ทริปท่องเที่ยวตปท.ครั้งแรกด้วยตัวเอง ฉบับละเอียดยิบ @ Japan นาริตะ > ทาคายาม่า > ชิราคาวาโกะ > คาวากุจิโกะ > นาริตะ

[CR] ทริปท่องเที่ยวตปท.ครั้งแรกด้วยตัวเอง ฉบับละเอียดยิบ @ Japan นาริตะ > ทาคายาม่า > ชิราคาวาโกะ > คาวากุจิโกะ > นาริตะ

กระทู้รีวิว

ประเทศญี่ปุ่น เที่ยวต่างประเทศ Backpack เที่ยวญี่ปุ่น อาหารญี่ปุ่น

ก่อนอื่นต้องบอกก่อนเลยว่านี่เป็นการเขียนกระทู้ครั้งแรกเลยครับ จุดประสงค์ในการเขียนกระทู้ครั้งนี้ก็อยากจะแชร์ประสบการณ์ และถือเป็นการขอบคุณผู้ที่เสียสละแบ่งปันข้อมูลดีๆ จนทำให้ผมมีทริปนี้ได้ครับ

ทริปนี้ก็ถือว่าเป็นความผิดพลาดเล็กน้อยครับ โดยที่ผมอยากไปเที่ยวญี่ปุ่นและไม่มีประสบการณ์เลยครับ ไปเห็นตั๋วไปลงที่โตเกียวราคาไม่แพงเลยรีบจัดเลยครับ

แต่ปรากฎว่าพอมาศึกษาที่ท่องเที่ยวดันมาถูกใจที่ ทาคายาม่า และชิราคาวาโกะ ซึ่งพอมาดูแล้วไกลอ้วกเลย (ที่จริงควรจะไปลงสนามบินนาโกย่าน่าจะดีกว่า)

แต่ด้วยเหตุผลดังนี้ผมเลยยอมตัดสินใจเสียเวลาไปหนึ่งวันเพื่อเดินทางครับ
1.ผมและผู้ร่วมทริปไม่ได้มีนิสัยชอบการช๊อปปิ้งมากนัก
2.อยากไปชมวิถีแบบบ้านๆ และเป็นเมืองที่มีอากาศดี
3.ผมและผู้ร่วมทริปชื่นชอบการกินเนื้อมากๆ

ด้วยเหตุผลประมาณนี้เลยยอมจริงๆ และบอกตรงๆว่าแฮปปี้มากๆครับ (ตอนหาข้อมูลเจอดราม่าเรื่องการเดินทางจาก นาริตะไปทาคายาม่าเยอะมาก)

น้ำมาเยอะแล้วเข้าประเด็นดีกว่าครับ 5555
ทริปนี้ผมใช้เวลาทั้งหมด 4 วัน เดินทางกัน 2 คนครับ โดยเส้นทางคร่าวๆประมาณนี้ครับ

First Day : สนามบินนาริตะ > ชินจูกุ > ทาคาย่ามา
Second Day : ทาคาย่ามา > ชิราคาวาโกะ > ทาคาย่ามา
Third Day : ทาคาย่ามา > คาวากุจิโกะ > นาริตะ
Fourth Day : คาวากุจิโกะ > มิชิมะ > โตเกียว > สนามบินนาริตะ

เส้นทางอย่างละเอียดตามรูทล้านล่างนี้ครับ

First Day : สนามบินนาริตะ > ชินจูกุ > ทาคาย่ามา

ผมออกเดินทางจากสนามบินดอนเมืองเวลาประมาณตีหนึ่งกับสายการบิน Thai Lion ครับ ลงที่นาริตะประมาณ 9 โมงนิดๆ ใช้เวลาไม่นานก็สามารถออกจากจุดตรวจต่างๆได้เลยครับ (ตม.เค้าดูใจดีกับคนไทยมากครับ ผมกับแฟนลืมเขียนอาชีพ ยังออกมาได้ ไม่ถามอะไรเลย)

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

จากสนามนาริตะบินผมใช้ N'EX (Narita Express) เป็นรถไฟเพื่อเดินทางไปยังชินจูกุเพื่อต่อรถครับ เหตุผลที่เลือก N'EX เพราะว่าต้องการประหยัดเวลา และสามารถไปลงที่ชินจูกุได้เลย ส่วนวิธีการซื้อตั๋วผมเลือกซื้อที่เค้าเตอร์เลย เนื่องจากต้องการจองแบบไปกลับ ซึ่งวันเวลากลับเรามีแน่นอนแล้วครับ (จองแบบไปกลับจะมีราคาโปรโมชั่น คนละ 4000 ‎¥‎) สำหรับใครที่ไม่เคยมาเหมือนผม ตอนแรกก็กังวลมากครับ จะต้องไปทางไหนอะไรยังไง พอออกจาก ตม.แล้ว ก็ไปตามป้ายเลยครับ แล้วก็หาสัญลักษณ์ของ N'EX รับรองไม่พลาดครับ

ถึงสถานีชินจูกุหลายๆท่านที่ว่ายากว่าหลง ซับซ้อนสุดๆ ทำไมผมมาง่ายจัง ลงจาก N'EX แล้วเจอทางออก New South Gate Exit เลยครับ ออกทางออกนี้เลย ดูในรูปที่ 3 จะเห็นว่าทางออก New South Gate Exit อยู่ด้านหลัง ทางขวามือของรูปเป็นบันไดเลื่อนขึ้นไปชั้น 4 คือ Shinjuku Bus Terminal ถ้าจองตั๋วมาแล้ว เอา E-Ticket ให้เจ้าหน้าที่แถวๆเค้าเตอร์ที่จองตั๋วดูครับ เค้าจะบอกว่าเราต้องไปขึ้นรถที่ไหน ระหว่างรอขึ้นรถมีเวลา 2 ชม. กว่า เลยจะเอากระเป๋าไปฝากตู้ล็อคเกอร์ไว้ก่อนครับ ปรากฎว่าเต็มหมด เลยเอาไปฝากที่ Sagawa Cloak & Delivery จากรูปที่ 3 จะมีบันไดเลื่อนอยู่ทาง

ซ้ายมือของภาพ ขึ้นไปจะถึงชั้น 3 จะเจอ tourist information center tokyo ตามรูปที่ 4 และจะมีเคาเตอร์รับฝากกระเป๋าอยู่ด้านในครับ ค่าฝากก็แพงเอาเรื่องครับ ใบละ 800 ¥ โดนไปสองใบ (ตู้ล็อตเกอร์ไซด์ใหญ่ 600-1000¥)

และแล้วก็ถึงเวลาเที่ยวครับ หาข้อมูลไว้หลายร้าน เนื่องจากเราต้องการประหยัดงบประมาณและอยากไปสัมผัสฟิ่งลิ่งแบบใหม่ เลยเลือกไปซูชิยืนกินที่ร้าน "Standing Sushi Bar (Uogashi Nihon-Ichi)" ขอบอกว่าประทับใจจริงๆครับ เป็นประสบการณ์ที่ดีมาก เข้าไปถึงแบบมึนมาก ทำอะไรไม่ถูกเลย เค้าก็ค่อยๆแนะนำโดยใช้ภาษามือเป็นหลัก ฮ่าฮ่าฮ่า

เดินเข้าไปยืนหน้าเค้าเตอร์เค้าจะมีเมนูวางอยู่ แต่เป็นภาษาญี่ปุ่น หันไปบอกแฟน "_ิบหายละ" ซักพักเชฟหันไปหยิบเมนูภาษาอังกฤษมาให้ โล่งเลย เราสั่งแล้วเชฟจะปั้นให้สดๆเลย ฟินมากครับ มาร้านนี้แนะนำ โฮตาเตะ สดหวานมาก ร้านนี้หลายๆเมนูเค้าจะใช้วิธีการทอช (เบิร์น) จะทำให้มีกลิ่นแก๊สติดมานิดหน่อย แต่รับได้ครับ ซัดกันไป 18 คู่ โดนค่าเสียหายไป 3200¥ ถือว่าคุ้มค่าครับ สด อร่อย แนะนำว่าพวกซาซิมิส่วนตัวผมเฉยๆ ทั้งแซลมอน และโอโทโร่ ครับ

ก่อนกลับถ่ายรูปกับเซฟมาด้วยครับ อิอิ ใจดีมาก

หลังจากทานมื้อเที่ยงเสร็จ ระหว่างรอขึ้นรถบัสไปทาคายาม่าเราก็เดินเล่นอยู่บริเวณใกล้ๆ Shinjuku Station ครับ ไม่ได้ซื้อเสบียงเตรียมไปมากนักครับ เพราะเค้ามีแวะระหว่างทางตลอดครับผม

เดินทางด้วยรถบัสจากชินจูกุไปทาคายาม่าใช้เวลาประมาณ 5.30 ชม. ครับ มีแวะพักรถให้สามครั้ง ครั้งนึงประมาณ 10 นาทีครับ แต่ละที่ก็สวยๆครับ ต้องเลือก ว่าจะไปถ่ายรูป หรือจะไปซื้อของกิน ผมนี่วิ่งแทบไม่ทันเลยครับ 555 ที่สุดท้ายตอนกลางคืนมีออนเซนให้แช่เท้าได้ด้วย แต่ไม่มีเวลาละครับ ลงรถไปนี่หนาวสะท้านเลยครับ

หลังจากที่เดินทางมากว่าห้าชั่วโมงเราก็มาถึงทาคายาม่าครับ ผมพักที่โรงแรมคันทรีทากายาม่า เนื่องจากว่าราคาไม่สูงมากราคาอยู่ที่ 15xx บาทต่อคืนครับ และที่พักอยู่ตรงข้ามท่ารถบัสที่เราจะใช้เดินทางเลยครับ สะดวกมากๆ แต่ห้องพักนี่ เล็กสุดๆ สุดๆจริงๆ 555 แต่ก็โอเคนะครับ นอนได้ หลับสบายครับ

และแล้วก็ถึงหนึ่งในสิ่งที่อยากจะมามากที่สุดเลยครับ นั่นคือร้านขายเนื้อฮิดะ F1 ในตำนาน ร้านชื่อ "Sengoku-ya 焼肉千石屋"

ลุ้นมากๆครับ เพราะกลัวคนเยอะ แล้วถ้าไม่กินคืนนี้เลยจะไม่มีโอกาสได้กินแล้ว เพราะอีกวันนึงเค้าหยุดครับ รีบเช็คอิน เสร็จแล้วรีบตรงมาทันทีเลยครับ อยู่ไม่ไกลจากที่พัก เดินมาประมาณ 5 นาทีก็ถึงครับ

คือร้านนี้คนรีวิวไว้เยอะจริงๆครับ และก็ไม่ผิดหวังจริงๆครับ แนะนำว่าให้ลองสั่งเนื้อหลายๆแบบมาลองทานดูครับ มันมีความอร่อยแตกต้องกันออกไปครับผม ถ่ายไม่ค่อยทันจริงๆ แต่มีเมนูนึงที่ผมชอบมากๆคือตัวเนื้อสไลด์บางๆที่มีต้นหอมซอยว่าอยู่ด้านบนครับ เป็นตัวถูกของเค้า แต่มีวิธีการปรุงที่ซับซ้อนสุดครับ เค้าจะมีเลมอนด้วย บีบใส่เนื้อ แล้วเอาตัวเลมอนที่บีบแล้วไปทาบนตระแกงครับ ความหอมลอยขึ้นมาสดชื่นมากๆ และเอาเนื้อลง พอเริ่มสุก พลิกอีกด้าน เอาต้นหอมว่าด้านบน พอสุกก็ทานกลับน้ำจิ้มของเค้าครับ

ส่วนเนื้ออื่นๆก็ปิ้งกินกับน้ำจิ้มของเค้า ซึ่งดีมากจริงๆครับ อร่อยสุดๆ ในรีวิวที่ผมไปอ่านมาเค้าบอกกิมจิอร่อย ลองสิครับ แต่ผมเฉยๆนะครับ อร่อยดี แต่ไม่ได้ตื่นเต้น เพราะปกติก็ไม่ได้ชอบกินมากมายครับ แต่ย้ำไว้เลยครับ ห้ามพลาด (เขียนไป หิวไปเลยครับ)

สนนราคาค่าเสียหายไปประมาณ 9xxx ¥ ครับ มันไม่ได้แพงมากนะครับ แต่กินเยอะมาก คิดแล้วว่าถ้ากินที่ไทย เป็นหมื่นบาทแน่นอน

Second Day : ทาคาย่ามา > ชิราคาวาโกะ > ทาคาย่ามา

วันที่สองออกจากโรงแรมคันทรีทาคายาม่าเพื่อไปขึ้นรถไปชิราคาวะโกะครับ ซึ่งท่ารถบัสอยู่ตรงข้ามโรงแรมเลย แต่เราก็เกือบไม่ทัน เพราะว่าประมาทจัด คิดว่าใกล้ รถบัสไม่รอนะครับ ออกตรงเวลา ภาพบรรยากาศระหว่างทางครับ

เมื่อมาถึงชิราคาวะโกะเราก็ขึ้นไปจัดชมวิวกันก่อนเลยครับ จะมีรถไมโครบัสวิ่งตลอดครับ คนละ 200¥ ครับ โดยที่ขึ้นรถบัสจะอยู่ฝั่งเดียวกับท่ารถบัสใหญ่ครับ เดินเข้ามาทางหมู่บ้านจะเห็นอยู่ซ้ายมือครับ มีป้ายเล็กๆตั้งอยู่ สั่งเกตุง่ายๆคิดจะมีคนต่อแถวอยู่ครับ

ขึ้นไปถึงเค้าจะมีจุดที่เค้าจัดไว้ให้ชมวิว มีร้านขายของที่ละลึก เนื่องจากว่าเมื่อเช้ายังไม่ได้กินอะไรเลย มีซาลาเปาเนื้อฮิดะขายอยู่ ก่อนมาเที่ยว อ่านรีวิวมีแต่คนบอกว่าอร่อย ผมจัดมาหนึ่งลูก กินเข้าไปมันแปลกๆยังไงไม่รู้ แต่ก็กินจนหมดด้วยความหิว พ่นน้ำหมาก

จุดชมวิวที่เค้าจัดไว้ให้ ไม่ใช่จุดที่สวยที่สุดเพียงจุดเดียวนะครับ จากจุดที่เราลงรถไมโครบัส เดินตามถนนมาจะมีทางลง คลาดว่าตรงนี้น่าจะเป็นทางเดินขึ้นลงครับ สวยไม่แพ้กับจุดที่เค้าจัดไว้ให้ครับ (สองรูปล่างครับ) เสร็จจากจุดชมวิวด้านบน เราก็นั่งรถไมโครบัสลงเช่นเดิมครับ เสียอีกคนละ 200¥ มีประเด็นน่ากลัว คนขับรถน่าจะเป็นพาร์กินสัน กระตุกหนักมาก แต่แกขับรถปกตินะ แต่ก็มันทางลงเขานะครับ เสียวดีจริง 5555 ดูหน้าแฟนผมได้เป็นหลักฐานครับ ฮ่าฮ่าฮ่า

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

ด้านล่างก็ไม่มีอะไรมากครับ เดินเล่นถ่ายรูปไปทั่วเลย ไม่ได้เข้าบ้านไหนเลยครับ จะหาร้านอาหาร ปิดเกือบหมด งงมากเลย ก็เลยหาอะไรกินเล่นๆไปก่อนครับ เนื้อฮิดะเสียบไม้ ไอติม กาแฟ บลาๆๆๆ แล้วเดี๋ยวไปกินร้านเด็ดๆที่มาคายาม่ากันครับ