รอแสงตะวันส่องมาที่ฉัน EP10 "เด็กบ้านนอกเข้าเรียนในกรุง"

ไปโรงเรียนวันแรก พ่อไม่ว่าง ภารโรงเพื่อนบ้านคนสนิทพ่อ ขี่มอเตอร์ไซค์พาผมไปส่งถึงหน้าห้องเรียน ชั้นประถม 3 ผมเรียกภารโรงว่าอา ผมบอกอาว่า “อาผมอาย ผมเป็นเด็กบ้านนอก ผมอายครูอายเพื่อนใหม่ ทำไงดี” อาบอกว่า “เอ็งจำไว้ด้านได้ อายอด” อาหัวเราะ แล้วพาผมไปหาครู ผมสวัสดีคุณครูประจำชั้นเป็นครูผู้หญิง ครูบอกมาแล้วเหรอ ไปนั่งกับเพื่อนนะมีโต๊ะว่างข้างเพื่อนผู้ชายที่นึง ครูแนะนำผมให้เพื่อนในห้องทุกคนรู้จัก เพื่อนในห้องทุกคนเรียนด้วยกันมาตั้งแต่อนุบาลแล้ว ส่วนใหญ่ก็จะรู้จักกันหมด แต่สำหรับเพื่อนทุกคนผมคือเด็กใหม่ที่ไม่มีใครรู้จัก และผมก็ไม่รู้จักใครเลย ทุกสายตามองมาที่ผม ผมก้มหน้าเพราะอาย ส่วนเพื่อนใหม่ที่ผมนั่งด้วยเป็นเด็กวัด ค่อนข้างเกเรเลยล่ะ มันบอกว่า เฮ้ยนั่งกับกู เด่วกูดูแลเอง ใครแกล้งบอกกูได้ แล้วมันก็ตะโกนไปทั้งห้องว่านี่เพื่อนใหม่กู  ตอนนั้นผมก็เริ่มรู้สึกรำคาญมันจังเลย มันจะประกาศศักดาอะไรนัก แต่ก็จำใจนั่งก้มหน้าก้มตาเรียนหนังสือไป แต่มันก็ดูแลผมดีนะ พักกลางวันก็พาผมไปกินข้าว ไปไหนมันก็พาผมไปด้วย ผมก็จะเงียบๆไม่ค่อยพูด พูดอะไรก็เสียงเบา ส่วนใหญ่ผมก็จะไปกับเพื่อนคนนี้แค่เฉพาะในเวลาอยู่โรงเรียนเท่านั้น พอเลิกเรียนผมก็กลับบ้านไม่ค่อยได้ไปไหน เพราะผมต้องช่วยทำงานบ้าน เสร็จแล้วผมจะเล่นอยู่แถวหน้าบ้านกับน้องๆ

ช่วงป.3 จะมีเรียนวิชาพลศึกษา ผมเริ่มชอบเล่นกีฬาฟุตบอล เพราะครูพละจะให้เรียนฟุตบอลกัน ผมเริ่มสนุกกับการเรียนฟุตบอล เพื่อนจะชมว่าผมเล่นฟุตบอลเก่งที่สุดในห้อง ช่วงเย็นผมจะรีบกลีบบ้านไปทำงานบ้าน แล้วผมก็จะรีบเปลี่ยนชุดกีฬาเพื่อมาเตะฟุตบอลที่สนามโรงเรียนเพราะบ้านผมอยู่ไม่ไกลจากโรงเรียนมากนัก จะมีเพื่อนๆ มีรุ่นพี่ในโรงเรียน และผู้ใหญ่แถวละแวกนั้น มาเตะบอลกันตอนเย็น แต่แม่ผมก็ไม่ค่อยชอบให้ผมออกมาเตะบอลเท่าไหร่ แต่ผมก็พยายามขอออกมา เพราะผมเริ่มสนุกกับการเล่นฟุตบอล ทำให้ผมรู้จักคนละแวกนั้น และรู้จักเพื่อนๆ พี่ๆในโรงเรียนมากขึ้น

นอกจากเล่นกีฬาดีแล้ว ผลสอบเทอมแรกผมเรียนได้เกรดเฉลี่ย 4.00 พ่อกับแม่ดีใจ และผมก็ดีใจที่ทำให้พ่อกับแม่ไม่ผิดหวัง พ่อแม่บอกว่าถ้าเทอมหน้าได้ 4.00 อีกจะวิดิโอซื้อเกมส์ ที่ใส่ตลับสมัยนั้นจำยี่ห้อไม่ได้ แต่เป็นคู่แข่งกับยี่ห้อFR ที่ต่อเล่นกับทีวี ตอนนั้นเกมส์กำลังฮิตโดยเฉพาะเกมส์มาริโอ บางครั้งวันหยุด พ่อแม่ไม่อยู่ ผมกับน้องสาวคนโตยังแอบไปเล่นที่ร้านเกมส์เลย พอเรียนจบเทอม2 ผมได้เกรดเฉลี่ยน 4.00 ผมจำได้วันนั้นพ่อกับแม่ไปไหนมาก็ไม่รู้ กลับมาถึงบ้านถือกล่องใบนึงมายื่นให้ผม ผมถามว่าอะไรครับ พ่อถามยากได้อะไรล่ะ พ่อกับแม่ซื้อเกมส์ให้ผม ผมดีใจมาก น้องๆก็ดีใจ กระโดดกันใหญ่ ดีใจจะมีเกมส์เล่นกันที่บ้านแล้ว

พอขึ้นป.4 ผมได้ย้ายห้องไปอยู่ห้องเด็กเรียนดี  ก็จะมีเพื่อนจากห้องเก่าที่เรียนดีย้ายมาด้วย ผมก็เลยห่างจากเพื่อนคนที่เกเร แต่ก็ยังเจอกันบ้างเวลาผมเดินกลับบ้านผ่านทางวัด บ้านผมจะไปกลับโรงเรียนได้สองทาง เพื่อนผมคนนั้นได้ข่าวว่าเลิกเรียนแล้ว แต่เขาเป็นเด็กวัดก็ยังอาศัยอยู่ที่วัด ช่วงนี้ผมจะไปสนิทกับเพื่อน และพี่กลุ่มที่เป็นนักกีฬาฟุตบอลโรงเรียน แต่ผมก็ยังไม่ได้เล่นฟุตบอลให้โรงเรียนนะครับ เหมือนกับผมเล่นกีฬาสนุกไปวันๆเท่านั้น ไม่ได้ต้องการแข่งขัน ผมแข่งขันฟุตบอลครั้งแรกก็กีฬาสีครับ ตอนนั้นไม่มีใครเป็นผู้รักษาประตู ผมก็เลยอาสาเป็นประตูเอง มี 4 สีครับ เหมือนตอนนั้นฟุตบอลสีผมน่าจะได้ที่ 4 ด้วยครับ อิอิอิ ท่าทางจะไม่รุ่ง

พอขึ้นป.5 ผมไม่ค่อยสนใจเล่นฟุตบอลเท่าไหร่ตอนนั้นอายุ 10 ขวบ ผมเห็นวงดุริยางค์ของโรงเรียนทุกเช้า เล่นเพลงชาติ ผมมองดูคนตีกลองแต๊ก รู้สึกอยากตี มีเพื่อนอยู่ในห้องเดียวกับผมอยู่ในวงนั้น ผมจึงเข้าไปคุยกับเขา ว่าผมอยากตีกลอง เขาจึงพาผมเข้าไปหาครู ครูมองผมแล้วก็บอกว่าก็ลองดู แล้วนัดมาซ้อมทุกเย็น ช่วงนั้นผมซ้อมดนตรีทุกเย็นหลังเลิกเรียน ก็เลยไม่ได้เตะบอล ผมสนุกกับการตีกลองแต๊ก ผมได้ไปออกจากกับเพื่อนๆ ผมลงทุนซื้อรองเท้าขาวคู่ใหม่ใส่โดยเฉพาะกับงานแรกของผม ในงานประจำปีของอำเภอ ขบวนแห่งานสงกรานต์ งานลอยกระทง งานกีฬาสี และได้ไปยืนตีกลองตอนเคารพธงชาติหน้าเสาธงทุกเช้าตามที่คิดไว้ ผมอยู่วงดุริยางค์แค่ปีเดียวจนจบป.5 ผมก็ขอครูลาออกจากวง ผมรู้สึกภายหลังว่าผมไม่ได้ชอบจริงๆ เย็นวันสุดท้ายก่อนลาออกจากวง หลังเลิกเรียนผมกำลังซ้อมกับเพื่อนๆตามปกติ ใต้อาคาร ผมมองไปที่สนามฟุตบอล ผมเห็นโค้ชกับเพื่อนๆพี่ๆทีมนักฟุตบอลโรงเรียน ซ้อมอยู่ที่สนามฟุตบอลโรงเรียน สายตาผม สมาธิผม อยู่ที่สนามฟุตบอล ไม่ใช่วงดุริยางค์ ผมเริ่มคิดถึงการเล่นฟุตบอล ผมอยากเป็นนักกีฬาฟุตบอลโรงเรียนสักครั้ง ผมคิดว่าตอนนั้นผมกำลังค้นหาตัวเองว่าชอบอะไร ผมก็เป็นเด็กคนนึงที่เห็นแล้วอยากลอง อยากเป็น ผมได้ตีกลองแต๊ก ได้เป็นสมาชิกวงดุริยางค์แล้ว ผมได้เรียนรู้ว่าไม่ใช่ตัวตนของผม วันรุ่งขึ้นผมจึงขอครูลาออกจากวงแล้วอธิบายเหตุผลให้ครูฟัง ครูก็เข้าใจไม่ว่าอะไรผม (รอติดตามตอนต่อไป)

moonstar
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่