อ่านเจองานเขียนของโค้ชโปรไลเซ่น โค้ชเศกสรร ศิริพงษ์ ผู้ฝึกสอนสโมสร กำแพงเพชร เอฟซี และโค้ชไทย(คนเดียว) ที่ยื่นโปรไฟล์สมัครเป็นโค้ชทีมชาติยู 23 เรียกเสียงฮือฮา
ขออนุญาตโค้ชเศกสรร มา ณ โอกาสนี้ เพราะกำลังเป็นที่พูดถึงอย่างกว้างขวาง กับคำว่า Pressing น่าจะยกระดับกลายเป็น "วาระฟุตบอลไทย" ที่จะถูกจัดสัมมนาวางทิศทางกันต่อไป
โค้ชเศก ในฐานะของโค้ชสโมสรไทยลีก ยืนยันในบทสรุปตอนท้ายว่า....
'Pressing' ทั้งวิธีการ และหลักการ ฟุตบอลไทยทำได้ครับ
แต่สิ่งแรกที่ลงมือ คือ "ทำความเข้าใจกับมันอย่างถ่องแท้"
เมื่อเข้าใจแล้ว การนำไปปฎิบัติ ก็จะได้ผลสำเร็จตามแบบที่เราได้วางเอาไว้ครับ...
ทำอย่างไร ? จะให้การ Pressing มีประสิทธิภาพ...
ผมเห็นเราพูดเรื่องนักเตะต้องฟิต... ฟิตอย่างไร ? ฟิตอย่างเดียวพอไหม ?
องค์ประกอบอะไรบ้างที่จะทำให้การ Pressing ทำงานได้ผล ผมขอนำแนวทางที่ปฎิบัติมาเขียนให้ลองคิดวิเคราะห์ดูครับ ...ผมยกหัวข้อที่ผู้คนส่วนใหญ่คิดมาไว้เป็นข้อแรกคือ
1. ความฟิต (ความเร็ว ทนทาน ฟื้นฟู)
2. ความสัมพันธ์ของการเคลื่อนที่ของผู้เล่นทั้งทีม
3. การสื่อสารสั่งการในสนามแข่งขัน
4. กำหนดพื้นที่วางกับดักบีบให้เข้าสู่จุดฆ่าที่เรากำหนดไว้
5. ผู้นำที่เข้าใจเกมคอยสั่งการควบคุมจังหวะการเล่น.....
ท่านปฎิบัติจริงแล้วเห็นอะไรดี ๆ ก็นำมาเสริมเติมให้กับทีมของท่านได้เลย เพราะฟุตบอลแต่ละทีมจุดแข็งจุดอ่อนไม่เหมือนกัน
"Pressing" ย้อนมาอีกครั้ง เห็นมีวิเคราะห์วิจารณ์เกี่ยวกับฟุตบอลไทยเรื่องนี้บ่อย ๆ..
ก่อนอื่นคิดจะทำอะไร ? เราต้องเข้าใจเสียก่อนครับ หัวข้อ "pressing"
หัวข้อเดียวมันเกี่ยวพันไปเสียทั้งหมดกว่าจะเห็นผลงานออกมาได้แบบนั้น
ผมว่ามันต้องอธิบายกันหลายแผ่นกระดาษ จะลองย่อมาให้เข้าใจง่าย ๆ นะครับ....
ถ้าด่าระดับประเทศก็ต้องย้อนไปว่า ปรัชญาฟุตบอลของประเทศมีการให้ความสำคัญกับ "pressing" หรือเปล่า ?
และถ้าให้ความสำคัญ โค้ชฟุตบอลที่สอนภายในประเทศเขารู้และเข้าใจหรือเปล่า...
ถ้าด่าสโมสรต้องดูว่า ปรัชญาการเล่นของสโมสรมีหัวข้อนี้หรือเปล่า และโค้ชปฎิบัติตามอย่างเข้าใจหรือไม่...
ถ้าด่านักเตะว่าทำไมไม่ "pressing" ก็ต้องย้อนไปดูในวัยเด็กของพวกเขาด้วยว่าปรัชญาของ "แหล่งเรียนรู้" ของพวกเขาเคยสอนหลักการเล่นpressing มาแล้วหรือยัง
ถ้าทุกที่มีหัวข้อ pressing อยู่ในปรัชญา ก็ต้องมาดูว่าหลักการที่สอนนั้นเป็นไปในทิศทางใด?
ท่านทั้งหลายอย่าเข้าใจผิดว่า pressing คือการไล่กดดันคนมีบอลในทุกแห่งหนของสนาม
เพราะถ้าทำอย่างนั้นนักเตะของท่าน อาจจะเล่นได้ไม่ครบ 90 นาทีหลายคน...
ความแข็งแกร่งของคู่ต่อสู้ มักจะเป็นตัวกำหนดกลยุทธว่า ควรจะเริ่ม pressing พื้นที่ตรงไหน ?
เขาเก่งกว่า หรือพอๆ กับเรา หรือเราเก่งกว่า สไตล์การเล่นก็มีส่วนนี่คือภาพรวม ๆ ยกตัวอย่าง
@คู่ต่อสู้ทักษะดีทุกคนเอาตัวรอดเก่ง ถ้าเราไป pressing สูงอาจจะถูกทะลุทะลวงง่ายพื้นที่ด้านหลัง
แนวรับมีมากจะเสียเปรียบเมื่อเขาแทงทะลุแนวรับ เป็นต้น
รูปทรงกระชับเกมรับ ก็แตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับแทคติค นัดนี้จะบีบให้บอลไปตรงไหนแล้วรุมแย่ง
หรือเน้นแนวป้องกันตรงไหนไม่ให้เขาเจาะได้ มีแนวรับกี่ชั้น 3-4 ชั้นระยะห่างมากน้อยเท่าไร ?
กำหนดใคร ? ที่เป็นคนคอยตะปบเหยื่อ...
สภาพความฟิตของนักเตะ preesing ต้องมีการใช้ความเร็วที่เกิดจากการอ่านเกมคาดเดาเหตุการณ์ปฎิกริยาตอบสนอง
และแน่นอนความอดทนของกล้ามเนื้อที่ต้องวิ่งมาก แต่มีเวลาพักน้อยต้องฟื้นตัวได้เร็ว...
องค์ประกอบมีมากมายครับ สภาพอากาศ พื้นสนาม ล้วนแล้วแต่มีส่วนในการตัดสินใจทั้งสิ้น
สุดท้ายนี้...
ผมขอยกตัวอย่าง(อีกครั้ง) เกี่ยวกับปรัชญาการเล่น เช่น ทีมชาติญี่ปุ่น (แทบทุกครั้งที่พูดถึง pressing คนไทยมักเปรียบเทียบกับบอลญี่ปุ่น)
โค้ชและนักเตะถูกสอนให้เข้าใจในทิศทางเดียวกันคือ
1. ทะลุทะลวงไปข้างหน้า...
2. เปลี่ยนรุกเป็นรับและรับเป็นรุกอย่างรวดเร็ว...
3. ไล่ล่ากดดันอย่างก้าวร้าวเพื่อเอาบอลคืนมา(Aggressive pressing)...
4. ครอบครองบอลเพื่อสร้างโอกาสทะลุทะลวง..
ใน 4 หัวข้อใหญ่มีหัวข้อแยกย่อยละเอียดยิบอีกมากมาย ทั้งวิธีการ และหลักการ ฟุตบอลไทยทำได้ครับ
แต่สิ่งแรกที่ลงมือ คือ "ทำความเข้าใจกับมันอย่างถ่องแท้"
เมื่อเข้าใจแล้ว การนำไปปฎิบัติก็จะได้ผลสำเร็จ ตามแบบที่เราได้วางเอาไว้ครับ...
เครดิต เศกสรร ศิริพงษ์ (ผู้ฝึกสอนสโมสร กำแพงเพชร เอฟซี)
'ปรัชญาฟุตบอลของประเทศ' มีการให้ความสำคัญกับ 'Pressing' หรือเปล่า ? !!!
ขออนุญาตโค้ชเศกสรร มา ณ โอกาสนี้ เพราะกำลังเป็นที่พูดถึงอย่างกว้างขวาง กับคำว่า Pressing น่าจะยกระดับกลายเป็น "วาระฟุตบอลไทย" ที่จะถูกจัดสัมมนาวางทิศทางกันต่อไป
โค้ชเศก ในฐานะของโค้ชสโมสรไทยลีก ยืนยันในบทสรุปตอนท้ายว่า....
'Pressing' ทั้งวิธีการ และหลักการ ฟุตบอลไทยทำได้ครับ
แต่สิ่งแรกที่ลงมือ คือ "ทำความเข้าใจกับมันอย่างถ่องแท้"
เมื่อเข้าใจแล้ว การนำไปปฎิบัติ ก็จะได้ผลสำเร็จตามแบบที่เราได้วางเอาไว้ครับ...
ทำอย่างไร ? จะให้การ Pressing มีประสิทธิภาพ...
ผมเห็นเราพูดเรื่องนักเตะต้องฟิต... ฟิตอย่างไร ? ฟิตอย่างเดียวพอไหม ?
องค์ประกอบอะไรบ้างที่จะทำให้การ Pressing ทำงานได้ผล ผมขอนำแนวทางที่ปฎิบัติมาเขียนให้ลองคิดวิเคราะห์ดูครับ ...ผมยกหัวข้อที่ผู้คนส่วนใหญ่คิดมาไว้เป็นข้อแรกคือ
1. ความฟิต (ความเร็ว ทนทาน ฟื้นฟู)
2. ความสัมพันธ์ของการเคลื่อนที่ของผู้เล่นทั้งทีม
3. การสื่อสารสั่งการในสนามแข่งขัน
4. กำหนดพื้นที่วางกับดักบีบให้เข้าสู่จุดฆ่าที่เรากำหนดไว้
5. ผู้นำที่เข้าใจเกมคอยสั่งการควบคุมจังหวะการเล่น.....
ท่านปฎิบัติจริงแล้วเห็นอะไรดี ๆ ก็นำมาเสริมเติมให้กับทีมของท่านได้เลย เพราะฟุตบอลแต่ละทีมจุดแข็งจุดอ่อนไม่เหมือนกัน
"Pressing" ย้อนมาอีกครั้ง เห็นมีวิเคราะห์วิจารณ์เกี่ยวกับฟุตบอลไทยเรื่องนี้บ่อย ๆ..
ก่อนอื่นคิดจะทำอะไร ? เราต้องเข้าใจเสียก่อนครับ หัวข้อ "pressing"
หัวข้อเดียวมันเกี่ยวพันไปเสียทั้งหมดกว่าจะเห็นผลงานออกมาได้แบบนั้น
ผมว่ามันต้องอธิบายกันหลายแผ่นกระดาษ จะลองย่อมาให้เข้าใจง่าย ๆ นะครับ....
ถ้าด่าระดับประเทศก็ต้องย้อนไปว่า ปรัชญาฟุตบอลของประเทศมีการให้ความสำคัญกับ "pressing" หรือเปล่า ?
และถ้าให้ความสำคัญ โค้ชฟุตบอลที่สอนภายในประเทศเขารู้และเข้าใจหรือเปล่า...
ถ้าด่าสโมสรต้องดูว่า ปรัชญาการเล่นของสโมสรมีหัวข้อนี้หรือเปล่า และโค้ชปฎิบัติตามอย่างเข้าใจหรือไม่...
ถ้าด่านักเตะว่าทำไมไม่ "pressing" ก็ต้องย้อนไปดูในวัยเด็กของพวกเขาด้วยว่าปรัชญาของ "แหล่งเรียนรู้" ของพวกเขาเคยสอนหลักการเล่นpressing มาแล้วหรือยัง
ถ้าทุกที่มีหัวข้อ pressing อยู่ในปรัชญา ก็ต้องมาดูว่าหลักการที่สอนนั้นเป็นไปในทิศทางใด?
ท่านทั้งหลายอย่าเข้าใจผิดว่า pressing คือการไล่กดดันคนมีบอลในทุกแห่งหนของสนาม
เพราะถ้าทำอย่างนั้นนักเตะของท่าน อาจจะเล่นได้ไม่ครบ 90 นาทีหลายคน...
ความแข็งแกร่งของคู่ต่อสู้ มักจะเป็นตัวกำหนดกลยุทธว่า ควรจะเริ่ม pressing พื้นที่ตรงไหน ?
เขาเก่งกว่า หรือพอๆ กับเรา หรือเราเก่งกว่า สไตล์การเล่นก็มีส่วนนี่คือภาพรวม ๆ ยกตัวอย่าง
@คู่ต่อสู้ทักษะดีทุกคนเอาตัวรอดเก่ง ถ้าเราไป pressing สูงอาจจะถูกทะลุทะลวงง่ายพื้นที่ด้านหลัง
แนวรับมีมากจะเสียเปรียบเมื่อเขาแทงทะลุแนวรับ เป็นต้น
รูปทรงกระชับเกมรับ ก็แตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับแทคติค นัดนี้จะบีบให้บอลไปตรงไหนแล้วรุมแย่ง
หรือเน้นแนวป้องกันตรงไหนไม่ให้เขาเจาะได้ มีแนวรับกี่ชั้น 3-4 ชั้นระยะห่างมากน้อยเท่าไร ?
กำหนดใคร ? ที่เป็นคนคอยตะปบเหยื่อ...
สภาพความฟิตของนักเตะ preesing ต้องมีการใช้ความเร็วที่เกิดจากการอ่านเกมคาดเดาเหตุการณ์ปฎิกริยาตอบสนอง
และแน่นอนความอดทนของกล้ามเนื้อที่ต้องวิ่งมาก แต่มีเวลาพักน้อยต้องฟื้นตัวได้เร็ว...
องค์ประกอบมีมากมายครับ สภาพอากาศ พื้นสนาม ล้วนแล้วแต่มีส่วนในการตัดสินใจทั้งสิ้น
สุดท้ายนี้...
ผมขอยกตัวอย่าง(อีกครั้ง) เกี่ยวกับปรัชญาการเล่น เช่น ทีมชาติญี่ปุ่น (แทบทุกครั้งที่พูดถึง pressing คนไทยมักเปรียบเทียบกับบอลญี่ปุ่น)
โค้ชและนักเตะถูกสอนให้เข้าใจในทิศทางเดียวกันคือ
1. ทะลุทะลวงไปข้างหน้า...
2. เปลี่ยนรุกเป็นรับและรับเป็นรุกอย่างรวดเร็ว...
3. ไล่ล่ากดดันอย่างก้าวร้าวเพื่อเอาบอลคืนมา(Aggressive pressing)...
4. ครอบครองบอลเพื่อสร้างโอกาสทะลุทะลวง..
ใน 4 หัวข้อใหญ่มีหัวข้อแยกย่อยละเอียดยิบอีกมากมาย ทั้งวิธีการ และหลักการ ฟุตบอลไทยทำได้ครับ
แต่สิ่งแรกที่ลงมือ คือ "ทำความเข้าใจกับมันอย่างถ่องแท้"
เมื่อเข้าใจแล้ว การนำไปปฎิบัติก็จะได้ผลสำเร็จ ตามแบบที่เราได้วางเอาไว้ครับ...
เครดิต เศกสรร ศิริพงษ์ (ผู้ฝึกสอนสโมสร กำแพงเพชร เอฟซี)