.
มีเหตุการณ์ไม่คาดฝันและไม่น่าเชื่อก็เกิดขึ้นในวันหนึ่ง ซึ่งยังอยู่ในความทรงจำไม่เคยลืมเลือน วันนั้นแมวปิฬาร์ตัวเก่งแอบไปปีนต้นไม้แถวชานเมืองเล่นตามประสาแมวอย่างเพลิดเพลินในวันฝนตกพรำ
ขณะอยู่บนยอดไม้เพลิน ๆ บังเอิญมีฟ้าผ่าเปรี้ยงลงมาแบบไม่คาดฝัน แม้ว่าไม่โดนจัง ๆ แต่เฉียดไปแบบหวุดหวิด ทั้งที่ไม่เคยสาบานกับแมวตัวใดให้ฟ้าผ่าหัว
แมวปิฬาร์ไม่ตาย เพราะกระแสไฟฟ้าวิ่งผ่านลงสู่พื้นดินตามต้นไม้เปียกชื้นอย่างรวดเร็ว แต่มีกระแสไฟฟ้าส่วนหนึ่งวิ่งผ่านสมองแมวทำให้เกิดปรากฏการณ์พิเศษบางอย่างอันแปลกประหลาดชนิดเล่าให้ใครฟังคงไม่มีใครเชื่อ แมวสาวตกลงมาจากยอดต้นไม้แบบสโลว์โมชั่นคล้ายหนังแอ๊คชันของ จอห์น วู พลิกตัวไปมาอย่างชัดเจนสวยงาม พอเท้าแตะพื้นก็สปริงตัวลอยหมุนอย่างสวยงามขึ้นมาอีกหนึ่งครั้ง ก่อนร่อนลงพื้นถนนอย่างนิ่มนวลราวกับมีวิชาตัวเบา
แมวสาวสั่นศีรษะอย่างมึนงง ยืนงงเป็นแมวตาฟางพักหนึ่งจึงคิดได้ว่ากลับบ้านดีกว่า วันนี้ฤกษ์ไม่ดี อยู่ดีๆ ก็ถูกฟ้าผ่าเกือบตายฟรีแบบไม่มีเหตุผล เป็นการเริ่มต้นที่ไม่ค่อยดีเลย
ขณะเดินรีรออยู่ข้างถนน รถเก๋งคันหนึ่งวิ่งผ่านมา หญิงสาวสวยคนขับหยุดรถจอดใกล้ๆ แล้วหมุนลดกระจกข้างชะโงกลงมามองปิฬาร์ตาเป็นประกายด้วยความชื่นชมร้องเสียงดังว่า
"ต้ายตาย ดูสิ แมวตัวสวย น่ารักจริงเชียว น่ารัก น่าอุ้ม น่ากอด"
แมวตัวสวยพอได้ยินก็เกิดอาการปลื้มใจสุด ๆ เดินเชิดหน้ายิ้มกว้างทันที
"นั่นน่ะสิ…." เพื่อนของหญิงคนนั้นชะโงกหน้าออกมาดูบ้าง "ตัวสวยน่ารักอย่างนี้เอาไปเลี้ยงที่บ้านดีกว่า"
ไม่พูดเปล่า เธอเปิดประตูก้าวลงมาจากรถเดินตรงมาอย่างไม่สนใจสายฝนพรำ แมวสาวหันไปมองนึกในใจว่าอะไรกัน ฉันไม่ใช่แมวข้างถนน นึกจะเอาไปเลี้ยงก็จับไปเลี้ยงง่าย ๆ แบบนี้มีที่ไหน ไม่มีวันเสียล่ะ ไม่ใช่แมวใจง่ายสักหน่อย แต่พอเห็นท่าทางเอาจริงเอาจังของหญิงคนนั้นก็รู้สึกไม่ดี รู้สึกเหมือนมีบางอย่างไม่ชอบมาพากล สุดท้ายเลยออกวิ่งกลับบ้านทันที หูยังได้ยินเสียงร้องตามหลังมาอย่างชัดเจน
"จะไปไหนเจ้าเหมียวน้อย กลับมาก่อน กลับมา"
พอหันไปมองเห็นมือไขว่คว้าตรงมาน่ากลัวแบบแปลกๆ ถึงกับต้องเร่งความเร็ววิ่งสุดชีวิต โดยมีผู้หญิงคนนั้นวิ่งตามมาแบบไม่น่าเชื่อว่าทำไมต้องคลั่งไคล้ไหลหลงขนาดหนักจนไม่น่าเชื่อ แต่อย่างไรก็ตาม แมวย่อมวิ่งเร็วกว่าคน สุดท้ายวิ่งมาหอบอยู่ริมถนนสายหนึ่ง
ร้านอาหารริมทางใกล้ๆเป็นร้านขายก๋วยเตี๋ยว น้ำในหม้อต้มหอมกรุ่น คนขายผู้หญิงร่างท้วมอายุวัยค่อนคนเดินออกมามองปิฬาร์แล้วทำตาเป็นประกายระยิบชื่นชมอย่างไม่เคยมองแมวตัวไหนแบบนี้มาก่อน แล้วเอามือทาบอกเบิกตากว้าง ร้องด้วยความตื่นเต้นปลาบปลื้มใจ
"โอ..เป็นแมวที่สวยมาก สวยจริง เกิดมาไม่เคยพบเคยเห็น โอย อยากอุ้มอยากกอดอยากหอม"
เหนื่อยก็เหนื่อย พอได้ฟังแมวปิฬาร์หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง ยิ้มปากกว้างเพราะเป็นแมวบ้ายออยู่แล้ว แม่ค้าใหญ่รำพึงรำพันต่อไปด้วยเสียงแสนหวาน
"สวยอย่างนี้เอามาลงหม้อ น่ารักน่าต้ม ทำน้ำต้มซุปแมวคงอร่อยดี"
"เมี๊ยว….."
ฟังแล้วถึงกับขนลุกจนตัวพองร้องสุดเสียงกระโดดสุดตัว อะไรกัน... ความรู้สึกจะเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือกะทันหันได้ขนาดนี้ และยิ่งใจหายวาบเมื่อเห็นผู้หญิงเจ้าของร้านคนนั้นเดินถือมีดตรงมาจริงๆ แมวสาวเลยเผ่นสุดชีวิตอีกครั้ง รู้สึกวันนี้มีอะไรหลายอย่างไม่ชอบมาพากลอย่างบอกไม่ถูก แม่ค้าก๋วยเตี๋ยววิ่งกวัดแกว่งมีดตามมาอย่างน่ากลัว แต่ความเร็วในการวิ่งแพ้แมวอยู่แล้ว ได้ยินแต่เสียงห่างออกไปทุกที
“น้องแมวจ๋า จะรีบไปไหน มามะ มาให้จับลงหม้อตัมน้ำซุปด้วยความรักเสียดี ๆ จะได้ทำก๋วยเตี๋ยวแมวให้อร่อยไปเลย“
สุดท้ายแมวปิฬาร์มานั่งลิ้นห้อยอยู่หัวมุมถนนอย่างเหน็ดเหนื่อยและมึนงง เกิดมาไม่เคยพบไม่เคยเห็นอะไรพิสดารขนาดนี้มาก่อน
ยังไม่ทันถึงนาทีก็มีเสียงเดินมาด้านหลัง
"แมวสวยจัง……"
หันไปมองอย่างไม่แน่ใจและไม่ไว้ใจ ไม่กล้ายิ้มปากกว้างอีกแล้ว เพราะยิ้มทีไรเป็นเรื่องทุกที นั่นเป็นสาวเจ้าของร้านเนื้อย่างกำลังส่งยิ้มหวานเดินตรงมาสายตาเชื่อมหวานปานจะหยด
"แมวสวยน่ารัก อย่างนี้จับไปย่างไฟอ่อนๆ ทาเกลือนิดๆ ด้วยความรัก คงอร่อยดีแซบอีหลีเด้อค่าเด้อ"
ไม่ต้องรออะไรอีกแล้ว แมวปิฬาร์ขนลุกขนพองสยองเกล้า กระโดดตัวลอยออกวิ่งสุดชีวิตอีกครั้ง ทำไมมันซวยอย่างนี้ วิ่งผ่านร้านส้มตำก็ไม่กล้าหยุดพักเพราะกลัวว่าจะถูกจับไปเป็นแมวส้มตำ วิ่งผ่านร้านกาแฟก็ไม่กล้าหยุดพักเพราะกลัวคนขายจะจับไปทำแมวกาแฟ นั่นร้านขายหนังสือคนขายคงไม่จับไปทำหนังสือ จึงไปหยุดอยู่หน้าร้านขายหนังสือ เหนื่อยแทบตาย
หนุ่มคนขายหนังสือโผล่หน้ามามองร้องชื่นชมอีกคน
"สวยจังแมวตัวนี้ อย่างนี้ต้องจับไปรีดให้แบนทำเป็นที่คั่นหนังสือ หนังก็เอาไปห่อปกหนังสือคงน่ารักน่าชังเป็นแน่แท้"
เอาอีกแล้ว….ความซวยมาเยือนโดยไม่ต้องถามหา ไม่ต้องรอหาพระแสงอะไรอีก วิ่งกันตับแตกละงานนี้
วิ่ง วิ่งและวิ่ง จนลืมวิ่งกลับบ้าน เพราะมัวแต่ตกใจกลัว วิ่งจนลมออกหู
แมวสาวไม่กล้าหยุด เพราะทันทีที่หยุดวิ่ง จะตกเป็นเป้าสายตาและความสนใจของผู้คนทันที แต่ละคนมองปิฬาร์ไปคนละแบบ รักและรู้สึกไปคนละแบบ ตามแต่อาชีพและความคุ้นเคยที่ตนเองถนัด ช่างน่าประหลาดใจและชวนสยดสยองเหลือเกิน
โอย..เหนื่อยจะแย่ใจจะขาด มันเรื่องบ้าอะไรกัน
แมวปิฬาร์ไม่รู้ว่าสาเหตุมันมาจากไฟฟ้าที่ผ่าลงมา ทำให้สมองของตัวเองสร้างคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าลึกลับชนิดหนึ่งออกมา คลื่นที่สามารถกระตุ้นให้คนอื่นสนใจรักใคร่ใหลหลงไปคนละแบบ ตามความถนัดของตนเอง
วิ่งหยุดใกล้เด็ก นึกว่าจะปลอดภัย เด็กก็จะจับไปทำไอศกรีมแมวด้วยความอยากกิน
วิ่งหยุดใกล้คลีนิค แพทย์ก็โผล่มาจะจับไปฉีดยาด้วยความเอ็นดู
ตายแน่…ฝูงชนวิ่งตามมาเริ่มเพิ่มจำนวนมากขึ้นทุกที มีทั้งนักเรียนกลุ่มใหญ่ ทหาร เรือเมล์ ยี่เก ตำรวจ คนกวาดถนน(อยากกวาดปิฬาร์ด้วยความรักใจจะขาด) บุรุษไปรษณีย์(อยากติดแสตมป์ปิฬาร์ด้วยความรักใจจะขาด) พร้อมหน้าพร้อมตาวิ่งตามแมวสาวมาด้วยควมรักอย่างสุดสวาทขาดใจ
กลับบ้านดีที่สุด เพิ่งนีกได้หลังจากวางมานาน
บ้านย่อมปลอดภัยกว่าทุกหนทุกแห่ง บ้านคือที่พักพิงแหล่งสุดท้าย แมวปิฬาร์รวบรวมกำลังที่เหลือวิ่งกลับบ้าน พอมาถึงหน้าบ้านก็กระโดดข้ามกำแพงแทบไม่พ้น ตะกายปีนขึ้นไปบนหน้าต่างชั้นสอง ตกลงบนพื้นนอนแผ่หราหมดแรง ไม่เคยเหนื่อยอย่างนี้มาก่อนในชีวิต ในบ้านคงปลอดภัย
"อ้าว…ปิฬาร์ ทำไมมานอนอยู่ที่นี่"
คุณนายใจดีเจ้าของบ้านมาตอนไหนไม่รู้ คงเพราะเหนื่อยเกินไปจนลืมสังเกตเหตุการณ์ ก้มลงอุ้มแมวสาวอย่างแสนรักแสนทะนุถนอมลูบหัวไปมาอย่างชื่นชมกระซิบด้วยเสียงเปี่ยมเมตตา
"โถ…น่าสงสารเหงื่อท่วมตัวสั่นเชียว วันนี้เป็นอะไรก็ไม่รู้ ใจคอไม่ดี จู่ ๆ ก็นึกถึงปิฬาร์ขึ้นมาเลยรีบลางานกลับบ้านมาดู ไม่สบายหรือเปล่าจ้ะ"
"เมี้ยว…." แมวน่ารักตอบเสียงใส
"ฉันรักเธอมากนะเหมียวน้อย เธอต้องอยู่กับฉันตลอดไป ไม่ปล่อยให้คนอื่นมาแย่งเป็นอันขาด ถ้าใครมาแย่งเธอไป....ฉันจะฆ่ามันผู้นั้น"
เมี๊ยว! ชักจะไม่ค่อยดีแล้ว อะไรจะรักมายมายน่ากลัวเหลือเกิน…..แล้วประโยคต่อมาก็ยิ่งทำให้ใจหายวาบ
"ฉะนั้นจงตายเพื่อบูชารักแท้เถิดนะปิฬาร์จ๋า"
มืออีกข้างของคุณนายคนสวยเงื้อมีดหั่นผักขึ้นสูง คมมีดเป็นประกายวาววับดูแล้วขัดกับใบหน้ายิ้มแย้มรักใคร่บูชาของคุณนายใจดีเหลือเกิน
นั่นไง…นึกแล้วเชียว แมวปิฬาร์ใจหายวาบด้วยความตกใจสุดขีด คุณนายใจดีก็พลอยเป็นกับเขาด้วย แล้วโลกยังจะมีที่ไหนปลอดภัยเหลือให้อาศัย แมวสาวดิ้นกระแด่วสุดแรงเกิดจนหลุดมาได้
โอ๊ย..อยากจะบ้า ขนาด คุณนายผู้ใกล้ชิดที่สุดยังเป็นถึงขนาดนี้ แล้วคนอื่นจะขนาดไหน มารับบทขวัญผวาแบบไม่น่าเชื่อ ได้แต่วิ่งหลบคุณนายใจดีแต่รักร้ายไปมาพักหนึ่ง หลังจากนั้นหลบไปใต้เตียงอย่างอกสั่นขวัญแขวนหายใจหอบแฮ่กจนหางฟู
"ออกมาเสียดีๆ เหมียวน้อยที่รัก ออกมาให้ฉันเชือดคอเธออย่างแสนหวานเสียเถิดนะ"
เสียงคุณนายแฝงแววหวานละมุนชวนเคลิ้มฝันมากเหลือเกิน แต่ความหมายกลับน่าสยดสยอง เสียงฝีเท้ากุกกักวนเวียนไปมาอยู่แถวนั้น เงาร่างทาบพื้นวูบวาบน่าพรั่นพรึงสั่นประสาท แมวปิฬาร์จะขาดใจตายอยู่แล้ว
ในที่สุดเสียงฝีเท้าก็หยุดครู่หนึ่งก่อนจะก้าวเท้าตรงมาอย่างมั่นใจ…ใกล้เข้ามาทถกที เงามีดทาบพื้นดำทะมืนเหมือนแผ่เข้ามาปกคลุมจนบรรยากาศหนักอึ้ง
ด้านนอกตัวบ้าน ผู้คนหลายร้อยกำลังตรงมาที่นี่จากทุกทิศ ทุกคนกำลังมาหาแมวแสนรัก ข้างนอกก็มีความรักล้นเหลือ ข้างในก็มีคนรักสุดแสนกำลังอยากเชือด แมวขวัญใจมหาชนจะเอาตัวรอดจากความรักได้อย่างไร
หรือจะต้องตายบูชารักจริง ๆ แม้แต่คุณนายเจ้าของบ้านยังรักปิฬาร์แบบอยากให้ตายบูชารัก ความกลัวทำให้นอนตัวสั่นอยู่ใต้เตียงน้ำตาไหลพรากด้วยอารมณ์สั่นประสาทหวาดผวา มองจากใต้เตียงเห็นเท้าสองข้างใหญ่มากก้าวเข้ามาราวเงาปีศาจร้ายเขย่าขวัญ
ใบหน้าใหญ่ก้มลงมามองแล้วยิ้มหวานให้อย่างพอใจ เมื่อมองเห็นสัตว์เลี้ยงแสนรักประจำบ้านหมอบตัวสั่นหางฟู
.
แมวปิฬาร์...แมวแม่เหล็ก
มีเหตุการณ์ไม่คาดฝันและไม่น่าเชื่อก็เกิดขึ้นในวันหนึ่ง ซึ่งยังอยู่ในความทรงจำไม่เคยลืมเลือน วันนั้นแมวปิฬาร์ตัวเก่งแอบไปปีนต้นไม้แถวชานเมืองเล่นตามประสาแมวอย่างเพลิดเพลินในวันฝนตกพรำ
ขณะอยู่บนยอดไม้เพลิน ๆ บังเอิญมีฟ้าผ่าเปรี้ยงลงมาแบบไม่คาดฝัน แม้ว่าไม่โดนจัง ๆ แต่เฉียดไปแบบหวุดหวิด ทั้งที่ไม่เคยสาบานกับแมวตัวใดให้ฟ้าผ่าหัว
แมวปิฬาร์ไม่ตาย เพราะกระแสไฟฟ้าวิ่งผ่านลงสู่พื้นดินตามต้นไม้เปียกชื้นอย่างรวดเร็ว แต่มีกระแสไฟฟ้าส่วนหนึ่งวิ่งผ่านสมองแมวทำให้เกิดปรากฏการณ์พิเศษบางอย่างอันแปลกประหลาดชนิดเล่าให้ใครฟังคงไม่มีใครเชื่อ แมวสาวตกลงมาจากยอดต้นไม้แบบสโลว์โมชั่นคล้ายหนังแอ๊คชันของ จอห์น วู พลิกตัวไปมาอย่างชัดเจนสวยงาม พอเท้าแตะพื้นก็สปริงตัวลอยหมุนอย่างสวยงามขึ้นมาอีกหนึ่งครั้ง ก่อนร่อนลงพื้นถนนอย่างนิ่มนวลราวกับมีวิชาตัวเบา
แมวสาวสั่นศีรษะอย่างมึนงง ยืนงงเป็นแมวตาฟางพักหนึ่งจึงคิดได้ว่ากลับบ้านดีกว่า วันนี้ฤกษ์ไม่ดี อยู่ดีๆ ก็ถูกฟ้าผ่าเกือบตายฟรีแบบไม่มีเหตุผล เป็นการเริ่มต้นที่ไม่ค่อยดีเลย
ขณะเดินรีรออยู่ข้างถนน รถเก๋งคันหนึ่งวิ่งผ่านมา หญิงสาวสวยคนขับหยุดรถจอดใกล้ๆ แล้วหมุนลดกระจกข้างชะโงกลงมามองปิฬาร์ตาเป็นประกายด้วยความชื่นชมร้องเสียงดังว่า
"ต้ายตาย ดูสิ แมวตัวสวย น่ารักจริงเชียว น่ารัก น่าอุ้ม น่ากอด"
แมวตัวสวยพอได้ยินก็เกิดอาการปลื้มใจสุด ๆ เดินเชิดหน้ายิ้มกว้างทันที
"นั่นน่ะสิ…." เพื่อนของหญิงคนนั้นชะโงกหน้าออกมาดูบ้าง "ตัวสวยน่ารักอย่างนี้เอาไปเลี้ยงที่บ้านดีกว่า"
ไม่พูดเปล่า เธอเปิดประตูก้าวลงมาจากรถเดินตรงมาอย่างไม่สนใจสายฝนพรำ แมวสาวหันไปมองนึกในใจว่าอะไรกัน ฉันไม่ใช่แมวข้างถนน นึกจะเอาไปเลี้ยงก็จับไปเลี้ยงง่าย ๆ แบบนี้มีที่ไหน ไม่มีวันเสียล่ะ ไม่ใช่แมวใจง่ายสักหน่อย แต่พอเห็นท่าทางเอาจริงเอาจังของหญิงคนนั้นก็รู้สึกไม่ดี รู้สึกเหมือนมีบางอย่างไม่ชอบมาพากล สุดท้ายเลยออกวิ่งกลับบ้านทันที หูยังได้ยินเสียงร้องตามหลังมาอย่างชัดเจน
"จะไปไหนเจ้าเหมียวน้อย กลับมาก่อน กลับมา"
พอหันไปมองเห็นมือไขว่คว้าตรงมาน่ากลัวแบบแปลกๆ ถึงกับต้องเร่งความเร็ววิ่งสุดชีวิต โดยมีผู้หญิงคนนั้นวิ่งตามมาแบบไม่น่าเชื่อว่าทำไมต้องคลั่งไคล้ไหลหลงขนาดหนักจนไม่น่าเชื่อ แต่อย่างไรก็ตาม แมวย่อมวิ่งเร็วกว่าคน สุดท้ายวิ่งมาหอบอยู่ริมถนนสายหนึ่ง
ร้านอาหารริมทางใกล้ๆเป็นร้านขายก๋วยเตี๋ยว น้ำในหม้อต้มหอมกรุ่น คนขายผู้หญิงร่างท้วมอายุวัยค่อนคนเดินออกมามองปิฬาร์แล้วทำตาเป็นประกายระยิบชื่นชมอย่างไม่เคยมองแมวตัวไหนแบบนี้มาก่อน แล้วเอามือทาบอกเบิกตากว้าง ร้องด้วยความตื่นเต้นปลาบปลื้มใจ
"โอ..เป็นแมวที่สวยมาก สวยจริง เกิดมาไม่เคยพบเคยเห็น โอย อยากอุ้มอยากกอดอยากหอม"
เหนื่อยก็เหนื่อย พอได้ฟังแมวปิฬาร์หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง ยิ้มปากกว้างเพราะเป็นแมวบ้ายออยู่แล้ว แม่ค้าใหญ่รำพึงรำพันต่อไปด้วยเสียงแสนหวาน
"สวยอย่างนี้เอามาลงหม้อ น่ารักน่าต้ม ทำน้ำต้มซุปแมวคงอร่อยดี"
"เมี๊ยว….."
ฟังแล้วถึงกับขนลุกจนตัวพองร้องสุดเสียงกระโดดสุดตัว อะไรกัน... ความรู้สึกจะเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือกะทันหันได้ขนาดนี้ และยิ่งใจหายวาบเมื่อเห็นผู้หญิงเจ้าของร้านคนนั้นเดินถือมีดตรงมาจริงๆ แมวสาวเลยเผ่นสุดชีวิตอีกครั้ง รู้สึกวันนี้มีอะไรหลายอย่างไม่ชอบมาพากลอย่างบอกไม่ถูก แม่ค้าก๋วยเตี๋ยววิ่งกวัดแกว่งมีดตามมาอย่างน่ากลัว แต่ความเร็วในการวิ่งแพ้แมวอยู่แล้ว ได้ยินแต่เสียงห่างออกไปทุกที
“น้องแมวจ๋า จะรีบไปไหน มามะ มาให้จับลงหม้อตัมน้ำซุปด้วยความรักเสียดี ๆ จะได้ทำก๋วยเตี๋ยวแมวให้อร่อยไปเลย“
สุดท้ายแมวปิฬาร์มานั่งลิ้นห้อยอยู่หัวมุมถนนอย่างเหน็ดเหนื่อยและมึนงง เกิดมาไม่เคยพบไม่เคยเห็นอะไรพิสดารขนาดนี้มาก่อน
ยังไม่ทันถึงนาทีก็มีเสียงเดินมาด้านหลัง
"แมวสวยจัง……"
หันไปมองอย่างไม่แน่ใจและไม่ไว้ใจ ไม่กล้ายิ้มปากกว้างอีกแล้ว เพราะยิ้มทีไรเป็นเรื่องทุกที นั่นเป็นสาวเจ้าของร้านเนื้อย่างกำลังส่งยิ้มหวานเดินตรงมาสายตาเชื่อมหวานปานจะหยด
"แมวสวยน่ารัก อย่างนี้จับไปย่างไฟอ่อนๆ ทาเกลือนิดๆ ด้วยความรัก คงอร่อยดีแซบอีหลีเด้อค่าเด้อ"
ไม่ต้องรออะไรอีกแล้ว แมวปิฬาร์ขนลุกขนพองสยองเกล้า กระโดดตัวลอยออกวิ่งสุดชีวิตอีกครั้ง ทำไมมันซวยอย่างนี้ วิ่งผ่านร้านส้มตำก็ไม่กล้าหยุดพักเพราะกลัวว่าจะถูกจับไปเป็นแมวส้มตำ วิ่งผ่านร้านกาแฟก็ไม่กล้าหยุดพักเพราะกลัวคนขายจะจับไปทำแมวกาแฟ นั่นร้านขายหนังสือคนขายคงไม่จับไปทำหนังสือ จึงไปหยุดอยู่หน้าร้านขายหนังสือ เหนื่อยแทบตาย
หนุ่มคนขายหนังสือโผล่หน้ามามองร้องชื่นชมอีกคน
"สวยจังแมวตัวนี้ อย่างนี้ต้องจับไปรีดให้แบนทำเป็นที่คั่นหนังสือ หนังก็เอาไปห่อปกหนังสือคงน่ารักน่าชังเป็นแน่แท้"
เอาอีกแล้ว….ความซวยมาเยือนโดยไม่ต้องถามหา ไม่ต้องรอหาพระแสงอะไรอีก วิ่งกันตับแตกละงานนี้
วิ่ง วิ่งและวิ่ง จนลืมวิ่งกลับบ้าน เพราะมัวแต่ตกใจกลัว วิ่งจนลมออกหู
แมวสาวไม่กล้าหยุด เพราะทันทีที่หยุดวิ่ง จะตกเป็นเป้าสายตาและความสนใจของผู้คนทันที แต่ละคนมองปิฬาร์ไปคนละแบบ รักและรู้สึกไปคนละแบบ ตามแต่อาชีพและความคุ้นเคยที่ตนเองถนัด ช่างน่าประหลาดใจและชวนสยดสยองเหลือเกิน
โอย..เหนื่อยจะแย่ใจจะขาด มันเรื่องบ้าอะไรกัน
แมวปิฬาร์ไม่รู้ว่าสาเหตุมันมาจากไฟฟ้าที่ผ่าลงมา ทำให้สมองของตัวเองสร้างคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าลึกลับชนิดหนึ่งออกมา คลื่นที่สามารถกระตุ้นให้คนอื่นสนใจรักใคร่ใหลหลงไปคนละแบบ ตามความถนัดของตนเอง
วิ่งหยุดใกล้เด็ก นึกว่าจะปลอดภัย เด็กก็จะจับไปทำไอศกรีมแมวด้วยความอยากกิน
วิ่งหยุดใกล้คลีนิค แพทย์ก็โผล่มาจะจับไปฉีดยาด้วยความเอ็นดู
ตายแน่…ฝูงชนวิ่งตามมาเริ่มเพิ่มจำนวนมากขึ้นทุกที มีทั้งนักเรียนกลุ่มใหญ่ ทหาร เรือเมล์ ยี่เก ตำรวจ คนกวาดถนน(อยากกวาดปิฬาร์ด้วยความรักใจจะขาด) บุรุษไปรษณีย์(อยากติดแสตมป์ปิฬาร์ด้วยความรักใจจะขาด) พร้อมหน้าพร้อมตาวิ่งตามแมวสาวมาด้วยควมรักอย่างสุดสวาทขาดใจ
กลับบ้านดีที่สุด เพิ่งนีกได้หลังจากวางมานาน
บ้านย่อมปลอดภัยกว่าทุกหนทุกแห่ง บ้านคือที่พักพิงแหล่งสุดท้าย แมวปิฬาร์รวบรวมกำลังที่เหลือวิ่งกลับบ้าน พอมาถึงหน้าบ้านก็กระโดดข้ามกำแพงแทบไม่พ้น ตะกายปีนขึ้นไปบนหน้าต่างชั้นสอง ตกลงบนพื้นนอนแผ่หราหมดแรง ไม่เคยเหนื่อยอย่างนี้มาก่อนในชีวิต ในบ้านคงปลอดภัย
"อ้าว…ปิฬาร์ ทำไมมานอนอยู่ที่นี่"
คุณนายใจดีเจ้าของบ้านมาตอนไหนไม่รู้ คงเพราะเหนื่อยเกินไปจนลืมสังเกตเหตุการณ์ ก้มลงอุ้มแมวสาวอย่างแสนรักแสนทะนุถนอมลูบหัวไปมาอย่างชื่นชมกระซิบด้วยเสียงเปี่ยมเมตตา
"โถ…น่าสงสารเหงื่อท่วมตัวสั่นเชียว วันนี้เป็นอะไรก็ไม่รู้ ใจคอไม่ดี จู่ ๆ ก็นึกถึงปิฬาร์ขึ้นมาเลยรีบลางานกลับบ้านมาดู ไม่สบายหรือเปล่าจ้ะ"
"เมี้ยว…." แมวน่ารักตอบเสียงใส
"ฉันรักเธอมากนะเหมียวน้อย เธอต้องอยู่กับฉันตลอดไป ไม่ปล่อยให้คนอื่นมาแย่งเป็นอันขาด ถ้าใครมาแย่งเธอไป....ฉันจะฆ่ามันผู้นั้น"
เมี๊ยว! ชักจะไม่ค่อยดีแล้ว อะไรจะรักมายมายน่ากลัวเหลือเกิน…..แล้วประโยคต่อมาก็ยิ่งทำให้ใจหายวาบ
"ฉะนั้นจงตายเพื่อบูชารักแท้เถิดนะปิฬาร์จ๋า"
มืออีกข้างของคุณนายคนสวยเงื้อมีดหั่นผักขึ้นสูง คมมีดเป็นประกายวาววับดูแล้วขัดกับใบหน้ายิ้มแย้มรักใคร่บูชาของคุณนายใจดีเหลือเกิน
นั่นไง…นึกแล้วเชียว แมวปิฬาร์ใจหายวาบด้วยความตกใจสุดขีด คุณนายใจดีก็พลอยเป็นกับเขาด้วย แล้วโลกยังจะมีที่ไหนปลอดภัยเหลือให้อาศัย แมวสาวดิ้นกระแด่วสุดแรงเกิดจนหลุดมาได้
โอ๊ย..อยากจะบ้า ขนาด คุณนายผู้ใกล้ชิดที่สุดยังเป็นถึงขนาดนี้ แล้วคนอื่นจะขนาดไหน มารับบทขวัญผวาแบบไม่น่าเชื่อ ได้แต่วิ่งหลบคุณนายใจดีแต่รักร้ายไปมาพักหนึ่ง หลังจากนั้นหลบไปใต้เตียงอย่างอกสั่นขวัญแขวนหายใจหอบแฮ่กจนหางฟู
"ออกมาเสียดีๆ เหมียวน้อยที่รัก ออกมาให้ฉันเชือดคอเธออย่างแสนหวานเสียเถิดนะ"
เสียงคุณนายแฝงแววหวานละมุนชวนเคลิ้มฝันมากเหลือเกิน แต่ความหมายกลับน่าสยดสยอง เสียงฝีเท้ากุกกักวนเวียนไปมาอยู่แถวนั้น เงาร่างทาบพื้นวูบวาบน่าพรั่นพรึงสั่นประสาท แมวปิฬาร์จะขาดใจตายอยู่แล้ว
ในที่สุดเสียงฝีเท้าก็หยุดครู่หนึ่งก่อนจะก้าวเท้าตรงมาอย่างมั่นใจ…ใกล้เข้ามาทถกที เงามีดทาบพื้นดำทะมืนเหมือนแผ่เข้ามาปกคลุมจนบรรยากาศหนักอึ้ง
ด้านนอกตัวบ้าน ผู้คนหลายร้อยกำลังตรงมาที่นี่จากทุกทิศ ทุกคนกำลังมาหาแมวแสนรัก ข้างนอกก็มีความรักล้นเหลือ ข้างในก็มีคนรักสุดแสนกำลังอยากเชือด แมวขวัญใจมหาชนจะเอาตัวรอดจากความรักได้อย่างไร
หรือจะต้องตายบูชารักจริง ๆ แม้แต่คุณนายเจ้าของบ้านยังรักปิฬาร์แบบอยากให้ตายบูชารัก ความกลัวทำให้นอนตัวสั่นอยู่ใต้เตียงน้ำตาไหลพรากด้วยอารมณ์สั่นประสาทหวาดผวา มองจากใต้เตียงเห็นเท้าสองข้างใหญ่มากก้าวเข้ามาราวเงาปีศาจร้ายเขย่าขวัญ
ใบหน้าใหญ่ก้มลงมามองแล้วยิ้มหวานให้อย่างพอใจ เมื่อมองเห็นสัตว์เลี้ยงแสนรักประจำบ้านหมอบตัวสั่นหางฟู
.