_________________________________________
มุม | มอง คลองเตย
_________________________________________
"P E R S P E C T I V E''
_________________________________________
สวัสดีทุกๆคนในพันทิปนะครับ วันนี้กลับมาอีกครั้งกับการออกทริปเล็กๆของผม
ไปกับสถานที่ในวันนี้คือ ''ชุมชนโรงหมู คลองเตย''
แล้วถ้าผมจะขออนุญาติตั้งคำถามกับทุกคนก่อนว่า
"ชุมชนคลองเตย ถ้าให้นึกภาพ จะคิดถึงอะไรครับ?"
.
.
.
.
หยุดคิดสักครู่นะครับ ค่อยๆนึก ค่อยๆจินตนาการความรู้สึกของคุณเอาไว้
ต้องออกตัวก่อนว่ามีทริปครั้งนี้มีได้เพราะเพื่อนคนนึงชักชวนให้ผมไปออกทริปถ่ายรูปด้วย
โดยเป็นโครงการของเพจ musicsharing ที่ทำเกี่ยวกับชุมชนคลองเตยนี้อยู่โดยตรง
ซึ่งจะคอยสอนดนตรี สอนศิลปะ รวมทั้งพัฒนาชุมชนในแบบต่างๆร่วมกันไปอีกด้วย
พอผมได้รับโทรศัพท์เช่นนั้นก็ตัดสินใจแทบจะในทันทีเลยว่า
"ผมจะไป"
แต่เชื่อมั๊ยครับ ในหัวผมกลับไม่มีภาพอะไรเกี่ยวกับชุมชนนี้มากนัก
ได้แต่จินตนาการเอาเอง แล้วคิดคร่าวๆจากความเข้าใจภายใต้จิตสำนึกที่ว่า
เป็นชุมชนแออัด
อีกแห่งนึงของกรุงเทพก็เท่านั้น...
_________________________________________
perspective no.1
"beside / another side"
"Beside" ถ้าให้แปลตรงๆก็หมายถึงอยู่ข้างๆกัน
ผมเดินผ่านสะพานข้ามคลองที่มีน้ำสีขุ่นมัวเป็นทิวทัศน์วาดไว้แนวยาวตลอดฝากฝั่ง
ซึ่งเส้นทางนี้ยังเชื่อมไปจนถึงถนนพระราม4 และต่อยาวไปจนถึงถนนสายธุรกิจ
ที่มีมูลค่าที่ดินสูงเป็นอันดับต้นๆของกรุงเทพมหานคร
หรือก็คือย่านสุขุมวิทนั่นแหละครับ
เพียงแค่ถนนคอนกรีต สะพาน และสายน้ำกั้นเอาไว้
ชุมชนแห่งนี้ก็เหมือนอยู่แบบ another side มากกว่า beside แล้ว
ทั้งที่หากจะว่ากันตามความเป็นจริง
เขาก็อยู่กันแบบ 'ข้างๆ' เรามาตลอดนะครับ
perspective no.2
"feel?"
คุณว่า...คุณยายในรูปกำลังทำอะไรอยู่ครับ?
ก็ยิ้มไง! ของแค่นี้จะถามทำไม เห็นอยู่ทนโท่
งั้นถ้าผมเปลี่ยนคำถามใหม่ว่า
'คุณยายท่านนี้กำลังรู้สึกอะไรอยู่ครับ?'
รู้มั้ยครับว่า ก่อนที่ผมจะกดชัตเตอร์เพื่อถ่ายรูปนี้มา คุณยายเพิ่งจะพูดกับผมเองว่า
"เมื่อไหร่จะตายไปให้พ้นๆ มีแต่คนบอกให้ยายตายเร็วๆ"
ผมได้แต่บอกกับท่านว่า 'อย่ารีบสิครับ อยู่ก่อนสิจะรีบทำไม'
เพราะตั้งแต่เดินมาเจอ คุณยายท่าทางซึมๆ ไม่ยิ้มเลย ผมคิดในใจว่า 'ถ้าหากคุณยายยิ้มคงจะน่ารักมาก'
เลยนั่งพูดคุยกับคุณยายกันที่พื้นริมถนนตรงนั้น ซึ่งตัวคุณยายก็เล่าว่าแกมีลูกอยู่สองคน
คนนึงเป็นลูกชาย ตอนนี้ติดคุกอยู่ ส่วนลูกสาวไม่อยู่ มีแต่ลูกเขย กับหลานคนนึง
มีปัญหากันตามประสาครอบครัวทั่วๆไป
พอดีตอนนั้นมีรถเข็นขายนมผ่านมา รุ่นพี่คนนึงในทีมผมก็เลยซื้อนมเปรี้ยวเผื่อให้คุณยายทาน
คุณยายรีบหันมาบอกผมเสียงเบาๆว่า
"อย่าเพิ่งเจาะนะ ขอยายเก็บไว้ให้หลานได้มั๊ย"
สุดท้ายก่อนจากลากันด้วยการที่มือเหี่ยวย่นนั้นยกไหว้ขึ้นท่วมหัว
แล้วอวยพรให้พวกผมมีแต่ความสุขความจำเริญ
ผมเองก็ขอให้ยายสุขภาพแข็งแรง แล้วยิ้มเยอะๆแบบในรูปนะครับ
perspective no.3
"home made"
ร้านข้าวราดแกงรสชาติเด็ดดวงที่ผู้คนในละแวกชุมชนนั้นแวะเวียนเข้ามาฝากท้องฝากพุงกันเอาไว้มากมาย
แถมยังมีบริการเดลิเวอรี่ เดินไปส่งถึงหน้าบ้านแบบไม่ต้องกดเรียกแกรบฟู้ดแต่อย่างใด
คงพอรับประกันฝีมือคุณป้าเจ้าของร้านได้เป็นอย่างดีแน่นอน
แต่สิ่งที่นอกเหนือจากแกงเขียวหวานรสชาติจัดจ้านแล้วนั้น
คำพูดที่คนพากัน'ติดปาก'เอามาฝากไว้ที่ร้านข้าวแกงแห่งนี้ทำให้ผมอดต้องยิ้มออกมากว้างๆไม่ได้
เมื่อ'คำเรียกแทนตัว'ที่พูดคุยกันอย่างสนิทชิดเชื้อเสมือนทุกคนเป็นคนในครอบครัวของตัวเอง
มีการมานั่งอ่านหนังสือพิมพ์ที่โต๊ะกินข้าว ถกกันเรื่องข่าว เม้าท์มอย บรรดาลูกเล็กเด็กแดงที่เดินผ่านไปผ่านมา
ก็ยกมือไหว้ญาติผู้ใหญ่กันมือขวิดมืองอ ส่งเสียงเจื้อยแจ้วทักทายเรียกป้าคะ ลุงขากันอย่างน่าเอ็นดู
ทำให้ผมยิ่งรับรู้ว่าที่นี่เป็นเหมือน 'โฮม' ที่ 'เมด' ความสุข ความอบอุ่นขึ้นมา
โดยแทบไม่ต้องปรุงรสชาติใดๆเพิ่มเลย มันกลมกล่อมไม่แพ้แกงเขียวหวานในหม้อเลยล่ะครับ
perspective no.4
"PR"
บ้านหลังขนาดพอดิบพอดีของ'คุณลุงต่าย คลองเตย'
ที่มีกิมมิคเตะตาขัดแข้งขัดขาคนที่เดินผ่านไปผ่านมาให้เห็นเป็นอย่างแรกก็คือรูปวาดของคุณลุงต่ายที่ฝาผนังบ้าน
พอได้เข้าไปทักทายพูดคุย คุณลุงต่ายก็ยิ้มแย้มเชิญชวนให้เข้าไปนั่งในบ้านอย่างไม่มีหวงแหนแต่อย่างใด
แถมยังเลี้ยงเจ้ากระต่ายตัวโตที่ชื่อ ตูมตาม เอาไว้เป็นเพื่อนแก้เหงาอีกตัวนึงอีกด้วย
ถามคุณลุงว่าทำไมต้องเลี้ยงกระต่ายครับ
คุณลุงตอบว่า 'เพราะลุงชื่อต่าย เลยเลี้ยงกระต่าย'
น่ารักดีใช่มั้ยล่ะครับ
หากใครแวะผ่านไปผ่านมาที่ชุมชนคลองเตย อย่าลืมลองแวะเข้าไปทักทาย
'คุณลุงต่าย คลองเตย' กับเจ้า 'กระต่าย' ตูมตามกันดูนะครับ
ผมว่าคุณลุงเปรียบเหมือนกับฝ่ายประชาสัมพันธ์ของชุมชนเลยทีเดียวล่ะ
P e r s p e c t i v e | มุม | มอง | ชุมชนคลองเตย