ปุถุชน ก็คือพระอรหันต์ที่มีอวิชชา

อยู่ดีๆ ก็เกิดคิดประโยคที่ผมตั้งเป็นหัวข้อนี้ขึ้นมา เลยคิดว่าน่าจะนำมาพูดคุยหรือตั้งเป็นกระทู้ เป็นกระทู้สบายๆ ไม่ซีเรียสนะครับ แต่ก็อาจจะทำให้ผู้ที่ยังไม่เข้าใจเป้าหมายของการปฏิบัติธรรม สามารถเห็นภาพหรือเข้าใจได้มากขึ้น

คงมีหลายคนที่เข้าใจว่า การที่เราปฏิบัติธรรม จุดประสงค์เพื่อเปลี่ยนสภาพตัวเอง หรือแปลงร่างตัวเอง จากปุถุชนคนธรรมดา ให้กลายเป็นอริยบุคคล หรือสูงสุดคือเป็นพระอรหันต์ ซึ่งเมื่อได้เป็นพระอรหันต์แล้ว เราจะมีอะไรที่พิเศษกว่าปุถุชนเพิ่มเติมเข้ามาในตัว

แต่แท้ที่จริงแล้ว (หรือจะว่าไปแล้ว) พวกเราทุกคนต่างก็เป็นพระอรหันต์อยู่แล้ว เพียงแต่มีสิ่งที่มาปิดบังไม่ให้เรารู้เท่านั้น (ซึ่งก็คืออวิชชา ไว้จะพูดถึงภายหลัง)

ทำไมผมถึงบอกว่า เราทุกคนล้วนเป็นพระอรหันต์อยู่แล้ว?

ก่อนอื่น ผมขอแทนคำว่าพระอรหันต์ เป็นพระสารีบุตรนะครับ เพื่อจะได้เห็นภาพชัดขึ้นหรือจินตนาการง่ายขึ้น

ถ้าเราไปถามพระสารีบุตรว่า "ร่างกายและจิตใจ หรือขันธ์ 5 ของท่านพระสารีบุตร เป็นของท่านหรือไม่?" พระสารีบุตรก็คงจะตอบเราว่า "ไม่" ถูกต้องมั้ยครับ?

แล้วถ้าผมถามท่านสมาชิกที่นี่ว่า "ร่างกายและจิตใจของทุกท่านตอนนี้ มันคือร่างกายเรา จิตใจเรา เป็นตัวเราของเรา ใช่หรือไม่?" แน่นอนว่า ทุกท่านก็คงจะตอบว่าไม่เช่นกันนะครับ พวกเรารู้ดีว่า ร่างกายไม่ใช่เรา จิตใจไม่ใช่เรา (อันนี้ผมถามคนที่พอเข้าใจธรรมะนะครับ เพราะถ้าไปถามคนที่ไม่ได้ศึกษาธรรมะย่อมต้องบอกว่า ร่างกายเราก็ต้องเป็นร่างกายเรา จิตใจเราก็ต้องเป็นจิตใจเรา)

นั่นก็หมายความว่า ไม่ว่าจะเป็นพระสารีบุตรหรือพวกเราก็ตาม (ไม่ว่าจะเป็นพระอรหันต์หรือปุถุชนก็ตาม) ร่างกายและจิตใจหรือขันธ์ 5 มันไม่ใช่ของใครแต่แรกอยู่แล้ว

ไม่ใช่ว่าตอนที่เป็นปุถุชน ร่างกายและจิตใจหรือขันธ์ 5 ยังเป็นตัวเราของเราจริงๆ แต่พอได้เป็นพระอรหันต์แล้วถึงจะไม่เป็น ไม่ใช่แบบนี้

นั่นคือเหตุผลที่ผมบอกว่า "ปุถุชน ก็คือพระอรหันต์ที่มีอวิชชา"

ตรงคำว่า "ที่มีอวิชชา" นั่นแหละครับ ที่ทำให้เราเข้าใจว่าหรือมีความรู้สึกว่า นี่มันตัวกู นี่มันของกู ที่บอกว่ามันไม่ใช่ตัวกู ไม่ใช่ของกู ก็เกิดจากการนึกคิดเอาเท่านั้น

และอวิชชานี่เอง ทำให้เรายังคงได้ชื่อว่า เป็นปุถุชนอยู่ เหมือนเป็นผู้หลับไหล เป็นผู้โง่เขลา เป็นคนหลงอยู่

เป้าหมายของการปฏิบัติธรรม ก็เพื่อกำจัดตัวอวิชชานั้น เมื่อไม่มีอวิชชา เราก็จะเห็นความจริง ซึ่งผู้ที่เห็นความจริงแล้ว แม้ว่าจะอยู่กับร่างกายเดิม จิตใจเดิม แต่เราจะไม่ถูกเรียกว่าเป็นปุถุชน เราจะกลายเป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ไม่หลับไหลอีกต่อไป

ก็เป็นการตั้งกระทู้คุยเล่นสบาย นะครับ ไม่ได้ซีเรียส แต่น่าจะทำให้เห็นภาพพอสมควร
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่