การประกวดเพลงชิงชนะเลิศแห่งชาติยุโรป ครั้งที่ 64 (ยูโรวิชั่น ซอง คอนเทสต์ 2019)
วันที่ 14, 16 และ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2562
ณ เทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล
วันที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2562
เหลือเวลาอีก 65 วัน จะถึงรอบรองชนะเลิศกลุ่มแรก
เหลือเวลาอีก 67 วัน จะถึงรอบรองชนะเลิศกลุ่มสอง
เหลือเวลาอีก 69 วัน จะถึงรอบชิงชนะเลิศ
สวัสดีค่ะสาวกยูโรวิชั่นและผู้อ่านทุกคน
กลับมาพบกับกระทู้ Eurovision Magazine กันอีกครั้งนะคะ
หลังจากกระทู้คัร้งที่แล้วเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ผ่านไปแค่สองวันก็มีข่าวคราวการเปิดตัวเพลงในช่วงโค้งสุดท้ายจากหลายๆประเทศ
ซึ่งเราจะมาเน้นการเปิดตัวเพลงที่เก็บตกจากวันศุกร์ไปจนถึงเมื่อคืนที่ผ่านมา ส่วนที่เหลือเราจะไปยกยอดในกระทู้หน้า ซึ่งจะเป็นการส่งท้ายก่อนขอไปพักทำกระทู้รีวิวเพลงปีนี้ซึ่งเป็นธรรมเนียมในทุกๆปีนะคะ นอกจากนี้ ข่าวคราวอื่นๆที่เกิดในรอบวันที่ผ่านมาก็ยังมีอีกเช่นเคยนะคะ
เรามาเริ่มข่าวแรกที่สวีเดนค่ะ เมื่อคืนที่ผ่านมา บ้านเขาได้ตัวแทนบ้านเขาปีนี้แล้วในรายการ Melodifestivalen 2019 ในรอบชิงชนะเลิศนะคะ เป็นประเทศสุดท้ายในปีนี้ที่เปิดตัวศิลปิน และจากการแข่งชิงตัวแทน โดยเพลงที่ได้รับเลือกในปีนี้คือเพลง Too Late For Love ร้องโดย ยอน ลุนวิคค่ะ
© SVT
เรียกว่าเป็นไปตามคาดค่ะ เพราะกระแสเพลงนี้มาแรงตั้งแต่รอบรองที่เขาแข่งในรอบรองฯกลุ่ม 4 และเพลงนี้ติดชาร์ท Sverigetopplistan ในบ้านเขาเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาโดยได้อันดับที่ 1 ค่ะ (เรียกว่าเป็นชาร์ตอรหันต์ในการทำนายเพลงที่จะเป็นตัวแทนจริงๆ) ส่งผลให้เขาสร้างสถิติเป็นตัวแทนสองชาติในปีเดียวไปเลย โดยเขาได้เป็นตัวแทนไปก่อนหน้านี้แล้วด้วยการเป็นตัวแทนยูเคในฐานะหนึ่งในนักแต่งเพลงในเพลง Bigger Than Us ให้กับไมเคิล ไรซ์ และเป็นตัวแทนบ้านตัวเองในฐานะศิลปินค่ะ เท่าที่ฟังมามีความกอสเปล แต่มีความสนุกและมีความหวังยังกะร้องเพลงเร็วๆในโบสถ์วันอาทิตย์อย่างไรอย่างนั้น ซึ่งมีคนไปเปรียบเหมือนซีซ่าร์ ตัวแทนออสเตรียปีที่แล้ว ซึ่งเราคิดว่าคนละสไตล์นะ อ่ะ ไปฟังเพลงนี้กันค่ะ
ทีนี้เรามาดูผลคะแนนกันค่ะ โดยปีนี้เป็นครั้งแรกที่ใช้ระบบโหวตแบบใหม่โดยอิงกลุ่มอายุเพื่อให้ได้เพลงขวัญใจคนทุกวัยมากขึ้น และมีการเปลี่ยนแปลงจำนวนประเทศที่โหวตในรอบกรรมการเหลือ 8 ประเทศจากเดิม 11 ประเทศ มาดูคะแนนของกรรมการกัน
จะเห็นได้ว่าเขาได้คะแนนนำในรอบนี้ ซึ่งได้ 12 คะแนนจากทั้ง 8 ประเทศเลย แต่หลายเพลงที่เป็นตัวเต็งได้คะแนนกรรมการน้อยมาก หลายคนติดใจว่าทำไมเพลงของยอน เฮนดริกได้คะแนนในรอบนี้เป็นที่โหล่
© SVT
ส่วนคะแนนจากทางบ้าน เขาได้คะแนนไปถึง 85 คะแนน โดยคะแนนรวม 181 คะแนน ทำให้เขาชนะไปอย่างเอกฉันท์ทันที
© SVT
ทีนี้เรามาดูเพลงอื่นๆเมื่อคืนที่ผ่านมากันค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้Bishara – On My Own ได้ที่ 2 ทั้งที่แข่งครั้งแรกและเพิ่ง 16 ปี นี่ไม่ธรรมดาเลย แต่ได้คะแนนกรรมการและทางบ้านเป็นรองยอน ลุนวิคนะ
Hanna Ferm & LIAMOO – Hold You ได้ที่ 3 นี่เป็นงานเพลงคู่ที่เลียมมูปีนี้มาเทิร์นป๊อปร่วมกับฮานน่าจากสวีดิชไอดอล
Jon Henrik FJällgren – Norrsken ได้ที่ 4 ก็ยังเป็นครั้งที่เขาไม่ได้รับเลือกซักที เพราะเขาได้คะแนนกรรมการเป็นที่สุดท้ายเลย แต่ได้คะแนนทางบ้านช่วยให้เขาได้ที่ 4 ได้
Mohombi – Hello ได้ที่ 5
Arvingarna – I Do ได้ที่ 6 ตัวแทนปี 1993 น่าจะได้คะแนนจากคนที่มีอายุหน่อยด้วยแหล่ะเลยได้ที่ 6
Wiktoria – Not With Me ได้ที่ 7 ไม่น่าเชื่อว่านางได้ที่ 7 ความเป็นจริงนางควรจะได้คะแนนดีกว่านี้นะเราว่า เป็นอีกปีที่นางนก
Nano – Chasing Rivers ได้ที่ 8 แม้ว่าได้คะแนนจากกรรมการเป็นที่ 2 พร้อมท้ายิน ลุนวิคได้ แต่ได้คะแนนทางบ้านนิดเดียว
Lisa Ajax – Torn ได้ที่ 9 ซึ่งเป็นอีกปีที่นางนกอีกแล้ว
Anna Bergendahl – Ashes To Ashes ได้ที่ 10 ตัวแทนปี 2010 แม้ว่าจะกลับมาแข่งเพื่อมาแก้ตัวอีกครั้งหลังหลังตกรอบปีนั้น แต่ก็ไม่นำพา
Lina Hedlund – Victorious ได้ที่ 11 นางบอกว่าจะมาแข่งเป็นครั้งสุดท้าย แต่ปีนี้ผลงานส่งท้ายไม่ค่อยสวยหรูเท่าไหร่นะ
Malou Prytz – I Do Me ได้ที่ 12 ศิลปินหน้าใหม่ที่มาแข่งปีแรกยังไม่ใช่จุดเริ่มต้นที่ดีเท่าไหร่นักสำหรับเธอ
ทีนี้เรามาดูว่าเมื่อคืนมีโชว์อะไรบ้าง เนื่องจากทางช่องไม่ได้อัพคลิปส่วนี้ทางยูทูป แนะนำให้ไปดูในเวปของช่องเอานะคะ ซึ่งเราจะมาบอกคร่าวๆนะคะ
นุ้งเบนและเฟลิกซ์มาร่วมโชว์ตอนเปิดรายการ ทั้งคู่ร้องเพลง Tror Du Att Han Bryr Sig ซึ่งเป็นผลงานเพลงของทั้งคู่เมื่อปีที่แล้ว ก่อนที่จะร้องเพลง All Night Long ของลิโอเนล ริทชี่
© SVT
ชาลอตต์ แชมป์ปี 1999 และดาน่า แชมป์ปี 1998 จากอิสราเอลมาร้องคู่ในเพลงแชมป์ของตัวเอง ทั้งเพลง Take Me to Your Heaven ของชาลอตต์ และ Diva ของดาน่า ก่อนที่จะร้องร่วมในเพลงใหม่ของทั้งคู่ในเพลง Diva to Diva
© SVT
จากนั้นพิธีกรทั้ง 4 คนได้ร้องเพลงร่วมกันส่งท้ายก่อนจะประกาศคะแนนสำคัญในส่วนคะแนนทางบ้าน
© SVT
และแน่นอนค่ะ ที่ขาดไม่ได้เลย เมื่อซาร่าห์กลับมาเป็นพิธีกรอีกครั้ง ลินดา วู้ดดรัฟก็ต้องมาด้วย โดยปล่อยถึงสองคลิปเลย ยังฮาเหมือนเดิม ตลกตรงที่เรียกเมืองลิสบอนแบบพูดเพี้ยนๆเป็นเลสเบี้ยน
© SVT
คลิปที่สองกัดช่อง SVT ในการเป็นเจ้าภาพยูโรวิชั่นถึง 6 ครั้ง แม้ว่าจะสร้างชื่อเสียงให้สถานีไปทั่วโลก แต่ก็ทำให้แทบล้มละลายเลย นี่ถ้าได้แชมป์ปีนี้และได้จัดปีหน้า เตรียมยื่นฟ้องล้มละลายจริงๆได้เลยนะ และกัดทรัมป์ในวลี "Make America Great Again" ด้วยคำว่า "Make Eurovision Staight Again" ซึ่งความหมายแรกหมายถึงทำให้ยูโรวิชั่นรุ่งเรืองอีกครั้ง โดยนางเรียกพ้องเสียงคำว่า Great กับคำว่า Staight แต่อีกความหมายก็กัดคนเหยียดเพศที่มองยูโรวิชั่นว่าเป็นเวทีของ LGBT ด้วยการประชดว่าจะทำให้ยูโรวิชั่นเป็นเวทีของชายจริงหญิงแท้อีกครั้ง พร้อมใส่หมวกคำขวัญดังกล่าวล้อเลียนทรัมป์เลยจ้าาา
© SVT
เนื่องจากเนื้อหายาวเกินโควต้าในหัวกระทู้แล้ว เราจะยกยอดเรื่องราวของยอน ลุนวิคในเม้นต่อไปนะคะ
[Eurovision Magazine] พบกับเพลงและตัวแทนจากสวีเดนและอาเซอร์ไบจาน/ เพลงจากออสเตรีย รัสเซีย มาซิโดเนียเหนือและทั่วยุโรป
หลังจากกระทู้คัร้งที่แล้วเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ผ่านไปแค่สองวันก็มีข่าวคราวการเปิดตัวเพลงในช่วงโค้งสุดท้ายจากหลายๆประเทศ
ซึ่งเราจะมาเน้นการเปิดตัวเพลงที่เก็บตกจากวันศุกร์ไปจนถึงเมื่อคืนที่ผ่านมา ส่วนที่เหลือเราจะไปยกยอดในกระทู้หน้า ซึ่งจะเป็นการส่งท้ายก่อนขอไปพักทำกระทู้รีวิวเพลงปีนี้ซึ่งเป็นธรรมเนียมในทุกๆปีนะคะ นอกจากนี้ ข่าวคราวอื่นๆที่เกิดในรอบวันที่ผ่านมาก็ยังมีอีกเช่นเคยนะคะ
เรามาเริ่มข่าวแรกที่สวีเดนค่ะ เมื่อคืนที่ผ่านมา บ้านเขาได้ตัวแทนบ้านเขาปีนี้แล้วในรายการ Melodifestivalen 2019 ในรอบชิงชนะเลิศนะคะ เป็นประเทศสุดท้ายในปีนี้ที่เปิดตัวศิลปิน และจากการแข่งชิงตัวแทน โดยเพลงที่ได้รับเลือกในปีนี้คือเพลง Too Late For Love ร้องโดย ยอน ลุนวิคค่ะ
จะเห็นได้ว่าเขาได้คะแนนนำในรอบนี้ ซึ่งได้ 12 คะแนนจากทั้ง 8 ประเทศเลย แต่หลายเพลงที่เป็นตัวเต็งได้คะแนนกรรมการน้อยมาก หลายคนติดใจว่าทำไมเพลงของยอน เฮนดริกได้คะแนนในรอบนี้เป็นที่โหล่
ทีนี้เรามาดูว่าเมื่อคืนมีโชว์อะไรบ้าง เนื่องจากทางช่องไม่ได้อัพคลิปส่วนี้ทางยูทูป แนะนำให้ไปดูในเวปของช่องเอานะคะ ซึ่งเราจะมาบอกคร่าวๆนะคะ
นุ้งเบนและเฟลิกซ์มาร่วมโชว์ตอนเปิดรายการ ทั้งคู่ร้องเพลง Tror Du Att Han Bryr Sig ซึ่งเป็นผลงานเพลงของทั้งคู่เมื่อปีที่แล้ว ก่อนที่จะร้องเพลง All Night Long ของลิโอเนล ริทชี่