ปัจจุบันชาวมายา ยังมีอยุ่ไหมครับ ในประเทศฮอนดูรัส และประเทศอื่นๆ ?
ชาวมายา อาณาจักรมายา ? หายไปไหน ?
ซึงมีอาณาเขตไปทั่ว ประเทศ เม็กซิโก México ,กัวเตมาลาGuatemala , เบลิซBelize และ ฮอนดูรัส Honduras
ชาวมายาใช้อักษรภาพในการบันทึก มีความสามารถทางดาราศาสตร์ จนสามารถทำนายเวลาเกิดสุริยุปราคา และจันทรุปราคาได้ล่วงหน้าเป็นเวลานาน รู้จักทำปฏิทินใช้ รู้จักประดิษฐ์เลขศูนย์ใช้ในวิชาคณิตศาสตร์ รู้จักค้าขายเกลือ หยก และเครื่องปั้นดินเผา แต่ชาวมายาไม่รู้จักใช้ล้อและไม่รู้จักการถลุงแร่ ซึ่งแสดงว่าชาวมายาดำรงชีวิตเหมือนมนุษย์หินที่รู้จักใช้เพียงไม้ กระดูกสัตว์ หินปูน และหินทรายในการสร้างเมือง
ชาวมายานับถือเทพเจ้ามาก และมีเทพเจ้ามากมาย ทั้งสุริยเทพ วสันตเทพ และมรณเทพ เทพเจ้าเหล่านี้ทรงโปรดปรานการเสวยเลือด ดังนั้นจึงมีพิธีบูชายัญด้วยชีวิตของหญิงพรหมจารี (บริสุทธิ์) เพื่อถวายเทพ
มีพีระมิด พีระมิดของชาวมายามีความสูงกว่า 150 ฟุต บนยอดพีระมิดจะแบนราบแตกต่างไปจากของอียิปต์ที่ปลายแหลม ประกอบด้วยบันไดทางขึ้น 4 ด้าน บันไดด้านละ 91 ขั้น รวมกับยกพื้นที่ฐานของพีระมิดอีกนับรวมเป็นได้ 365 ครบหนึ่งปี ถือเป็นปฏิทินถาวรอย่างหนึ่งของชาวมายา หนึ่งปีของชาวมายามี 13 เดือน และฤดูกาลอีก 4 ฤดู
ประวัติชาวมายา อาณาจักรมายา
อาณาจักรมายา ตั้งอยู่ใน อเมริกากลาง มีพื้นที่บริเวณ ประเทศเม็กซิโกคาบเกี่ยวกับเบลีซและกัวเตมาลา
มีความรุ่งเรืองช่วง 500 ปี ก่อนคริสตกาล จนถึง ค.ศ. 1502
มีจุดศูนย์กลางอยู่ที่ นครวากา ปัจจุบันคือ เอลเปรู
มีอายุร่วมสมัยเดียว กับ
อารยธรรมเตโอตีอัวกาน (Teotihuac?n)ถือว่าเป็นอาณาจักรที่ใหญ่มาก เพราะมีพื้นที่ ประเทศเม็กซิโก กัวเตมาลา และ ฮอนดูรัส
อาณาจักรมายา?เจริญรุ่งเรืองไพศาลมาก มีอายุยาวนานนับได้ 2000ปี ตั้งแต่คริสต์ศักราช 250
เมืองเอก อาณาจักรมายา?มรดกโลก
เมืองติกัล (Tikal)
เพเตน (Peten) ประเทศกัวเตมาลา
ปาเลงกอ (Palenque) ภาคใต้ประเทศเม็กซิโก
เมืองโคปัน (Copan) ประเทศฮอนดูรัส
เมืองอิทซา (Itzar)
อักซ์มัล (Uxmal)
มายาปัน (mayapan) บริเวณคาบสมุทรยูคาตัน
เมืองของ
ชาวมายา ประกอบด้วย
ชุมชนเกษตรอยู่ชั้นนอก ชุมชนเมืองอยู่ชั้นใน ล้อมรอบจุดศูนย์กลาง ซึ่งเป็นบริเวณสิ่งก่อสร้างที่ใช้ ประกอบพิธีกรรมต่างๆ ซึ่งสิ่งก่อสร้างนั้นมีหลายแบบ เช่น ปิรามิด วิหาร ปละปราสาทราชวัง ซึ่งสร้างจากศิลาล้วนๆ บ่งบอกความเจริญรุ่งเรืองของ ชาวมายา อย่างดี
ระหว่างปี พ.ศ. 800-1450 ซึ่งเป็นระยะเวลา ที่ยุโรปกำลังตกอยู่ใน
ยุคมืดแห่งอวิชชา แต่สำหรับ
ชาวมายา นั้นตามประวัติศาสตร์ได้จารึกว่า ในระยะเวลาดังกล่าว ?
อารยธรรมมายา ได้เจริญรุ่งเรืองสุดขีดมากๆ มีทั้ง พีระมิด และ พระราชวัง ที่มโหฬารและวิจิตร อลังการมากมาย
ประวัติชาวมายา มาจากไหน
มีศิลาจารึกขนาดใหญ่ ที่เขียนข้อความอย่างละเอียด ตั้งตระหง่านอยู่กลางเมือง ซึ่งแสดงว่า
ชาวมายา มี ภาษาเป็นของตนเอง และ ชอบบันทึกประวัติศาสตร์แต่..น่าเสียดาย ในข้อความศิลาจารึกนั้น กลับไม่มีใครสักคนที่อ่านออก ตีความได้สักคนเดียว สิ่งที่เรารู้เกี่ยวกับ
ชาวมายาสันนิษฐานว่า
ชาวมายา อาจสืบเชื้อสายมาจาก อิสราเอล ไม่ก็ กรุงทรอย คาร์เธจ ฮั่น แอตแลนติส ฯลฯ
ชาวมายา ปกครองด้วยระบบกษัตริย์ เรียกว่า คูฮุลอะฮอว์ (K’uhul ajaw) หรือ เทวกษัตริย์
ชาวมายา ใช้อักษรภาพในการบันทึก
ชาวมายา มีความสามารถทางดาราศาสตร์ จนสามารถทำนายเวลาเกิด
สุริยุปราคา และ จันทรุปราคา ได้ล่วงหน้าเป็นเวลานาน
ชาวมายา รู้จักทำปฏิทินใช้
ชาวมายา รู้จักประดิษฐ์เลขศูนย์ ใช้ในวิชาคณิตศาสตร์
ชาวมายา รู้จักค้าขายเกลือ หยก และ เครื่องปั้นดินเผา
ชาวมายา ไม่รู้จักใช้ล้อ และ ไม่รู้จักการถลุงแร่ ซึ่งแสดงว่าชาวมายาดำรงชีวิตเหมือนมนุษย์หินที่รู้จักใช้เพียงไม้ กระดูกสัตว์ หินปูน และ หินทรายในการสร้างเมือง
นอกจากนี้
ชาวมายา นับถือเทพเจ้ามาก และมีเทพเจ้ามากมาย ทั้ง
สุริยเทพ วสันตเทพ และ มรณเทพ เทพเจ้าเหล่านี้ทรงโปรดปรานการเสวยเลือด ดังนั้น เหล่าเชลยศึกสงครามจะถูก
ชาวมายา ฆ่าเพื่อเอาเลือดไปถวายเทพ (บางครั้งก็เลือก กันเองในเผ่า) แน่นอนมีตำนานเกี่ยวกับที่มาของชนเผ่านี้ด้วย จากคำบอกเล่าว่ากันว่า
ชาวมายา สืบเชื้อสายจากพระเจ้าผิวสีขาว มีเครายาว และเดินทางมาจากฟากฟ้าโพ้น..
มรดกโลก จากอาณาจักรมายา
เมืองติกัล (Tikal) – มีพีระมิดของชาวมายา สูง 212 ฟุต บนยอดวิหารมีห้องมากมาย มีแท่นบูชากับหินแกะสลักอักษรภาพเป็นจำนวนมาก ตามฝาผนังของวิหารก็มีรูปสลักเต็มแทบทุกด้าน
เมืองเปเตน (Peten) -?ปาเลงเก (Palenque) มีสิ่งก่อสร้างที่สร้างโดยปากัล พบหลุมศพจำนวนมากและในวิหารแห่งศิลาจารึก (Temple of the Inscriptions)
เมืองซีบิลชัลตุน (Dzibilchaltun)- ?มีวิหารขนาดใหญ่ที่ชื่อว่า The Temple of the Seven Dolls
นักโบราณคดียุคปัจจุบัน ต่างตื่นตะลึงกับสิ่งก่อสร้างอันมหัศจรรย์มากมายของ
ชาวมายา ซึ่งไม่ใช้เครื่องมือโลหะในการก่อสร้างเลย?เช่น วิหารรูปทรงพีระมิด ,ราชวัง,หอดูดาว เป็นต้น
ยอดพีระมิดของ ชาวมายา จะแบนราบ ต่างจาก พีระมิดของชาวอียิปต์
พีระมิดที่เมืองติกัลสูงถึง 212 ฟุตบนส่วนยอดมีห้องมากมาย และ แท่นบูชากับหินแกะสลักอักษรภาพ
ราชวังของเมืองติกัลเป็นอาคาร 4 ชั้น มีห้องมากถึง 42 ห้อง
เมืองอักซ์มัล – มีโรงละครขนาดใหญ่ มันช่างอลังการเหลือเกิน อย่าว่าแต่สมัยโบราณเลย เพราะจนถึงปัจจุบันนี้การสร้างสิ่งก่อสร้างแบบนี้นับ ว่ายากมากๆ
พระเจ้าของชาวมายา?ทฤษฏีพระเจ้าจากอวกาศ
หลักฐานสำคัญเกี่ยวกับ
พระเจ้าของชาวมายา นี่ก็อีก รูปสลักภาพวาดแต่ละภาพล้วนสวยงามตามเอกลักษณ์แบบ
ศิลปมายา แต่ก็น่าแปลก ที่พระเจ้าของพวกเค้าล้วนพิลึกกึกกือ ที่สุด บางรูปเป็นรูปพระเจ้าขับยานอวกาศ บางภาพเป็นรูปสาวกของพระเจ้ากำลังปราบปีศาจร้าย และอาวุธที่อยู่ในมือ นักโบราณคดีต่างลงความเห็นว่า มันคือ ปืน อย่างไม่ต้องสงสัย เมื่อสองพันกว่าปีก่อนมีปืนใช้กันแล้วหรือ ภาชนะบางชิ้นของพวกเขาก็เช่นกัน ถ้วยบางชิ้นมีภาพวาดของ มนุษย์สวมหมวกอวกาศ
ชาวมายา อาณาจักรมายา หายไปไหน
ทุกวันนี้นักโบราณคดียังคงศึกษา
อาณาจักรมายัน เพื่อไขปริศนากันต่อไป !
ทอม เชฟเวอร์ นักโบราณคดี หนึ่งเดียวของ องค์การนาซา จากศูนย์การบินอวกาศมาร์แชล เชฟเวอร์ และ ทีมงานทำการศึกษาซาก
เมืองเพเตน ประเทศกัวเตมาลา ซึ่งติดกับพรมแดนเม็กซิโก โดยการขุดค้นหาหลักฐานใต้พื้นดิน และ ใช้รีโมตเซนซิ่งหาหลักฐานที่สายตามนุษย์มองไม่เห็น?สิ่งที่เชฟเวอร์ค้นพบใต้พื้นดินทั่วทั้งบริเวณของ เมืองร้าง (เมืองเพเตน ประเทศกัวเตมาลา)แห่งนี้คือ
เรณูของต้นหญ้าแทนที่จะเป็นเรณูของต้นไม้ใหญ่ หลักฐานนี้แสดงว่า ป่าไม้ของเมืองเพเตน ลดลงกินบริเวณกว้างเมื่อประมาณ 1,200 ที่ผ่านมา
ทีมงานบอกว่า เมื่อไม่มีป่า ฝนก็จะเกิดการกัดเซาะและการระเหยของน้ำ และ การกัดเซาะจะรุนแรง จนกวาดเอาปุ๋ยที่หน้าดินไปจนหมด
หลักฐานการกัดเซาะได้ถูกค้นพบในชั้นดินตะกอนในทะเลสาบ ยิ่งไปกว่านั้น การเปลี่ยนแปลงสิ่งที่ปกคลุมพื้นดินคือป่าไม้ จะทำให้อุณหภูมิสูงขึ้น
บ๊อบ โอเกิลส์บี นักวิทยาศาสตร์ด้านอากาศของ ศูนย์การบินอวกาศมาร์แชล หนึ่งทีมงานใช้แบบจำลอง คอมพิวเตอร์คำนวณผลแล้วปรากฏว่าอุณหภูมิจะสูงขึ้น 5-6 องศาเซลเซียส การที่อุณหภูมิสูงขึ้นมีผลทำให้ผืนแผ่นดินแห้งแล้งซึ่งไม่เหมาะต่อการเจริญเติบโตของพืช
นอกจากนั้นอุณหภูมิที่สูงขึ้นจะมีผลกระทบต่อการมีฝนด้วย
ดังนั้นใน ฤดูแล้ง เมืองเพเตน จะตกอยู่ในสภาพขาดแคลนน้ำ ขณะที่น้ำใต้พื้นดินก็ลึกถึง 500 ฟุต จนไม่สามารถจะขุดนำมาใช้ได้
เมื่อเป็นเช่นนี้ชาวมายาจะต้องอาศัยการเก็บกักน้ำในอ่างเก็บน้ำ แต่มันก็คงจะระเหยไปจนไม่ทันได้ใช้
คริสต์ศักราช 800?อาณาจักรมายัน?พื้นที่ชนบทมี ประชากร 500-700 คนต่อหนึ่งตารางไมล์
ประชากร?1,800-2,600 คนต่อหนึ่งตารางไมล์ในบริเวณศูนย์กลางของอาณาจักรทางตอนเหนือของประเทศ กัวเตมาลา (พอๆกับนครลอสแองเจลิส ในปี 2000 ซึ่งมีประชากร 2,345 คนต่อหนึ่งตารางไมล์ )
คริสต์ศักราช 950 ก็เกิดความหายนะ 90-95% ของ
ชาวมายา ต้องตายไป
เชฟเวอร์ กล่าว หลักฐานที่สนับสนุนความเป็นไปได้ก็คือ การพบว่ากระดูกของ
ชาวมายา ซึ่งมีชีวิตอยู่ในราว สองสามทศวรรษก่อน
อาณาจักรมายันจะล่มสลายซึ่งแสดงว่าเป็นโรคขาดอาหารอย่างรุนแรง และ?สรุปการศึกษาในครั้งนี้ว่า
ประวัติชาวมายา อาณาจักรมายา น่าสนใจมากครับ คล้ายๆ รูปภาพเมื่องต่างๆ ในสมัยก่อน มี พีระมิดคล้ายอารยธรรมอียิปโบราณเลย
ขอบคุณข้อมูลจาก mthai ด้วยครับ
ประเทศ เม็กซิโก,กัวเตมาลา,เบลิซ และ ฮอนดูรัสเป็นแหล่งอารยธรรมโบราณที่สำคัญหลายแห่งที่โด่งดัง ก็คือ อารยธรรมมายา
ซึงมีอาณาเขตไปทั่ว ประเทศ เม็กซิโก México ,กัวเตมาลาGuatemala , เบลิซBelize และ ฮอนดูรัส Honduras
ชาวมายานับถือเทพเจ้ามาก และมีเทพเจ้ามากมาย ทั้งสุริยเทพ วสันตเทพ และมรณเทพ เทพเจ้าเหล่านี้ทรงโปรดปรานการเสวยเลือด ดังนั้นจึงมีพิธีบูชายัญด้วยชีวิตของหญิงพรหมจารี (บริสุทธิ์) เพื่อถวายเทพ
ประวัติชาวมายา อาณาจักรมายา
อาณาจักรมายา ตั้งอยู่ใน อเมริกากลาง มีพื้นที่บริเวณ ประเทศเม็กซิโกคาบเกี่ยวกับเบลีซและกัวเตมาลา
มีความรุ่งเรืองช่วง 500 ปี ก่อนคริสตกาล จนถึง ค.ศ. 1502
มีจุดศูนย์กลางอยู่ที่ นครวากา ปัจจุบันคือ เอลเปรู
มีอายุร่วมสมัยเดียว กับ อารยธรรมเตโอตีอัวกาน (Teotihuac?n)ถือว่าเป็นอาณาจักรที่ใหญ่มาก เพราะมีพื้นที่ ประเทศเม็กซิโก กัวเตมาลา และ ฮอนดูรัส
อาณาจักรมายา?เจริญรุ่งเรืองไพศาลมาก มีอายุยาวนานนับได้ 2000ปี ตั้งแต่คริสต์ศักราช 250
เมืองเอก อาณาจักรมายา?มรดกโลก
เมืองติกัล (Tikal)
เพเตน (Peten) ประเทศกัวเตมาลา
ปาเลงกอ (Palenque) ภาคใต้ประเทศเม็กซิโก
เมืองโคปัน (Copan) ประเทศฮอนดูรัส
เมืองอิทซา (Itzar)
อักซ์มัล (Uxmal)
มายาปัน (mayapan) บริเวณคาบสมุทรยูคาตัน
เมืองของ ชาวมายา ประกอบด้วย ชุมชนเกษตรอยู่ชั้นนอก ชุมชนเมืองอยู่ชั้นใน ล้อมรอบจุดศูนย์กลาง ซึ่งเป็นบริเวณสิ่งก่อสร้างที่ใช้ ประกอบพิธีกรรมต่างๆ ซึ่งสิ่งก่อสร้างนั้นมีหลายแบบ เช่น ปิรามิด วิหาร ปละปราสาทราชวัง ซึ่งสร้างจากศิลาล้วนๆ บ่งบอกความเจริญรุ่งเรืองของ ชาวมายา อย่างดี
ระหว่างปี พ.ศ. 800-1450 ซึ่งเป็นระยะเวลา ที่ยุโรปกำลังตกอยู่ใน ยุคมืดแห่งอวิชชา แต่สำหรับ ชาวมายา นั้นตามประวัติศาสตร์ได้จารึกว่า ในระยะเวลาดังกล่าว ?อารยธรรมมายา ได้เจริญรุ่งเรืองสุดขีดมากๆ มีทั้ง พีระมิด และ พระราชวัง ที่มโหฬารและวิจิตร อลังการมากมาย
มีศิลาจารึกขนาดใหญ่ ที่เขียนข้อความอย่างละเอียด ตั้งตระหง่านอยู่กลางเมือง ซึ่งแสดงว่า ชาวมายา มี ภาษาเป็นของตนเอง และ ชอบบันทึกประวัติศาสตร์แต่..น่าเสียดาย ในข้อความศิลาจารึกนั้น กลับไม่มีใครสักคนที่อ่านออก ตีความได้สักคนเดียว สิ่งที่เรารู้เกี่ยวกับ ชาวมายาสันนิษฐานว่า
ชาวมายา อาจสืบเชื้อสายมาจาก อิสราเอล ไม่ก็ กรุงทรอย คาร์เธจ ฮั่น แอตแลนติส ฯลฯ
ชาวมายา ปกครองด้วยระบบกษัตริย์ เรียกว่า คูฮุลอะฮอว์ (K’uhul ajaw) หรือ เทวกษัตริย์
ชาวมายา ใช้อักษรภาพในการบันทึก
ชาวมายา มีความสามารถทางดาราศาสตร์ จนสามารถทำนายเวลาเกิด สุริยุปราคา และ จันทรุปราคา ได้ล่วงหน้าเป็นเวลานาน
ชาวมายา รู้จักทำปฏิทินใช้
ชาวมายา รู้จักประดิษฐ์เลขศูนย์ ใช้ในวิชาคณิตศาสตร์
ชาวมายา รู้จักค้าขายเกลือ หยก และ เครื่องปั้นดินเผา
ชาวมายา ไม่รู้จักใช้ล้อ และ ไม่รู้จักการถลุงแร่ ซึ่งแสดงว่าชาวมายาดำรงชีวิตเหมือนมนุษย์หินที่รู้จักใช้เพียงไม้ กระดูกสัตว์ หินปูน และ หินทรายในการสร้างเมือง
นอกจากนี้ ชาวมายา นับถือเทพเจ้ามาก และมีเทพเจ้ามากมาย ทั้ง สุริยเทพ วสันตเทพ และ มรณเทพ เทพเจ้าเหล่านี้ทรงโปรดปรานการเสวยเลือด ดังนั้น เหล่าเชลยศึกสงครามจะถูก ชาวมายา ฆ่าเพื่อเอาเลือดไปถวายเทพ (บางครั้งก็เลือก กันเองในเผ่า) แน่นอนมีตำนานเกี่ยวกับที่มาของชนเผ่านี้ด้วย จากคำบอกเล่าว่ากันว่า ชาวมายา สืบเชื้อสายจากพระเจ้าผิวสีขาว มีเครายาว และเดินทางมาจากฟากฟ้าโพ้น..
มรดกโลก จากอาณาจักรมายา
เมืองติกัล (Tikal) – มีพีระมิดของชาวมายา สูง 212 ฟุต บนยอดวิหารมีห้องมากมาย มีแท่นบูชากับหินแกะสลักอักษรภาพเป็นจำนวนมาก ตามฝาผนังของวิหารก็มีรูปสลักเต็มแทบทุกด้าน
เมืองเปเตน (Peten) -?ปาเลงเก (Palenque) มีสิ่งก่อสร้างที่สร้างโดยปากัล พบหลุมศพจำนวนมากและในวิหารแห่งศิลาจารึก (Temple of the Inscriptions)
เมืองซีบิลชัลตุน (Dzibilchaltun)- ?มีวิหารขนาดใหญ่ที่ชื่อว่า The Temple of the Seven Dolls
นักโบราณคดียุคปัจจุบัน ต่างตื่นตะลึงกับสิ่งก่อสร้างอันมหัศจรรย์มากมายของ ชาวมายา ซึ่งไม่ใช้เครื่องมือโลหะในการก่อสร้างเลย?เช่น วิหารรูปทรงพีระมิด ,ราชวัง,หอดูดาว เป็นต้น
ยอดพีระมิดของ ชาวมายา จะแบนราบ ต่างจาก พีระมิดของชาวอียิปต์
พีระมิดที่เมืองติกัลสูงถึง 212 ฟุตบนส่วนยอดมีห้องมากมาย และ แท่นบูชากับหินแกะสลักอักษรภาพ
ราชวังของเมืองติกัลเป็นอาคาร 4 ชั้น มีห้องมากถึง 42 ห้อง
เมืองอักซ์มัล – มีโรงละครขนาดใหญ่ มันช่างอลังการเหลือเกิน อย่าว่าแต่สมัยโบราณเลย เพราะจนถึงปัจจุบันนี้การสร้างสิ่งก่อสร้างแบบนี้นับ ว่ายากมากๆ
ชาวมายา อาณาจักรมายา หายไปไหน
ทุกวันนี้นักโบราณคดียังคงศึกษา อาณาจักรมายัน เพื่อไขปริศนากันต่อไป ! ทอม เชฟเวอร์ นักโบราณคดี หนึ่งเดียวของ องค์การนาซา จากศูนย์การบินอวกาศมาร์แชล เชฟเวอร์ และ ทีมงานทำการศึกษาซาก เมืองเพเตน ประเทศกัวเตมาลา ซึ่งติดกับพรมแดนเม็กซิโก โดยการขุดค้นหาหลักฐานใต้พื้นดิน และ ใช้รีโมตเซนซิ่งหาหลักฐานที่สายตามนุษย์มองไม่เห็น?สิ่งที่เชฟเวอร์ค้นพบใต้พื้นดินทั่วทั้งบริเวณของ เมืองร้าง (เมืองเพเตน ประเทศกัวเตมาลา)แห่งนี้คือ เรณูของต้นหญ้าแทนที่จะเป็นเรณูของต้นไม้ใหญ่ หลักฐานนี้แสดงว่า ป่าไม้ของเมืองเพเตน ลดลงกินบริเวณกว้างเมื่อประมาณ 1,200 ที่ผ่านมา
ทีมงานบอกว่า เมื่อไม่มีป่า ฝนก็จะเกิดการกัดเซาะและการระเหยของน้ำ และ การกัดเซาะจะรุนแรง จนกวาดเอาปุ๋ยที่หน้าดินไปจนหมด
หลักฐานการกัดเซาะได้ถูกค้นพบในชั้นดินตะกอนในทะเลสาบ ยิ่งไปกว่านั้น การเปลี่ยนแปลงสิ่งที่ปกคลุมพื้นดินคือป่าไม้ จะทำให้อุณหภูมิสูงขึ้น
บ๊อบ โอเกิลส์บี นักวิทยาศาสตร์ด้านอากาศของ ศูนย์การบินอวกาศมาร์แชล หนึ่งทีมงานใช้แบบจำลอง คอมพิวเตอร์คำนวณผลแล้วปรากฏว่าอุณหภูมิจะสูงขึ้น 5-6 องศาเซลเซียส การที่อุณหภูมิสูงขึ้นมีผลทำให้ผืนแผ่นดินแห้งแล้งซึ่งไม่เหมาะต่อการเจริญเติบโตของพืช
นอกจากนั้นอุณหภูมิที่สูงขึ้นจะมีผลกระทบต่อการมีฝนด้วย
ดังนั้นใน ฤดูแล้ง เมืองเพเตน จะตกอยู่ในสภาพขาดแคลนน้ำ ขณะที่น้ำใต้พื้นดินก็ลึกถึง 500 ฟุต จนไม่สามารถจะขุดนำมาใช้ได้
เมื่อเป็นเช่นนี้ชาวมายาจะต้องอาศัยการเก็บกักน้ำในอ่างเก็บน้ำ แต่มันก็คงจะระเหยไปจนไม่ทันได้ใช้
คริสต์ศักราช 800?อาณาจักรมายัน?พื้นที่ชนบทมี ประชากร 500-700 คนต่อหนึ่งตารางไมล์
ประชากร?1,800-2,600 คนต่อหนึ่งตารางไมล์ในบริเวณศูนย์กลางของอาณาจักรทางตอนเหนือของประเทศ กัวเตมาลา (พอๆกับนครลอสแองเจลิส ในปี 2000 ซึ่งมีประชากร 2,345 คนต่อหนึ่งตารางไมล์ )
คริสต์ศักราช 950 ก็เกิดความหายนะ 90-95% ของ ชาวมายา ต้องตายไป
เชฟเวอร์ กล่าว หลักฐานที่สนับสนุนความเป็นไปได้ก็คือ การพบว่ากระดูกของ ชาวมายา ซึ่งมีชีวิตอยู่ในราว สองสามทศวรรษก่อน อาณาจักรมายันจะล่มสลายซึ่งแสดงว่าเป็นโรคขาดอาหารอย่างรุนแรง และ?สรุปการศึกษาในครั้งนี้ว่า
ขอบคุณข้อมูลจาก mthai ด้วยครับ