ภาพสลักเล่าเรื่องจะปรากฎอยู่ 2 ส่วน คื่อส่วนขอบผนังเรื่อนธาตุ และหน้าบัน ส่วนขอบผนังเรื่อนธาตุจะเป็นภาพ กษัตริย์ทรงช้างทรงม้าเสด็จประพาสป่าออกล่าสัตว์ ส่วนของหน้าบันจะเป็นภาพของเทพเจ้าประจำทิศต่างๆ โดยมีทิศตะวันออกเป็นทิศเดียวไม่ปรากฎภาพสลัก เพราะภาพทิศนี้ถูกลเลือนไปมาก แต่สัณนิษฐานว่าบน่าจะเป็นพระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ ทิศใต้เป็นพระศิวะทรงโค ทิศตะวันตกเป็นพระพรหมประทับบนบัลลังก์ดอกบัว มีหงส์สามตัวเป็นพาหนะ และทิศเหนือเป็นภาพพระนารายณ์ทรงครุฑ
ภาพุบุคคลทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเทพ กษัตริย์ พราหมณ์ ล่วนแล้วแต่มีรูปร่างเตี่ย ล่ำสัน ตาโต ปากหนา บางภาพก็จมูกโด่ง บางภาพก็จมูปไม่โด่ง แสดงให้เห็นถึงการผสมผสานกันระหว่างศิลปะอินเดียใต้ ผสมกับวัฒนธรรมท้องถิ่น (จะทยอยลงจนครบนะครับ ขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดทำ ภาพวาดทั้งหมดเป็นลิขสิทธิ์ของคุณ "ภานุพงศ์")
ส่วนที่ 1 ขอบผนังเรือนธาตุ (ยังลงไม่ครบ)

กษัตริย์ทรงช้างล่าหมูป่า ทิศเหนือ-บน-ขวา

กษัตริย์ทรงม้า มีทหารอีกนายถือตะเกียงอยู่ข้างหลัง (ภาพเลือนไปมากและมีการโบกปูนทับ แต่ยังเห็นเป็นภาพตะเกียง)

กษัตริย์ทรงช้างล่าควายป่า ทิศเหนือ-ล่าง-ซ้าย

กษัตริย์ทรงช้างล่าสัตว์ ทิศตะวันออก-บน-ขวา

กษัตริย์ทรงช้าง ทิศใต้-บน-ขวา
ส่วนที่ 2 (ยังมีไม่ภาพลง)
ศิลปะพระธาตุพนม ตอน ภาพสลักเล่าเรื่อง
ภาพุบุคคลทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเทพ กษัตริย์ พราหมณ์ ล่วนแล้วแต่มีรูปร่างเตี่ย ล่ำสัน ตาโต ปากหนา บางภาพก็จมูกโด่ง บางภาพก็จมูปไม่โด่ง แสดงให้เห็นถึงการผสมผสานกันระหว่างศิลปะอินเดียใต้ ผสมกับวัฒนธรรมท้องถิ่น (จะทยอยลงจนครบนะครับ ขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดทำ ภาพวาดทั้งหมดเป็นลิขสิทธิ์ของคุณ "ภานุพงศ์")
ส่วนที่ 1 ขอบผนังเรือนธาตุ (ยังลงไม่ครบ)
ส่วนที่ 2 (ยังมีไม่ภาพลง)