ข้อเท็จจริง
1. นาย ก. มีบุตรชาย 2 คน คนแรกคือนายเอ แต่งงานแล้วแต่ไม่ได้จดทะเบียนสมรสกับภรรยา มีบุตรสองคน คนที่สองคือนายบี แต่งงานแล้ว และจดทะเบียนสมรสกับภรรยา ยังไม่มีบุตร
2.นายเอ เป็นบุตรที่เกิดจากภรรยาคนแรก ที่ไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน และได้เลิกร้างกันไปแล้ว และนาย ก. ไม่ได้จดทะเบียนรับรองว่านายเอเป็นบุตรที่ชอบด้วยกฎหมาย แต่นาย ก. ได้ให้ใช้นามสกุลของนาย ก. และส่งเสียเลี้ยงดูนายเอมาตั้งแต่เกิดจนบรรลุนิติภาวะและจนถึงปัจจุบัน
3.นายบี เป็นบุตรที่เกิดจาก นาง น. ภรรยาคนปัจจุบัน ซึ่งได้จดทะเบียนสมรสตามกฎหมาย นายบีจึงถือเป็นบุตรตามกฎหมายของ นาย ก.
4.นาย ก. และนาง น. ได้ซื้ออาคารพาณิชย์ 4 ชั้น พร้อมที่ดินในพื้นที่เขตตลิ่งชัน โดยใส่ชื่อนายบีเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ในอาคารพาณิชย์พร้อมที่ดินดังกล่าว
5 นาย ก. ได้กล่าวด้วยวาจาว่าจะยกอาคารพาณิชย์ดังกล่าวให้นายเอ โดยจะให้นายบี ดำเนินการโอนกรรมสิทธิ์ให้
เป็นชื่อของนายเอ หลังตรุษจีน ปี 2562 (ต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2562)
6. เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2562 นาย ก. ได้แจ้งด้วยวาจากับนายเอว่า เรื่องอาคารพาณิชย์พร้อมที่ดินที่จะยกให้เป็นกรรมสิทธิ์ของนายเอนั้น เนื่องจากนายเอและนายบี เป็นพี่น้องคนละแม่ ทางการอาจมองว่าเป็นการซื้อขาย จะทำให้ค่าธรรมเนียมโอนมีจำนวนสูงกว่าการโอนที่มรดก ดังนั้น นาย ก. จะให้นายบีโอนกรรมสิทธิ์ในอาคารพาณิชย์พร้อมที่ดินให้แก่นาย ก. และนาย ก. จะทำพินัยกรรม ยกอาคารพาณิชย์พร้อมที่ดินดังกล่าวไว้ให้นายเอ ซึ่งเมื่อนาย ก.ถึงแก่ความตาย นายเอจะเป็นผู้ถือครองกรรมสิทธิ์ในอาคารพาณิชย์พร้อมที่ดินนั้นตามพินัยกรรม
คำถาม
1. นายเอ ไม่ใช่บุตรตามกฎหมายของนาย ก. ใช่หรือไม่
2. ถ้านายเอไม่ใช่บุตรตามกฎหมายของนาย ก. นายเอจะไม่ถือเป็นทายาทตามกฎหมาย หากนาย ก. ถึงแก่กรรม นายเอจะไม่มีสิทธิ์ในการรับมรดกใดๆ เลยของนาย ก. หากนาย ก. ไม่ทำพินัยกรรม เพื่อยกทรัพย์สินใดๆ ให้นายเอไว้ต่างหาก ใช่หรือไม่
3.การโอนกรรมสิทธิ์ในอาคารพาณิชย์พร้อมที่ดินของนายบี ให้นาย ก. ผู้เป็นบิดา ถือเป็นการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์หรือเป็นการให้โดยเสน่หา
4.การโอนกรรมสิทธิ์ในอาคารพาณิชย์พร้อมที่ดินของนายบี ให้นายเอ ผู้เป็นพี่ชายคนละแม่ ถือเป็นการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์หรือเป็นการให้โดยเสน่หา
5.หาก นายบีโอนกรรมสิทธิ์ในอาคารพาณิชย์พร้อมที่ดิน ให้ นาย ก. ผู้เป็นบิดา แต่นาย ก. ไม่ได้ทำพินัยกรรมยกทรัพย์สินดังกล่าวให้นายเอ แล้วต่อมานาย ก. ถึงแก่กรรม กรรมสิทธ์ในอาคารพาณิชย์พร้อมที่ดินดังกล่าว จะตกเป็นของนายบี และภรรยาเท่านั้น ใช่หรือไม่
6. นาย เอ ควรปกป้องสิทธิ์ของตนเองหรือไม่ อย่างไร
ขอบพระคุณอย่างสูงในความกรุณาที่จะได้รับจากสมาชิกทุกท่าน
เข้าใจว่าเพื่อนไม่ถือเป็นบุตรตามกฏหมาย และไม่มีโอกาสได้รับมรดกใดๆ ของพ่อเลย ใช่หรือไม่
1. นาย ก. มีบุตรชาย 2 คน คนแรกคือนายเอ แต่งงานแล้วแต่ไม่ได้จดทะเบียนสมรสกับภรรยา มีบุตรสองคน คนที่สองคือนายบี แต่งงานแล้ว และจดทะเบียนสมรสกับภรรยา ยังไม่มีบุตร
2.นายเอ เป็นบุตรที่เกิดจากภรรยาคนแรก ที่ไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน และได้เลิกร้างกันไปแล้ว และนาย ก. ไม่ได้จดทะเบียนรับรองว่านายเอเป็นบุตรที่ชอบด้วยกฎหมาย แต่นาย ก. ได้ให้ใช้นามสกุลของนาย ก. และส่งเสียเลี้ยงดูนายเอมาตั้งแต่เกิดจนบรรลุนิติภาวะและจนถึงปัจจุบัน
3.นายบี เป็นบุตรที่เกิดจาก นาง น. ภรรยาคนปัจจุบัน ซึ่งได้จดทะเบียนสมรสตามกฎหมาย นายบีจึงถือเป็นบุตรตามกฎหมายของ นาย ก.
4.นาย ก. และนาง น. ได้ซื้ออาคารพาณิชย์ 4 ชั้น พร้อมที่ดินในพื้นที่เขตตลิ่งชัน โดยใส่ชื่อนายบีเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ในอาคารพาณิชย์พร้อมที่ดินดังกล่าว
5 นาย ก. ได้กล่าวด้วยวาจาว่าจะยกอาคารพาณิชย์ดังกล่าวให้นายเอ โดยจะให้นายบี ดำเนินการโอนกรรมสิทธิ์ให้
เป็นชื่อของนายเอ หลังตรุษจีน ปี 2562 (ต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2562)
6. เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2562 นาย ก. ได้แจ้งด้วยวาจากับนายเอว่า เรื่องอาคารพาณิชย์พร้อมที่ดินที่จะยกให้เป็นกรรมสิทธิ์ของนายเอนั้น เนื่องจากนายเอและนายบี เป็นพี่น้องคนละแม่ ทางการอาจมองว่าเป็นการซื้อขาย จะทำให้ค่าธรรมเนียมโอนมีจำนวนสูงกว่าการโอนที่มรดก ดังนั้น นาย ก. จะให้นายบีโอนกรรมสิทธิ์ในอาคารพาณิชย์พร้อมที่ดินให้แก่นาย ก. และนาย ก. จะทำพินัยกรรม ยกอาคารพาณิชย์พร้อมที่ดินดังกล่าวไว้ให้นายเอ ซึ่งเมื่อนาย ก.ถึงแก่ความตาย นายเอจะเป็นผู้ถือครองกรรมสิทธิ์ในอาคารพาณิชย์พร้อมที่ดินนั้นตามพินัยกรรม
คำถาม
1. นายเอ ไม่ใช่บุตรตามกฎหมายของนาย ก. ใช่หรือไม่
2. ถ้านายเอไม่ใช่บุตรตามกฎหมายของนาย ก. นายเอจะไม่ถือเป็นทายาทตามกฎหมาย หากนาย ก. ถึงแก่กรรม นายเอจะไม่มีสิทธิ์ในการรับมรดกใดๆ เลยของนาย ก. หากนาย ก. ไม่ทำพินัยกรรม เพื่อยกทรัพย์สินใดๆ ให้นายเอไว้ต่างหาก ใช่หรือไม่
3.การโอนกรรมสิทธิ์ในอาคารพาณิชย์พร้อมที่ดินของนายบี ให้นาย ก. ผู้เป็นบิดา ถือเป็นการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์หรือเป็นการให้โดยเสน่หา
4.การโอนกรรมสิทธิ์ในอาคารพาณิชย์พร้อมที่ดินของนายบี ให้นายเอ ผู้เป็นพี่ชายคนละแม่ ถือเป็นการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์หรือเป็นการให้โดยเสน่หา
5.หาก นายบีโอนกรรมสิทธิ์ในอาคารพาณิชย์พร้อมที่ดิน ให้ นาย ก. ผู้เป็นบิดา แต่นาย ก. ไม่ได้ทำพินัยกรรมยกทรัพย์สินดังกล่าวให้นายเอ แล้วต่อมานาย ก. ถึงแก่กรรม กรรมสิทธ์ในอาคารพาณิชย์พร้อมที่ดินดังกล่าว จะตกเป็นของนายบี และภรรยาเท่านั้น ใช่หรือไม่
6. นาย เอ ควรปกป้องสิทธิ์ของตนเองหรือไม่ อย่างไร
ขอบพระคุณอย่างสูงในความกรุณาที่จะได้รับจากสมาชิกทุกท่าน