วันที่มีบริษัทเป็นของตัวเองครั้งแรกในชีวิต

ก่อนอื่นผมเขียนกระทู้นี้เพื่อเป็นบันทึกช่วยจำ เป็น Milestone ของชีวิตตัวเองและก็หวังว่าจะได้เป็นประโยชน์กับคนอื่น ๆ ในแง่การใช้ชีวิตที่เกี่ยวข้องกับเรื่องงาน อาจจะมีประเด็นที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ อย่าง เรื่องงานกับชีวิตครอบครัว บริษัทของตัวเองก็ชีวิตตอนเป็นลูกจ้าง ประมาณนี้นะครับ

ไม่ได้มาอวดว่ารวย เก่ง  อย่าเอาไปเปรียบเทียบกับชีวิตคุณหรือใคร ๆ ที่เค้าประสบความสำเร็จกว่านี้ แย่กว่านี้  มันแค่เป็นชีวิตผม เรื่องมันยาวมันผ่านช่วงเวลาหลายปี จับประเด็นที่เป็นประโยชน์กับชีวิตคุณกันเอาเอง  ผมแค่มาแชร์ ถ้าคนอ่านอยากได้สูตรสำเร็จคงจะไม่ใช่จากกระทู้นี้ครับ
คนที่จะได้ประโยชน์จากกระทู้นี้น่าจะเป็น คนที่เรียนรู้จากข้อผิดพลาดและแนวคิดของผม  เอาสิ่งที่คุณคิดว่าเป็นประโยชน์ไปปรับใช้ดู

ผมเป็นลูกจ้างมาเกือบตลอดชีวิต ความฝันที่อยากจะมีกิจการเป็นของตัวเองเป็นเจ้านายตัวเอง อยากประสบความสำเร็จ มันก็ฝังอยู่มาหลายปี
ช่วงก่อนอายุ 30 มีแอบออกจากชีวิตลูกจ้างไปทำบริษัทของญาติแต่มันก็ไม่ใช่ของผมเองอยู่ดี พอลงทุนไปด้วยเจ๊งซิครับ  เป็นหนี้เป็นสินหลายล้าน
ต้องกลับมาเป็นลูกจ้างเหมือนเดิม ค่อยๆ ใช้หนี้ไปเรื่อยจนหมดซึ่งใช้เวลาหลายปีกว่าจะใช้หนี้หมด มันทรมานมาก

ตอนกลับมาเป็นลูกจ้างหลังจากบาดเจ็บเจ๊งไม่เป็นท่า ผมเลือกมาทำงานด้าน IT Sales เพราะเรียนจบมาด้านนี้ ชอบขาย ชอบทำธุรกิจ ชอบเรียนรู้อะไรใหม่ ๆ ชอบเทคโนโลยี  ชอบ ชอบ แล้วก็ชอบ   ความชอบความสนใจอันนี้คือคีย์ในการเลือกทำงานแล้วก็ลองทำดู  เริ่มต้นเงินเดือน 3 หมื่นกว่าบาทมีคอมมิชชั่นต่างหาก เติบโตเก่งขึ้นเรื่อย ๆ  เพราะเราสนุกกับงาน ยิ่งทำยิ่งมัน ปัญหาอุปสรรคก็กลายเป็นบทเรียน แก้ได้บ้างไม่ได้บ้าง  ผลลัพธ์ก็คิอผมใช้หนี้หมดตอนมีรายได้ต่อเดือน 1 แสนกว่า  ๆ ฝากเป็นข้อคิดที่สำคัญสำหรับการเลือกอาชีพและการทำงานนะครับ  หาตัวเองให้เจอ หางานที่เราชอบ งานต้องอยู่กับเราไปอีกหลายปี ทำงานให้สนุก มีความสุขกับมัน เดี๋ยวเงินตามมาเอง

สิ่งที่ติดตัวมาคือประสบการณ์กับ  ลูกค้า  เพื่อนร่วมงาน พาร์ทเนอร์ทางธุรกิจ พี่น้อง เจ้านาย  คนที่เคยช่วยเราและเราเคยช่วยเหลือ ความไว้เนื้อเชื่อใจที่พวกเค้ามีให้ซึ่งมีส่วนสนับสนุนให้ผมก้าวหน้าได้อีก แต่บอกไว้ก่อนนะ ผมก็ทำความผิดพลาดไว้เยอะ  ชั่วเคยมีดีเคยทำ  คนชอบเรามีคนเกลียดก็มี (หวังว่าจะไม่เยอะ) 5555  คนที่เราเคยทำงานด้วย คนที่เราเคยให้โอกาสเค้าและเค้าให้โอกาสเรา  สิ่งที่น่าเศร้าก็คือ กับบางครั้งบางคนการที่เราทำดีด้วยให้โอกาสช่วยเหลือเค้า คนพวกนี้หลายคน ก็ไม่ได้เห็นคุณค่าแถมกลับมาทำร้ายเราอีกเพราะฉะนั้น  ทำสิ่งที่ดีๆ ก็เพราะว่าเราเป็นคนดีครับอย่าไปคาดหวัง และตอบแทนคนที่ดีกับเราแบบสุด  พวกคบไม่ได้อย่าไปคบ เพื่อนน้อยไม่เป็นไรขอให้เป็นเพื่อนที่ดี

ต้องพูดเรื่องนี้ยาวหน่อยเพราะคนที่เกี่ยวข้องกับชีวิตการทำงานของผมนี่แหละมีส่วนสำคัญที่ผลักดันความก้าวหน้าในอาชีพการงาน
ลูกค้าซื้อเพราะเรา ขายเสร็จซื้อเพิ่มอีก ย้ายบริษัทกลับไปขายก็ซื้อ  ผมเปิดบริษัทแล้วเดวกลับไปขายพี่อีกนะนะ
เพื่อนร่วมงานเก่า เจ้านายเก่า พาร์ทเนอร์ที่เคยช่วยผมขายของ        ผมเปิดบริษัทแล้วเค้าก็ยังช่วยสนับสนุนผมมากบ้างน้อยบ้าง
เพื่อนพี่น้อง ในวงการ เคยทำงานด้วยกัน  เคยร่วมสุข ปาร์ตี้ ร่วมทุกข์แก้ปัญหา ผมเปิดบริษัทแล้วเราก็จะช่วยเหลือกันต่อไป อาจมีแข่งกันบ้างแต่เราก็เข้าใจกันเนอะ    แค่อยากจะบอกว่าผมไม่ลืม  ความดี โอกาส ช่วงเวลาที่ดีๆ และก็มีโอกาสจะตอบแทนความดีของทุกคนสุดความสามารถ (ซึ้งเนอะ)

ต่างกับไอ้พวกเลวไม่มีใครเอา  มีแต่คนเค้าเกลียด ชื่อเสียงเสีย ก็จะตัน ๆ วันไหนเอาตัวรอดในงานที่ทำอยู่ไม่ได้  ก็เตรียมตกงานยาว ๆ
เล่าเพิ่มเรื่องนึง  เคยไปสัมภาษณ์งานที่นึง ผมรู้ว่าผมนี่แหละเหมาะ ดันไม่ถูกเลือกแต่เค้าไปเลือก คนที่ผมรู้แน่ ๆ ว่า ห่วยแตก สร้างภาพ ทำงานแสนจะห่วย   ผมรู้จักเค้า เคยเห็นเค้าทำงาน รู้ประวัติเค้าระดับนึงเลย   ในใจเราเสีย Self นะ เอาไรวัดอะ  แต่หมอนี่สร้างภาพเก่งนี่แหละที่เค้าชนะเรา คนพวกนี้เค้ามีบุญ    เอ้อหรือว่าเราเรียกแพงไป ??  ต่อได้ซิทำไมไม่ต่อ  ( ยังไม่เลิก 5555 )

ออกนอกเรื่องไป กลับมา ๆ  คีย์ความสำเร็จก็คือ ความเชื่อมั่น ชื่อเสียง อันนี้คือสิ่งสำคัญที่จะช่วยสนับสนุนการทำงานของคุณให้ก้าวหน้า มีคนชวนไปทำงานด้วย  เจ้านายเก่าดึงไป เพื่อนแนะนำไป   อันนี้ฝากไว้สำหรับคนทำงานครับ เรื่องนี้สำคัญมาก ๆ  แล้วมันก็เป็นที่มาที่ผมได้รับโอกาสมาตลอดรวมถึงได้มาเปิดบริษัทตัวเองด้วย   นิสัยส่วนตัวผมเป็นนักรบขาบู๊  เข้าขั้นบู๊ล้างผลาญเลยแหละ เกิดวันอังคาร เมษา ราศีเมษ เมื่อก่อนก็ไม่ค่อยเชื่อ สังเกตมาเรื่อย ๆ เอ้อตรงจัง  ที่ต้องเล่าเรื่องนี้ก็คือ ผมแพ้เกมส์การเมืองทุกครั้ง เล่นไม่ได้ดี ล้มเหลว โดนบี้ อยู่ไม่ได้ต้องเปลี่ยนงาน  อดทนทำไปแล้วไม่มีความสุขแล้วก็ไม่ทนทุกครั้ง คือพยายามทนแล้วนะ เมื่อไหร่ที่บริษัทเอาพวกปัญญาอ่อน อีเดียด การเมืองจ๋า ๆ มาเป็นเจ้านาย ผมมักจะจบที่พังทุกครั้ง  และปัญหานี้แหละที่ทำให้ผมไม่เลือกที่จะเป็นลูกจ้างอีกต่อไป  ที่ยอมทนก่อนหน้านี้เพราะเงินดีครับ รายได้อยู่ในเกณฑ์ดี รายได้ร่วมผม 4 ล้านต่อปี  แต่ทุกข์ใจทุกวันเพราะคนที่มาเป็นเจ้านายเรา  เราคิดว่าเค้าห่วยได้โล่ห์  เจ้านายคนก่อนดี ๆ ก็ยิ้มลาออก แหมไม่บอกไม่งั้นไม่มาทำงานด้วยหรอกตอนคุณรับผมอะ

ปัจจัยเรื่องหัวหน้า เจ้านายนี้แหละที่ผลักดันผมให้ทำบริษัทเอง  ฝากถึงคนทำงานครับเรื่องนี้สำคัญสุดในการเลือกงาน  เลือกทำงานเพราะเงินดี  สินค้าดี แต่ไม่รู้จักเจ้านาย  ถ้าไม่ดีขึ้นมาคุณไม่มีความสุข  ถ้าคุณสามารถเลือก มีโอกาสที่จะเลือก เลือกเจ้านายก่อนครับ  ได้เงินเยอะไม่มีความสุขจะทนไม๊ละ ก็อย่างที่แชร์ไปตอนต้นนะครับ   ความสุขในการทำงานสำคัญที่สุดในการประสบความสำเร็จ  มีน้อง ๆ ที่ไม่มีโอกาสจะเลือกเจ้านายที่ดีมาเป็นเหตุผลอันดับแรก ผมบอกเค้าไว้ก่อนเลย ต้องทน  ถ้าน้องที่เค้ามีโอกาสเลือก ต้องเลือกงานที่เจ้านายเราดีมาอันดับแรกครับ

การมีชีวิตที่มีความสุขนอกจากเรื่องงานว่าสำคัญแล้ว เรื่องครอบครัว คู่ชีวิตสำคัญกว่า  งานไม่ดีครอบครัวดี ชีวิตรายังมีความสุข มีกำลังใจต่อสู้ต่อไป
งานดีเงินดีครอบครัวพัง คู่ชิวิตห่วย มันจะมีความสุขได้ไงครับ เลือกภรรยา สามี ที่ดีเลือกยากกว่าหาเจ้านายอีก  แล้วถ้าหาได้หาเจอขึ้นมา คุณคือคนที่โชคดีมาก ๆ  เลยครับ  ผมเองได้รับการสนับสนุนจากภรรยามาตลอด รวมเรื่องการทำธุรกิจเองนี่ด้วย

อันนี้คือที่มาที่ผมเลือกจะทำบริษัทเป็นของตัวเอง ผมมีเงินทุนของตัวเองอยู่บ้างเอามาลง ไม่ได้เอามาหมดแล้วก็ไม่อยากลงทุนแบบทุบหม้อข้าว ถ้าเจ๊งขึ้นมาครอบครัวเดือดร้อนอีกแล้ว   ก็เกิดจากนิสัยการใช้จ่าย ไม่เวอร์ไม่ฟุ่มเฟือยของภรรยาผม เค้าควบคุมไม่ให้ผม ซื้อ Benz BMW ทั้งๆ ที่ผมอยากได้ ( ใจจะขาด )  กินใช้ติดดิน ลาบยโส หมูกะทะ จิ้มจุ่มข้างถนน หมี่เกี๊ยวหน้าเซเว่น  เราสองคนกินได้ถ้าอยากกิน ทั้ง ๆ ที่รายได้ผมหลายแสนต่อเดือน
ปัจจัยมีอีกครับ เงินทุน ทีมงาน แผนธุรกิจ  ผมตัดสินใจลาออก บอกเฉพาะเพื่อน ๆ ที่สนิทว่าอยากทำเอง  มีน้องคนนึงเคยทำงานที่เดียวกัน ให้ผมไปคุยกับเจ้าของบริษัทเค้าจะให้ลงทุนกับผม  แต่ไม่สำเร็จ ( ขอบคุณมาก ๆ )  มีเพื่อน เจ้านายเก่า ยื่นมือให้ความข่วยเหลือ สนับสนุน มากบ้างน้อยบ้าง ผมดีใจจริง ๆ อย่างน้อยพิสูจน์แล้วครับเรามีคนรัก มีคนให้ความเชื่อมั่น  เอาไปคุยกับเจ้านายเก่า เวนเดอร์ที่เคยทำงานด้วย ก็ได้รับความช่วยเหลือ แนะนำ หรือบางคนก็จะเอาสินค้ามาให้ผมขาย แค่นี้ก็ดีใจสุด ๆ แล้ว

เพื่อนเก่าผมเคยทำงานบริษัทเดียวกัน พาไปหาผู้ร่วมทุน  ตอนแรกก็ไม่บอก ที่ไหนได้ไอ้เพื่อนคนนี้นี่แหละ  ที่ทำให้ผมได้เปิดบริษัท
แถมมันยังลงทุนในบริษัทผมอีก 6 ล้านบาท มานั่งนึก รวยจังวะ เป็นลูกจ้างเหมือนกูเลย   อันนี้มาจากความเชื่อมั่นว่าผมทำงานได้ แล้วก็ไม่โกง ล้วน ๆ  ผู้ร่วมทุนก็ลงอีกเยอะทั้งที่เค้าไม่ได้รู้จักเราดี  แต่เป็นเพราะเพื่อนผมครับ   คราวนี้แหละ ประสบการณ์ผมโชกโชน เงินทุนพร้อม   จ่ายอย่างเดียวไปอีกสามปีไม่มีรายได้เข้าก็ไม่เจ๊ง อันนี้คือหัวใจสำคัญ Cash Flow  หลายคนมองว่าเริ่มช้าอายุเยอะแล้วนะ เสี่ยงนะ  แต่ผมพร้อมลุยละครับ

( มีอีกบางเรื่องอยากเล่า แต่ไว้ค่อยมาต่อนะ หิวข้าว )
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่