ผลงานออกสตาร์ท 2 นัด ยัง 0 แต้ม มันยากที่ฝ่ายบริหารจะพึงพอใจ
มันเกิดอะไรขึ้นกับ เอสซีจี เมืองทองฯ วันนี้เรามาวิเคราะห์กัน!!
จากที่ผมได้มีโอกาสเกาะติดดูเกมของ เมืองทอง ทั้ง 2 นัด พบว่าพวกเขาไม่ได้แข็งแกร่งเหมือนแต่ก่อน
เกมรับมีปัญหา แต่เกมรุกแย่กว่า เพราะเข้าขั้นวิกฤต!!
เกมบุกของ เมืองทอง ไร้ซึ่งจินตนาการ ไร้รูปแบบเข้าทำ และไร้ประสิทธิภาพ
การจะฝากความหวังไว้ที่ เฮแบร์ตี้ เฟอร์นันเดซ คนเดียว มันยากที่จะเอาชนะกองหลังคู่แข่งได้
ธีรศิลป์ กับ อดิศักดิ์ ยังไม่สามารถโชว์ฟอร์มช่วยทีมได้
มุ้ย ไม่เหมือนคนเดิมที่เรารู้จัก ความดุดันหายไปหมด เหลือแต่เพียงชั้นเชิงการเอาตัวรอดเท่านั้น ซึ่งมันไม่เพียงพอต่อการเจาะแนวรับคู่แข่ง
ส่วน กอล์ฟ ยิ่งแล้วใหญ่ ความอันตรายแทบไม่มี บอลยังแทบไม่ค่อยจะได้สัมผัสเลย เรียกว่าผ่านมา 2 นัด AK11 หายไปจากเกมทั้ง 2 นัด
ส่วน อ่อง ธู ฝีเท้าของเขาไม่สามารถช่วยทีมได้เลย ยิ่งเกมกับ แบงค็อก เขามีจังหวะผิดพลาด มากกว่าจังหวะที่สร้างประโยชน์เสียอีก
ซึ่งเกมบุกของ เมืองทอง ยังคงเป็นในรูปแบบเดิมๆ คือเคาะบอลกันมากจังหวะ เข้าทำกันช้า ลูกครอสจากด้านข้างไม่มีความอันตราย มันจึงยากที่จะเจาะเกมรับคู่แข่งเข้าไปทำประตูได้
ส่วนแดนกลาง แม้ เมืองทอง จะครองบอลได้มากกว่าคู่แข่งทั้ง 2 นัด แต่สุดท้ายก็สร้างจังหวะอันตรายไม่ได้ สารัช อยู่เย็น คุมบอลได้ดี แต่ยังขาดลูกคิลเลอร์พาส ส่วน ลี โฮ หรือ วัฒนา พลายนุ่ม หรือ ชารีล ชัปปุยส์ ยังต้องเร่งฟอร์มให้ดีขึ้นกว่านี้อีก
ขณะที่เกมรับ โอ บัน ซอค กับ อดิศร พรหมรักษ์ ถือว่ายืนเซ็นเตอร์ฮาล์ฟคู่กันได้ดี แต่วิงแบ็คทั้ง 2 ข้าง ยังต้องพัฒนาให้มากกว่านี้
วีระวุฒิ กาเหย็ม ขาดเกมรุกที่ดุดัน แม้เกมรับจะพอไว้ใจได้บ้าง
ส่วน ศุภนันท์ บุรีรัตน์ ต้องเร่งฟอร์มอย่างแรง เพราะทั้งเกมรับ และเกมรุก แทบจะมีข้อผิดพลาดเต็มไปหมด โดยเฉพาะลูกเปิดจากด้านข้าง ที่บอลของเขาไม่สร้างความกดดันให้คู่แข่งเลย
ด้าน ผู้รักษาประตู ผมมองว่า ดัง วาน ลัม น่าจะเป็นคนเดียวที่สอบผ่าน เพราะ 2 ลูกจาก 2 นัดที่เสีย ไม่ใช่ความผิดของเขา และยังมีลูกซูเปอร์เซฟสวยๆให้ได้เห็นอยู่บ้าง
เรียกได้ว่า เมืองทอง จำเป็นต้องพัฒนาฟอร์มการเล่นอีกมาก หากหวังที่จะกลับมาลุ้นแชมป์ เพราะการออกสตาร์ท 2 นัด แต่ยังไม่มีแต้ม มันส่งผลใหญ่หลวงต่อจิตใจและความมั่นใจของนักฟุตบอล
และหากเกมหน้า ที่พวกเขาจะเล่นในบ้านพบน้องใหม่อย่าง เชียงใหม่ เอฟซี ในวันที่ 9 มี.ค. 62 เวลา 18.00 น. ซึ่งเป็นโอกาสดีที่สุดที่จะคว้าชัยชนะ
ถ้าพวกเขายังเก็บ 3 แต้มไม่ได้อีกละก็ คงต้องถึงเวลาโบกมือบ๊ายบาย "โค้ชเบ๊" แน่นอน...
วิเคราะห์ เมืองทอง เกิดอะไรขึ้นกับพวกเขา 2 นัด ทำไมยัง 0 แต้ม? 😢😢😢
ผลงานออกสตาร์ท 2 นัด ยัง 0 แต้ม มันยากที่ฝ่ายบริหารจะพึงพอใจ
มันเกิดอะไรขึ้นกับ เอสซีจี เมืองทองฯ วันนี้เรามาวิเคราะห์กัน!!
จากที่ผมได้มีโอกาสเกาะติดดูเกมของ เมืองทอง ทั้ง 2 นัด พบว่าพวกเขาไม่ได้แข็งแกร่งเหมือนแต่ก่อน
เกมรับมีปัญหา แต่เกมรุกแย่กว่า เพราะเข้าขั้นวิกฤต!!
เกมบุกของ เมืองทอง ไร้ซึ่งจินตนาการ ไร้รูปแบบเข้าทำ และไร้ประสิทธิภาพ
การจะฝากความหวังไว้ที่ เฮแบร์ตี้ เฟอร์นันเดซ คนเดียว มันยากที่จะเอาชนะกองหลังคู่แข่งได้
ธีรศิลป์ กับ อดิศักดิ์ ยังไม่สามารถโชว์ฟอร์มช่วยทีมได้
มุ้ย ไม่เหมือนคนเดิมที่เรารู้จัก ความดุดันหายไปหมด เหลือแต่เพียงชั้นเชิงการเอาตัวรอดเท่านั้น ซึ่งมันไม่เพียงพอต่อการเจาะแนวรับคู่แข่ง
ส่วน กอล์ฟ ยิ่งแล้วใหญ่ ความอันตรายแทบไม่มี บอลยังแทบไม่ค่อยจะได้สัมผัสเลย เรียกว่าผ่านมา 2 นัด AK11 หายไปจากเกมทั้ง 2 นัด
ส่วน อ่อง ธู ฝีเท้าของเขาไม่สามารถช่วยทีมได้เลย ยิ่งเกมกับ แบงค็อก เขามีจังหวะผิดพลาด มากกว่าจังหวะที่สร้างประโยชน์เสียอีก
ซึ่งเกมบุกของ เมืองทอง ยังคงเป็นในรูปแบบเดิมๆ คือเคาะบอลกันมากจังหวะ เข้าทำกันช้า ลูกครอสจากด้านข้างไม่มีความอันตราย มันจึงยากที่จะเจาะเกมรับคู่แข่งเข้าไปทำประตูได้
ส่วนแดนกลาง แม้ เมืองทอง จะครองบอลได้มากกว่าคู่แข่งทั้ง 2 นัด แต่สุดท้ายก็สร้างจังหวะอันตรายไม่ได้ สารัช อยู่เย็น คุมบอลได้ดี แต่ยังขาดลูกคิลเลอร์พาส ส่วน ลี โฮ หรือ วัฒนา พลายนุ่ม หรือ ชารีล ชัปปุยส์ ยังต้องเร่งฟอร์มให้ดีขึ้นกว่านี้อีก
ขณะที่เกมรับ โอ บัน ซอค กับ อดิศร พรหมรักษ์ ถือว่ายืนเซ็นเตอร์ฮาล์ฟคู่กันได้ดี แต่วิงแบ็คทั้ง 2 ข้าง ยังต้องพัฒนาให้มากกว่านี้
วีระวุฒิ กาเหย็ม ขาดเกมรุกที่ดุดัน แม้เกมรับจะพอไว้ใจได้บ้าง
ส่วน ศุภนันท์ บุรีรัตน์ ต้องเร่งฟอร์มอย่างแรง เพราะทั้งเกมรับ และเกมรุก แทบจะมีข้อผิดพลาดเต็มไปหมด โดยเฉพาะลูกเปิดจากด้านข้าง ที่บอลของเขาไม่สร้างความกดดันให้คู่แข่งเลย
ด้าน ผู้รักษาประตู ผมมองว่า ดัง วาน ลัม น่าจะเป็นคนเดียวที่สอบผ่าน เพราะ 2 ลูกจาก 2 นัดที่เสีย ไม่ใช่ความผิดของเขา และยังมีลูกซูเปอร์เซฟสวยๆให้ได้เห็นอยู่บ้าง
เรียกได้ว่า เมืองทอง จำเป็นต้องพัฒนาฟอร์มการเล่นอีกมาก หากหวังที่จะกลับมาลุ้นแชมป์ เพราะการออกสตาร์ท 2 นัด แต่ยังไม่มีแต้ม มันส่งผลใหญ่หลวงต่อจิตใจและความมั่นใจของนักฟุตบอล
และหากเกมหน้า ที่พวกเขาจะเล่นในบ้านพบน้องใหม่อย่าง เชียงใหม่ เอฟซี ในวันที่ 9 มี.ค. 62 เวลา 18.00 น. ซึ่งเป็นโอกาสดีที่สุดที่จะคว้าชัยชนะ
ถ้าพวกเขายังเก็บ 3 แต้มไม่ได้อีกละก็ คงต้องถึงเวลาโบกมือบ๊ายบาย "โค้ชเบ๊" แน่นอน...