"มนุษย์ต่างดาว ไม่ มีจริง" เรื่องเล่าจากประสบการณ์จริง

"มนุษย์ต่างดาว ไม่มี จริง"
 
 
วันนี้บุษบามีนัดจะไปบ้านผู้ใหญ่บ้านอีกหมู่บ้านหนึ่ง
 
ผู้ใหญ่สั่งความมาว่าให้เข้าไปเซ็นเอกสารที่จะส่งให้ทางราชการ
 
เรื่องเอกสารก็ไม่พ้นเรื่องภัยแล้ง ทำนาทำสวนนี่ ไม่แล้งก็น้ำท่วม
 
ปีไหนได้ผลผลิตนี่ข้าวงามสุดๆ งามซะจนไม่อยากจะขาย เม็ดข้าวสียังกับทอง
 
ปีไหนน้ำท่วมก็ปล่อยให้ข้าวเน่าเป็นอาหารปลา
 
ปีไหนแล้งก็ปล่อยให้ชาวบ้านเอาวัวเอาควายเข้าไปเลี้ยง
 
มูลวัวมูลควายหล่นลงบนที่นาก็กลายเป็นปุ๋ย
 
วัว ควาย ก็อิ่มท้อง ผลประโยชน์ต่างตอบแทนกันไป
 
ระยะทางประมาณสิบกิโล ก็ไม่ใกล้ไม่ไกล ขับรถไปแพ๊พเดียวก็ถึง
 
เธอขับรถไปเรื่อยๆ มองดูสองข้างทางที่เขียวชะอุ่ม หมู่บ้านแถวนี้มีทั้งทำนากับทำสวน
 
แต่ก่อนก็ทำแต่นา  หลังๆมารัฐบาลส่งเสริมให้ปลูกยางพารา
 
หลายๆคนเลิกทำนามาทำสวนยาง คนที่กล้าลงทุนก่อนก็รวยก่อน
 
เศรษฐีใหม่เกิดขึ้นเยอะแยะ จากที่ขี่มอไซค์ตอนนี้มีรถเก๋งจอดบ้านละคัน
 
เป็นการการันตรีว่าปลูกยางพาราแล้วรวยจริง
 
เธอแอบยิ้มกับตัวเองเบาๆ ใครจะออกรถเก๋งใหม่ก็ออกไปก่อนได้เลย
 
ออกก่อนก็เก่าก่อนหละว้า เดี่ยวจะมีเศรษฐีใหม่ชื่อบุษบาขึ้นมาอีกคน
 
ความฝันทำไมมันทำให้อารมณ์ดีขนาดนี้ นี่ขนาดฝันกลางวันนะยังสุขใจ
 
รถถึงทางเข้าหมู่บ้าน เธอเปิดไฟเลี้ยว เลี้ยวขวาเข้าหมู่บ้าน
 
อากาศเริ่มอึมครึมเหมือนฝนจะตก ไปถึงบ้านผู้ใหญ่ทักทายกันพอเป็นพิธี
 
ผู้ใหญ่เอาเอกสารมาให้เซ็น  เรียบร้อยก็ขอตัวกลับ
 
เมียผู้ใหญ่ถามว่า "จะรีบกลับทำไมพี่ ฝนจะตกแล้วฟ้ามืดมาเลย"
 
เธอตอบกับไป "ยังไม่กลับหรอกพี่จะเข้าไปดูสวนซักหน่อย ไม่ได้ไปนานแล้ว"
 
เดินมาที่รถ ขับออกไปช้าๆ นานๆได้ออกมาเจอธรรมชาติ เปิดกระจกสูดเอาอากาศเข้าให้เต็มปอด
 
เธอไม่กลับเส้นทางเก่า ถนนเส้นนี้เป็นถนนลูกรัง สองข้างทางเป็นสวนยางพารา
 
อ๋อ รู้แล้วว่าทำไมโครงการณ์รถไฟความเร็วสูงไม่ผ่าน ต้องเป็นเพราะถนนลูกรังเส้นนี้แน่ๆ
 
เม็ดฝนเริ่มตกเปาะแปะ เสียงฟ้า เสียงลม เริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ
 
เธอปลอบใจตัวเอง อีกไม่กี่กิโลก็จะถึงถนนใหญ่แล้ว ฝนคงจะยังไม่ตกแรงเท่าไหร่
 
แต่เหมือนฟ้าแกล้ง สายฟ้าฟาดเปรี้ยงลงไปตรงไหนก็ไม่รุ้ เธอหลับตาแล้วร้องกรี๊ดดดดดดดด
 
ฝนตกลงมายังกับฟ้ารั่ว รถวิ่งต่อไปไม่ได้มองไม่เห็นทาง  มองดูสองข้างทางมีแต่น้ำเต้มไปหมด
 
ยิ่งฝนตกแรง ยิ่งน่ากลัว เฮ้ย นั่นมันอะไร แว๊กกก มนุษย์ต่างดาว มนุษต่างดาวบุกโลก
 
ดูท่าเดินมันก็รู้ มันยกหัวขึ้น แล้วส่ายมือไปมา เสียงมันร้องคำรามแข่งกลับเสียงฝน
 
"โอ๊วว พระเจ้าช่วย มันจะมาจับเราไปทำการทดลองหรือเปล่า "
 
โธ่เอ๊ยชีวิต จะลงจากรถก็ไม่ได้ น้ำป่ากับน้ำฝนไหลผ่านรถไปสีเหลืองเข้ม
 
มนุษย์ต่างดาวจะมองเห็นเรามั้ย เธอคิดไปพร้อมกับปรับเบาะเอนลง มนุษย์ต่างดาวเดินเข้ามาใกล้รถ
 
เสียงงฟ้าผ่าเปรี้ยงลงที่ไหนอีกไม่รู้ ครั้งที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้  แล้วฝนที่ตกยังกับฟ้ารั่วเมื่อกี้หยุดไปดื้อๆ
 
เสียงมนุษย์ต่างดาวยังร้อง ครืดๆ อยู่เลย เอาวะไหนๆก็ไหนขอดูหน้ามนุษย์ต่างดาวหน่อยซิ
 
พอเจอหน้าชัดๆ อ่อ หน้ามนุษย์ดาวเป็นแบบนี้เอง ตอนฝนตกแรง มองอะไรก็ไม่ชัด บรรยากาศก็น่ากลัว
 
ก็เหมือนมนุษย์ต่างดาวซะขนาดนั้น  นี่แหละน๊าที่เขาว่า "จินตนาการสำคัญกว่าความคิด"
 
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
 
 
(แก้ไขคำผิดค่ะ )
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่