BNK48 : ‘วาระเสี่ยงทาย’ ระหว่างแบรนด์ดังกับหนังไทย 2018

โดย คุณากร วิสาลสกล

 
กระแสความโด่งดังของวง BNK48 ไอดอลเกิร์ลกรุ๊ปในสถานะน้องสาวของวงต้นสังกัดจากญี่ปุ่นอย่าง AKB48 ได้ขยายวงกว้างขึ้นอย่างรวดเร็ว หลังความสำเร็จของเพลง ‘Koisuru Fortune Cookie คุกกี้เสี่ยงทาย’
ความสดใสน่ารักของสมาชิกแต่ละคน
ได้สร้างฐานแฟนคลับที่ทวีจำนวนอย่างต่อเนื่องและแข็งแกร่งอย่างที่เราไม่ได้เห็นในวงการเพลงไทยมานานหลายปี
ทำให้จากวงที่มีผู้ให้ความสนใจแบบเฉพาะกลุ่มเมื่อปี 2560
ได้กลายเป็นขวัญใจของมหาชนในปีถัดมา ซึ่งควรค่าแก่การบันทึกไว้ว่า BNK48 คือหนึ่งในปรากฏารณ์ทางวัฒนธรรมป๊อปอันสำคัญของไทยในปี 2561
เพราะนอกจากหน้าที่หลักในอุตสาหกรรมเพลงและการเป็นไอดอลอย่างการออกคอนเสิร์ต/พบปะแฟนคลับแล้ว
BNK48 ได้ขยับขยายที่ทางในแวดวงอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นโฆษณา ฟุตบอล รถแข่ง
และภาพยนตร์ไทย ซึ่งในการเข้ามาของพวกเธอนั้น ก็ได้นำเอาชื่อเสียง ฐานแฟน
และสถานะของความเป็นไอดอลที่อาจจะไม่เป็นที่คุ้นเคยสำหรับสังคมไทยพ่วงมาด้วย

ในโอกาสนี้ เราจึงได้ชวนผู้กำกับ 4 ท่านที่ได้ร่วมงานกับ BNK48
โดยตรงตลอดปี 2561 -ทั้งที่ได้ออกฉายแล้วและกำลังอยู่ระหว่างการถ่ายทำ-
มาพูดคุยถึงปรากฏการณ์ดังกล่าว
ในฐานะคนทำหนังไทยที่เปรียบเสมือนทัพหน้าโอบรับวัตถุดิบอันแปลกใหม่นี้ให้เข้ามามีส่วนร่วมในผลงาน
อันประกอบด้วย นวพล ธำรงรัตนฤทธิ์ ผู้กำกับ BNK48: Girls Don’t Cry, ภาคภูมิ วงศ์ภูมิ ผู้กำกับ ‘โฮมสเตย์, ยรรยง คุรุอังกูร ผู้กำกับภาพยนตร์ ‘App War แอปชนแอป’ และ คงเดช จาตุรันต์รัศมี ผู้กำกับ Where We Belong


มองบรรยากาศของปรากฏการณ์นี้ว่าอย่างไรบ้าง
นวพล :

เราคิดว่ารูปแบบประมาณนี้มันมีอยู่ทุกปี เพียงแต่ว่า BNK48
เขามาใหญ่กว่าเพื่อน ด้วยหลายๆ ปัจจัย ที่สำคัญก็คือเขาใหม่มาก
แล้วใหม่โดยที่ไม่ได้มีการปรับตัวเองเข้ากับสังคมไทยมากเท่าไหร่ด้วย
คือเขามีคอสตูมแบบนี้ เต้นแบบนี้ ไม่ได้มีการแบบว่า
มา…ซิงเกิ้ลหน้าเรามาร้องเพลงไทยที่แต่งใหม่กัน แต่เขาก็ใช้เพลงญี่ปุ่น
แล้วเอามาใส่เนื้อไทยเฉยๆ แต่ก็ด้วยเพลงนี่แหละที่มันทำงาน
เราว่าเรื่องของความเป็นกรุ๊ป ในช่วงเวลาก่อน ‘คุกกี้เสี่ยงทาย’
ก็จะได้อยู่บางคน ตอนนั้นดูเหมือนจะเฉพาะกลุ่ม

สุดท้ายก็กลายเป็นตลาดกว้างได้ แต่ถามว่าเขาสามารถพลิกอะไรได้ขนาดนั้นมั้ย
เราว่ายังครับ ปรากฏการณ์คือต้องพลิกทั้งแผ่น
พลิกแบบทุกคนหันมาทำตามกันหมดเลย
คือมันแมสส์ในออนไลน์ไม่ได้แปลว่ามันจะแมสส์ในทุกพื้นที่
อาจจะได้แค่ในระดับคนเมือง
แบบที่เราเห็น BNK48 อยู่ทุกที่ใน กทม.
แต่ข้างนอกก็อาจจะยัง บางจังหวัดก็อาจจะต้องไปต่อ
ซึ่งเราว่าตัวคนที่ทำงานอยู่กับวง เขาก็รู้จุดนี้ดีอยู่แล้ว
แล้วเขาก็พยายามทำให้มันกว้างขึ้นกว่าเดิมอยู่นะ

ภาคภูมิ : ผมว่าปีที่แล้ว (2561) บรรดาค่ายเพลงหรือใครที่ปลุกปั้นศิลปินอยู่ น่าจะต้องอิจฉา BNK48 มากๆ ครับ เพราะนอกจากจะได้กระแสที่ดีแล้ว วิธีการของเขามันยังสามารถนำไปต่อยอดได้อีกเยอะ ซึ่งสร้างมูลค่าได้มหาศาล ไม่ว่าจะเป็นการเข้าไปมีส่วนร่วมในธุรกิจบันเทิงหลากหลายรูปแบบ ทั้งหนัง เพลง โฆษณา

ผมว่านอกจากระบบที่เขาคิดมาเป็นอย่างดีแล้ว ตัวสมาชิก BNK48 เอง
ในรูปแบบของคนไทยเขาก็มีภาพลักษณ์ที่ดี
มีศักยภาพที่จะนำไปต่อยอดได้อย่างเกิดผลจริงๆ ผมว่าปีนี้ (2562)
ต่างหากที่จะเป็นการพิสูจน์แล้วว่าความแข็งแกร่งของเขา
จะไปต่อในวงการบันเทิงได้จริงๆ รึเปล่า

หรือจะเข้าไปมีส่วมร่วมในรูปแบบไหนอีกบ้าง
แล้วการเติบโตของสมาชิกแต่ละคนจะเป็นยังไงต่อไป
ส่วนตัวก็คิดว่าเขาไปต่อได้อยู่แล้ว น่าจะอีกสักระยะเลยครับ
เพียงแต่กราฟมันจะขึ้นหรือลงเท่านั้นเอง ก็ต้องดูกันต่อไปครับ

https://movie.mthai.com/bioscope/253134.html?fbclid=IwAR3PpMGmymZDZDS8kPu1SdDR788II6ak1x-itFbrpv_T8xXUBL0Ta0dQNT0
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่