ความสัมพันธ์แบบไม่มีชื่อเรียก

สวัสดีค่ะ อันนี้เป็นกระทู้แรกของเรา  
หลังจากที่สิงในพันทิปมานานหลายปี
ไม่คิดไม่ฝันว่าตัวเองต้องมาตั้งคำถาม หรือว่าแชร์ประสบการณ์ตัวเองลงในพันทิป
ขอออภัยนะค ถ้าอ่านแล้ว งงๆ (จะพยายามพิมพ์ให้รู้เรื่องมากที่สุดค่ะ)

เราเองได้เจอกับฝรั่งคนหนึ่งในแอฟที่หลายๆคนรู้จักคือ ทินเดอร์ ... คงตลกมากเลยใช่ไหมค่ะ
เราเองเพิ่งเรียนจบจากประเทศ กลับมาเมืองไทยได้ไม่ถึงหนึ่งปี และได้ลองเล่นทินเดอร์ เลยได้ไปรู้จักฝรั่งคนนี้..... จะเรียกฝรั่งก็ไม่เชิง...
เพราะเขาเป็นคนขาวมาจากแอฟริกาใต้ ...
เราให้นามสมมติเขาว่า คุณเค นะคะ
เราสองคนรู้จักผ่านทินเดอร์และได้คุยก่อนมาเจอกันจริงๆประมาณ 1 อาทิตย์ คุณเคเองอายุเยอะกว่าเรา 2 ปีค่ะ....

ซึ่งเขาเองพักอยู่ไม่ไกลจากบ้านเรามาก
บ้านเราอยู่ชานเมืองไม่ไกลจากกรุงเทพมากนัก
เราก็แค่อยากลองไปเจอ เผื่อเอาไว้เป็นเพื่อนคุย
แลกเปลี่ยนประสบการณ์ พร้อมกับฝึกภาษาตัวเองไปในตัวด้วย เพราะเราเองกลับมาไทย ก็ไม่ได้มีเพื่อนมากมาย ส่วนมากเพื่อนเราจะอยู่ในกรุงเทพฯ....เราเองก็ไม่ได้เจอคนในโลกออนไลน์เยอะเท่าไหร่...จนวันนึงเราเบื่อๆและกำลังจะเลิกเล่นทินเดอร์นี้แหละ คุณเคก็ทักมาหาเรา....และได้คุยแลกเปลี่ยนๆต่างๆนานา

วันแรกที่เจอกัน พวกเราสองคนคุยกันแบบถูกคอ เราไปทานอาหารกลางวันด้วยกัน และก็ไปดื่มนิดหน่อย และแยกย้าย เราก็ไม่คิดว่าคุณเคจะคุย
หรือว่านัดเจออีกครั้ง...
ซึ่งเราเองก็ไม่ค่อยถนัดหรือเจอคนผ่านทินเดอร์สักเท่าไหร่ ส่วนมากก็คุยๆๆ แล้วก็จบ...
แต่เหมือนโชคชะตาเล่นตลกหรือแกล้งเรา
คุณเคก็นัดเจอบ่อยขึ้น ไปออกกำลังกายสวนสาธารณะด้วยกันเกือบทุกวัน
จนคุณเคชวนเราไปเที่ยวอีกครั้ง...
ก็ทำให้มีอะไรเกินเลย (แต่เราคิดว่าคงจบแบบ วันไนท์) หลังจากวันนั้นเราสองคนก็เจอกันบ่อยมากขึ้น และได้ไปเที่ยวชะอำ หัวหิน เขาค้อ ซึ่งเราสองคนก็มีเวลาให้กันมากขึ้น เราสองคนเจอกันแทบทุกวัน .. และทุกวันหยุด เราสองคนจะมีกิจกรรมไปต่างจังหวัดด้วยกันทุกเสาร์-อาทิตย์ ซึ่งเราเองเริ่มไม่แน่ใจว่าคุณเคนั้นมีใคร หรือคุยกับใครไหม...
แต่อย่างว่านะคะ คนในโลกออนไลน์ไว้ใจกันไม่ได้.....เราสองคนจะไปเที่ยวที่เขาค้อด้วยกัน...
เราได้เห็นข้อความของผู้หญิงคนหนึ่ง เราให้นามสมมติผู้หญิงคนนั้นว่าคุณเอนะคะ เราคิดว่าก่อนหน้านั้น คุณเคอาจจะส่งไปหาประมาณว่า “มันแปลกไหม ถ้าฉันคิดถึงคุณ”
และคุณเอได้ส่งข้อความกลับมาว่า “มันก็น่าจะแปลกนะ ถ้าฉันคิดถึงคุณเหมือนกัน” (เราแปลจากภาษาอังกฤษนะคะ)
ซึ่งเราเองยอมรับว่า ตอนนั้นแอบชอบคุณเคมาก เพราะเราสองคนเจอกันทุกวัน ทำกิจกรรม โยคะ ออกกำลังกาย มีแพลนเที่ยวกันทุกอาทิตย์ จากที่เคยไปดื่มกันก็ลดน้อยลง...หาทำกิจกรรมอย่างอื่นทำ ซึ่งคุณเคเองก็เปิดเผยเรามาก...เราเองก็เลยคุยกับคุณเคว่าให้หยุดคุยกับ ผญ คนอื่นนะ เพราะเราเองมีความรู้สึดีมากกับคุณเค บลาๆๆ ซึ่งเขาก็รับปากเราว่าจะหยุด เราเองก็ลบทินเดอร์ทิ้งหลังจากได้รู้จักคุณเคนี้แหละ สักพักคุณเคก็ลบเช่นกัน เหมือนทุกอย่างกำลังไปได้ดีมาก....เราเองก็ดีใจ เพราะคุณเคก็บอกชอบเราเช่นกัน และอยากจะรู้จักเรามากขึ้น... หลังจากนั้นเราก็ไม่เคยระแวงอะไรคุณเคเลย.....

แต่เรื่องไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นกับเรา
ซึ่งเราเอง งง มาก.... ก่อนวันวาเลนไทน์ 1 วัน เราสองคนทะเลาะกันโดยที่เราไม่ได้ทำอะไรผิด ซึ่งแฟนเก่าเราได้ส่งข้อความมาในสแนปแชท แต่ซึ่งเหมือนแฟนเก่าเราจะส่งผิด แล้วคุณเคเห็นพอดี เราก็ทะเลาะกัน เราก็ออกจากห้องคุณเค คุณเคก็ส่งข้อความมาบอกเรา อยากทำอะไรคนเดียวซักพัก ซึ่งเราเองก็คิดว่าตัวเองผิดจริงๆ แต่จริงๆเราแทบไม่ได้ผิดอะไรเลย(พอมามองย้อนกลับไป).... เราสองคนไม่ได้ส่งข้อความหากันตอนวันวาเลนไทน์....

จนหลังวันวาเลนไทน์ คุณเคโทรมาหาเรา
และเราชวนเราไปเจอ เราเองก็ไปเจอ เพราะเรายังไม่ได้เอาของเราออกจากห้องคุณเค เลยคิดว่าจะไปเก็บด้วย เราเองก็ยังเสียใจ และเราสองคนก็ไปทานอาหารเย็นด้วยกัน แต่เราก็สังเกตุว่าหมวกที่คุณเคใช้ประจำได้หายไป
ซึ่งปกติคุณเคจะมีหมวกและกระเป๋าใบเล็กๆ
เราก็ถามว่าของหายไปไหน คุณเคก็บอกไม่รู้ เราก็ไม่ได้เอะใจอะไรมากมาย....

สุดท้ายเราก็ไปเห็นแชทคุณเคกับคุณเอ เขาทั้งสองคนไปเจอกันตอนวันวาเลนไทน์และทิ้งให้เราหมกอยู่กับความผิด..... แต่เราเองก็ไม่ได้บอกอะไร..และไม่ได้มีโอกาสหรืออะไร เพราะใจเรายังเข้มแข็งไม่พอ....
และแล้วคุณเค ก็ได้มาเห็นไลน์ในโนตบุคของเรา(เราไม่ได้ลอคเอ้าออก) ซึ่งเราเองก็มีเพื่อนฝรั่งเยอะพอสมควร...
คุณเคเห็นก็ทำให้เราสองคนทะเลาะกัน
และคุณเคบอกว่าจะกลับไปคุยกับผู้หญิงอีกครั้ง เพราะเรายังไม่เลิกคุยกับผู้ชาย
ซึ่งเราเองไม่ได้มีใครหรือคุยกับผู้ชายแบบเชิงชู้สาว ข้อความที่คุณเคเห็นนั่นก็นานมาก(เพราะเราไม่เคยลบแชท)
เราเองก็คิดว่า คุณเคอาจจะเอามาเป็นข้ออ้างในการกลับไปคุยกับคุณเออีกหรือเปล่า...
เพราะหลังจากวาเลนไทน์ คุณเอส่งข้อความมา
บอกว่ารู้สึกดีกับคุณเค...และเขาทั้ง 2 คนไม่ได้ติดต่อกันอีก....
จนเราได้เห็นเขาคุยกันอีกครั้ง คุณเคได้อ้างว่าเรายังไม่เลิกคุยกับผู้ชายก่อน.... ซึ่งเราคิดว่ามันไม่ได้แฟร์กับเราเลย แต่เราเองยังไม่เข้มแข็งพอขนาดนั้น ที่จะก้าวออกมาได้....
ซึ่งในเร็วๆนี้ คุณเคและคุณเออาจจะไปเจอกันอีก...เพราะคุณเคต้องไปเอากระเป๋าคืน...และคุณเอไม่ได้อยู่ในกรุงเทพ แต่จะมาดูคอนเสิตกีตาร์.....

เราเองซึ่งไม่รู้ต้องอยู่กับความสัมพันธ์แบบนี้ไปอีกนานแค่ไหน..

เราแค่อยากจะแลกเปลี่ยนความคิดหรือใครเคยมีประสบการณ์แบบนี้...
เราขอทั้งกำลังใจ หรือคำพูดแย่ๆก็ได้ อย่างน้อยก็ทำให้เราได้เห็นอะไรหลายๆอย่าง...
ในแบบมุมมองหลายๆทาง ให้เราได้คิดอีกครั้ง....
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่