+++ เก่งหลังเกมส์ +++ Bayern 1 vs. 3 Liverpool อังกฤษทีมที่ 4 ในรอบ 8 ทีมสุดท้ายของ Uefa Champions League

สวัสดีครับเพื่อนๆ พี่ๆน้องๆ

ก็จบกันแล้วสำหรับนัดสุดท้ายของรอบ 16 ทีม ของยูฟ่า แชมเปี้ยน ลีก วันนี้ก็จะมาขอพูดถึงประเด็นต่างๆของเกมส์ที่ ลิเวอร์พูลไปเยือน เอาชนะ ทีมอันดับหนึ่งของบุนเดสลีกา ได้ถึงถิ่น 1 ประตูต่อ 3

ตอนนี้ 8 ทีมที่เหลือ กลับกลายเป็นทีมจากอังกฤษถึง 4 ทีม คือ แมนซิตี้ ลิเวอร์พูล สเปอร์ และแมนยู ส่วนอีก 4 ทีมที่เหลือ มาจาก 4 ประเทศ คือ บาร์เซโลน่า (สเปน) ยูเวนตุส (อิตาลี) อาแจกซ์ (ฮอลแลนด์) และปอร์โต้ (โปรตุเกส) ซึ่งในรอบถัดไปนี้ จะใช้การจับสลากแบ่งสายกันจนถึงรอบชิงเลย คือ จับคู่รอบ 8 ทีม และจะทราบถึงคู่แข่งที่อาจจะเจอในรอบ 4 ทีมด้วยเลย โดยจุดที่สำคัญคือ จะไม่มีการกำหนดแล้วว่า ทีมในประเทศเดียวกัน จะไม่สามารถเจอกันได้

คือ ตอนนี้ทุกๆทีม มีโอกาสพบเจอกันได้ทั้งหมด ซึ่งจากจำนวนทีมจากอังกฤษที่ผ่านเข้ารอบไปแล้ว มีโอกาสสูงมาก ที่ทีมจากอังกฤษ จะถูกจับฉลากเจอกันเองในรอบถัดไป อย่างน้อย 1 คู่ ก็มาลุ้นกันในช่วงคืนวันศุกร์ (ตามเวลาประเทศไทย) ว่าใครจะเจอใคร และจะมีโอกาสเจอใครในรอบชิง หากผ่านเข้าไปได้

ทีนี้มาว่ากันถึงเรื่องเกมส์ ระหว่าง Bayern 1 - 3 Liverpool กันบ้าง

บาเยิร์นมาในแผน 4-2-3-1 กลางรับ 2 ตัวคือ มาติเนส และ ติอาโก ปีกใช้ ลิเบรี่ กับ กานาบรี้ กลางรุกใน ฮาเมส และเลวาน หน้าเป้า

ลิเวอร์พูล ใช้ 4-3-3 ถอดเอาฟาบินโญ่ออก ใส่ มิลเนอร์ในแดนกลางร่วมกับ เฮนเดอร์สัน และ ไวนัลดุม สามประสานคนเดิม มาเน่ ซาล่า เฟอร์มิโน

รูปเกมส์ที่เกิดขึ้น ลิเวอร์พูลใช้ฟอร์เมชั่น และรูปแบบการเล่นแบบเดิม คือ ไล่สูงตั้งแต่แนวรับของคู่แข่ง และวิ่งไล่เพรสซิ่งทุกจังหวะ เมื่อตัดบอลได้ ก็จะใช้ความเร็วของนักเตะสวนกลับทันที ส่วนบาเยิร์นก็เดิม คือเคาะบอลไปมา แก้เพรสซิ่งได้บ้าง ไม่ได้บ้าง และเน้นการเจาะทางฝั่งซ้าย (ทางขวาของลิเวอร์พูล) โดยใช้ลิเบรี่ ประสานงานกับ อลาบา เพื่อเจาะทาง อเล็กซานเดอร์ อาโนลด์

ในช่วง 15-20 นาทีแรก ก็เป็นช่วงที่ทั้ง 2 ทีม แบ่งการครองบอลไปได้ค่อนข้างพอๆกัน ถ้าจะเยอะกว่า ก็จะเป็นฝั่งบาเยิร์น แต่แม้ว่าจะได้ครองบอลกัน แต่กลับหาจังหวะจบสกอร์กันไม่ค่อยได้ คือบอลจะอยู่แถวๆกลางสนามซะเยอะ พอเข้าพื้นที่สุดท้าย ก็จะเสียบอลให้อีกฝ่ายซะบ่อยครั้ง

ส่วนหลังจากลิเวอร์พูลได้ประตูแรก ก็ถอยลงไปรับ แล้วปล่อยให้บาเยิร์นครองบอลบุก จนมาได้ประตูตีเสมอ และจบครึ่งแรกที่ 1-1

ครึ่งหลัง ก็จะเป็นแบบเดิมคือ ครองบอลกันไปมา แต่หาจังหวะจบเหน่งๆกันไม่ค่อยได้ จนกระทั่งช่วงกลางครึ่งหลัง ลิเวอร์พูลมาได้ประตูจากลูกเตะมุม นำ 1-2 ซึ่งทำให้บาเยิร์นต้องเร่งเกมส์มากขึ้น เนื่องจากจะต้องทำอีก 2 ประตู เพื่อเป็นฝ่ายชนะและเข้ารอบต่อไปได้ ทำให้เกมส์เปิดมากขึ้น จนกระทั่งมาได้ประตูที่ 3 ในช่วง 10 นาทีท้าย

จบเกมส์ ลิเวอร์พูล มาเยือน และเอาชนะเจ้าบ้านไปได้ 1 ประตูต่อ 3 ยังไงต้องขอแสดงความยินดีกับเดอะค้อป ทั้งหลายด้วยนะครับ

ประเด็นสำคัญๆ หลังเกมส์ ขออนุญาตบรรยายเป็นข้อๆ ไป

1) ประตูแรกที่เสีย ต้องโทษ นอยเออร์ เต็มๆ เป็นจังหวะที่ยังไม่อันตรายเท่าไร เพราะมาเน่ ก็จับบอลแล้ว ยังหันหลังให้ประตู และยังมีกองหลังวิ่งมาอีก 2 ตัว (ตัวนึงยืนประกับกับมาเน่อยู่ด้วยซ้ำ) แต่พอนอยเออร์ออกมา กองหลังก็ต้องหลบ เพื่อให้นอยเออร์ได้เล่นสะดวก แต่ก็ต้องชมมาเน่ ที่พลิกตัวได้ดี สามารถสลัดหลุดและชิพบอลเข้าสู่ก้นตาข่ายโล่งๆได้ ถ้านอยเออร์ไม่ออกมา ลูกนั้นผมคิดว่า มาเน่คงต้องมองหาตัวสอดจากแถว 2 แน่ๆ

2) ซาล่า ดูขาดความมั่นใจไปในหลายๆจังหวะ การเลี้ยงกินตัวก็ไม่ค่อยผ่าน การจ่ายบอลก็ยังติดๆขัดๆ จังหวะการยิงประตูยิ่งไม่ต้องพูดถึง ดูไม่มั่นใจเอามากๆ โดยจังหวะที่สำคัญๆ มี 2 ครั้ง คือครั้งแรกในการเล่นโต้กลับ ซาล่าได้รับบอลจากการจ่ายของเพื่อน โดยมีมาเน่ วิ่งสอดมาทางด้านซ้าย โดยที่ไม่มีตัวประกบด้วย ซึ่งจังหวะนี้ควรจะจ่ายออกซ้ายให้มาเน่ แต่กลับเก็บบอลไว้เอง และสุดท้ายก็โดนแซะเสียบอล ส่วนจังหวะที่ 2 มีโอกาสจะได้ยิงในกรอบโทษ แต่ก็คิดช้าทำช้า จนโดนแซะจากด้านหลัง นัดนี้ในแนวรุก 3 ตัว ผมให้คะแนนซาล่าน้อยที่สุดเลยครับ

3) ซาล่ากับมาเน่ ดูเหมือนจะมีปัญหาอะไรกันหรือเปล่า นอกจากลูกสุดท้ายที่ซาล่าเปิดให้มาเน่โหม่ง ดูเหมือนเล่นไม่ค่อยเข้าขากันเท่าไร และดูไม่ค่อยส่งบอลให้กันและกันเหมือนฤดูกาลแรก อาจจะมีอะไรเขม่นใจกันหรือเปล่า

4) บาเยิร์น เดินเกมส์ช้าเกินไป และกองหลังก็ยืนต่ำเกินไป จนในเกมส์บุก เมื่อบอลผ่านครึ่งสนามมาแล้ว เกิดพื้นที่ห่างตรงกลางมาก จนผู้เล่นริมเส้น เติมไม่ทัน (หรือโดนสั่งให้ไม่เติม) ทำให้จังหวะยิงไม่ค่อยจะมี และโดนตัดบอลสวนกลับได้หลายครั้ง

5) ฟานไดจ์ วันนี้จัดการกับเลวานได้หมดจด จนเลวานไม่สามารถทำอะไรได้เลยแม้แต่นิดเดียว คือเลวานเป็นสาย striker คือแกต้องมีคนคอยป้อนบอลให้ แต่แกจบสกอร์คมมาก ดังนั้นเมื่อเลวานต้องการคนป้อนบอลให้ แต่พอฟานไดจ์ประกบติด ก็ทำให้แกไม่สามารถหาจังหวะจบสกอร์ได้เองเลยในนัดนี้ คือต้องชมฟานไดจ์ และมาติป ที่สลับกันดักบอลที่จะมาถึงตัวเลวานได้หมดเลย

6) จุดเปลี่ยนสำคัญของเกมส์ อาจจะเป็นเรื่องของ เฮนเดอร์สัน บาดเจ็บ แล้วต้องเปลี่ยนเอาฟาบินโญ่ลงมาแทน ก็เป็นได้ เพราะวันนี้ ฟาบินโญ่ เล่นได้ค่อนข้างเด่นเลย ในสายตาของผม ดักบอล เบรกเกมส์ ได้สวยๆหลายครั้ง คือถ้าเฮนโด้ไม่เจ็บ ก็ยอมรับว่าไม่รู้ว่ารูปเกมส์จะเป็นยังไง แต่คือพอเปลี่ยนเค้าลงมา ทำให้รูปเกมส์ของลิเวอร์พูล ดูดีขึ้นมาพอสมควร

เพื่อนๆ มีความคิดเห็นกันยังไงบ้าง ยินดีรับฟังครับ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่