การเพิกเฉยต่อเลเวอเรจ : เหตุผลว่าทำไมเทรดเดอร์มือใหม่จึงล้มเหลว
ผู้เชี่ยวชาญในการเทรด หรือเทรดเดอร์ที่จัดการเทรดได้อย่างเหมาะสม
จะเทรดในพอร์ตสแตนดาร์ด 1 สัญญาต่อเงินทุน 50,000 เหรียญเท่านั้น!!!
หากพวกเขาเทรดด้วยพอร์ตมินิ พวกเขาจะเทรด 1 สัญญามินิ ด้วยเงินทุนในพอร์ต 5,000 เท่านั้น!!!
เอาหล่ะ ลองอ่านซ้ำและทบทวน สองพารากราฟด้านบน
อีกซักรอบก่อนจะไปต่อในพารากราฟต่อไปนะครับ
ถ้าเทรดเดอร์มือโปรทำเช่นนั้น แล้วทำไมเทรดเดอร์ที่ประสบการณ์น้อยกว่า
จึงเทรดพอร์ตสแตนดาร์ด ขนาดสัญญา 100,000 ด้วยเงินทุนในพอร์ต 2,000 เหรียญ
หรือเทรดสัญญาในพอร์ตมินิด้วยขนาดสัญญา 10,000 เหรียญ ด้วยเงินทุนเพียง 250 เหรียญหล่ะ
แย่กว่านั้น โบรกเกอร์จำนวนมาก อนุญาตให้คุณเปิดพอร์ตด้วยเงินลงทุน เพียง 25 เหรียญ เท่านั้น!!!
เหตุผลที่เทรดเดอร์ล้มเหลวไม่ได้มาจากพวกเขาแย่
แต่เพราะพวกเขาใช้เงินลงทุนที่ต่ำเกินไป
และไม่เข้าใจอย่างแท้จริงว่าเลเวอเรจทำงานจริงๆอย่างไร
อย่า... อย่าได้สร้างความล้มเหลวให้ตัวเองในการเข้าเทรด ด้วยความไม่เข้าใจในเลเวอเรจ
ผมแนะนำว่า เทรดเดอร์ควรจะเริ่มเทรดในพอร์ตสแตนดาร์ดด้วยเงินทุน 100,000 เหรียญ
เริ่มเทรดพอร์ตมินิด้วยเงินทุน 10,000 เหรียญ และพอร์ตไมโครด้วยทุน 1,000 เหรียญ
( ***หลายโบรกมีพอร์ตนาโน ก็ควรเริ่มต้นด้วยเงินทุน 100 เหรียญ ---ผู้แปล)
และแน่นอนว่า เปิดพอร์ตเทรดจริงเมื่อมาตรฐานการเทรดคุณดี..แบบคงที่แล้วเท่านั้น
และนี่คือเหตุผลว่าทำไมจึงต้องเปิดพอร์ตด้วยขนาดเงินทุนที่เหมาะสม
ผมเชื่อว่า มีเทรดเดอร์มือใหม่ที่เปิดพอร์ตเงินจริง
โอนเงินขั้นต่ำเข้าพอร์ตโดยไม่ได้เข้าใจเลเวอเรจ และมาร์จิ้น อย่างแท้จริง
มันสำคัญมากๆที่เทรดเดอร์ต้องศึกษาในเรื่องนี้อย่างแจ่มแจ้ง เพราะไม่เช่นนั้นแล้ว
พอร์ตคุณจะโดนล้างอย่างแน่นอน
เลเวอเรจ และ มาร์จิ้น
เอาหล่ะ ตอนนี้เราจะมาทำความเข้าใจ เลเวอเรจ กับ มาร์จิ้น กันครับ
เลเวอเรจ คืออะไร?
ในเท็กซ์บุ้ค ให้คำจำกัดความของ "เลเวอเรจ" ไว้ว่า
คือความสามารถในการควบคุมปริมาณเงินจำนวนมาก ด้วยจำนวนเงินเพียงน้อย
หรือ ไม่ต้องใช้เงินเลย โดยใช้เงินเพียงน้อยของตัวคุณเอง ส่วนที่เหลือใช้การยืม
ยกตัวอย่าง เช่น ในการควบคุมขนาดของสัญญา 100,000 เหรียญ
โบรกเกอร์นำเงินคุณไปค้ำประกัน 1,000 เหรียญ นั่นคือเลเวอเรจของคุณเท่ากับ 100:1
ตอนนี้คุณกำลังควบคุมเงิน 100,000 เหรียญ ด้วยเงิน 1,000 เหรียญ
หากราคาที่คุณควบคุมอยู่ขึ้นไปเป็น 101,000 นั่นแปลว่าคุณสามารถทำกำไรได้ 1,000 เหรียญ
จากเงินตัวเอง 1,000 เหรียญ หรือทำกำไรได้ 100%
ในทางตรงกันข้าม หากราคาที่คุณถืออยู่ ลดลงมาเป็น 99,000 หรือลดลง 1,000 เหรียญ
คุณก็จะขาดทุน 1,000 เหรียญ หรือขาดทุน 100% เช่นเดียวกัน
เลเวอเรจ จึงเป็น ดาบสองคม สำหรับเทรดเดอร์
มาร์จิ้น คืออะไร?
กลับไปที่ตัวอย่างข้างต้น ในการควบคุมเงิน 100,000 เหรียญ
โบรกเกอร์จะเรียกเงินคุณ 1,000 เหรียญ จากพอร์ตของคุณ
นั่นคือสัดส่วน 100:1 เงินที่โบรกเกอร์เรียกเก็น เราเรียกว่า "มาร์จิ้น"
มาร์จิ้น คือ จำนวนเงินที่จำเป็นต้องใช้เพื่อถือสถานะกับโบรเกอร์
ปกติแล้ว มาร์จิ้น จะอธิบายด้วยเปอร์เซนต์ของจำนวนเต็มขนาดสัญญาที่เข้าถือ
เช่น โบรกเกอร์จะกำหนดมาร์จิ้นที่ 2%,1%,0.5% หรือ 0.25% เป็นต้น
แต่ละโบรกเกอร์ก็จะมีตัวเลขที่แตกต่างกัน เทรดเดอร์สามารถคำนวณเลเวอเรจสูงสุด
ที่สามารถใช้ได้จากตัวเลขมาร์จิ้น เช่นโบรกเกอร์เรียกมาร์จิ้นที่ 2%
หมายความว่าเทรดเดอร์สามารถใช้เลเวอเรจได้สูงสุด 50 เท่า
มาร์จิ้น 5% เทรดเดอร์สามารถใช้เลเวอเรจได้สูงสุด 20:1
มาร์จิ้น 1% เทรดเดอร์สามารถใช้เลเวอเรจได้สูงสุด 100:1
มาร์จิ้น 0.25% เทรดเดอร์สามารถใช้เลเวอเรจได้สูงสุด 100:1
นอกจากนั้นยังมีคำเรียกเฉพาะในแต่ละโบรกเกอร์ ดังนี้
จำนวนมาร์จิ้นที่ต้องการ ( Margin requirement ) : คือคำตรงๆที่บอกว่าโบรกเกอร์
ต้องเรียกเงินเทรดเดอร์เท่าไหร่เพื่อถือสถานะ
สถานะของบัญชี ( Account balance ) : คือจำนวนเงินทั้งหมดที่มีอยู่ในพอร์ตลงทุนของเทรดเดอร์
มาร์จิ้นที่ถูกใช้ไปแล้ว ( Used Margin ): คือจำนวนเงินที่โบรกเกอร์ล็อคไว้
เพื่อการถือสถานะในปัจจุบันของคุณ คุณใช้เงินส่วนนี้ของตัวเองไม่ได้ จนกว่าจะปิดสถานะ
มาร์จิ้นที่สามารถใช้ได้ ( Usable margin ) : จำนวนเงินในพอร์ตที่คุณสามารถใช้ในการเปิดสถานะใหม่ได้
เรียกเก็บมาร์จิ้นเพิ่ม ( Margin call ) : คุณจะได้รับสถานะนี้ เมื่อจำนวนเงินในพอร์ตไม่สามารถปกป้องการถือสถานะของคุณได้
เครดิต ---www.babypips.com---อนุสรณ์ จ. แปล เรียบเรียง
https://www.facebook.com/thaipips/--- เพราะชีวิตคือการลงทุน
เพจเล็กๆที่สร้างไว้เแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ในการเทรดครับ
การเพิกเฉยต่อเลเวอเรจ : เหตุผลว่าทำไมเทรดเดอร์มือใหม่จึงล้มเหลว....อ่านเล่นๆครับ
ผู้เชี่ยวชาญในการเทรด หรือเทรดเดอร์ที่จัดการเทรดได้อย่างเหมาะสม
จะเทรดในพอร์ตสแตนดาร์ด 1 สัญญาต่อเงินทุน 50,000 เหรียญเท่านั้น!!!
หากพวกเขาเทรดด้วยพอร์ตมินิ พวกเขาจะเทรด 1 สัญญามินิ ด้วยเงินทุนในพอร์ต 5,000 เท่านั้น!!!
เอาหล่ะ ลองอ่านซ้ำและทบทวน สองพารากราฟด้านบน
อีกซักรอบก่อนจะไปต่อในพารากราฟต่อไปนะครับ
ถ้าเทรดเดอร์มือโปรทำเช่นนั้น แล้วทำไมเทรดเดอร์ที่ประสบการณ์น้อยกว่า
จึงเทรดพอร์ตสแตนดาร์ด ขนาดสัญญา 100,000 ด้วยเงินทุนในพอร์ต 2,000 เหรียญ
หรือเทรดสัญญาในพอร์ตมินิด้วยขนาดสัญญา 10,000 เหรียญ ด้วยเงินทุนเพียง 250 เหรียญหล่ะ
แย่กว่านั้น โบรกเกอร์จำนวนมาก อนุญาตให้คุณเปิดพอร์ตด้วยเงินลงทุน เพียง 25 เหรียญ เท่านั้น!!!
เหตุผลที่เทรดเดอร์ล้มเหลวไม่ได้มาจากพวกเขาแย่
แต่เพราะพวกเขาใช้เงินลงทุนที่ต่ำเกินไป
และไม่เข้าใจอย่างแท้จริงว่าเลเวอเรจทำงานจริงๆอย่างไร
อย่า... อย่าได้สร้างความล้มเหลวให้ตัวเองในการเข้าเทรด ด้วยความไม่เข้าใจในเลเวอเรจ
ผมแนะนำว่า เทรดเดอร์ควรจะเริ่มเทรดในพอร์ตสแตนดาร์ดด้วยเงินทุน 100,000 เหรียญ
เริ่มเทรดพอร์ตมินิด้วยเงินทุน 10,000 เหรียญ และพอร์ตไมโครด้วยทุน 1,000 เหรียญ
( ***หลายโบรกมีพอร์ตนาโน ก็ควรเริ่มต้นด้วยเงินทุน 100 เหรียญ ---ผู้แปล)
และแน่นอนว่า เปิดพอร์ตเทรดจริงเมื่อมาตรฐานการเทรดคุณดี..แบบคงที่แล้วเท่านั้น
และนี่คือเหตุผลว่าทำไมจึงต้องเปิดพอร์ตด้วยขนาดเงินทุนที่เหมาะสม
ผมเชื่อว่า มีเทรดเดอร์มือใหม่ที่เปิดพอร์ตเงินจริง
โอนเงินขั้นต่ำเข้าพอร์ตโดยไม่ได้เข้าใจเลเวอเรจ และมาร์จิ้น อย่างแท้จริง
มันสำคัญมากๆที่เทรดเดอร์ต้องศึกษาในเรื่องนี้อย่างแจ่มแจ้ง เพราะไม่เช่นนั้นแล้ว
พอร์ตคุณจะโดนล้างอย่างแน่นอน
เลเวอเรจ และ มาร์จิ้น
เอาหล่ะ ตอนนี้เราจะมาทำความเข้าใจ เลเวอเรจ กับ มาร์จิ้น กันครับ
เลเวอเรจ คืออะไร?
ในเท็กซ์บุ้ค ให้คำจำกัดความของ "เลเวอเรจ" ไว้ว่า
คือความสามารถในการควบคุมปริมาณเงินจำนวนมาก ด้วยจำนวนเงินเพียงน้อย
หรือ ไม่ต้องใช้เงินเลย โดยใช้เงินเพียงน้อยของตัวคุณเอง ส่วนที่เหลือใช้การยืม
ยกตัวอย่าง เช่น ในการควบคุมขนาดของสัญญา 100,000 เหรียญ
โบรกเกอร์นำเงินคุณไปค้ำประกัน 1,000 เหรียญ นั่นคือเลเวอเรจของคุณเท่ากับ 100:1
ตอนนี้คุณกำลังควบคุมเงิน 100,000 เหรียญ ด้วยเงิน 1,000 เหรียญ
หากราคาที่คุณควบคุมอยู่ขึ้นไปเป็น 101,000 นั่นแปลว่าคุณสามารถทำกำไรได้ 1,000 เหรียญ
จากเงินตัวเอง 1,000 เหรียญ หรือทำกำไรได้ 100%
ในทางตรงกันข้าม หากราคาที่คุณถืออยู่ ลดลงมาเป็น 99,000 หรือลดลง 1,000 เหรียญ
คุณก็จะขาดทุน 1,000 เหรียญ หรือขาดทุน 100% เช่นเดียวกัน
เลเวอเรจ จึงเป็น ดาบสองคม สำหรับเทรดเดอร์
มาร์จิ้น คืออะไร?
กลับไปที่ตัวอย่างข้างต้น ในการควบคุมเงิน 100,000 เหรียญ
โบรกเกอร์จะเรียกเงินคุณ 1,000 เหรียญ จากพอร์ตของคุณ
นั่นคือสัดส่วน 100:1 เงินที่โบรกเกอร์เรียกเก็น เราเรียกว่า "มาร์จิ้น"
มาร์จิ้น คือ จำนวนเงินที่จำเป็นต้องใช้เพื่อถือสถานะกับโบรเกอร์
ปกติแล้ว มาร์จิ้น จะอธิบายด้วยเปอร์เซนต์ของจำนวนเต็มขนาดสัญญาที่เข้าถือ
เช่น โบรกเกอร์จะกำหนดมาร์จิ้นที่ 2%,1%,0.5% หรือ 0.25% เป็นต้น
แต่ละโบรกเกอร์ก็จะมีตัวเลขที่แตกต่างกัน เทรดเดอร์สามารถคำนวณเลเวอเรจสูงสุด
ที่สามารถใช้ได้จากตัวเลขมาร์จิ้น เช่นโบรกเกอร์เรียกมาร์จิ้นที่ 2%
หมายความว่าเทรดเดอร์สามารถใช้เลเวอเรจได้สูงสุด 50 เท่า
มาร์จิ้น 5% เทรดเดอร์สามารถใช้เลเวอเรจได้สูงสุด 20:1
มาร์จิ้น 1% เทรดเดอร์สามารถใช้เลเวอเรจได้สูงสุด 100:1
มาร์จิ้น 0.25% เทรดเดอร์สามารถใช้เลเวอเรจได้สูงสุด 100:1
นอกจากนั้นยังมีคำเรียกเฉพาะในแต่ละโบรกเกอร์ ดังนี้
จำนวนมาร์จิ้นที่ต้องการ ( Margin requirement ) : คือคำตรงๆที่บอกว่าโบรกเกอร์
ต้องเรียกเงินเทรดเดอร์เท่าไหร่เพื่อถือสถานะ
สถานะของบัญชี ( Account balance ) : คือจำนวนเงินทั้งหมดที่มีอยู่ในพอร์ตลงทุนของเทรดเดอร์
มาร์จิ้นที่ถูกใช้ไปแล้ว ( Used Margin ): คือจำนวนเงินที่โบรกเกอร์ล็อคไว้
เพื่อการถือสถานะในปัจจุบันของคุณ คุณใช้เงินส่วนนี้ของตัวเองไม่ได้ จนกว่าจะปิดสถานะ
มาร์จิ้นที่สามารถใช้ได้ ( Usable margin ) : จำนวนเงินในพอร์ตที่คุณสามารถใช้ในการเปิดสถานะใหม่ได้
เรียกเก็บมาร์จิ้นเพิ่ม ( Margin call ) : คุณจะได้รับสถานะนี้ เมื่อจำนวนเงินในพอร์ตไม่สามารถปกป้องการถือสถานะของคุณได้
เครดิต ---www.babypips.com---อนุสรณ์ จ. แปล เรียบเรียง
https://www.facebook.com/thaipips/--- เพราะชีวิตคือการลงทุน
เพจเล็กๆที่สร้างไว้เแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ในการเทรดครับ