[CR] ผู้หญิงอกหัก พาทัวร์ ไหว้ 1 วัด 9 สิ่งมงคล ที่บ้านพร้าว เชียงใหม่

บรรทัดแรกขอดีใจก่อนค่าาา จากบัตรผ่านที่มาแค่ระบายความเจ็บหัวใจที่ถูกผู้ชายหลอก ได้กำลังใจมากมายก่ายกอง จนสมัครลอคอิน pantip ได้แล้วค่า!!
กระทู้เก่าที่เราโดนเพื่อนที่ทำงานหาว่าขี้แพ้ที่ลาออกเพราะเลิกกับแฟนค่ะ กระทู้นั้นเราได้รับกำลังใจมากมายทั้งคอมเม้นแล้วก็ inbox มากมายเลย
https://pantip.com/topic/38434653

จากกระทู้เก่าของเรากับการปรับตัวอย่างยิ่งใหญ่กับชีวิตชาวดอยทางเหนือ https://pantip.com/topic/38503216
ตอนนี้ผ่านไปเดือนนึงไวมาก พอเรารู้สึกตัวอีกทีเราก็กินได้ทุกอย่างไม่มีเขิน ไม่ต้องคอยดูว่าคนอื่นกินกันยังไง เริ่มสะสมคำเมืองได้เยอะ เวลาเค้าคุยกันก็เริ่มตามทันละ
เรามีเพื่อนใหม่รุ่นย่ายาย ที่คุยกันไปหัวเราะกันไป(เพราะฟังกันไม่รู้เรื่อง คือคนรุ่นย่ายายนี่ภาษาเหนือเค้าใช้คำยากไปอีกค่ะ)แต่สิ่งนึงที่ทำให้เรารู้สึกว่า คำว่าเพื่อนไม่จำกัดอายุคือ พอแก๊งย่ายาย หรือเราตั้งให้ว่าแก๊งอุ๊ย รู้ว่าเราหกอักหนีรักมาบนดอย แม่อุ๊ยเลยชวนเราเข้าวัดค่ะ ซึ่งวัดนี้ก็เป็นวัดประจำหมู่บ้าน ชื่อวัดพระธาตุดอยเวียงชัยมงคล วัดแรกของ ต.โหล่งขอด
ต้องบอกก่อนว่า ส่วนตัวแล้วเราเป็นคนไม่ชอบเข้าวัดลักษณะที่มีตู้บริจาคเงินไปทั่ว เพราะไปแต่ละทีเรารู้สึกว่ามันวุ่นวายคนเยอะเบียด เสียงดัง ซึ่งพอตามแก๊งอุ๊ยไปวัดนี้ เห็นแค่ทางเข้าเราก็แบบ เอิ่มมมมละ

แต่จะปฎิเสธอุ๊ยก็ดูจะไม่ดี เพราะอุ๊ยอุตส่าห์ให้หลานขับรถพาเรามาไหว้พระ ก็เอาเน้อะ ลองดูละกัน
พอเข้าไปบริเวณวัด สิ่งที่ผิดคาดจากที่เราคิดคือ ที่นี่“สงบ” ครั้งแรกเราคิดว่าเพราะเรามาช่วงเย็น แต่พอครั้งต่อๆ ไปเราไปช่วงไหนก็ยัง“สงบ” อย่างเหลือเชื่อ เราเดินไหว้พระ ตามจุดต่าง ๆ

เข้าไปในโบสถ์ยิ่งเงียบ ถึงแม้เป็นคนดูพวกศิลปะไม่เป็นแต่เรารู้สึกว่า โบสถ์สวย องค์พระสวยมากค่ะ

จังหวะดีที่ไม่มีใครอยู่ในโบสถ์ เราเลยนั่งมองท่านอยู่นาน นึกถึงเรื่องที่ผ่านมา ที่เราทุกข์ใจ ร้องไห้เพราะผู้ชายทิ้ง. พอมองย้อนกลับไป เราว่าเราเข้มแข็งขึ้นมากเลยอ่ะ วันนั้นเราเลยไหว้พระแล้ว ขออโหสิกรรมกับเรื่องที่พี่เค้าทำร้ายจิตใจเรา เราจะไม่ถือโทษโกรธอะไรอีก และ ไหว้ขอพรให้ทุกๆ คนที่มา comment ให้กำลังใจเราในกระทู้นั้น มีแต่ความสุข เพราะไม่ว่าจะเป็นคำแนะนำความคิดเห็นแง่ไหน ทุกcomment เรียกสติ และ กำลังใจเราได้มากเลยค่ะ(และทำให้เราตัดสินใจ มาทำงานไกลบ้าน ไกลความคุ้นเคย ได้เนี่ยแหละค่ะ)

ตรงนี้เป็นอีกจุด ที่เราชอบมานั่งค่ะ ตามประวัติที่วัดเขียนไว้ คือ ตรงนี้จะเป็นจุดตั้งทัพพระยาปราบสงคราม(พญาผาบ)แม่ทัพผู้ปกครองหนองจ๊อม ซึ่งตอนนี้เป็นจุดชมวิว มองไปจะเห็นภูเขา ต้นไม้ และหมอก
รูปนี้เราถ่ายตั้งแต่ ช่วงแรกๆ ที่เรามาที่นี่ค่ะ แต่ตอนนี้ไม่ค่อยมีหมอกแล้ว เชียงใหม่เริ่มร้อนแล้ว แง่ เสื้อกันหนาวยังใช้ไม่คุ้มเลย
เดินชมวัดกันต่อค่ะ

เห็นทีแรกรู้สึกว่าสวยสดมาก แต่เอ้ะ งงๆ นิดหน่อยที่จีวรท่านเป็นสีม่วง ยังไม่เคยเห็นพระจีวรม่วงมาก่อน ขอถ่ายเก็บมาฝากนะคะ
พระมหากษัตริย์ท่านก็เสด็จมาค่ะ
พอเดินทั่ววัดแล้วด้านล่างจะมีพวกร้านขายสินค้าประจำตำบล แล้วก็มี ร้านเครื่องดื่มของพระ เณร ที่วัด ด้วยอ้ะ
จริงๆ เราไม่ได้ถ่ายอีกหลายจุด เพราะยังสร้างไม่เสร็จไม่กล้าเดินไป แก๊งอุ๊ยบอกว่า วัดนี้มีนักการเมือง ดารา มาบ่อยนะ มาขอพรท่าน ขออย่างเดียวนะไม่ต้องบน ท่านให้ได้แค่ขวัญกำลังใจเน้อ
อุ๊ยพูดแบบนี้เราก็สะดุดนะ คือ บางทีที่เราทุกข์ เราต้องการกำลังใจ หรืออยากหลุดพ้นปัญหา เราไหว้พระขอพร บนบานสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ไม่รู้ว่ามีจริงไหม บางทีท่านไม่มีจริงหรอก แต่สิ่งที่ได้คือ ขวัญและกำลังใจให้ตัวเองต่างหาก ทุกอย่างจะได้ไม่ได้ มันก็ด้วยตัวเราเองทั้งนั้นเน้อะ
ส่งท้ายกับป้าย งานบุญของวัด ที่เราถ่ายเก็บไว้ตอนมาแรกๆ
สารภาพว่าขำมากกับป้าย แต่พอมาวัดจริงๆ ได้แง่คิดจากอุ๊ย เราก็แอบด่าตัวเองย้อนหลังอยู่ว่าไม่น่าไปขำป้ายเลยอ้ะ
ขอปิดกระทู้วัดเท่านี้ค่ะ ถ้ามีเวลาจะมารีวิวที่เที่ยวอื่นๆ ในหมู่บ้านต่อนะคะ เผื่อใครขับรถผ่านๆ มา แวะมาเที่ยวให้ชาวบ้านชื่นใจค่ะ