เห็นมีกระทู้ ขอ
How to จีบแอร์โฮสเตสยังไงให้ได้เป็นแม่ของลูก เลยอยากแชร์วิธีการจีบแอร์อย่างไรให้ได้เป็นพ่อของลูกค่ะ ใช่ค่ะไม่ผิดพ่อของลูก ตอนแรกจีบนางมาเป็นแม่ของลูกนั่นแหล่ะค่ะ ไป ๆ มา ๆ ได้นางมาเป็นพ่อของลูกเฉยเลย เหมือนทำอะไรพลาดไปแต่นึกไม่ออกว่าพลาดอะไรตรงไหน
อธิบายก่อนว่าเราไม่เชิงเป็นทอมสักทีเดียว เป็นผู้หญิงที่ชอบผู้หญิงด้วยกันนี่ล่ะ แต่ออกจะไปทางแมน ๆ หน่อยเลยดูเหมือนเป็นทอม แต่เราก็ใช่กระโปรงหรือชุดเดรสได้นะ ไม่ได้พูดครับ เออ… เป็นทอมเรียบร้อยน่ารักก็ได้
เริ่มเรื่องเลยละกัน จริง ๆ อยากตั้งกระทู้จุดจบสายเปย์ แต่เอาไว้ก่อนเรื่องมันยาว เอาเป็นว่าเพื่อนที่เป็นสจ๊วตเห็นจุดจบสายเปย์อย่างเราแล้วสงสารปนสมเพช ก็เลยบอกเดี๋ยวตรูไปดักแอร์โฮสเตสให้ ไม่ต้องกลัว โสด ๆ สวย ๆ เพียบ แต่จะชอบผู้หญิงด้วยกันไหมอีกเรื่อง ดักมาแล้วแกไปจีบเอาเองนะ พูดจบวันรุ่งขึ้นมันไปดักมาให้จริง ๆ ด้วยเว้ยเฮ้ย รวดเร็วมาก
คือ ขณะที่มันกำลังทำงานอยู่ มีพี่แอร์ถามน้องหมี (ของแทนตัวแฟนว่าน้องหมี) ว่าโสดไหม มีแฟนยัง อะไรทำนองนี้เหมือนชวนคุยขณะทำงานตามปกติ น้องหมีบอกยังไม่มีค่ะ อิเพื่อนเราหูผึ่งหันขวับมองแรงเลยจ้า แบบประหนึ่งเจอเป้าหมายแล้ว (แฟนเล่ามา) จากนั้นก็มากระแซะถามว่า คุยกับผู้หญิงได้ไหม เพื่อนเรานิสัยดีแม้หน้าตาจะไม่ดี (เกลียดมัน) พอน้องหมีบอกคุยกับผู้หญิงได้ค่ะ อิเพื่อนก็ขอ Line มา พร้อมบอกอีกว่ารีบแอดเลยนะแก เราปูทางให้เรียบร้อยแล้ว พรุ่งนี้วันเกิดน้องหมีด้วย บลา ๆ ซึ่งตอนนั้นก็แบบไม่อยากคุยกับใคร ยังเฮิร์ท ยังรักแฟนเก่าอยู่ แต่ก็แอดเพราะแบบเพื่อนมันยอมแบกหน้าไปขอให้ ก็แอดไว้ทักไปก่อนมันจะได้ไม่เสียน้ำใจ ซึ่งตอนนี้มันเต้นฉลองรอบโลกในการหาคู่ให้เพื่อนได้สำเร็จไปแล้ว
จากการพูดคุยจีบมาทำให้รู้ว่าการจีบแอร์โฮสเตสนั้นไม่ยาก ถ้าคุณมีเงิน เวลา และความเอาใจใส่เพียงพอ แต่นั่นไม่เสมอไปนะ อยากเอาคู่เราเป็นบรรทัดฐานซะทีเดียว
-
ทำไมต้องมีเงิน เพราะฐานเงินเดือนลูกเรืออาจจะต่ำ แต่ค่าบินและ Over Sea สูง ดังนั้นเฉลี่ยจะอยู่ที่ 50-100,000 บาทต่อเดือน แล้วแต่ความขยันในการบิน ถ้าเงินเดือนเราน้อย คิดจะจีบหรือคิดจะไปดูแลเขาก็ต้องมีด้านอื่น ๆ เสริมที่เอามาทดแทนในส่วนนี้ได้ ไม่ใช่ว่าพวกแอร์โฮสเตสเขาหัวสูงหรืออะไร ถ้าเขาเจอคนที่ใช่เงินเดือนน้อยก็คงไม่เป็นไรหรอก ถ้าไม่ถึงกับฉุดเขาลงมา แต่ถ้าเลือกได้เขาก็คงอยากได้คนที่มีฐานะใกล้เคียงกัน ไหนจะสังคม ไหนจะครอบครัว และค่าใช้จ่ายในอนาคตอีก ความรักมันเติมเต็มสิ่งที่อยู่ในใจได้ แต่มันเต็มเติมให้ท้องอิ่มไม่ได้ ไม่จำเป็นต้องกับแอร์โฮสเตสหรอก กับใครที่ไหนก็เหมือนกัน ถ้าเรายังดูแลตัวเราเองและคนในครอบครัวเราไม่ได้ อย่าหาคนอื่นมาเป็นภาระในการดูแลเพิ่มเติมเลย รวมถึงเราก็ต้องไม่เป็นภาระของคนอื่นด้วย
-
ทำไมต้องมีเวลา เพราะลูกเรือทำงานไม่เป็นเวลาแน่นอน ไม่รู้จักหรอกวันปีใหม่ วันวาเลนไทน์ วันหยุดตามเทศกาล ลูกเรือรู้แค่วันบิน วันไม่บิน กับวันรอแสตนบาย ดังนั้น อย่าถามหาวันหยุดกับพวกนาง ถามหาตารางงานพวกนางแล้วหาวันหยุดเราให้ตรงกับวันหยุดนางดีกว่า แน่นอนว่าคนที่ทำงานประจำเสียเปรียบสุด ๆ เพราะสมมุติแลนด์มา อยากอ้อนให้แฟนมารับหกโมงเช้า สี่โมงเย็น สี่ทุ่ม หรือไปส่งนี่ มันยากมากและเหนื่อยสุด ๆ ดีที่เราทำกิจการส่วนตัว เลยพอมีเวลาไปรับไปส่งน้องหมีได้บ้าง ไปไหนยังไงเราก็ต้องหอบงานไปทำด้วย บางทีก็บินตามไปด้วยเพราะอยากไปเที่ยวด้วยกัน นี่รู้จักกันมาแปดเดือน อีกสองหมื่นไมล์เราจะได้เป็นโกลด์แล้ว คิดดู อีกทั้งถ้าเราไม่มีเวลาให้แก่กัน มันก็เสี่ยงต่อการนอกใจหรือกิ๊ก ๆ กั๊ก ๆ กับสจ๊วตหรือนักบิน เพราะพวกเขาสามารถแลกไฟร์ทบินตามกันไปได้ มันไม่ใช่แค่กับเขาที่จะนอกใจ เราเองก็อาจจนอกใจได้เวลาเขาบินไปที่ไหนนาน ๆ เราก็ไปหากิ๊กอะไรพวกนี้ได้เหมือนกัน ฉะนั้น การมีเวลาให้กันและกันก็เป็นเรื่องที่จำเป็นนะ อย่ามัวแต่สร้างอนาคตเก็บเงิน แต่สร้างความรักของเราร่วมกันก็เป็นเรื่องที่สำคัญ
-
ทำไมต้องเอาใจใส่ ไม่มีใครชอบการถูกละเลยหรอก ยิ่งงานสายบริการที่ต้องยิ้มและยิ้มรับทุกปัญหา ต้องเจอผู้คนมากมายในวันหนึ่ง เจอทั้งคนดีและไม่ดี เมื่อกลับบ้านมาก็อยากอ้อนแฟน อยากให้แฟนดูแลเอาใจ คนที่อยากมีแฟนเป็นแอร์โฮสเตส ถ้าละเลย ไม่เอาใจใส่ บอกเลยยากมากที่จะจีบติด เพราะอย่างเราเวลาไปรับน้องหมีจะเตรียมเสบียงอาหารไว้พร้อมสรรพ อาบน้ำจะคอยเช็ดผมให้ (เคยเจองอแงใส่บ้านแทบแตกครั้งหนึ่งที่เราไม่ยอมเช็ดผมให้) ล้างเล็บและทาเล็บให้ (หลัง ๆ นางไม่ให้ทาแล้ว บอกทาเองสวยกว่า) บางทีก็นวดหลัง นวดขาให้ ไปจัดการทำธุระให้ เรื่องแบบนี้คุณผู้ชายอาจจะบอกว่าไม่ได้สิ มันเป็นหน้าที่ของผู้หญิงอ่ะที่ต้องทำ แต่ถ้าตัดเรื่องเพศออกไป คิดแค่ว่าเราอยากดูแลใครสักคนที่เรารักให้ดีที่สุดล่ะ เราจะทำมันได้ไหม?
หลัก ๆ ของเราก็มีอยู่ประมาณสามข้อที่ใช้ในการจีบน้องหมีจนประสบความสำเร็จ ที่สำคัญคือความสม่ำเสมอไม่ใช่จีบติดแล้วก็ละเลยไปทุกอย่าง เพราะแปดเดือนที่ผ่านมาดูแลอย่างไรก็เป็นอย่างนั้น แต่ที่เปลี่ยนไปคือความเป็นเมียเริ่มเพิ่มเติมมากขึ้น ขณะที่น้องหมีชัดเจนความเป็นสามีมากขึ้น เช่น เปิดฝาขวดน้ำให้ตลอดเวลา อยู่ ๆ อินี่ก็ไม่มีแรงเปิดฝาขวดน้ำได้อีกเลย น้องหมีแรงเยอะกว่า ผิวหนากว่า ตีอะไรไม่เคยแดงไม่เคยช้ำ อินี่เจอฟาดเบา ๆ ก็แดงช้ำเขียวจ้า เวลาเจอคนเอาเปรียบหาเรื่องก็ออกหน้าจัดการให้ คุยกันจนถึงเรื่องมีลูกนั่นนี่นู่น ก็บอกจะให้เราท้องแล้วเดี๋ยวจะทำเรื่องลากิจกับบริษัท นางจะบอกบริษัทว่า
ขอลาหนึ่งอาทิตย์ค่ะ เมียจะคลอดลูก???
ไหน ๆ ก็มาตั้งกระทู้แล้ว เราขอปรึกษาเพื่อนสมาชิกหน่อยว่า เราจะขอค่าเมียจากน้องหมีอย่างไรดี นี่นางเริ่มยึดเงินเดือนเราไปเก็บเองแล้ว ซึ่งมันก็ดีนะ เพราะนางเก็บให้จริง ๆ แต่บางทีเราก็ต้องงุบงิบซ่อนเงินไว้ไปทำอย่างอื่นบ้างแต่อิน้องหมีรู้หมด เห็นคนอื่นได้ค่าขนมจากแฟน ได้เงินเดือนจากแฟน เราก็บอกว่างั้นพี่เป็นสามีแล้วน้องหมีเอาเงินไปหมดเลยก็ได้นะ น้องหมีบอกไม่ได้พี่ต้องเป็นเป็นเมียแล้วต้องเอาเงินมาให้นางด้วย
ปัญหาต่อมาคือ… ที่บ้านของน้องหมีไม่ค่อยยอมรับเราเท่าไหร่ ญาติ ๆ ไม่มีปัญหาอะไร แต่เวลาเจอพ่อน้องหมีจะยกมือสวัสดีไหว้ทักทาย พ่อท่านก็หลับตาใส่หรือแกล้งเมินทำเป็นมองไม่เห็น ส่วนแม่ก็เฉย ๆ ไม่ได้ห้ามคบกันเหมือนแต่ก่อน แต่เวลาน้องหมีเอ่ยชื่อเราก็จะมีจิกกัดบ้าง
เราควรทำอย่างไรที่จะชนะใจพ่อตาแม่ยายดีคะ?
อย่างไรก็ตาม น้องหมีต้องมาอ่านกระทู้นี้อยู่แล้ว อยากบอกว่า พี่หมูรักน้องหมีนะ แม้จะทำให้เสียใจอยู่บ่อย ๆ จะด้วยตั้งใจหรือไม่ก็ตาม แต่ก็จะพยายามให้ดีกว่านี้นะ อดทนกับพี่หมูหน่อยนะคะ
ขอแชร์ How to จีบแอร์โฮสเตสอย่างไรให้ได้เป็นพ่อของลูก??
อธิบายก่อนว่าเราไม่เชิงเป็นทอมสักทีเดียว เป็นผู้หญิงที่ชอบผู้หญิงด้วยกันนี่ล่ะ แต่ออกจะไปทางแมน ๆ หน่อยเลยดูเหมือนเป็นทอม แต่เราก็ใช่กระโปรงหรือชุดเดรสได้นะ ไม่ได้พูดครับ เออ… เป็นทอมเรียบร้อยน่ารักก็ได้
เริ่มเรื่องเลยละกัน จริง ๆ อยากตั้งกระทู้จุดจบสายเปย์ แต่เอาไว้ก่อนเรื่องมันยาว เอาเป็นว่าเพื่อนที่เป็นสจ๊วตเห็นจุดจบสายเปย์อย่างเราแล้วสงสารปนสมเพช ก็เลยบอกเดี๋ยวตรูไปดักแอร์โฮสเตสให้ ไม่ต้องกลัว โสด ๆ สวย ๆ เพียบ แต่จะชอบผู้หญิงด้วยกันไหมอีกเรื่อง ดักมาแล้วแกไปจีบเอาเองนะ พูดจบวันรุ่งขึ้นมันไปดักมาให้จริง ๆ ด้วยเว้ยเฮ้ย รวดเร็วมาก
คือ ขณะที่มันกำลังทำงานอยู่ มีพี่แอร์ถามน้องหมี (ของแทนตัวแฟนว่าน้องหมี) ว่าโสดไหม มีแฟนยัง อะไรทำนองนี้เหมือนชวนคุยขณะทำงานตามปกติ น้องหมีบอกยังไม่มีค่ะ อิเพื่อนเราหูผึ่งหันขวับมองแรงเลยจ้า แบบประหนึ่งเจอเป้าหมายแล้ว (แฟนเล่ามา) จากนั้นก็มากระแซะถามว่า คุยกับผู้หญิงได้ไหม เพื่อนเรานิสัยดีแม้หน้าตาจะไม่ดี (เกลียดมัน) พอน้องหมีบอกคุยกับผู้หญิงได้ค่ะ อิเพื่อนก็ขอ Line มา พร้อมบอกอีกว่ารีบแอดเลยนะแก เราปูทางให้เรียบร้อยแล้ว พรุ่งนี้วันเกิดน้องหมีด้วย บลา ๆ ซึ่งตอนนั้นก็แบบไม่อยากคุยกับใคร ยังเฮิร์ท ยังรักแฟนเก่าอยู่ แต่ก็แอดเพราะแบบเพื่อนมันยอมแบกหน้าไปขอให้ ก็แอดไว้ทักไปก่อนมันจะได้ไม่เสียน้ำใจ ซึ่งตอนนี้มันเต้นฉลองรอบโลกในการหาคู่ให้เพื่อนได้สำเร็จไปแล้ว
จากการพูดคุยจีบมาทำให้รู้ว่าการจีบแอร์โฮสเตสนั้นไม่ยาก ถ้าคุณมีเงิน เวลา และความเอาใจใส่เพียงพอ แต่นั่นไม่เสมอไปนะ อยากเอาคู่เราเป็นบรรทัดฐานซะทีเดียว
- ทำไมต้องมีเงิน เพราะฐานเงินเดือนลูกเรืออาจจะต่ำ แต่ค่าบินและ Over Sea สูง ดังนั้นเฉลี่ยจะอยู่ที่ 50-100,000 บาทต่อเดือน แล้วแต่ความขยันในการบิน ถ้าเงินเดือนเราน้อย คิดจะจีบหรือคิดจะไปดูแลเขาก็ต้องมีด้านอื่น ๆ เสริมที่เอามาทดแทนในส่วนนี้ได้ ไม่ใช่ว่าพวกแอร์โฮสเตสเขาหัวสูงหรืออะไร ถ้าเขาเจอคนที่ใช่เงินเดือนน้อยก็คงไม่เป็นไรหรอก ถ้าไม่ถึงกับฉุดเขาลงมา แต่ถ้าเลือกได้เขาก็คงอยากได้คนที่มีฐานะใกล้เคียงกัน ไหนจะสังคม ไหนจะครอบครัว และค่าใช้จ่ายในอนาคตอีก ความรักมันเติมเต็มสิ่งที่อยู่ในใจได้ แต่มันเต็มเติมให้ท้องอิ่มไม่ได้ ไม่จำเป็นต้องกับแอร์โฮสเตสหรอก กับใครที่ไหนก็เหมือนกัน ถ้าเรายังดูแลตัวเราเองและคนในครอบครัวเราไม่ได้ อย่าหาคนอื่นมาเป็นภาระในการดูแลเพิ่มเติมเลย รวมถึงเราก็ต้องไม่เป็นภาระของคนอื่นด้วย
- ทำไมต้องมีเวลา เพราะลูกเรือทำงานไม่เป็นเวลาแน่นอน ไม่รู้จักหรอกวันปีใหม่ วันวาเลนไทน์ วันหยุดตามเทศกาล ลูกเรือรู้แค่วันบิน วันไม่บิน กับวันรอแสตนบาย ดังนั้น อย่าถามหาวันหยุดกับพวกนาง ถามหาตารางงานพวกนางแล้วหาวันหยุดเราให้ตรงกับวันหยุดนางดีกว่า แน่นอนว่าคนที่ทำงานประจำเสียเปรียบสุด ๆ เพราะสมมุติแลนด์มา อยากอ้อนให้แฟนมารับหกโมงเช้า สี่โมงเย็น สี่ทุ่ม หรือไปส่งนี่ มันยากมากและเหนื่อยสุด ๆ ดีที่เราทำกิจการส่วนตัว เลยพอมีเวลาไปรับไปส่งน้องหมีได้บ้าง ไปไหนยังไงเราก็ต้องหอบงานไปทำด้วย บางทีก็บินตามไปด้วยเพราะอยากไปเที่ยวด้วยกัน นี่รู้จักกันมาแปดเดือน อีกสองหมื่นไมล์เราจะได้เป็นโกลด์แล้ว คิดดู อีกทั้งถ้าเราไม่มีเวลาให้แก่กัน มันก็เสี่ยงต่อการนอกใจหรือกิ๊ก ๆ กั๊ก ๆ กับสจ๊วตหรือนักบิน เพราะพวกเขาสามารถแลกไฟร์ทบินตามกันไปได้ มันไม่ใช่แค่กับเขาที่จะนอกใจ เราเองก็อาจจนอกใจได้เวลาเขาบินไปที่ไหนนาน ๆ เราก็ไปหากิ๊กอะไรพวกนี้ได้เหมือนกัน ฉะนั้น การมีเวลาให้กันและกันก็เป็นเรื่องที่จำเป็นนะ อย่ามัวแต่สร้างอนาคตเก็บเงิน แต่สร้างความรักของเราร่วมกันก็เป็นเรื่องที่สำคัญ
- ทำไมต้องเอาใจใส่ ไม่มีใครชอบการถูกละเลยหรอก ยิ่งงานสายบริการที่ต้องยิ้มและยิ้มรับทุกปัญหา ต้องเจอผู้คนมากมายในวันหนึ่ง เจอทั้งคนดีและไม่ดี เมื่อกลับบ้านมาก็อยากอ้อนแฟน อยากให้แฟนดูแลเอาใจ คนที่อยากมีแฟนเป็นแอร์โฮสเตส ถ้าละเลย ไม่เอาใจใส่ บอกเลยยากมากที่จะจีบติด เพราะอย่างเราเวลาไปรับน้องหมีจะเตรียมเสบียงอาหารไว้พร้อมสรรพ อาบน้ำจะคอยเช็ดผมให้ (เคยเจองอแงใส่บ้านแทบแตกครั้งหนึ่งที่เราไม่ยอมเช็ดผมให้) ล้างเล็บและทาเล็บให้ (หลัง ๆ นางไม่ให้ทาแล้ว บอกทาเองสวยกว่า) บางทีก็นวดหลัง นวดขาให้ ไปจัดการทำธุระให้ เรื่องแบบนี้คุณผู้ชายอาจจะบอกว่าไม่ได้สิ มันเป็นหน้าที่ของผู้หญิงอ่ะที่ต้องทำ แต่ถ้าตัดเรื่องเพศออกไป คิดแค่ว่าเราอยากดูแลใครสักคนที่เรารักให้ดีที่สุดล่ะ เราจะทำมันได้ไหม?
หลัก ๆ ของเราก็มีอยู่ประมาณสามข้อที่ใช้ในการจีบน้องหมีจนประสบความสำเร็จ ที่สำคัญคือความสม่ำเสมอไม่ใช่จีบติดแล้วก็ละเลยไปทุกอย่าง เพราะแปดเดือนที่ผ่านมาดูแลอย่างไรก็เป็นอย่างนั้น แต่ที่เปลี่ยนไปคือความเป็นเมียเริ่มเพิ่มเติมมากขึ้น ขณะที่น้องหมีชัดเจนความเป็นสามีมากขึ้น เช่น เปิดฝาขวดน้ำให้ตลอดเวลา อยู่ ๆ อินี่ก็ไม่มีแรงเปิดฝาขวดน้ำได้อีกเลย น้องหมีแรงเยอะกว่า ผิวหนากว่า ตีอะไรไม่เคยแดงไม่เคยช้ำ อินี่เจอฟาดเบา ๆ ก็แดงช้ำเขียวจ้า เวลาเจอคนเอาเปรียบหาเรื่องก็ออกหน้าจัดการให้ คุยกันจนถึงเรื่องมีลูกนั่นนี่นู่น ก็บอกจะให้เราท้องแล้วเดี๋ยวจะทำเรื่องลากิจกับบริษัท นางจะบอกบริษัทว่า ขอลาหนึ่งอาทิตย์ค่ะ เมียจะคลอดลูก???
ไหน ๆ ก็มาตั้งกระทู้แล้ว เราขอปรึกษาเพื่อนสมาชิกหน่อยว่า เราจะขอค่าเมียจากน้องหมีอย่างไรดี นี่นางเริ่มยึดเงินเดือนเราไปเก็บเองแล้ว ซึ่งมันก็ดีนะ เพราะนางเก็บให้จริง ๆ แต่บางทีเราก็ต้องงุบงิบซ่อนเงินไว้ไปทำอย่างอื่นบ้างแต่อิน้องหมีรู้หมด เห็นคนอื่นได้ค่าขนมจากแฟน ได้เงินเดือนจากแฟน เราก็บอกว่างั้นพี่เป็นสามีแล้วน้องหมีเอาเงินไปหมดเลยก็ได้นะ น้องหมีบอกไม่ได้พี่ต้องเป็นเป็นเมียแล้วต้องเอาเงินมาให้นางด้วย
ปัญหาต่อมาคือ… ที่บ้านของน้องหมีไม่ค่อยยอมรับเราเท่าไหร่ ญาติ ๆ ไม่มีปัญหาอะไร แต่เวลาเจอพ่อน้องหมีจะยกมือสวัสดีไหว้ทักทาย พ่อท่านก็หลับตาใส่หรือแกล้งเมินทำเป็นมองไม่เห็น ส่วนแม่ก็เฉย ๆ ไม่ได้ห้ามคบกันเหมือนแต่ก่อน แต่เวลาน้องหมีเอ่ยชื่อเราก็จะมีจิกกัดบ้าง เราควรทำอย่างไรที่จะชนะใจพ่อตาแม่ยายดีคะ?
อย่างไรก็ตาม น้องหมีต้องมาอ่านกระทู้นี้อยู่แล้ว อยากบอกว่า พี่หมูรักน้องหมีนะ แม้จะทำให้เสียใจอยู่บ่อย ๆ จะด้วยตั้งใจหรือไม่ก็ตาม แต่ก็จะพยายามให้ดีกว่านี้นะ อดทนกับพี่หมูหน่อยนะคะ