แมวปิฬาร์...แมวแม่เหล็ก

กระทู้สนทนา
.

             มีเหตุการณ์ไม่คาดฝันและไม่น่าเชื่อก็เกิดขึ้นในวันหนึ่ง ซึ่งยังอยู่ในความทรงจำไม่เคยลืมเลือน วันนั้นแมวปิฬาร์ตัวเก่งแอบไปปีนต้นไม้แถวชานเมืองเล่นตามประสาแมวอย่างเพลิดเพลินในวันฝนตกพรำ

             ขณะอยู่บนยอดไม้เพลิน ๆ บังเอิญมีฟ้าผ่าเปรี้ยงลงมาแบบไม่คาดฝัน แม้ว่าไม่โดนจัง ๆ แต่เฉียดไปแบบหวุดหวิด ทั้งที่ไม่เคยสาบานกับแมวตัวใดให้ฟ้าผ่าหัว

             แมวปิฬาร์ไม่ตาย เพราะกระแสไฟฟ้าวิ่งผ่านลงสู่พื้นดินตามต้นไม้เปียกชื้นอย่างรวดเร็ว แต่มีกระแสไฟฟ้าส่วนหนึ่งวิ่งผ่านสมองแมวทำให้เกิดปรากฏการณ์พิเศษบางอย่างอันแปลกประหลาดชนิดเล่าให้ใครฟังคงไม่มีใครเชื่อ  แมวสาวตกลงมาจากยอดต้นไม้แบบสโลว์โมชั่นคล้ายหนังแอ๊คชันของ จอห์น วู พลิกตัวไปมาอย่างชัดเจนสวยงาม พอเท้าแตะพื้นก็สปริงตัวลอยหมุนอย่างสวยงามขึ้นมาอีกหนึ่งครั้ง ก่อนร่อนลงพื้นถนนอย่างนิ่มนวลราวกับมีวิชาตัวเบา

             แมวสาวสั่นศีรษะอย่างมึนงง ยืนงงเป็นแมวตาฟางพักหนึ่งจึงคิดได้ว่ากลับบ้านดีกว่า วันนี้ฤกษ์ไม่ดี อยู่ดีๆ ก็ถูกฟ้าผ่าเกือบตายฟรีแบบไม่มีเหตุผล เป็นการเริ่มต้นที่ไม่ค่อยดีเลย

             ขณะเดินรีรออยู่ข้างถนน รถเก๋งคันหนึ่งวิ่งผ่านมา หญิงสาวสวยคนขับหยุดรถจอดใกล้ๆ แล้วหมุนลดกระจกข้างชะโงกลงมามองปิฬาร์ตาเป็นประกายด้วยความชื่นชมร้องเสียงดังว่า

             "ต้ายตาย ดูสิ แมวตัวสวย น่ารักจริงเชียว น่ารัก น่าอุ้ม น่ากอด"

             แมวตัวสวยพอได้ยินก็เกิดอาการปลื้มใจสุด ๆ เดินเชิดหน้ายิ้มกว้างทันที

             "นั่นน่ะสิ…."   เพื่อนของหญิงคนนั้นชะโงกหน้าออกมาดูบ้าง  "ตัวสวยน่ารักอย่างนี้เอาไปเลี้ยงที่บ้านดีกว่า"

             ไม่พูดเปล่า เธอเปิดประตูก้าวลงมาจากรถเดินตรงมาอย่างไม่สนใจสายฝนพรำ แมวสาวหันไปมองนึกในใจว่าอะไรกัน ฉันไม่ใช่แมวข้างถนน นึกจะเอาไปเลี้ยงก็จับไปเลี้ยงง่าย ๆ แบบนี้มีที่ไหน ไม่มีวันเสียล่ะ ไม่ใช่แมวใจง่ายสักหน่อย แต่พอเห็นท่าทางเอาจริงเอาจังของหญิงคนนั้นก็รู้สึกไม่ดี รู้สึกเหมือนมีบางอย่างไม่ชอบมาพากล สุดท้ายเลยออกวิ่งกลับบ้านทันที หูยังได้ยินเสียงร้องตามหลังมาอย่างชัดเจน

             "จะไปไหนเจ้าเหมียวน้อย กลับมาก่อน กลับมา"

             พอหันไปมองเห็นมือไขว่คว้าตรงมาน่ากลัวแบบแปลกๆ ถึงกับต้องเร่งความเร็ววิ่งสุดชีวิต โดยมีผู้หญิงคนนั้นวิ่งตามมาแบบไม่น่าเชื่อว่าทำไมต้องคลั่งไคล้ไหลหลงขนาดหนักจนไม่น่าเชื่อ  แต่อย่างไรก็ตาม แมวย่อมวิ่งเร็วกว่าคน สุดท้ายวิ่งมาหอบอยู่ริมถนนสายหนึ่ง

             ร้านอาหารริมทางใกล้ๆเป็นร้านขายก๋วยเตี๋ยว น้ำในหม้อต้มหอมกรุ่น คนขายผู้หญิงร่างท้วมอายุวัยค่อนคนเดินออกมามองปิฬาร์แล้วทำตาเป็นประกายระยิบชื่นชมอย่างไม่เคยมองแมวตัวไหนแบบนี้มาก่อน แล้วเอามือทาบอกเบิกตากว้าง ร้องด้วยความตื่นเต้นปลาบปลื้มใจ

             "โอ..เป็นแมวที่สวยมาก สวยจริง เกิดมาไม่เคยพบเคยเห็น โอย อยากอุ้มอยากกอดอยากหอม"

             เหนื่อยก็เหนื่อย พอได้ฟังแมวปิฬาร์หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง ยิ้มปากกว้างเพราะเป็นแมวบ้ายออยู่แล้ว แม่ค้าใหญ่รำพึงรำพันต่อไปด้วยเสียงแสนหวาน

             "สวยอย่างนี้เอามาลงหม้อ น่ารักน่าต้ม ทำน้ำต้มซุปแมวคงอร่อยดี"

             "เมี๊ยว….."

             ฟังแล้วถึงกับขนลุกจนตัวพองร้องสุดเสียงกระโดดสุดตัว อะไรกัน... ความรู้สึกจะเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือกะทันหันได้ขนาดนี้ และยิ่งใจหายวาบเมื่อเห็นผู้หญิงเจ้าของร้านคนนั้นเดินถือมีดตรงมาจริงๆ แมวสาวเลยเผ่นสุดชีวิตอีกครั้ง รู้สึกวันนี้มีอะไรหลายอย่างไม่ชอบมาพากลอย่างบอกไม่ถูก แม่ค้าก๋วยเตี๋ยววิ่งกวัดแกว่งมีดตามมาอย่างน่ากลัว แต่ความเร็วในการวิ่งแพ้แมวอยู่แล้ว ได้ยินแต่เสียงห่างออกไปทุกที

             “น้องแมวจ๋า จะรีบไปไหน มามะ  มาให้จับลงหม้อตัมน้ำซุปด้วยความรักเสียดี ๆ  จะได้ทำก๋วยเตี๋ยวแมวให้อร่อยไปเลย“

             สุดท้ายแมวปิฬาร์มานั่งลิ้นห้อยอยู่หัวมุมถนนอย่างเหน็ดเหนื่อยและมึนงง เกิดมาไม่เคยพบไม่เคยเห็นอะไรพิสดารขนาดนี้มาก่อน
ยังไม่ทันถึงนาทีก็มีเสียงเดินมาด้านหลัง

             "แมวสวยจัง……"

             หันไปมองอย่างไม่แน่ใจและไม่ไว้ใจ ไม่กล้ายิ้มปากกว้างอีกแล้ว เพราะยิ้มทีไรเป็นเรื่องทุกที  นั่นเป็นสาวเจ้าของร้านเนื้อย่างกำลังส่งยิ้มหวานเดินตรงมาสายตาเชื่อมหวานปานจะหยด

             "แมวสวยน่ารัก อย่างนี้จับไปย่างไฟอ่อนๆ ทาเกลือนิดๆ ด้วยความรัก คงอร่อยดีแซบอีหลีเด้อค่าเด้อ"

             ไม่ต้องรออะไรอีกแล้ว แมวปิฬาร์ขนลุกขนพองสยองเกล้า กระโดดตัวลอยออกวิ่งสุดชีวิตอีกครั้ง ทำไมมันซวยอย่างนี้ วิ่งผ่านร้านส้มตำก็ไม่กล้าหยุดพักเพราะกลัวว่าจะถูกจับไปเป็นแมวส้มตำ วิ่งผ่านร้านกาแฟก็ไม่กล้าหยุดพักเพราะกลัวคนขายจะจับไปทำแมวกาแฟ นั่นร้านขายหนังสือคนขายคงไม่จับไปทำหนังสือ จึงไปหยุดอยู่หน้าร้านขายหนังสือ เหนื่อยแทบตาย

             หนุ่มคนขายหนังสือโผล่หน้ามามองร้องชื่นชมอีกคน

             "สวยจังแมวตัวนี้ อย่างนี้ต้องจับไปรีดให้แบนทำเป็นที่คั่นหนังสือ หนังก็เอาไปห่อปกหนังสือคงน่ารักน่าชังเป็นแน่แท้"

             เอาอีกแล้ว….ความซวยมาเยือนโดยไม่ต้องถามหา ไม่ต้องรอหาพระแสงอะไรอีก วิ่งกันตับแตกละงานนี้

             วิ่ง  วิ่งและวิ่ง จนลืมวิ่งกลับบ้าน เพราะมัวแต่ตกใจกลัว วิ่งจนลมออกหู

             แมวสาวไม่กล้าหยุด เพราะทันทีที่หยุดวิ่ง จะตกเป็นเป้าสายตาและความสนใจของผู้คนทันที แต่ละคนมองปิฬาร์ไปคนละแบบ รักและรู้สึกไปคนละแบบ ตามแต่อาชีพและความคุ้นเคยที่ตนเองถนัด ช่างน่าประหลาดใจและชวนสยดสยองเหลือเกิน

             โอย..เหนื่อยจะแย่ใจจะขาด มันเรื่องบ้าอะไรกัน

             แมวปิฬาร์ไม่รู้ว่าสาเหตุมันมาจากไฟฟ้าที่ผ่าลงมา ทำให้สมองของตัวเองสร้างคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าลึกลับชนิดหนึ่งออกมา คลื่นที่สามารถกระตุ้นให้คนอื่นสนใจรักใคร่ใหลหลงไปคนละแบบ ตามความถนัดของตนเอง

             วิ่งหยุดใกล้เด็ก นึกว่าจะปลอดภัย เด็กก็จะจับไปทำไอศกรีมแมวด้วยความอยากกิน

             วิ่งหยุดใกล้คลีนิค แพทย์ก็โผล่มาจะจับไปฉีดยาด้วยความเอ็นดู

             ตายแน่…ฝูงชนวิ่งตามมาเริ่มเพิ่มจำนวนมากขึ้นทุกที มีทั้งนักเรียนกลุ่มใหญ่ ทหาร เรือเมล์ ยี่เก ตำรวจ คนกวาดถนน(อยากกวาดปิฬาร์ด้วยความรักใจจะขาด) บุรุษไปรษณีย์(อยากติดแสตมป์ปิฬาร์ด้วยความรักใจจะขาด) พร้อมหน้าพร้อมตาวิ่งตามแมวสาวมาด้วยควมรักอย่างสุดสวาทขาดใจ
กลับบ้านดีที่สุด  เพิ่งนีกได้หลังจากวางมานาน

             บ้านย่อมปลอดภัยกว่าทุกหนทุกแห่ง บ้านคือที่พักพิงแหล่งสุดท้าย แมวปิฬาร์รวบรวมกำลังที่เหลือวิ่งกลับบ้าน พอมาถึงหน้าบ้านก็กระโดดข้ามกำแพงแทบไม่พ้น ตะกายปีนขึ้นไปบนหน้าต่างชั้นสอง ตกลงบนพื้นนอนแผ่หราหมดแรง ไม่เคยเหนื่อยอย่างนี้มาก่อนในชีวิต ในบ้านคงปลอดภัย

             "อ้าว…ปิฬาร์ ทำไมมานอนอยู่ที่นี่"

             คุณนายใจดีเจ้าของบ้านมาตอนไหนไม่รู้ คงเพราะเหนื่อยเกินไปจนลืมสังเกตเหตุการณ์ ก้มลงอุ้มแมวสาวอย่างแสนรักแสนทะนุถนอมลูบหัวไปมาอย่างชื่นชมกระซิบด้วยเสียงเปี่ยมเมตตา

             "โถ…น่าสงสารเหงื่อท่วมตัวสั่นเชียว วันนี้เป็นอะไรก็ไม่รู้ ใจคอไม่ดี จู่ ๆ ก็นึกถึงปิฬาร์ขึ้นมาเลยรีบลางานกลับบ้านมาดู ไม่สบายหรือเปล่าจ้ะ"

             "เมี้ยว…."  แมวน่ารักตอบเสียงใส

             "ฉันรักเธอมากนะเหมียวน้อย เธอต้องอยู่กับฉันตลอดไป ไม่ปล่อยให้คนอื่นมาแย่งเป็นอันขาด ถ้าใครมาแย่งเธอไป....ฉันจะฆ่ามันผู้นั้น"
เมี๊ยว! ชักจะไม่ค่อยดีแล้ว  อะไรจะรักมายมายน่ากลัวเหลือเกิน…..แล้วประโยคต่อมาก็ยิ่งทำให้ใจหายวาบ

             "ฉะนั้นจงตายเพื่อบูชารักแท้เถิดนะปิฬาร์จ๋า"

             มืออีกข้างของคุณนายคนสวยเงื้อมีดหั่นผักขึ้นสูง คมมีดเป็นประกายวาววับดูแล้วขัดกับใบหน้ายิ้มแย้มรักใคร่บูชาของคุณนายใจดีเหลือเกิน

             นั่นไง…นึกแล้วเชียว แมวปิฬาร์ใจหายวาบด้วยความตกใจสุดขีด  คุณนายใจดีก็พลอยเป็นกับเขาด้วย แล้วโลกยังจะมีที่ไหนปลอดภัยเหลือให้อาศัย  แมวสาวดิ้นกระแด่วสุดแรงเกิดจนหลุดมาได้

             โอ๊ย..อยากจะบ้า ขนาด คุณนายผู้ใกล้ชิดที่สุดยังเป็นถึงขนาดนี้ แล้วคนอื่นจะขนาดไหน มารับบทขวัญผวาแบบไม่น่าเชื่อ ได้แต่วิ่งหลบคุณนายใจดีแต่รักร้ายไปมาพักหนึ่ง หลังจากนั้นหลบไปใต้เตียงอย่างอกสั่นขวัญแขวนหายใจหอบแฮ่กจนหางฟู

             "ออกมาเสียดีๆ เหมียวน้อยที่รัก ออกมาให้ฉันเชือดคอเธออย่างแสนหวานเสียเถิดนะ"

             เสียงคุณนายแฝงแววหวานละมุนชวนเคลิ้มฝันมากเหลือเกิน แต่ความหมายกลับน่าสยดสยอง เสียงฝีเท้ากุกกักวนเวียนไปมาอยู่แถวนั้น เงาร่างทาบพื้นวูบวาบน่าพรั่นพรึงสั่นประสาท แมวปิฬาร์จะขาดใจตายอยู่แล้ว

             ในที่สุดเสียงฝีเท้าก็หยุดครู่หนึ่งก่อนจะก้าวเท้าตรงมาอย่างมั่นใจ…ใกล้เข้ามาทถกที เงามีดทาบพื้นดำทะมืนเหมือนแผ่เข้ามาปกคลุมจนบรรยากาศหนักอึ้ง

             ด้านนอกตัวบ้าน ผู้คนหลายร้อยกำลังตรงมาที่นี่จากทุกทิศ ทุกคนกำลังมาหาแมวแสนรัก ข้างนอกก็มีความรักล้นเหลือ ข้างในก็มีคนรักสุดแสนกำลังอยากเชือด  แมวขวัญใจมหาชนจะเอาตัวรอดจากความรักได้อย่างไร

             หรือจะต้องตายบูชารักจริง ๆ แม้แต่คุณนายเจ้าของบ้านยังรักปิฬาร์แบบอยากให้ตายบูชารัก  ความกลัวทำให้นอนตัวสั่นอยู่ใต้เตียงน้ำตาไหลพรากด้วยอารมณ์สั่นประสาทหวาดผวา มองจากใต้เตียงเห็นเท้าสองข้างใหญ่มากก้าวเข้ามาราวเงาปีศาจร้ายเขย่าขวัญ

             ใบหน้าใหญ่ก้มลงมามองแล้วยิ้มหวานให้อย่างพอใจ เมื่อมองเห็นสัตว์เลี้ยงแสนรักประจำบ้านหมอบตัวสั่นหางฟู

.
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่