[CR] รีวิวสกินแคร์รูทีนที่ใช้แบบ Every day&Every night ฉบับ คนผิวผสม

สำหรับรีวิวนี้เป็นรีวิวสกินแคร์ของคนผิวผสมแบบเรานะคะ แบบจะแห้งไปเลยก็ไม่ หรือจะหน้ามันให้สุด ก็ไม่ยอม เลือกยากนัก เลยเป็นมันทั้ง 2 แบบ 5555+ ทำให้เราต้องหาสกินแคร์สูตรพิเศษหน่อยที่ใช้ได้ดีในคนผิวผสมแบบเรามาใช้ค่ะ

ซึ่งก่อนหน้าเราก็ใช้มาหลายตัว และส่วนใหญ่ที่ใช้มาก็จะให้ผลลัพธ์ที่ไม่ได้ดีขึ้นแต่ก็ไม่ได้แย่ลงอ่ะค่ะ แบบสภาพผิวทรงๆ มีสิวอุดตันขึ้นบริเวณหน้าผากประปรายกับแก้มที่แห้งลอกมากแต่งหน้าไม่ติดเลย ก็เลยยังไม่กล้าทำรีวิวออกมาแชร์ เพราะอยากหาตัวที่ใช้แล้วชัวร์จริงๆ ว่าผิวหน้าจะดีขึ้นได้ จนมาจบที่สกินแคร์รูทีนเซ็ตนี้ค่ะ

 
มาเริ่มกันที่ตัวแรกเลยค่ะ
 
 
Senka Perfect Whip ราคา 149 บาท
โฟมล้างหน้าของเซนกะตัวนี้ ตอบโจทย์เราสำหรับคนที่ไม่ค่อยชอบเจล คือเราเคยใช้เจลล้างหน้าแล้วรู้สึกว่ามันไม่ค่อยสะอาดค่ะ (อันนี้เป็นความชอบส่วนตัวนะคะ บางคนอาจจะชอบแบบสะอาดเอี๊ยดๆหรือติดความชุ่มชื้นก็เลือกให้เหมาะกับตัวเองได้เลยค่ะ) ซึ่งก่อนหน้าเราใช้เจลของสมูทอีกับคลีนแอนด์เคลียร์ ยอมรับว่า มันทำให้ผิวชุ่มชื้น แต่อย่างที่บอกว่าเราไม่ค่อยปลื้มเนื้อเจลของมัน เลยพยายามหาโฟมล้างหน้าที่ให้ความชุ่มชื้นมาแทนค่ะ จนมาเจอตัวนี้ซึ่งเป็นโฟมล้างหน้าเนื้อวิปโฟมแต่ให้ความชุ่มชื้นได้ดีมาก เป็นสูตรทำความสะอาด และช่วยเก็บกักน้ำใต้ผิว ทำให้ผิวนุ่มชุ่มชื้นและไม่แห้งตึงหลังล้างหน้า แถมตอนนี้เห็นมีสูตรใหม่สำหรับผิวผสมด้วย น่าใช้มาก รอหลอดนี้หมดก่อนจะไปสอยมาใช้แน่นอนค่ะ

To Use : ใช้ล้างหน้าทั้งกลางวันและกลางคืนค่ะ เป็นสเต็ปแรกของการเริ่มดูแลผิวหน้าเลยคือ การทำความสะอาดค่ะ ซึ่งเราใช้แล้วตัวนี้ค่อนข้างทำความสะอาดได้ดีแต่ผิวก็ไม่เสียความชุ่มชื้นไปและทำให้ผิวนุ่มขึ้นด้วยค่ะ

 
Za TRUE WHITE EX Essence Lotion ราคา 420 บาท
 
 
น้ำตบซีเอที่ช่วยให้ความชุ่มชื้นผิวในช่วงแรกได้ดีมาก เหมาะเป็นเฟิร์สสกินแคร์สำหรับดูแลผิวทั้งกลางวันและกลางคืนค่ะ ขวดนี้ราคาค่อนข้างย่อมเยาว์และเป็นมิตรกับเงินในกระเป๋ามาก เราเองก็เคยอยากใช้น้ำตบมานานลองมาหลายตัวแต่ก็มักจะแพ้ในส่วนผสมบางตัวที่บางยี่ห้อใส่มา แต่ตัวนี้สำหรับเราไม่แพ้ค่ะ ก็เลยใช้ได้ เป็นน้ำตบเอสเซ้นท์มีเนื้อค่อนข้างเหนียว มีกลิ่นหอมของน้ำหอมแต่ไม่มีแอลกอฮอลล์ค่ะ และค่อนข้างจะกักเก็บความชุ่มชื้นได้ดีมากๆเลย ซึ่งน้ำตบเนี่ยใครผิวแห้งควรจะมีนะคะ แนะนำมากๆเพราะนอกจากจะให้ความชุ่มชื้นแล้วยังใช้ง่ายด้วยค่ะ แค่เทลงมือ 1-2 หยด แล้วตบๆให้ทั่วผิวเป็นอันเสร็จแล้วค่ะ

To Use : ใช้เป็นสกินแคร์ตัวแรกของการบำรุงผิวในตอนกลางวันและกลางคืน เพราะเนื้อค่อนข้างซึมง่าย ไม่ทิ้งความเหนอะหนะไว้บนผิว ตัวนี้ค่อนข้างให้ความชุ่มชื้นได้ดีมาก แต่ถ้าใครผิวแห้งมากๆตัวนี้อาจจะไม่พอนะคะ เพราะมีบางช่วงที่เราเองก็ผิวแห้งมาก ทาตัวนี้ก็ยังรู้สึกผิวแห้งๆอยู่บ้างค่ะ
 
 
Joliena plus ราคา 1,290 บาท
 
ลงน้ำตบแล้วต่อมาต้องลงมอยส์เจอร์ไรเซอร์ค่ะ เราข้ามโทนเนอร์เพราะตัวมอยส์เจอร์ไรเซอร์เองก็ค่อนข้างให้ความชุ่มชื้นทดแทนได้ดีอยู่แล้ว ตัวนี้เป็นครีมรกแกะจากออสเตรเลีย สาวๆบางคนอาจจะรู้สึกว่าหนักหน้าแต่ไม่เลยค่ะ เพราะมันเป็นเนื้อครีมแบบมอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่ค่อนข้างบางเบา สามารถทาบำรุงแน่นๆเข้าไปได้อีกตัวโดยไม่เหนียวเลยค่ะ เนื้อครีมจะค่อนข้างซึมง่าย ไม่มีความมันหรือหนักผิวเหมือนครีมรกแกะทั่วๆไปที่เคยใช้มา มีกลิ่นหอมอ่อนๆ แต่ใช้ได้แม้ผิวบอบบางเพราะผ่านการทดสอบมาแล้วค่ะ ตัวรกแกะที่เป็นส่วนผสมหลักจะช่วยเรื่อง ผิวเนียนนุ่ม ผิวเด้ง ลดอายุของผิว แต่ก็ยังมีส่วนผสมอื่นๆอย่างแตงกวาที่จะมอบความชุ่มชื้นให้ผิวและลดเลือนริ้วรอยด้วยค่ะ กระปุกค่อนข้างใหญ่และใช้ได้นานมากๆ เหมาะกับคนที่อยากได้ทั้งครีมบำรุงตัวเดียวหรือจะใช้ร่วมกับตัวอื่นก็ได้เช่นกันค่ะ

To Use : เราใช้ทาเป็นตัวที่สองหลังลงน้ำตบบนผิวแต่บางครั้งก็ใช้ลงเป็นตัวแรกค่ะ เพราะเนื้อเข้มข้นแต่ซึมง่าย ถ้าใช้ตอนเช้าจะทำให้ผิวชุ่มชื้นและแต่งหน้าติดทนมากขึ้น ส่วนตอนกลางคืนก็ทำให้ผิวนุ่มชุ่มชื้นและลดริ้วรอยได้ดี ตื่นเช้ามาผิวจะนุ่มฟูมากๆค่ะ

BIOTHERM Aquasource Everplump ราคา 1,800 บาท
 
กระปุกนี้เป็นมอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่เข้มข้นอีกตัวค่ะ แต่เราเลือกใช้เฉพาะกลางคืน เพราะตัวเนื้อของมันเป็นเจล สำหรับเราเลยค่อนข้างมันในตอนเช้าและกลางวันค่ะ เลยจัดให้เป็นสกินแคร์บำรุงกลางคืนอย่างเดียว เป็นครีมกระปุกบำรุงผิว ที่ให้ผิวรู้สึกสดชื่นได้ดี กระปุกใหญ่ หนามาก ราคาก็ไม่แพง และให้เยอะมากๆค่ะ เน้นเรื่องการให้ความชุ่มชื้นกับผิวและลดเลือนริ้วรอยค่ะ ตัวเจลเองก็มีกลิ่นหอมมาก เหมือนหอมสมุนไพรหน่อยๆ แต่ไม่เหม็นนะคะ และเคลมว่าเห็นผลใน 1 สัปดาห์ซึ่งส่วนใหญ่ผลิตภัณฑ์ของไบโอเดิร์มจะระบุเวลาในการเห็นผลค่อนข้างแน่นอนค่ะ ใครที่ใจร้อนอยากได้ครีมที่เห็นผลไวก็ลองตัวนี้ดูนะคะ ค่อนข้างใช้ดีเหมาะกับราคาเลยค่ะ

To Use : ใช้ลงเป็นตัวที่สามของสกินแคร์ตอนกลางคืนเพราะ เนื้อเป็นเจลค่อนข้างเข้มข้น เคลือบผิว ใช้ได้ดีในตอนกลางคืน ทำให้ผิวชุ่มชื้นและกักเก็บความชื้นในผิวได้ค่อนข้างดีค่ะ

 
Laneige Water Sleeping Mask ราคา 1,100 บาท
 
จะนอนแล้ว อย่าลืมลงสลีปปิ้งมาส์กกันนะคะ สำหรับสลีปปิ้งมาส์กต้องเป็นตัวที่ให้ความชุ่มชื้นมากพอสมควรเพราะ เราต้องทาทิ้งไว้บนหน้าทั้งคืน จะปล่อยให้ผิวเสียความชุ่มชื้นไม่ได้ค่ะ ไม่อย่างนั้นที่ทามาทั้งหมดคือ พังเลย 55555 เราเลือกสลีปปิ้งมาส์กของลาเนจค่ะ เป็นตัวที่อยู่กับเรามานาน ใช้มาตั้งแต่แรก เพราะมันช่วยใหผิวเราไม่โทรม ตัวนี้จะเป็นสลีปปิ้งมาส์กที่ผสมลาเวนเดอร์ทำให้ผิวเราผ่อนคลายขณะกำลังหลับคือ จะช่วยฟื้นฟูผิวอย่างเต็มที่ เนื้อเป็นเนื้อเจลทาง่าย ซึมง่ายค่ะ แต่ก็มีผสมน้ำหอมหนักมากนะคะ เราเลยเน้นทาบางๆเพราะกลัวตัวเองแพ้น้ำหอมเหมือนกัน นอกจากนี้ยังช่วยให้ผิวสดชื่นและดูอิ่มน้ำด้วยค่ะ

To Use : ทาหลังจากลงครีมบำรุงทั้งหมด ทาบางได้สำหรับคนที่แพ้น้ำหอม แต่ถ้าใครไม่แพ้ก็โบกหนักๆได้เลย ไว้ใช้ทาตอนกลางคืน ตื่นเช้ามาผิวจะอิ่มน้ำสุดๆ

 
Garnier Serum Mask Hydra Bomb ราคา 69 บาท
 
ปิดจ๊อบการบำรุงกลางคืนด้วยมาส์กหน้าแบบแผ่นค่ะ ไหนๆก็มาส์กละ ไปให้สุดค่ะ 55555+ ตัวนี้ไม่ได้ใช้บ่อยนะคะ ใช้เฉพาะวันหยุด อาทิตย์ละ 2 วัน ไว้สำหรับฟื้นฟูผิวที่พังมาทั้งสัปดาห์โดยเฉพาะ เพราะสูตรนี้เป็นสูตรชาเขียวจะช่วยคืนความสมดุลให้ผิวและทำให้ผิวชุ่มชื้นค่ะ ซึ่งตัวนี้มาส์กหน้าจะค่อนข้างใหญ่ จะมีแผ่นฟิล์มสีเขียวๆเคลือบมาส์กไว้อีกชั้น เรามาส์กครั้งละ 10 นาทีไม่เกินนี้ เพราะมันผสมน้ำหอมและแอลกอฮอลล์ด้วย กลัวสิวจะขึ้นค่ะ เลยมาส์กแค่นี้พอแล้วค่อยๆเอามือนวดๆวนๆให้เซรั่มที่เหลือซึมลงผิว เป็นมาส์กที่ค่อนข้างชุ่มชื้นนะคะ สาวผิวมันใช้ได้ค่ะ เพราะเป็นสูตรสำหรับสาวผิวมันโดยเฉพาะเลย

To Use : มาส์กบนหน้าหลังจากบำรุงกลางคืนทั้งหมด ทิ้งไว้ 10-15 นาทีแล้วดึงออก ปล่อยให้มาส์กที่เหลือซึมลงบนใบหน้าค่ะ เป็นมาส์กที่ให้ความชุ่มชื้นได้ดีค่ะ สมกับที่เคลมว่า ชุ่มชื้นกว่าเซรั่มถึง 10 เท่าเลย

 
Biore UV Aqua Rich Watery Essence SPF50+ PA++++ ราคา 420 บาท
 
มาถึงตัวสุดท้ายจริงๆแล้วค่ะ เป็นตัวสุดท้ายของการบำรุงกลางวันแล้วก็ตัวสุดท้ายของรีวิวนี้ด้วย บำรุงมาเยอะแล้วก็ต้องป้องกันบ้างนะคะ เพราะฉะนั้น ควักกันแดดออกมาใช้ได้เลยค่ะ ตัวช่วยที่ดีที่สุดในการป้องกันแดด ณ พ.ศ. นี้ เราใช้กันแดดของบีโอเรหลอดสีฟ้า เพราะตัวนี้กันแดดดีมากๆ แล้วควบคุมความมันดีมากค่ะ ใครชอบหน้ามัน หน้าเมือก อยากได้ครีมกันแดดควบคุมความมันต้องตัวนี้เลยจริงๆ แถมยังเป็นครีมกันแดดเนื้อเอสเซ้นท์บางเบาที่แตกตัวเป็นน้ำเมื่อทาลงผิว ซึมง่าย แห้งไวค่ะ ถ้าจะติดก็คือ กลิ่นแอลกอฮอล์รุนแรงมากๆ คนไหนทีแพ้แอลกอฮอล์ก็อาจจะใช้ไม่ได้เพราะน้ำหอมมาใส่มาเยอะจริงๆ แถมข้อดีอีกอย่างคือ วอเตอร์พรู๊ฟด้วยค่ะ กันน้ำกันเหงื่อ จะใช้ในชีวิตประจำวันหรือไปออกแดดก็ได้สบายมากเลย

To Use : ทาปิดท้ายหลังการบำรุงกลางวันทั้งหมด ใช้แค่บางเบาก็กันแดดได้แล้วแถมคุมมันได้ดีมากๆด้วยค่ะ คนผิวไหนก็ใช้ได้โดยเฉพาะคนผิวมันต้องชอบมาก อันนี้ยืนยันเลย
 
 
ขอรวมแบบสเต็ปการใช้ของเราเลยนะคะ ทั้งกลางวันและกลางคืนค่ะ
 
Every day
 
Every night
 
 
จบแล้วค่ะ หลักๆของเราก็จะเลือกสกินแคร์ที่เป็นของคนผิวผสมใช้ได้ดี
แต่คนผิวมันหรือผิวแห้งก็ใช้ได้นะคะ บางตัวก็อาจจะมีรายละเอียดแตกต่างกันไป
แต่ก็จะยังคงเน้นสกินแคร์ที่เหมาะกับสภาพผิวอยู่ดีที่สุดค่ะ
ซึ่งเราก็รีวิวไปแล้วตามผลการใช้ส่วนตัวของเราค่า
ก็หวังว่า รีวิวนี้จะช่วยให้สาวๆได้อัพเดทสกินแคร์ใหม่ๆที่น่าใช้ได้บ้างนะคะ
ชื่อสินค้า:   Senka, Za,Joliena ,BIOTHERM,Laneige,Garnier,Biore
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่