ขอคำแนะนำเรื่องกฏหมายหน่อยครับ พ่อของผมโดนเพื่อนตัวเองฟ้อง ในข้อหาช่อโกง

สวัสดีครับ ก่อนอื่นต้องขอท้าวความก่อนนะครับ เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อประมาณ 20 ปีที่แล้ว ในยุคฟองสบู่แตก ครอบครัวผมแทบล้มละลาย พ่อกับแม่ของผมจึงหันไปยืมเงินจากเพื่อนของพ่อ โดยการยืมเป็นครั้งๆ ครั้งละ 20,000 บาท บ้าง 30,000 บาท บ้าง ซึ่งรวมแล้วเป็นจำนวนเงินอยู่ที่ประมาณ 300,000 บาท หลังจากนั้น เมื่อเวลาผ่านไป พ่อกับแม่ผมไม่สามารถหาเงินไปใช้คืนได้ เค้าจึงขอที่ดินที่พ่อกับแม่ของผมมี ซึ่งราคาประเมินในตอนนั้นอยู่ที่ประมาณ 400,000 บาท แต่ด้วยการที่ทางเลือกมีไม่มาก ยืมเงินเค้ามาก็ต้องใช้คืน พ่อกับแม่ของผมจึงตอบตกลงยกที่ดินให้เค้าไป(ทั้งๆที่ขาดทุนก็ตาม)
เรื่องก็เหมือนจะจบลงง่ายๆครับ แต่เค้ากับไม่ยอมโอนให้เป็นชื่อของตัวเอง แต่กลับขอให้พ่อของผมเอาที่ดินผืนนี้ ไปยื่นกู้กับธนาคาร ธกส. ซึ่งพ่อของผมเป็นสมาชิกอยู่ โดยที่ยอดเงินในการกู้ครั้งนี้อยู่ที่ประมาณ 150,000 บาท ซึ่งแม่ของผมก็เป็นคนเอาเงินไปให้เค้าเองกับมือ แต่เมื่อเวลาผ่านไป ปรากฏว่าเค้าไม่ใช้หนี้กับทางธนาคารเลยแม้แต่สตางค์เดียว พ่อกับแม่ของผมถูกทางธนาคารส่งจดหมายมาทวงถามหนี้สินที่ยืมไป จ่ายค่าปรับไปอีกหลายครั้ง ครั้งละ 6,000-7,000 บาท พ่อของผมติดเครดิตบูโรไปโดยปริยาย ส่วนแม่ของผมที่รับราชการก็ถูกเรียกไปอบรมเรื่องหนี้เสีย แต่เมื่อทวงถามกับทางเค้าไป กลับได้คำตอบเดิมๆ นั้นคือ "เดี๋ยวผมจัดการให้ ไม่ต้องห่วง"
เวลาก็ล่วงเลยผ่านไปครับ จนกระทั่งพ่อกับแม่ของผมถูกทางธนาคารบีบให้ต้องขายที่ดินเพื่อเอามาใช้หนี้ ก็เลยติดต่อเค้าไปอีกครั้งนึง ซึ่งเค้าก็ตอบกลับมาว่า "ไม่ต้องขาย เดี๋ยวผมจัดการเอง ไม่ต้องห่วง" แต่ก็ไม่เคยได้รับการจัดการใดๆ จนในที่สุดพ่อกับแม่ของผมก็ประกาศขายที่ ใช้เวลา 1 เดือน ก็มีคนมาซื้อในราคา 500,000 บาท ผ่านทางนายหน้า 2-3 คน ค่านายหน้าที่ต้องจ่ายคือ 5% ค่าโอนอีก 40,000 บาท แล้วนำเงินที่เหลือไปใช้หนี้กับทางธนาคาร ซึ่งในตอนนี้เมื่อรวมดอกเบี้ยอะไรแล้ว จากเงินต้น 150,000 บาท กลายเป็น 260,000 บาท เพราะฉะนั้นเงินค่าที่ดินที่ขายได้ก็จะเหลืออยู่ที่ 175,000 บาท พ่อกับแม่ของผมก็ได้นำไปใช้จ่ายในส่วนหนี้สินอื่นๆจนหมด
เมื่อเค้าทราบเรื่องที่พ่อแม่ของผมขายที่ไป ก็ได้โทรมาต่อว่าพ่อผมและขู่ว่าจะฟ้อง เนื่องจากที่ดินที่ขายไปนั้นเป็นที่ดินของเค้า เงินที่เหลือจากการใช้หนี้ทั้งหมดต้องเป็นของเค้า ถ้าไม่หาเงินที่เหลือมาเค้าก็จะฟ้อง ทั้งๆที่พ่อกับแม่ของผมก็ได้อธิบายไปแล้วว่า พ่อกับแม่ของผมต้องเสียอะไรไปบ้าง พ่อของผมติดเครดิตบูโร แม่ของผมที่รับราชการก็เกิดความอับอายที่ต้องถูกเรียกไปอบรมเรื่องหนี้เสีย เงินก้อนแรกที่ยืมเค้ามา เราก็ไปกู้ให้ แถมยังใช้หนี้ให้เค้าอีก รวมแล้วก็เกินกับที่ไปยืมเค้ามาตั้งเยอะแล้ว จะเอาอะไรกับเราอีก? เค้าก็ไม่ฟังครับ จนวันนี้ก็ได้ไปที่ ที่ว่าการอำเภอที่ผมอยู่ แล้วเข้าแจ้งความกับพ่อของผมในข้อหาฉ้อโกง
ผมเลยอยากจะขอคำแนะนำว่า ในกรณีนี้ เค้าสามารถฟ้องพ่อกับแม่ของผมได้มั้ยครับ? แล้วครอบครัวผมต้องทำยังไงต่อดีครับ? มีโอกาสจะฟ้องเค้ากลับได้รึเปล่า? รบกวนขอคำชี้แนะด้วยนะครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ

คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
1. ฉ้อโกง ไม่ใช่ ช่อดอกไม้

การกู้ยืมเงินต้องมีหนังสือสัญญา หากไม่มีหนังสือสัญญา แล้วพ่อยังพยายามคืนเงินให้กับผู้ให็ยืมเงิน เรียกว่า เป็นคนดีรักษาสัญญาใจ

แต่พฤติกรรมของเพื่อนคนนั้นดูเหมือนจะไม่ซื่อแล้ว

รัฐบาลและกฏหมาย ยึดถือความถูกต้องตามเอกสารหลักฐาน การที่พ่อแม่เอาที่ดินไปขายได้ นั่นหมายความว่า ที่เอกสารที่ดินนั้นเป็นกรรมสิทธิ์ของพ่อ ไม่ใช่ของบุคคลอื่น ดังนั้นบุคคลอื่นใดจึงไม่สามารถมาเรียกเงินหรือฟ้องใดๆได้

เว้นแต่มีหลักฐานแสดงการกู้ยืมเงินอย่างชัดเจน

จากประวัติที่เล่ามาหากไม่มีการบิดเบือนใดๆ ถือว่าพ่อได้ชำระหนี้ไปแล้วบางส่วน 150000 บาท
แต่จริงๆ มีเรื่องภาวะดอกเบี้ยอะไรอีกจิปาถะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่