ถ้าจะซื้อมอเตอร์ไซค์ อย่าซื้อเพียงแค่เพราะความชอบ แต่อยากให้เลือกคันที่คิดว่าเหมาะกับตัวเรามากที่สุด

กระทู้สนทนา
เมื่อก่อนผมเป็นคนนึงที่หลงใหลมอเตอร์ไซค์จากรูปร่างหน้าตา,
ถูกใจคันไหนก็ซื้อมาใช้เลย แล้วปัญหาที่ตามมาก็คือ สุดท้าย ใช้มันได้ไม่เท่าไหร่ ก็ต้องขายไป
เพราะความหลงใหลเพียงชั่วครั้งชั่วคราว จนทำให้ต้องเปลี่ยนรถมาตั้งไม่รู้กี่คัน กว่าจะเจอรถที่
คิดว่าเหมาะสมกับเราที่สุด เหตุผลในการเปลี่ยนรถแต่ละคันของผมก็เช่น

1. เมื่อสมัยสิบกว่าปีก่อน รถบิ๊กไบค์ยังไม่เป็นที่แพร่หลายมากนัก รถบิ๊กไบค์ที่มีในบ้านเราส่วนใหญ่
ก็มีแต่รถอินวอยส์(ไม่มีทะเบียน) ผมเริ่มต้นจาก Yamaha SR400 ถือได้ว่าเป็นรถที่ดี ขี่สนุก
แต่สุดท้ายก็ขายมันไป เพราะอยากเปลี่ยนมาลองขี่รถสี่สูบ และเบื่อที่มันไม่มีสตาร์ทมือ มีแต่สตาร์ทเท้า

2. เลยหันมามองรถ Naked bike ซึ่งสมัยนั้น ถ้ารถแนวนี้ ก็คงหนีไม่พ้น CB Super4 (400cc) และ
Yamaha XJR-400 ตอนแรกผมใช้ XJR-400 ก่อน เป็นรถที่ชอบมาก ขี่มันส์ วิ่งทางไกลสบาย
เสียอย่างเดียวคือคันนี้มันไม่มีทะเบียน วิ่งไกลๆเสียวด่าน เลยขายมันไป

3. คันต่อมาก็ยังเป็นแนวเดิม แต่เปลี่ยนยี่ห้อเป็นCB-SF 400 แน่นอนว่าเป็นรถที่ดี ขี่สนุกเลยเลยทีเดียว
แต่ก็มีข้อเสียอีกก็คือ ตอนนั้น เจ้า CB400 ของผมมันมีทะเบียนก็จริง แต่เป็นรถที่สวมทะเบียนมา
เพิ่งจะมาคิดได้ทีหลัง และกลัวจะมีปัญหาตามมา เลยขายมันทิ้งไป

4. พอกันที กับรถไม่มีทะเบียนหรือรถสวมทะเบียน เลยมองหารถทะเบียนแท้ๆสักคัน แล้วก็เลยลองเปลี่ยน
มาใช้ Yamaha Viraco-400 รถแนวช็อปเปอร์ เพราะเห็นว่ารถดูสวย แฮนด์สูง น่าจะขี่สบาย สุดท้ายก็ต้องขายไปอีก
เพราะรู้สึกว่ารถสไตล์นี้มันไม่ใช่ตัวเรา

5. เมื่อช็อปเปอร์ก็ไม่ตอบโจทย์ เลยลองเปลี่ยนแนว ซื้อ Honda VFR 400 มาใช้ เพราะชอบในรูปทรงสปอร์ต
แต่พอใช้ไปสักระยะ ก็ต้องขายไปอีก เพราะเวลาขี่ไปเที่ยวทางไกลๆหน่อย โคตรเมื่อยไหล่และเมื่อยหลังเลย
เพราะแฮนด์รถต่ำ ต้องก้มตัวตลอด ยอมรับว่าเป็นรถที่ขี่สนุก เร่งเป็นมา แต่ไม่ตอบโจทย์เรื่องการขี่เที่ยวไกลๆ

6. เริ่มเบื่อการเปลี่ยนรถละ เลยกะจะหารถสักคันที่ตอบโจทย์เรามากที่สุด โดยโจทย์ผมก็คือ เป็นรถที่พาเราไปได้ทุกที่
ที่เราอยากจะไป คือลุยป่าขึ้นเขาได้ วิ่งทางไกลก็ได้ ใช้เวลาศึกษามาพอสมควร สุดท้ายก็มาจบที่ CRF250
เพราะคิดว่าคันนี้น่าจะตอบโจทย์ Life style ของเราที่สุดละ

ปัญหาน่าจะจบที่คันนี้ แต่ก็ไม่จบ เมื่อพบว่า
1) เคยเอา CRF ขี่ไปไกลสุด คือจากเชียงใหม่ ไปที่แชงกรีล่า (เมืองทางตอนใต้ของทิเบต) ไปกับกลุ่มรถใหญ่
ปัญหาที่พบคือ วิ่งไม่ทันเค้า55 และขี่ไกลๆก็เมื่อยตูด เพราะเบาะแคบ และถังน้ำมันก็เล็ก เพราะไม่ได้ออกแบบ
มาสำหรับวิ่งทางไกล และเราดันใช้งานมันผิดประเภทเอง

2) เมื่อเอาไปลุยหนักๆในป่าในเขาเพียงลำพังคนเดียว ปัญหาที่พบก็คือ รถค่อนข้างหนักและสูง ขนาดผมสูง 174 ซม.
ยังต้องเขย่งปลายเท้าทั้งสองข้าง เวลาเอาไปลุยหนักๆก็มีบ้างที่รถจะเสียหลักลื่นล้ม ส่วนหนึ่งก็เพราะขาไม่ถึงด้วย
และรถก็หนักด้วย พอมันล้มแล้วจะยกรถขึ้นคนเดียวนี่เหนื่อยใช่เล่น ตอนนั้นเริ่มรู้ละ ว่าสำหรับเราแล้ว รถคันนี้ก็ไม่ตอบโจทย์
ในการเอาไปลุยคนเดียว (ถ้าไปกับเพื่อนๆยังพอมีคนช่วยยก)

ในที่สุด คันนี้ก็ไม่ใช่เนื้อคู่ที่แท้จริงของเราอีกคัน จึงตัดสินใจขาย CRF 250 ไป แล้วเริ่มกลับมาคิดว่า จะมีรถคันไหนไม๊?
ที่จะตอบโจทย์เราได้มากที่สุด
บทสรุปก็คือ ถ้าจะเป็นรถคันเดียว ที่น้ำหนักเบา รถไม่สูงเกินไป และสามารถวิ่งทางไกลได้แบบสบายๆ ถังน้ำมันใหญ่
บรรทุกของได้เยอะ รถแบบนั้น ณ ตอนนี้ยังไม่มีหรอก

สุดท้ายและท้ายสุด ก็เลยต้องแก้ปัญหาด้วยการซื้อรถสองคันมันไปซะเลย เลือกใช้รถตามประเภทการใช้งาน
7.. ถ้าจะเอาไปลุยป่าขึ้นเขาคลุกฝุ่น ด้วยรถที่มีน้ำหนักเบา เบาะไม่สูง ไปคนเดียวก็ไม่หวั่น เลยมาจบที่ KLX-150

8. ถ้าจะเอาออกทริปไกลๆ บรรทุกของได้เยอะ วิ่งเร็วพอเกาะกลุ่มกับรถคันอื่นได้แบบไม่เป็นภาระชาวบ้านเค้า
ก็จะเอา V-Strom 650 ไป

สรุป
สุดท้ายแล้ว เจ้าสองคันในตอนนี้ก็ตอบโจทย์ผมได้หมดละ ตั้งใจจะหยุดที่รถสองแบบสองสไตล์นี่ละ
ถ้าในอนาคตจะเปลี่ยนคันใหม่อีก ก็คงจะเปลี่ยนเพราะเหตุผลที่มันเก่าและชำรุดไปตามกาลเวลา
แต่คันใหม่ก็คงไม่พ้นแนวเดิมนี้ เพราะค้นพบตัวเองแล้วว่า มันตอบสนองต่อการใช้งานของเราได้มากที่สุด
แล้วในตอนนี้.

สำหรับท่านใดที่กำลังคิดอยากจะซื้อมอเตอร์ไซค์ที่เอามาขี่เที่ยวในวันหยุด ก็ขอให้ท่านค้นพบตัวเองเร็วๆนะครับ
ว่าตัวเองชอบรถแบบไหน จะได้ไม่ต้องเสียเวลามาเปลี่ยนรถบ่อยๆแบบผม
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่