ผมขออนุญาต ระบายผ่านช่องทางนี้
ผมเองอายุ 31 ปี ผมเป็นพ่อเลี้ยงเดี่ยว มีนิสัยคล้ายมนุษย์ถ้ำ เนื่องจากเป็นคนทำงานที่บ้าน ลูกกำลังจะขึ้นป.2
แฟนผมอายุเท่ากัน เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวทำงานให้กับบ.รับเหมาก่อสร้างของที่ครอบครัวเขาเป็นเจ้าของ ลูกกำลังจะขึ้น อ.2
ผมคบกับแฟนผมคนนี้มาได้ประมาณ ปีกว่า
ความแน่นแฟ้นของครอบครัวดีมาก ลูกของผมเรียกแฟนผมว่าแม่ ลูกของแฟนผมก็เรียกผมว่าพ่อ
แม้ว่าเราจะไม่ได้อยู่ด้วยกันเพราะบ้านแฟนอยู่ ค่อนข้างไกลมาก และทางครอบครัวแฟนผมยังไม่พร้อมที่จะให้แฟนผมมีคนใหม่
ผมเลยเคยไปพบพ่อเขาครั้งเดียว แต่แฟนผมก็จะมาหาผมอยู่ เรื่อยๆ สัปดาห์ ละ 1-2 ครั้ง
ผมเองด้วยนิสัยมนุษย์ถ้ำ ผมกับลูกมักจะไม่ไปเที่ยวนอกบ้าน พวกเรามักจะขลุกอยู่ ใน คอนโดที่เราเช่าอยู่
แฟนกับลูกของแฟนเพิ่มขึ้นมา ก็อยู่ได้
แต่แฟนผมอยากให้ผมขยับขยายไปอยู่ที่กว้างขวางกว่านี้
ผมเองยังทำไม่ได้เพราะผมเองก็กำลังจะเคลียประวัติเครดิตบูโล ให้พร้อมสำหรับการทำการกู้ต่างๆในอนาคต
แฟนผมมักจะมาอ้อนผมให้พาไปเที่ยวผมก็จะพาไป ตจว. ประมาณ เดือนละ ครั้ง
เราจะออกไปกินข้าวนอกบ้านเดินห้างเกือบทุก สัปดาห์
เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา
แฟนผมก็เริ่มขุดคุ้ยเรื่องแฟนเก่าของผม ซึ่งตัวผมเองผมไม่พูดถึงเลยเพราะผมมองว่าไม่จำเป็น
แฟนผมได้บล็อค เฟสบุ๊ค ลบแอพฯ บีทวีน
ผมก็ง้อสถานการณ์ดีขึ้น เรื่อยๆ
จนกระทั่งคืนวันที่ 14-15 ก.พ. ประมาณ ตี 5
แฟนผมก็ไขห้องผมเข้ามากลางดึกมากอดมาหอมผมต่างๆนาๆ
แล้วบอกผมว่าจะไปแบ็คแพ็คกับเพื่อนที่สิงคโปร์
ไป 7 วันกับเพื่อนชื่อ ม.
แล้วก็ขอให้ผมขับรถไปส่งที่สนามบินดอนเมือง
ระหว่างผมก็ถามบินไฟลท์ไหนสายการบินอะไร
แฟนผมเอาบุคกิ้งให้ดูไม่ใช้อีเมลล์จากแอพ
แต่เป็นภาพแคปเจอร์ จากบุคกิ้งแต่เป็นตัวหนังสือภาษาอังกฤษ ของฟอนต์จีน
ผมก็สงสัยว่าทำไมไม่เที่ยวกลับ
ผมเลยถามตั๋วกลับหละ
แฟนผมตอบ “เพื่อนจองให้”
แฟนผมบอกว่าแม่เขาจะดูลูกให้
ผมก็ทำได้แค่ส่งที่ดรอปออฟเพราะสนามบินดอนเมืองไม่มีที่จอด
ผมเองก็แยกออกมา แฟนผมก็ไลน์มาหาผม ว่าจะขึ้นเครื่องแล้วนะ
ผมก็ได้บอกแค่ว่าบอกเราด้วยนะไปไหน เป็นห่วงมีอะไรให้โทรมาเลย
ปรากฏว่าช่วง 7 วัน แทบจะติดต่อกันไม่ได้เลย
ช่วง 7 วันนั้น
ผมเองก็ขับมอเตอร์ไซค์ล้ม แต่ผมก็ไม่ได้บอกแฟนผมกลัวจะเที่ยวไม่สนุกเดินขากระเผกนิดหน่อย
จนถึงวันที่แฟนผมกลับ
แฟนผมได้ไลน์มาหาผมให้ผมไปรับ
ผมไปถึงก่อนไฟลท์ลงประมาณ 1 ชั่วโมง
ผมก็นั่งรออยู่ที่รั้วรับญาติ
แฟนผมออกมาแต่ เพื่อน ม. ไม่ออกมา
ผมก็ถาม “ม. ไม่มาด้วยหรอ”
แฟนตอบ “ม. กลับคนละไฟลท์ ม.จะลงที่สุวรรณภูมิ” คอนโด ม. อยู่ใกล้ห้างใหญ่ บางนา
ผมก็พากลับบ้าน ขับรถทั้งง่วงๆ มาถึงที่ห้องพักของผม
ผมเองชัทดาวน์นอนเลย แฟนผมก็นอนเลย (แน่นอนครับเราไม่ได้ยิ้มกัน)
ผมเองเริ่มมีนิสัยตื่นมาฉี่กลางดึก
สิ่งที่ผมเจอหลังจากไปฉี่ คือเงิน อิโดนีเซียที่เทออกมาจากกระเป๋าเงินแฟนผม
ผมนอนไม่หลับผมก็พยายามหาอะไรทำเพื่อไม่ให้ผมฟุ้งซ่าน
เช้าวันนั้น
แฟนผมก็ตื่นขึ้นมา พร้อมกับจำนน ด้วยหลักฐาน
“เราไปบาหลีมาด้วยนะ” แฟนพูด
บาหลีเป็นที่ฮันนีมูนนะ ผมคิด
“หรอ สนุกมั้ย” ผมพูด
ลูกผมก็ไปอาบน้ำ แฟนผมก็ไปอาบน้ำ
แฟนผมก็บอกผมหลังอาบน้ำเสร็จ
“เราแสบจิมิ” แฟนพูด
“ไปหาหมอมั้ย” ผมถาม
“ไม่ น้ำคงไม่สะอาดตอนไปเที่ยว” แฟนตอบ
แล้วผมก็ไปส่งลูก แฟนผมรีบกลับบ้าน
วันรุ่งขึ้น
แฟนผมโทรหาผม
“เรายังแสบจิมิอยู่เลย” แฟนพูด
“ไปหาหมอนะเดี๋ยวนัดให้” ผมพูด
“ไปนะ” แฟนพูด
ผมไปดำเนินการให้
วันรุ่งขึ้น แฟนผมก็มาหาผมเพื่อจะไปหาหมอ
แฟนผมตัวร้อน 39 องศา และยังแสบจิมิอยู่
ผมก็พาลูกๆ แฟนผมไป รพ.
แฟนผมขึ้นไปตรวจ ผมกับเด็กๆก็นั่งรอ
แฟนผมตรวจเสร็จ
“เราเป็นเริม เธอเคยเป็นเริมใช่มั้ย” แฟนถาม
“เริมที่จิมิ ติดใครมา” เสียงในหัวผม
“ไม่เคยเป็นนะ” ผมตอบ
“หมอบอกว่าพักผ่อนไม่พอ น้ำไม่สะอาด” แฟนพูด
“เริมที่จิมิ ติดใครมา” เสียงในหัวผม
“หรอ” ผมตอบ
ความรู้สึกของผมเหมือนโดนมีดทื่อๆแทงเข้าที่อก คิดในใจได้แค่ว่า “กูโดนละ”
ผมเองก็พูดกับแฟนผมได้แค่ว่า “กินยาทายาให้ตรงเวลา กินผลไม้เยอะนอนพักผ่อนให้เพียงพอ”
ทั้งๆที่เสียงในหัวผม “เริมที่จิมิ ติดใครมา”
ช่วงนั้นผมก็ประครองความสัมพันธ์ แน่นอนเราไม่ได้ยิ้มกันเลย
สถานการณ์อื่นๆก็เหมือนเดิม เฟสบุ๊คก็ยังบล็อคอยู่
จนเมื่อวาน
กับเสียงในหัวที่ลั่นอยู่ “เริมที่จิมิ ติดใครมา” มาเป็นเวลาร่วมเดือน
เราก็คุยโทรศัพท์กัน
แฟนผมบอกว่าผมมีพฤติกรรมเปลี่ยนไป
“มีอะไรก็พูด อย่าทำแบบนี้” แฟนพูด
“ผมบอกช่างมันเหอะ” ผมตอบ
“พูดสิ” แฟนพูด
“ที่ไปเมื่อเดือนที่แล้วไม่ได้ไปกับ ม.ใช่มั้ย” ผมเลยจัดงามๆเลย (หัวใจผมเต้นแรง)
“เราอยากไปเที่ยว” แฟนตอบ
“แล้วไปกับ ม. ใช่มั้ย” ผมขยี้ (หัวใจเต้นแรงกว่าเดิม)
“ไปกับเพื่อน” แฟนตอบ
“ติดเริมจากเพื่อนคนนี้ใช่มั้ย” ผมถาม
“ใช่” แฟนร้องไห้
“ก็เธอพาเราไปไม่ได้” แฟนพูด
“ผมบอกว่ามันถูกมั้ย” ผมรู้สึกผิดหวังในตัวแฟนผมมากกว่า
“เราก็เลิกกับเขาไปแล้วตอนกลับมามันนิสัยไม่ดี” แฟนพูด
“อีHERE กูโดนจริงๆ” เสียงในหัว
“ก็น่าจะมีจิตสำนึกว่าไม่ควรทำ” ผมตอบ
วันนี้ แฟนผมทำเหมือนไม่มีไรเกิดขึ้น
อีกเรื่อง
"ที่ไปเนี่เราไม่ได้ออกเงินนะ" แฟนพูด
ผมเองก็ทำตัวไม่ถูก มันผิดมากเลยหรอ ที่ผมพาแฟนไปเที่ยวไม่ได้ เลยกลายมาเป็นแบบนี้
ช่วงชีวิตนึงของผม เคยใช้ชีวิตออกหากิน ในสถานที่ท่องเที่ยวชายหาด แห่งหนึ่งในไทย
ผมมักจะเห็นผู้หญิงไทยไปนัดพบนัดยิ้มกับชาวต่างชาติกันที่สถานที่ท่องเที่ยวที่ผมอาศัยอยู่
ผมก็ไม่นึกไม่ฝัน ว่าแฟนผม จะกลายเป็น Vacation Girlfriend
แฟนผมก็บอกว่ารู้สึกผม แต่เสียงในหัวที่ลั่นอยู่เกือบเดือน “เริมที่จิมิ ติดใครมา”
ผมเลยรู้สึกผิดหวังมากกว่า
ผมเองขอบคุณที่อ่านกันมาถึงตรงนี้ ให้คำแนะนำผมได้นะว่าผมควรทำยังไงต่อไปดี
ผมก็เคยคิดว่าเขาจะเป็นคู่ของผมอยู่เผาผม
ผมเสียใจและผิดหวังในตัวแฟนผม
#vacationgirlfriend
[ขอระบาย] แฟนผมกลายเป็น Vacation Girlfriend ของคนอื่น
ผมเองอายุ 31 ปี ผมเป็นพ่อเลี้ยงเดี่ยว มีนิสัยคล้ายมนุษย์ถ้ำ เนื่องจากเป็นคนทำงานที่บ้าน ลูกกำลังจะขึ้นป.2
แฟนผมอายุเท่ากัน เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวทำงานให้กับบ.รับเหมาก่อสร้างของที่ครอบครัวเขาเป็นเจ้าของ ลูกกำลังจะขึ้น อ.2
ผมคบกับแฟนผมคนนี้มาได้ประมาณ ปีกว่า
ความแน่นแฟ้นของครอบครัวดีมาก ลูกของผมเรียกแฟนผมว่าแม่ ลูกของแฟนผมก็เรียกผมว่าพ่อ
แม้ว่าเราจะไม่ได้อยู่ด้วยกันเพราะบ้านแฟนอยู่ ค่อนข้างไกลมาก และทางครอบครัวแฟนผมยังไม่พร้อมที่จะให้แฟนผมมีคนใหม่
ผมเลยเคยไปพบพ่อเขาครั้งเดียว แต่แฟนผมก็จะมาหาผมอยู่ เรื่อยๆ สัปดาห์ ละ 1-2 ครั้ง
ผมเองด้วยนิสัยมนุษย์ถ้ำ ผมกับลูกมักจะไม่ไปเที่ยวนอกบ้าน พวกเรามักจะขลุกอยู่ ใน คอนโดที่เราเช่าอยู่
แฟนกับลูกของแฟนเพิ่มขึ้นมา ก็อยู่ได้
แต่แฟนผมอยากให้ผมขยับขยายไปอยู่ที่กว้างขวางกว่านี้
ผมเองยังทำไม่ได้เพราะผมเองก็กำลังจะเคลียประวัติเครดิตบูโล ให้พร้อมสำหรับการทำการกู้ต่างๆในอนาคต
แฟนผมมักจะมาอ้อนผมให้พาไปเที่ยวผมก็จะพาไป ตจว. ประมาณ เดือนละ ครั้ง
เราจะออกไปกินข้าวนอกบ้านเดินห้างเกือบทุก สัปดาห์
เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา
แฟนผมก็เริ่มขุดคุ้ยเรื่องแฟนเก่าของผม ซึ่งตัวผมเองผมไม่พูดถึงเลยเพราะผมมองว่าไม่จำเป็น
แฟนผมได้บล็อค เฟสบุ๊ค ลบแอพฯ บีทวีน
ผมก็ง้อสถานการณ์ดีขึ้น เรื่อยๆ
จนกระทั่งคืนวันที่ 14-15 ก.พ. ประมาณ ตี 5
แฟนผมก็ไขห้องผมเข้ามากลางดึกมากอดมาหอมผมต่างๆนาๆ
แล้วบอกผมว่าจะไปแบ็คแพ็คกับเพื่อนที่สิงคโปร์
ไป 7 วันกับเพื่อนชื่อ ม.
แล้วก็ขอให้ผมขับรถไปส่งที่สนามบินดอนเมือง
ระหว่างผมก็ถามบินไฟลท์ไหนสายการบินอะไร
แฟนผมเอาบุคกิ้งให้ดูไม่ใช้อีเมลล์จากแอพ
แต่เป็นภาพแคปเจอร์ จากบุคกิ้งแต่เป็นตัวหนังสือภาษาอังกฤษ ของฟอนต์จีน
ผมก็สงสัยว่าทำไมไม่เที่ยวกลับ
ผมเลยถามตั๋วกลับหละ
แฟนผมตอบ “เพื่อนจองให้”
แฟนผมบอกว่าแม่เขาจะดูลูกให้
ผมก็ทำได้แค่ส่งที่ดรอปออฟเพราะสนามบินดอนเมืองไม่มีที่จอด
ผมเองก็แยกออกมา แฟนผมก็ไลน์มาหาผม ว่าจะขึ้นเครื่องแล้วนะ
ผมก็ได้บอกแค่ว่าบอกเราด้วยนะไปไหน เป็นห่วงมีอะไรให้โทรมาเลย
ปรากฏว่าช่วง 7 วัน แทบจะติดต่อกันไม่ได้เลย
ช่วง 7 วันนั้น
ผมเองก็ขับมอเตอร์ไซค์ล้ม แต่ผมก็ไม่ได้บอกแฟนผมกลัวจะเที่ยวไม่สนุกเดินขากระเผกนิดหน่อย
จนถึงวันที่แฟนผมกลับ
แฟนผมได้ไลน์มาหาผมให้ผมไปรับ
ผมไปถึงก่อนไฟลท์ลงประมาณ 1 ชั่วโมง
ผมก็นั่งรออยู่ที่รั้วรับญาติ
แฟนผมออกมาแต่ เพื่อน ม. ไม่ออกมา
ผมก็ถาม “ม. ไม่มาด้วยหรอ”
แฟนตอบ “ม. กลับคนละไฟลท์ ม.จะลงที่สุวรรณภูมิ” คอนโด ม. อยู่ใกล้ห้างใหญ่ บางนา
ผมก็พากลับบ้าน ขับรถทั้งง่วงๆ มาถึงที่ห้องพักของผม
ผมเองชัทดาวน์นอนเลย แฟนผมก็นอนเลย (แน่นอนครับเราไม่ได้ยิ้มกัน)
ผมเองเริ่มมีนิสัยตื่นมาฉี่กลางดึก
สิ่งที่ผมเจอหลังจากไปฉี่ คือเงิน อิโดนีเซียที่เทออกมาจากกระเป๋าเงินแฟนผม
ผมนอนไม่หลับผมก็พยายามหาอะไรทำเพื่อไม่ให้ผมฟุ้งซ่าน
เช้าวันนั้น
แฟนผมก็ตื่นขึ้นมา พร้อมกับจำนน ด้วยหลักฐาน
“เราไปบาหลีมาด้วยนะ” แฟนพูด
บาหลีเป็นที่ฮันนีมูนนะ ผมคิด
“หรอ สนุกมั้ย” ผมพูด
ลูกผมก็ไปอาบน้ำ แฟนผมก็ไปอาบน้ำ
แฟนผมก็บอกผมหลังอาบน้ำเสร็จ
“เราแสบจิมิ” แฟนพูด
“ไปหาหมอมั้ย” ผมถาม
“ไม่ น้ำคงไม่สะอาดตอนไปเที่ยว” แฟนตอบ
แล้วผมก็ไปส่งลูก แฟนผมรีบกลับบ้าน
วันรุ่งขึ้น
แฟนผมโทรหาผม
“เรายังแสบจิมิอยู่เลย” แฟนพูด
“ไปหาหมอนะเดี๋ยวนัดให้” ผมพูด
“ไปนะ” แฟนพูด
ผมไปดำเนินการให้
วันรุ่งขึ้น แฟนผมก็มาหาผมเพื่อจะไปหาหมอ
แฟนผมตัวร้อน 39 องศา และยังแสบจิมิอยู่
ผมก็พาลูกๆ แฟนผมไป รพ.
แฟนผมขึ้นไปตรวจ ผมกับเด็กๆก็นั่งรอ
แฟนผมตรวจเสร็จ
“เราเป็นเริม เธอเคยเป็นเริมใช่มั้ย” แฟนถาม
“หมอบอกว่าพักผ่อนไม่พอ น้ำไม่สะอาด” แฟนพูด
ความรู้สึกของผมเหมือนโดนมีดทื่อๆแทงเข้าที่อก คิดในใจได้แค่ว่า “กูโดนละ”
ผมเองก็พูดกับแฟนผมได้แค่ว่า “กินยาทายาให้ตรงเวลา กินผลไม้เยอะนอนพักผ่อนให้เพียงพอ”
สถานการณ์อื่นๆก็เหมือนเดิม เฟสบุ๊คก็ยังบล็อคอยู่
จนเมื่อวาน
แฟนผมบอกว่าผมมีพฤติกรรมเปลี่ยนไป
“มีอะไรก็พูด อย่าทำแบบนี้” แฟนพูด
“ผมบอกช่างมันเหอะ” ผมตอบ
“ติดเริมจากเพื่อนคนนี้ใช่มั้ย” ผมถาม
อีกเรื่อง
"ที่ไปเนี่เราไม่ได้ออกเงินนะ" แฟนพูด
ผมเองก็ทำตัวไม่ถูก มันผิดมากเลยหรอ ที่ผมพาแฟนไปเที่ยวไม่ได้ เลยกลายมาเป็นแบบนี้
ช่วงชีวิตนึงของผม เคยใช้ชีวิตออกหากิน ในสถานที่ท่องเที่ยวชายหาด แห่งหนึ่งในไทย
ผมมักจะเห็นผู้หญิงไทยไปนัดพบนัดยิ้มกับชาวต่างชาติกันที่สถานที่ท่องเที่ยวที่ผมอาศัยอยู่
ผมก็ไม่นึกไม่ฝัน ว่าแฟนผม จะกลายเป็น Vacation Girlfriend
แฟนผมก็บอกว่ารู้สึกผม แต่เสียงในหัวที่ลั่นอยู่เกือบเดือน “เริมที่จิมิ ติดใครมา”
ผมเลยรู้สึกผิดหวังมากกว่า
ผมเสียใจและผิดหวังในตัวแฟนผม
#vacationgirlfriend