".. Die with memories, not dreams."
Shizuoka จังหวัดน่ารักของแดนปลาดิบที่อาจเป็นแค่ทางผ่านของใครหลายคน แต่ถ้าได้ลองแวะเที่ยวดูสักครั้ง รับรองว่าจะต้องตกหลุมรักอย่างแน่นอน เพราะที่นี่สามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิได้แทบทุกมุม เพียงแค่นั่งรถไฟความเร็วสูงชินคันเซ็นมาแค่ 1 ชั่วโมงเท่านั้นเอง เราก็เลยอยากมาแบ่งปันรีวิวของจังหวัดชิซึโอกะเอาไว้ให้เป็นตัวเลือกสำหรับคนที่กำลังมองหาสถานที่เที่ยวใหม่ๆ ในญี่ปุ่น เมืองนี้มีมุมให้ถ่ายรูปฟูจิซังแบบแปลกตาอยู่หลายมุมมากจริงๆ ค่ะ ไม่แน่นะคะ อ่านโพสต์นี้จบ .. ชิซึโอกะ อาจไม่เป็นแค่ทางผ่านอีกต่อไปก็ได้
ไปเที่ยวชิซึโอกะด้วยกันนะ : )
‘ชิซึโอกะ’ ฟังจากชื่อดูเหมือนไกลใช่ไหม? แต่จริงๆ แล้ว ชิซึโอกะ เป็นหนึ่งในเมืองที่สามารถไปเที่ยวแบบเช้า - เย็นกลับได้เลยนะคะ เพราะใช้เวลานั่งรถไฟความเร็วสูงชินคันเซ็นจากโตเกียวมาแค่ 40 - 60 นาทีเท่านั้นเอง โดยทริปนี้เราไปเที่ยวมาทั้งหมด 6 เมือง คือ Atami / Mishima / Fujinomiya / Izu / Numazu และเมืองหลวงของจังหวัดซึ่งมีชื่อเหมือนกันเลย นั่นก็คือ Shizuoka ใช้เวลาเที่ยวอยู่ที่ชิซึโอกะทั้งหมด 4 วัน 3 คืน นับเป็นช่วงเวลาสั้นๆ ที่ดีต่อใจ เพราะรู้สึกว่าที่นี่คือ Slow Life Japan ที่แท้ทรู อยู่แล้วรู้สึกสบายใจ อยากอยู่ต่อนานๆ เลย
ส่วนวิธีการเดินทางนั้นเรานั่งชินคันเซ็นจากสถานี Shinagawa ลงที่สถานี Atami เพราะตั้งใจจะไปดูซากุระเย็นหรือซากุระฤดูหนาวที่บานก่อนซากุระที่คาวาซุ (Kawazu) ใช้เวลาเดินทางจากสถานี Shinagawa แค่ 39 นาทีเท่านั้น หลังจากนั้น เราก็ต่อรถไฟไปเที่ยวตามเมืองต่างๆ นั่งรถไฟบ้าง สลับกับขับรถบ้าง หรือบางเมืองก็สามารถนั่งรถบัสได้ค่ะ ถ้าใครมาเที่ยวเอง แนะนำให้ซื้อพาส Mt. Fuji-Shizuoka Area Tourist Pass Mini เพิ่ม โดยพาสนี้สามารถใช้นั่งรถไฟ / รถบัส บริเวณรอบจังหวัดชิซึโอกะ และเรือเฟอร์รี่ เพื่อเที่ยวที่ Shimizu Port Bay Cruise และ Suruga Bay ได้ รวมไปถึงใช้นั่ง Fujikyuko Bus เที่ยวรอบทะเลสาบที่คาวากุจิโกะได้ด้วย พาสสามารถใช้งานได้ 3 วัน ราคา 4,500 เยน ซื้อก่อนจากเมืองไทยแล้วค่อยไปแลกเป็นพาสจริงที่ญี่ปุ่นเหมือนพาสอื่นๆ ได้เลย ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้จากลิงก์นี้เลยจ้า >
http://touristpass.jp/en/fuji_shizuoka/
สำหรับแผนเที่ยวชิซึโอกะ 4 วัน 3 คืนนี้ แรกเริ่มเดิมทีมันเกิดขึ้นจากเราอยากหากิจกรรมอะไรสนุกๆ ที่ญี่ปุ่นทำบ้าง เพราะปกติเวลาไปญี่ปุ่นทีไรก็จะเน้นไปถ่ายรูป เดินเล่นอย่างเดียว เราเชื่อว่าประสบการณ์คืออรรถรสของความทรงจำนะ ยิ่งทริปไหนได้มีโอกาสทำอะไรแปลกใหม่ที่ไม่เคยทำมาก่อน ทริปนั้นยิ่งเป็นเหมือนกาวติดตรึงในความทรงจำให้นึกถึงอยู่เสมอ ประจวบเหมาะกับที่ไปเจอภาพคนกำลังกระโดดร่มหรือ Paragliding แต่ที่พีคคือมีภูเขาไฟฟูจิเป็นฉากหลัง! มันก็เลยเป็นแรงบันดาลใจให้เราอยากมีโมเมนต์แบบนั้นบ้าง
เลยพยายามค้นหาข้อมูลจนไปเจอกับเว็บไซต์ของทางจังหวัดชิซึโอกะซึ่งมีภาษาอังกฤษด้วย! ดีใจมากกกกก เพราะปกติกิจกรรมต่างๆ ที่ต้องจองผ่านเว็บไซต์ของญี่ปุ่น จะเป็นภาษาญี่ปุ่นล้วน แต่ในเว็บนี้มีข้อมูลเป็นภาษาอังกฤษ แถมยังสามารถจองกิจกรรมต่างๆ ผ่านเว็บได้เลยอีกด้วย เว็บไซต์ที่เราพูดถึงคือ
https://shizuoka-guide.com/tsj/english/mountfujitravel/index.html เป็นเว็บไซต์ที่จัดทำโดยจังหวัดชิซึโอกะโดยตรง ฉะนั้นกิจกรรมต่างๆ จึงน่าจะถูกเลือกสรรมาแล้วว่าเป็นกิจกรรมที่สุโก้ยและเต็มไปด้วยประสบการณ์ที่ดีงาม แน่นอนว่ารวมไปถึงการกระโดดร่มหรือพาราไกลดิ้งชมวิวภูเขาไฟฟูจิจากบนท้องฟ้าด้วย
Fujinomiya
ฟูจิโนมิยะ คือเมืองที่กลายมาอยู่อันดับต้นๆ ในใจ เป็นหนึ่งในเมืองที่เราชอบมากที่สุด ตั้งแต่เที่ยวญี่ปุ่นมากเลยค่ะ เพราะฟูจิโนมิยะเป็นเมืองที่สามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิได้แบบใหญ่โตเต็มตามากกกกก แถมบรรยากาศของเมืองยังอบอุ่นน่ารัก ไม่ว่าจะเดิน จะนั่งอยู่มุมไหนก็สามารถสบตากับฟูจิซังได้ไม่ยากเลย ถ้าใครเป็นคนชอบถ่ายรูปจะยิ่งเพลิดเพลินใหญ่ เพราะมีมุมแปลกตาให้ถ่ายรูปฟูจิซังแบบไม่รู้เบื่อ
สำหรับการเดินทางนั้น ถ้าเที่ยวอยู่ในจังหวัดชิซึโอกะอยู่แล้ว สามารถนั่งรถไฟ JR Minobu Line มาลงที่สถานี Fujinomiya ได้เลย แต่ถ้ามาจากโตเกียว แนะนำให้นั่งชินคันเซ็นมาลงที่สถานี Shin-Fuji แล้วต่อรถบัส Fujikyuko Bus ใช้เวลาประมาณ 35 นาที จะเป็นวิธีที่สะดวกสุด ดูตารางเวลาของรถบัสได้จากลิงก์นี้จ้า >
http://bus-en.fujikyu.co.jp/pdf/rosen/timetable_shinfuji.pdf
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
Numazu
นูมาซุ คือเมืองเลียบชายทะเลของชิซึโอกะ เป็นเมืองที่มีบรรยากาศชิลมาก เหมาะสำหรับการปั่นจักรยานเที่ยวสุดๆ เราก็เลยเช่าจักรยานไฟฟ้า (E-bike) ซึ่งมีให้เช่าอยู่ที่ล็อบบี้ของโรงแรม Cocochee Hotel ที่เราพัก ราคาค่าเช่าจักรยาน คือ 1,800 เยน/ครึ่งวัน และ 2,500 เยน/ทั้งวัน ซึ่งเราปั่นไปริมทะเลแถว Numazu Port ที่นั่นมีร้านอาหารทะเลเป็นซีฟู้ดสดใหม่ให้เลือกหลายร้าน แถมระหว่างทางยังเห็นภูเขาไฟฟูจิโผล่มาทักทายนิดๆ ด้วยค่ะ : )
Izu
‘คาบสมุทรอิซุ (Izu-Peninsula)’ หรือ 'อิซุ' นับเป็นอีกเมืองที่น่าเที่ยวมากในจังหวัดชิซึโอกะ เมืองนี้มีแววจะโด่งดังขึ้นอีกหลังจากปี 2020 เพราะ Tokyo 2020 Olympics หรือโอลิมปิกฤดูร้อนที่กำลังจะมาถึงในเร็ววันนี้ จะมีการจัดการแข่งขันจักรยานขึ้นในเมืองอิซุด้วย ฉะนั้นเราก็เลยเช่าจักรยานปั่นเที่ยวเพื่อให้เข้าตีมซะหน่อย โดยเช่าจักรยานไฟฟ้าจากร้าน MERIDA X Base แล้วปั่นไปเที่ยวที่ Izunokuni Panorama Park สวนสาธารณะลอยฟ้าซึ่งสามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิได้ น่าเสียดาย ตอนที่เราไป ฟูจิซังเขาขี้อายไปหน่อย ก็เลยโผล่มาให้เห็นแค่นิดเดียวเอง แต่ด้านบนมีออนเซ็นเท้าให้แช่ฟรีด้วยค่ะ ถ้าวันไหนฟ้าเปิด แช่เท้าไป มองดูฟูจิซังไปพลาง คงฟินน่าดูเลยเนอะ
Atami
อาตามิ ได้ชื่อว่าเป็นเมืองแห่งออนเซ็นของจังหวัดชิซึโอกะ ในแถบนี้จะมีเรียวกังติดทะเลซึ่งมีออนเซ็นให้แช่อยู่เรียงราย แต่เราแวะมาเมืองอาตามิด้วยจุดประสงค์เดียวคือดูถนนสายซากุระเย็นหรือซากุระหน้าหนาว ซึ่งซากุระที่นี่จะบานเร็วกว่าคาวาซุ (Kawazu) อีกนะ ฉะนั้นช่วงที่เราไปคือประมาณปลายเดือนมกราคม ก็มีซากุระบลูมๆ ให้ชมแล้ว ที่สำคัญยังอยู่ไม่ไกลจากโตเกียวเลย สามารถนั่งชินคันเซ็นจากโตเกียวโดยใช้เวลาแค่ 39 นาทีเท่านั้นเองค่า
Shizuoka
เรามาปิดท้ายทริปชิซึโอกะวันสุดท้ายที่ในตัวเมืองชิซึโอกะ เพราะจะได้นั่งชินคันเซ็นยิงยาวจากสถานี Shizuoka กลับโตเกียวได้เลย โดยเราเลือกที่จะเช่าจักรยานปั่นเที่ยวค่ะ เพราะติดใจการปั่นจักรยานที่ญี่ปุ่นมากกก ซึ่งคอร์สจักรยานที่เราเลือกคือปั่นไปชมไร่ชา
ก็นะ .. มาถึงชิซึโอกะ จังหวัดที่ขึ้นชื่อเรื่องชาเขียวทั้งที ก็เลยอยากได้ฟีลไปชมไร่ชาแบบไม่ธรรมดาดู จะได้มีอะไรไว้จดจำถึงจังหวัดชิซึโอกะเยอะๆ เราเลยจองกิจกรรมนี้จากเว็บไซต์เดิม >
https://shizuoka-guide.com/tsj/english/mountfujitravel/outdoor-activity/04/biketour_to_greentea_farm.html โดยเขาจะพาปั่นไปชมไร่ชา Moriuchi Tea Farm เป็นไร่ชาที่มีชื่อเสียงของเมืองชิซึโอกะ แล้วก็ได้ชิมชาเขียวรสเข้มข้นด้วย สำหรับคนรักชาเขียวอย่างเราแล้วโคตรฟินเลยค่ะ ถ้าใครมีโอกาสแล้วอยากเปลี่ยนฟีล ลองปั่นจักรยานเที่ยวญี่ปุ่นดูสักครั้งนะ รับรองว่าจะต้องติดใจแน่นอนค่า
สุดท้ายแล้ว เชื่อว่าคนไทยคงเที่ยวญี่ปุ่นกันเริ่มจะขึ้นครั้งที่ 2-3 กันแล้ว คงมีคนอยากหาที่เที่ยวใหม่ๆ บ้าง ชิซึโอกะเป็นตัวเลือกที่ดีมาก โดยเฉพาะเมืองฟูจิโนมิยะ เป็นเมืองที่สามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิได้ใกล้มากๆ เลยค่ะ สารภาพตามตรงว่าหลงรักเมืองนี้เข้าเต็มเปา .. และถ้าใครอ่านกระทู้นี้แล้วอยากอ่านรีวิวแบบเต็มๆ ลองคลิกเข้าไปอ่านต่อในลิงก์นี้ได้นะ >
https://www.movearound-journey.com/shizuoka-fujisan เรารีวิววิธีการเดินทางค่อนข้างละเอียดเอาไว้ด้วย คราวหน้าถ้ามีทริปดีๆ อีกเมื่อไร เราจะนำมาแบ่งปันกันอีกนะคะ
ขอบคุณที่อ่านมาจนถึงบรรทัดนี้จ้า : )
[BR] S h i z u o k a ; เมืองที่ทำให้เราละสายตาจากฟูจิซังไม่ได้แม้แต่วินาทีเดียว
‘ชิซึโอกะ’ ฟังจากชื่อดูเหมือนไกลใช่ไหม? แต่จริงๆ แล้ว ชิซึโอกะ เป็นหนึ่งในเมืองที่สามารถไปเที่ยวแบบเช้า - เย็นกลับได้เลยนะคะ เพราะใช้เวลานั่งรถไฟความเร็วสูงชินคันเซ็นจากโตเกียวมาแค่ 40 - 60 นาทีเท่านั้นเอง โดยทริปนี้เราไปเที่ยวมาทั้งหมด 6 เมือง คือ Atami / Mishima / Fujinomiya / Izu / Numazu และเมืองหลวงของจังหวัดซึ่งมีชื่อเหมือนกันเลย นั่นก็คือ Shizuoka ใช้เวลาเที่ยวอยู่ที่ชิซึโอกะทั้งหมด 4 วัน 3 คืน นับเป็นช่วงเวลาสั้นๆ ที่ดีต่อใจ เพราะรู้สึกว่าที่นี่คือ Slow Life Japan ที่แท้ทรู อยู่แล้วรู้สึกสบายใจ อยากอยู่ต่อนานๆ เลย
ส่วนวิธีการเดินทางนั้นเรานั่งชินคันเซ็นจากสถานี Shinagawa ลงที่สถานี Atami เพราะตั้งใจจะไปดูซากุระเย็นหรือซากุระฤดูหนาวที่บานก่อนซากุระที่คาวาซุ (Kawazu) ใช้เวลาเดินทางจากสถานี Shinagawa แค่ 39 นาทีเท่านั้น หลังจากนั้น เราก็ต่อรถไฟไปเที่ยวตามเมืองต่างๆ นั่งรถไฟบ้าง สลับกับขับรถบ้าง หรือบางเมืองก็สามารถนั่งรถบัสได้ค่ะ ถ้าใครมาเที่ยวเอง แนะนำให้ซื้อพาส Mt. Fuji-Shizuoka Area Tourist Pass Mini เพิ่ม โดยพาสนี้สามารถใช้นั่งรถไฟ / รถบัส บริเวณรอบจังหวัดชิซึโอกะ และเรือเฟอร์รี่ เพื่อเที่ยวที่ Shimizu Port Bay Cruise และ Suruga Bay ได้ รวมไปถึงใช้นั่ง Fujikyuko Bus เที่ยวรอบทะเลสาบที่คาวากุจิโกะได้ด้วย พาสสามารถใช้งานได้ 3 วัน ราคา 4,500 เยน ซื้อก่อนจากเมืองไทยแล้วค่อยไปแลกเป็นพาสจริงที่ญี่ปุ่นเหมือนพาสอื่นๆ ได้เลย ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้จากลิงก์นี้เลยจ้า > http://touristpass.jp/en/fuji_shizuoka/
สำหรับแผนเที่ยวชิซึโอกะ 4 วัน 3 คืนนี้ แรกเริ่มเดิมทีมันเกิดขึ้นจากเราอยากหากิจกรรมอะไรสนุกๆ ที่ญี่ปุ่นทำบ้าง เพราะปกติเวลาไปญี่ปุ่นทีไรก็จะเน้นไปถ่ายรูป เดินเล่นอย่างเดียว เราเชื่อว่าประสบการณ์คืออรรถรสของความทรงจำนะ ยิ่งทริปไหนได้มีโอกาสทำอะไรแปลกใหม่ที่ไม่เคยทำมาก่อน ทริปนั้นยิ่งเป็นเหมือนกาวติดตรึงในความทรงจำให้นึกถึงอยู่เสมอ ประจวบเหมาะกับที่ไปเจอภาพคนกำลังกระโดดร่มหรือ Paragliding แต่ที่พีคคือมีภูเขาไฟฟูจิเป็นฉากหลัง! มันก็เลยเป็นแรงบันดาลใจให้เราอยากมีโมเมนต์แบบนั้นบ้าง
เลยพยายามค้นหาข้อมูลจนไปเจอกับเว็บไซต์ของทางจังหวัดชิซึโอกะซึ่งมีภาษาอังกฤษด้วย! ดีใจมากกกกก เพราะปกติกิจกรรมต่างๆ ที่ต้องจองผ่านเว็บไซต์ของญี่ปุ่น จะเป็นภาษาญี่ปุ่นล้วน แต่ในเว็บนี้มีข้อมูลเป็นภาษาอังกฤษ แถมยังสามารถจองกิจกรรมต่างๆ ผ่านเว็บได้เลยอีกด้วย เว็บไซต์ที่เราพูดถึงคือ https://shizuoka-guide.com/tsj/english/mountfujitravel/index.html เป็นเว็บไซต์ที่จัดทำโดยจังหวัดชิซึโอกะโดยตรง ฉะนั้นกิจกรรมต่างๆ จึงน่าจะถูกเลือกสรรมาแล้วว่าเป็นกิจกรรมที่สุโก้ยและเต็มไปด้วยประสบการณ์ที่ดีงาม แน่นอนว่ารวมไปถึงการกระโดดร่มหรือพาราไกลดิ้งชมวิวภูเขาไฟฟูจิจากบนท้องฟ้าด้วย
Fujinomiya
ฟูจิโนมิยะ คือเมืองที่กลายมาอยู่อันดับต้นๆ ในใจ เป็นหนึ่งในเมืองที่เราชอบมากที่สุด ตั้งแต่เที่ยวญี่ปุ่นมากเลยค่ะ เพราะฟูจิโนมิยะเป็นเมืองที่สามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิได้แบบใหญ่โตเต็มตามากกกกก แถมบรรยากาศของเมืองยังอบอุ่นน่ารัก ไม่ว่าจะเดิน จะนั่งอยู่มุมไหนก็สามารถสบตากับฟูจิซังได้ไม่ยากเลย ถ้าใครเป็นคนชอบถ่ายรูปจะยิ่งเพลิดเพลินใหญ่ เพราะมีมุมแปลกตาให้ถ่ายรูปฟูจิซังแบบไม่รู้เบื่อ
สำหรับการเดินทางนั้น ถ้าเที่ยวอยู่ในจังหวัดชิซึโอกะอยู่แล้ว สามารถนั่งรถไฟ JR Minobu Line มาลงที่สถานี Fujinomiya ได้เลย แต่ถ้ามาจากโตเกียว แนะนำให้นั่งชินคันเซ็นมาลงที่สถานี Shin-Fuji แล้วต่อรถบัส Fujikyuko Bus ใช้เวลาประมาณ 35 นาที จะเป็นวิธีที่สะดวกสุด ดูตารางเวลาของรถบัสได้จากลิงก์นี้จ้า > http://bus-en.fujikyu.co.jp/pdf/rosen/timetable_shinfuji.pdf
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
Numazu
นูมาซุ คือเมืองเลียบชายทะเลของชิซึโอกะ เป็นเมืองที่มีบรรยากาศชิลมาก เหมาะสำหรับการปั่นจักรยานเที่ยวสุดๆ เราก็เลยเช่าจักรยานไฟฟ้า (E-bike) ซึ่งมีให้เช่าอยู่ที่ล็อบบี้ของโรงแรม Cocochee Hotel ที่เราพัก ราคาค่าเช่าจักรยาน คือ 1,800 เยน/ครึ่งวัน และ 2,500 เยน/ทั้งวัน ซึ่งเราปั่นไปริมทะเลแถว Numazu Port ที่นั่นมีร้านอาหารทะเลเป็นซีฟู้ดสดใหม่ให้เลือกหลายร้าน แถมระหว่างทางยังเห็นภูเขาไฟฟูจิโผล่มาทักทายนิดๆ ด้วยค่ะ : )
Izu
‘คาบสมุทรอิซุ (Izu-Peninsula)’ หรือ 'อิซุ' นับเป็นอีกเมืองที่น่าเที่ยวมากในจังหวัดชิซึโอกะ เมืองนี้มีแววจะโด่งดังขึ้นอีกหลังจากปี 2020 เพราะ Tokyo 2020 Olympics หรือโอลิมปิกฤดูร้อนที่กำลังจะมาถึงในเร็ววันนี้ จะมีการจัดการแข่งขันจักรยานขึ้นในเมืองอิซุด้วย ฉะนั้นเราก็เลยเช่าจักรยานปั่นเที่ยวเพื่อให้เข้าตีมซะหน่อย โดยเช่าจักรยานไฟฟ้าจากร้าน MERIDA X Base แล้วปั่นไปเที่ยวที่ Izunokuni Panorama Park สวนสาธารณะลอยฟ้าซึ่งสามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิได้ น่าเสียดาย ตอนที่เราไป ฟูจิซังเขาขี้อายไปหน่อย ก็เลยโผล่มาให้เห็นแค่นิดเดียวเอง แต่ด้านบนมีออนเซ็นเท้าให้แช่ฟรีด้วยค่ะ ถ้าวันไหนฟ้าเปิด แช่เท้าไป มองดูฟูจิซังไปพลาง คงฟินน่าดูเลยเนอะ
Atami
อาตามิ ได้ชื่อว่าเป็นเมืองแห่งออนเซ็นของจังหวัดชิซึโอกะ ในแถบนี้จะมีเรียวกังติดทะเลซึ่งมีออนเซ็นให้แช่อยู่เรียงราย แต่เราแวะมาเมืองอาตามิด้วยจุดประสงค์เดียวคือดูถนนสายซากุระเย็นหรือซากุระหน้าหนาว ซึ่งซากุระที่นี่จะบานเร็วกว่าคาวาซุ (Kawazu) อีกนะ ฉะนั้นช่วงที่เราไปคือประมาณปลายเดือนมกราคม ก็มีซากุระบลูมๆ ให้ชมแล้ว ที่สำคัญยังอยู่ไม่ไกลจากโตเกียวเลย สามารถนั่งชินคันเซ็นจากโตเกียวโดยใช้เวลาแค่ 39 นาทีเท่านั้นเองค่า
Shizuoka
เรามาปิดท้ายทริปชิซึโอกะวันสุดท้ายที่ในตัวเมืองชิซึโอกะ เพราะจะได้นั่งชินคันเซ็นยิงยาวจากสถานี Shizuoka กลับโตเกียวได้เลย โดยเราเลือกที่จะเช่าจักรยานปั่นเที่ยวค่ะ เพราะติดใจการปั่นจักรยานที่ญี่ปุ่นมากกก ซึ่งคอร์สจักรยานที่เราเลือกคือปั่นไปชมไร่ชา
ก็นะ .. มาถึงชิซึโอกะ จังหวัดที่ขึ้นชื่อเรื่องชาเขียวทั้งที ก็เลยอยากได้ฟีลไปชมไร่ชาแบบไม่ธรรมดาดู จะได้มีอะไรไว้จดจำถึงจังหวัดชิซึโอกะเยอะๆ เราเลยจองกิจกรรมนี้จากเว็บไซต์เดิม > https://shizuoka-guide.com/tsj/english/mountfujitravel/outdoor-activity/04/biketour_to_greentea_farm.html โดยเขาจะพาปั่นไปชมไร่ชา Moriuchi Tea Farm เป็นไร่ชาที่มีชื่อเสียงของเมืองชิซึโอกะ แล้วก็ได้ชิมชาเขียวรสเข้มข้นด้วย สำหรับคนรักชาเขียวอย่างเราแล้วโคตรฟินเลยค่ะ ถ้าใครมีโอกาสแล้วอยากเปลี่ยนฟีล ลองปั่นจักรยานเที่ยวญี่ปุ่นดูสักครั้งนะ รับรองว่าจะต้องติดใจแน่นอนค่า
สุดท้ายแล้ว เชื่อว่าคนไทยคงเที่ยวญี่ปุ่นกันเริ่มจะขึ้นครั้งที่ 2-3 กันแล้ว คงมีคนอยากหาที่เที่ยวใหม่ๆ บ้าง ชิซึโอกะเป็นตัวเลือกที่ดีมาก โดยเฉพาะเมืองฟูจิโนมิยะ เป็นเมืองที่สามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิได้ใกล้มากๆ เลยค่ะ สารภาพตามตรงว่าหลงรักเมืองนี้เข้าเต็มเปา .. และถ้าใครอ่านกระทู้นี้แล้วอยากอ่านรีวิวแบบเต็มๆ ลองคลิกเข้าไปอ่านต่อในลิงก์นี้ได้นะ > https://www.movearound-journey.com/shizuoka-fujisan เรารีวิววิธีการเดินทางค่อนข้างละเอียดเอาไว้ด้วย คราวหน้าถ้ามีทริปดีๆ อีกเมื่อไร เราจะนำมาแบ่งปันกันอีกนะคะ
ขอบคุณที่อ่านมาจนถึงบรรทัดนี้จ้า : )
BR - Business Review : กระทู้นี้เป็นกระทู้รีวิวจากผู้สนับสนุน