่งรักนี้เหลือเกิน.
----------
#อุ้มสม
ปล. --- หากชื่นชอบการเขียนรีวิวของเรา สามารถไปกดไลก์แฟนเพจ “อุ้มสม” ของเราได้ ซึ่งในเพจจะมีทั้งการรีวิวนิยาย ละคร ละครเวทีสลับกันไป https://www.facebook.com/aumsomjakkri/?ref=br_rs
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้