เห้อออ มาเล่าสู่กันฟัง
เราคบกับแฟน และเราตัดสินใจมาอยู่บ้านแฟนเกือบ 2 ปีแล้วค่ะ ครอบครัวแฟนและครอบครัวเรารับรู้ทั้ง 2 ฝ่าย เราเคยพาแฟนไปเที่ยวที่บ้านเราไปพบผู้ใหญ่ที่บ้านเราค่ะ แฟนก็นิสัยดีมากเลยนะคะ ดูแลเราดี ไม่เจ้าชู้ ทางครอบครัวเราก็ชอบเขา ทางครอบครัวเขาก็โอเคกับเรานะคะ คือแม่แฟนก็ชอบซื้อของให้พวกกระเป๋าหรือว่าครีม ของเล็กๆน้อยๆ ทางญาติพ่อแฟนก็ดีกับเราค่ะ เวลามีอะไรก็ชอบโทรบอกแฟนเรียกให้เราไปกินด้วย เราก็ดีใจนะคะที่ครอบครัวแฟนเอ็นดูเรา แต่ค่ะแต่ แฟนเรามีน้องชายซึ่งนิสัยแตกต่างกันมาก แฟนเราเป็นคนโตก็บอกตั้งแต่คบกันแรกๆแล้วค่ะว่าอย่าไปดีด้วยมาก (แฟนไม่ถูกกันกับน้องค่ะ) ซึ่งเราก็ไม่เข้าใจ เป็นพี่น้องกันก็ต้องรักกันสิ เพราะเราก็มีพี่น้องเหมือนกันเราก็ไม่เข้าใจ เวลามีไรเราก็เรียกตลอดนะคะช่วงแรกๆ น้องชายแฟนเนี่ยก็ถือว่าเจ้าชู้อยู่ค่ะเราก็เห็นนะคะว่าปีนึงๆเนี่ย พาผู้หญิงมาไม่ซ้ำหน้าเลย พามานอนบ้านประมาณ 3-4 คน เราก็ไม่อะไรนะคะ ก็วัยรุ่นผู้ชายก็คงเป็นธรรมดา
แต่คนที่คบกับน้องชายแฟนล่าสุดที่ยังอยู่ด้วยกันทุกวันนี้เนี่ย ก็คือตอนทะเลาะกันผญ.ก็ทักเฟสมาหาเราค่ะ มันมีคนอื่น โน่นนี่นั่น เราก็ฟังแล้วก็ให้คำแนะนำไป ให้ค่อยๆคุยกัน เรื่องแบบนี้มันคุยกันได้ บอกว่าถ้าทนไม่ไหวจริงๆค่อยเลิก นางก็ให้เราไปรับเพื่อไปเอาเสื้อผ้ากลับ เราก็ไปรับค่ะเหนื่อยก็เหนื่อยเพราะวันนั้นยุ่งมาก แต่ก็ไม่อยากให้น้องทะเลาะกัน เอาจริง ๆ ก็ไม่อยากให้น้องพาคนอื่นมาบ้านบ่อยๆเพราะไม่รู้ว่าใครเป็นไง จะหยิบจับอะไรของในบ้านไปรึป่าว เพราะแฟนเก่านางเคยขโมยเสื้อแบรนด์แฟนเราที่ตากไว้หายไปกับซอส ก็เลยอยากให้มาปรับความเข้าใจกัน ระหว่างทางกว่าจะถึงบ้านนางก็พูดสารพัด บอกว่ามันตี โน่นนี่นั่น เราก็บอกว่าใจเย็น กลับไปก็ให้ไปคุยกันก่อน บอกว่าเลิกไม่เอาแล้ว พอรับมาก็ดีกันเหมือนเดิม เรายอมรับว่าตกใจค่ะที่น้องชายแฟนมันกล้าตีแฟนตัวเองเราก็เลยไปปรึกษากับแม่แฟนแหละค่ะ แม่ก็โมโหเลยเพราะแม่ก็ไม่ชอบเหมือนกัน เอาจริง ๆ ก็คิดว่าผญ.เป็นน้องเราอีกคนเลยก็ว่าได้ เรามีความเป็นห่วงอยู่นะ เราไปคุยไปปรึกษาเสร็จแม่ก็เรียกน้องชายไปเคลียร์ เราก็ไม่รู้หรอกว่าแม่คุยอะไรกับน้อง ก็จบไป
เราก็อึดอัดมากนะคะเรื่องงานบ้าน เราก็เป็นคนไม่ชอบเห็นอะไรรก ๆ ก็ทำความสะอาดเลยค่ะ แต่ทำให้สะอาดไม่ถึง 2 วันก็เละเทะเหมือนเดิม เหนื่อยเหมือนกันบางครั้ง ที่ต้องมาตามเก็บอะไรที่เราไม่ได้ทำ ตอนแรก ๆ ไม่อะไรนะคะ หลัง ๆ มาคือเยอะไป ผญ.มาอยู่หลายเดือน ห้องน้ำอะไรไม่เคยล้างเลย เราเคยปล่อยเลยนะคะ จะรอดูว่าจะทำไหม สุดท้ายเราทนไม่ไหวค่ะล้างก่อนเลยเพราะมันสกปรกจริง ๆ น้องชายแฟนเราก็ฉี่ไม่กดบ้าง ฉี่กระเด็นตามฝารองไม่เคยล้าง ตอนแรกก็บ่นกับแฟน หลัง ๆ มาเราก็ไม่บ่นนะ เห็นก็ล้างฝารอง เราทำจนชิน 555 แล้วผญ.เหมือนเคยใช้ของส่วนตัวที่เราวางในห้องน้ำด้วย เอาผ้าอนามัยทิ้งในถังขยะห้องน้ำ คือนางเคยทิ้งมาก่อนแบบว่าแค่ 2-3 วันเดินเข้าไปก็เหม็นเน่าแล้วอ่ะค่ะ ก็เลือดอะเนอะ - -* หลายครั้งมากจนเราบอกไปว่าให้มัดใส่ถุงในห้อง เมนหมดก็ค่อยเอาไปทิ้งถังขยะหน้าบ้าน (เทศบาลมาเก็บทุกอาทิตย์) ไม่รู้ว่าพอใจรึป่าวนะ (ก็คิดในใจนะว่า ทำไมกูต้องมาเก็บผ้าอนามัยของคนอื่นเอาห่อไปทิ้งถังหน้าบ้านด้วยว่ะ - -*) เพราะถังขยะในห้องน้ำเราจะใช้ทิ้งพวกทิชชู่หรือสำลีที่เช็ดเครื่องสำอางก่อนล้างหน้า และเราไม่เคยทิ้งผ้าอนามัย มันจะมีถังขยะหน้าบ้านที่ทุก ๆ อาทิตย์จะมีรถขยะเทศบาลมาเก็บครั้งนึง พวกนางก็ไม่เคยเอาขยะหลังบ้านที่มีอยู่ถังนึง (เอาไว้ทิ้งเศษอาหาร ขยะต่างๆ) ไปทิ้งที่ถังหน้าบ้านเลย ซิงค์ก็เอาเศษอาหารที่กินทิ้งใส่ถุงวางมัดไว้ ไม่เคยเดินไปทิ้งหลังบ้าน เรากับแฟนก็เอาไปทิ้งข้างหลังบ้านตลอด แฟนเราก็บ่นๆว่านี่มันซิงค์หรือเป็นถังขยะ แต่ก็เอาไปทิ้งให้ตลอด 55555 เพราะว่าเราก็บอกแฟนแหละค่ะว่ายังไม่อยากบอกกลัวมีปัญหากัน
คราวนี้มันก็ทะเลาะกันอีกเพราะน้องแฟนมันคุยกับผญ.คนอื่น นางก็ทักมาเลยค่ะมาขอ FB แม่แฟน เพราะแม่แฟนไป ตจว. เราก็ให้ไปค่ะ แล้วก็ถามว่าเป็นอะไร นางก็โทรมาเลย พูดยาวเกือบครึ่งชั่วโมงพูดมาหมดความไม่ดีของแฟนตัวเอง กลับบ้านมาก็เห็นมานั่งเหงาอยู่ห้องรับแขกก็ไปนั่งคุยเล่นด้วยค่ะ คุยเรื่อยเปื่อยฟังเพลงกัน ก็กลัวจะเครียด นางก็ร่ายเรื่องน้องชายแฟนยาวเป็นชั่วโมงเรื่องขอเงินนางใช้บ้าง เรื่องที่คุยกับผู้หญิงคนอื่น แล้วก็บอกว่ามันไม่ยอมรับที่มันทำ บลาๆๆ แล้วนางก็พูดเลยจ้ะว่า "ตอนนั้นที่แม่เคลียร์น้องชายแฟนโกรธ ตะโกนด่าในห้องตั้งนานว่าบ้านกู บ้านกูอะไรประมาณนี้ แล้วก็อีกเยอะพี่ไม่ได้ยินหรอ" ผญ.ก็บอกอีกว่าน้องชายแฟนพูดว่า "ไม่พูดด้วยขนาดนี้ก็น่าจะรู้ตัวนะ" เรายอมรับว่าไม่รู้เพราะหลัง ๆ มาก็ไม่ได้คุยกันอยู่แล้วป่ะ 5555 กลับมาก็ห้องใครห้องมันเพราะทำงานก็เลิกค่ำ ผญ.นางบอกอีกว่าเห็นน้องชายแฟนกับแม่แฟนว่าไปเชื่อทำไมคนอื่น (ทั้งๆที่ผญ.นางบอกกับปากนางเองว่าตีจริง ช้ำเลย ตอนนางมาเล่านางก็บอกว่าตีจริงๆ) ก็สงสัยบางครั้งที่เราอยู่ในบ้าน ตอนแฟนไม่อยู่ น้องชายแฟนทำไมถึงปิดประตูดังๆ ก็คิดว่าคงไม่พอใจแล้วปิดใส่เรา เราก็รู้ตอนนางเล่าแหละค่ะ ก็คิดว่าทำไมนางถึงมาเล่าแบบนี้นะ แต่ก็ดีจะได้รับรู้ เราก็โกรธเล็กๆนะคะ แต่ก็สมน้ำหน้าตัวเองเหมือนกันที่ไปยุ่งเรื่องผัว ๆ เมีย ๆ บอกตัวเองเลยว่าพอล่ะ ต่อไปนี้กูจะไม่ยุ่งเรื่องผัว ๆ เมีย ๆ มันจะตีกัน ฆ่ากันก็ปล่อย เพราะพอเขาทะเลาะกัน ก็เล่ามาหมดมันเ-ี้ย โน่นนี่นั่น พอดีกันก็คงจะเอาเรื่องที่คุยปรึกษาไปพูดกับแฟนตัวเอง คือเราไม่คิดว่าที่นางระบายตอนทะเลาะกับผัว แล้วเราให้คำแนะนำ คำปรึกษาไปเนี่ยไม่คิดว่ามันจะเป็นปัญหาตามมาอะไรขนาดนี้
ยอมรับว่าอยู่แบบอึดอัดมากนะคะที่รู้สึกไม่เหมือนเดิมกับน้องชายแฟน ก็คิดว่าไม่น่าหลงผิดไปให้คำปรึกษาผญ.เลย ล่าสุดหลัง ๆ มา แม่แฟนรู้ว่าน้องชายแฟนระหองระแหงกับเราก็เลยเคลียร์กันอีกค่ะ เราก็พูดไปเลยว่าน้องมันคงโกรธตอนที่หนูปรึกษาแม่ตอนนั้นแหละ ก็พูดบอกแม่อย่างที่น้องผญ. บอก เราก็บอกแม่ไปว่าก็เฉย ๆ ก็ไม่ได้อะไรกับน้องอยู่แล้ว (ใจเราจริงๆคือเริ่มเอือมกับผัวเมียคู่นี้แล้ว คืออยากไม่สนใจแล้ว) แม่ก็บอกว่า "แม่ก็รู้สึกไม่ดีที่ลูกจะมาทะเลาะกัน แม่ไม่ได้เข้าข้างใครนะ เพราะแม่ก็โตก็รู้ว่าใครเป็นยังไง แม่ก็พูดเรื่องงานบ้าน บอกว่าเห็นว่าพื้นมันเหนียวๆ แล้วไม่ถูเนี่ยมันมาจากห้องใคร (นางชอบทำอาหารกินกัน แล้วบางครั้งครัวเละเทะมาก) แม่ก็คุยกับนางผญ.แล้ว แล้วเรื่องงานบ้านถ้าเหนื่อยก็ไม่ต้องทำลูก มันหงุดหงิด แม่รู้ว่ากลับมาก็เหนื่อยกันแล้ว เดี๋ยวแม่ก็ทำเอง มีอะไรก็มาคุยกับแม่ แล้วที่นี่ก็เป็นบ้านแม่ คนที่ตัดสินว่าใครจะอยู่หรือไปคือแม่ แต่แม่มีเหตุผลพอไม่ใช่แม่ไม่มีเหตุผล" แม่ก็พูดเยอะเหมือนกัน เราก็ค่ะ ค่ะ 5555 คือไม่อยากสนใจแล้ว อยากเฉยๆ แม่ก็ให้ครีมบำรุงเรา (แม่แฟนน่ารักกับเราตลอด) แม่ก็เคลียร์กับเราเสร็จก็รอเคลียร์กับน้องเพราะนางยังไม่ตื่นกัน ก็ไม่รู้ว่าคุยไรกันเพราะเราไปทำธุระข้างนอก ก็จบไป
หลัง ๆ มาเห็นทั้งคู่ unfriend เราใน FB เราก็คิดว่าคงโกรธที่แม่เคลียร์ด้วยครั้งล่าสุด ผญ.ก็ทักมาบอกว่า "คุยกับแม่แฟนแล้ว ไม่ต้องคิดมากที่น้องชายแฟนพูดอะไร นางก็บอกว่าที่ unfriend เพราะเพื่อนให้ un" (ก็คิดว่าแหม่ แกไม่โดนพูดใส่แกจะไปรู้สึกอะไรล่ะ ลองให้แฟนชั้นพูดกับแกไหม - -* และอีกอย่างเราก็งงว่าทำไม่เพื่อนถึงให้ un เลยถามว่ามีเหตุผลไหม นางก็บอกว่า "ไม่รู้ บอกมันไปว่าอยากทำอะไรก็ทำ" เลยถึงบางอ้อว่า อ้ออออ น้องชายแฟนมันคงเอาไปลบ เราเลยไปบล็อก เพราะลำใยร้อยสวนเหมือนกัน ตอนนี้อยู่แบบอึดอัดไปอีก เพราะยังต้องเจอหน้ากันแต่ก็ต้องอดทน ไม่น่าไปยุ่งเรื่องผัว ๆ เมีย ๆ เลย เราเคยร้องไห้กับแฟนด้วยนะคะ แฟนก็พูดปลอบใจแหละค่ะว่าต่อไปนี้ไม่ต้องไปสนใจแล้ว มันจะเป็นยังไงก็ปล่อยไป บอกแล้วตั้งแต่แรกว่าอย่าไปดีด้วยก็ไม่เชื่อ พวกนั้นเป็นลูกเทวดาอยู่ก็อยู่แบบสบาย เราก็เห้อออ จากนั้นมาเรากับแฟนก็ไม่เก็บขยะไปทิ้งให้แล้วค่ะ อะไรที่ 2 คนนางทำก็เก็บกันเอาเอง เราก็เอาไปทิ้งแต่ของเรา ตอนนี้ 2 คนนั้นก็กลายเป็นอากาศไปเลย เราไม่ได้เป็นห่วงอะไรเหมือนตอนแรก ๆ แล้ว ก็เหมือนว่าจะมองหน้ากันไม่ติดแล้วค่ะ
สรุปพอกันทั้ง 2 เราคิดว่ามันเป็นเรื่องเล็กมากแต่ทำไมมันก็กลับกลายเป็นเรื่องที่อึดอัดอะไรได้ขนาดนี้ ทุกวันนี้ก็คิดนะคะว่าเราอยู่ไม่ได้เพราะมันก็จะอึดอัดแบบนี้ นี่มันก็บ้านเขาจริงๆแหละ มาอยู่บ้านเขาก็เป็นแบบนี้แหละเนอะ เรากับแฟนก็คุยกัน ก็มีวางแผนว่าจะเก็บเงินซื้อบ้าน จะได้ไม่ต้องมีปัญหาแล้วอีกอย่างจะได้ห่างๆกันไป ไม่ต้องมาอึดอัด แต่ก็คงอีกนานนน กว่าจะเก็บได้ รอต่อไปค่ะ
สรุปว่าปัญหาที่เกิด เกิดจากที่ไปปรึกษาแม่แฟนที่ลูกชายคนเล็กทุบตีแฟน ทุกวันนี้ก็คิดว่าเราผิดเอง และไม่น่าจะยุ่งเรื่องของเขา ไม่น่ากระแดะเป็นห่วงทั้ง ๆ ที่เขาก็เป็นแค่คนอื่นเหมือนกัน เรื่องของเขาควรให้เขาไปเคลียร์กันเอาเอง
เรื่องผัว ๆ เมีย ๆ ไม่ควรยุ่งจริง ๆ นะ
เราคบกับแฟน และเราตัดสินใจมาอยู่บ้านแฟนเกือบ 2 ปีแล้วค่ะ ครอบครัวแฟนและครอบครัวเรารับรู้ทั้ง 2 ฝ่าย เราเคยพาแฟนไปเที่ยวที่บ้านเราไปพบผู้ใหญ่ที่บ้านเราค่ะ แฟนก็นิสัยดีมากเลยนะคะ ดูแลเราดี ไม่เจ้าชู้ ทางครอบครัวเราก็ชอบเขา ทางครอบครัวเขาก็โอเคกับเรานะคะ คือแม่แฟนก็ชอบซื้อของให้พวกกระเป๋าหรือว่าครีม ของเล็กๆน้อยๆ ทางญาติพ่อแฟนก็ดีกับเราค่ะ เวลามีอะไรก็ชอบโทรบอกแฟนเรียกให้เราไปกินด้วย เราก็ดีใจนะคะที่ครอบครัวแฟนเอ็นดูเรา แต่ค่ะแต่ แฟนเรามีน้องชายซึ่งนิสัยแตกต่างกันมาก แฟนเราเป็นคนโตก็บอกตั้งแต่คบกันแรกๆแล้วค่ะว่าอย่าไปดีด้วยมาก (แฟนไม่ถูกกันกับน้องค่ะ) ซึ่งเราก็ไม่เข้าใจ เป็นพี่น้องกันก็ต้องรักกันสิ เพราะเราก็มีพี่น้องเหมือนกันเราก็ไม่เข้าใจ เวลามีไรเราก็เรียกตลอดนะคะช่วงแรกๆ น้องชายแฟนเนี่ยก็ถือว่าเจ้าชู้อยู่ค่ะเราก็เห็นนะคะว่าปีนึงๆเนี่ย พาผู้หญิงมาไม่ซ้ำหน้าเลย พามานอนบ้านประมาณ 3-4 คน เราก็ไม่อะไรนะคะ ก็วัยรุ่นผู้ชายก็คงเป็นธรรมดา
แต่คนที่คบกับน้องชายแฟนล่าสุดที่ยังอยู่ด้วยกันทุกวันนี้เนี่ย ก็คือตอนทะเลาะกันผญ.ก็ทักเฟสมาหาเราค่ะ มันมีคนอื่น โน่นนี่นั่น เราก็ฟังแล้วก็ให้คำแนะนำไป ให้ค่อยๆคุยกัน เรื่องแบบนี้มันคุยกันได้ บอกว่าถ้าทนไม่ไหวจริงๆค่อยเลิก นางก็ให้เราไปรับเพื่อไปเอาเสื้อผ้ากลับ เราก็ไปรับค่ะเหนื่อยก็เหนื่อยเพราะวันนั้นยุ่งมาก แต่ก็ไม่อยากให้น้องทะเลาะกัน เอาจริง ๆ ก็ไม่อยากให้น้องพาคนอื่นมาบ้านบ่อยๆเพราะไม่รู้ว่าใครเป็นไง จะหยิบจับอะไรของในบ้านไปรึป่าว เพราะแฟนเก่านางเคยขโมยเสื้อแบรนด์แฟนเราที่ตากไว้หายไปกับซอส ก็เลยอยากให้มาปรับความเข้าใจกัน ระหว่างทางกว่าจะถึงบ้านนางก็พูดสารพัด บอกว่ามันตี โน่นนี่นั่น เราก็บอกว่าใจเย็น กลับไปก็ให้ไปคุยกันก่อน บอกว่าเลิกไม่เอาแล้ว พอรับมาก็ดีกันเหมือนเดิม เรายอมรับว่าตกใจค่ะที่น้องชายแฟนมันกล้าตีแฟนตัวเองเราก็เลยไปปรึกษากับแม่แฟนแหละค่ะ แม่ก็โมโหเลยเพราะแม่ก็ไม่ชอบเหมือนกัน เอาจริง ๆ ก็คิดว่าผญ.เป็นน้องเราอีกคนเลยก็ว่าได้ เรามีความเป็นห่วงอยู่นะ เราไปคุยไปปรึกษาเสร็จแม่ก็เรียกน้องชายไปเคลียร์ เราก็ไม่รู้หรอกว่าแม่คุยอะไรกับน้อง ก็จบไป
เราก็อึดอัดมากนะคะเรื่องงานบ้าน เราก็เป็นคนไม่ชอบเห็นอะไรรก ๆ ก็ทำความสะอาดเลยค่ะ แต่ทำให้สะอาดไม่ถึง 2 วันก็เละเทะเหมือนเดิม เหนื่อยเหมือนกันบางครั้ง ที่ต้องมาตามเก็บอะไรที่เราไม่ได้ทำ ตอนแรก ๆ ไม่อะไรนะคะ หลัง ๆ มาคือเยอะไป ผญ.มาอยู่หลายเดือน ห้องน้ำอะไรไม่เคยล้างเลย เราเคยปล่อยเลยนะคะ จะรอดูว่าจะทำไหม สุดท้ายเราทนไม่ไหวค่ะล้างก่อนเลยเพราะมันสกปรกจริง ๆ น้องชายแฟนเราก็ฉี่ไม่กดบ้าง ฉี่กระเด็นตามฝารองไม่เคยล้าง ตอนแรกก็บ่นกับแฟน หลัง ๆ มาเราก็ไม่บ่นนะ เห็นก็ล้างฝารอง เราทำจนชิน 555 แล้วผญ.เหมือนเคยใช้ของส่วนตัวที่เราวางในห้องน้ำด้วย เอาผ้าอนามัยทิ้งในถังขยะห้องน้ำ คือนางเคยทิ้งมาก่อนแบบว่าแค่ 2-3 วันเดินเข้าไปก็เหม็นเน่าแล้วอ่ะค่ะ ก็เลือดอะเนอะ - -* หลายครั้งมากจนเราบอกไปว่าให้มัดใส่ถุงในห้อง เมนหมดก็ค่อยเอาไปทิ้งถังขยะหน้าบ้าน (เทศบาลมาเก็บทุกอาทิตย์) ไม่รู้ว่าพอใจรึป่าวนะ (ก็คิดในใจนะว่า ทำไมกูต้องมาเก็บผ้าอนามัยของคนอื่นเอาห่อไปทิ้งถังหน้าบ้านด้วยว่ะ - -*) เพราะถังขยะในห้องน้ำเราจะใช้ทิ้งพวกทิชชู่หรือสำลีที่เช็ดเครื่องสำอางก่อนล้างหน้า และเราไม่เคยทิ้งผ้าอนามัย มันจะมีถังขยะหน้าบ้านที่ทุก ๆ อาทิตย์จะมีรถขยะเทศบาลมาเก็บครั้งนึง พวกนางก็ไม่เคยเอาขยะหลังบ้านที่มีอยู่ถังนึง (เอาไว้ทิ้งเศษอาหาร ขยะต่างๆ) ไปทิ้งที่ถังหน้าบ้านเลย ซิงค์ก็เอาเศษอาหารที่กินทิ้งใส่ถุงวางมัดไว้ ไม่เคยเดินไปทิ้งหลังบ้าน เรากับแฟนก็เอาไปทิ้งข้างหลังบ้านตลอด แฟนเราก็บ่นๆว่านี่มันซิงค์หรือเป็นถังขยะ แต่ก็เอาไปทิ้งให้ตลอด 55555 เพราะว่าเราก็บอกแฟนแหละค่ะว่ายังไม่อยากบอกกลัวมีปัญหากัน
คราวนี้มันก็ทะเลาะกันอีกเพราะน้องแฟนมันคุยกับผญ.คนอื่น นางก็ทักมาเลยค่ะมาขอ FB แม่แฟน เพราะแม่แฟนไป ตจว. เราก็ให้ไปค่ะ แล้วก็ถามว่าเป็นอะไร นางก็โทรมาเลย พูดยาวเกือบครึ่งชั่วโมงพูดมาหมดความไม่ดีของแฟนตัวเอง กลับบ้านมาก็เห็นมานั่งเหงาอยู่ห้องรับแขกก็ไปนั่งคุยเล่นด้วยค่ะ คุยเรื่อยเปื่อยฟังเพลงกัน ก็กลัวจะเครียด นางก็ร่ายเรื่องน้องชายแฟนยาวเป็นชั่วโมงเรื่องขอเงินนางใช้บ้าง เรื่องที่คุยกับผู้หญิงคนอื่น แล้วก็บอกว่ามันไม่ยอมรับที่มันทำ บลาๆๆ แล้วนางก็พูดเลยจ้ะว่า "ตอนนั้นที่แม่เคลียร์น้องชายแฟนโกรธ ตะโกนด่าในห้องตั้งนานว่าบ้านกู บ้านกูอะไรประมาณนี้ แล้วก็อีกเยอะพี่ไม่ได้ยินหรอ" ผญ.ก็บอกอีกว่าน้องชายแฟนพูดว่า "ไม่พูดด้วยขนาดนี้ก็น่าจะรู้ตัวนะ" เรายอมรับว่าไม่รู้เพราะหลัง ๆ มาก็ไม่ได้คุยกันอยู่แล้วป่ะ 5555 กลับมาก็ห้องใครห้องมันเพราะทำงานก็เลิกค่ำ ผญ.นางบอกอีกว่าเห็นน้องชายแฟนกับแม่แฟนว่าไปเชื่อทำไมคนอื่น (ทั้งๆที่ผญ.นางบอกกับปากนางเองว่าตีจริง ช้ำเลย ตอนนางมาเล่านางก็บอกว่าตีจริงๆ) ก็สงสัยบางครั้งที่เราอยู่ในบ้าน ตอนแฟนไม่อยู่ น้องชายแฟนทำไมถึงปิดประตูดังๆ ก็คิดว่าคงไม่พอใจแล้วปิดใส่เรา เราก็รู้ตอนนางเล่าแหละค่ะ ก็คิดว่าทำไมนางถึงมาเล่าแบบนี้นะ แต่ก็ดีจะได้รับรู้ เราก็โกรธเล็กๆนะคะ แต่ก็สมน้ำหน้าตัวเองเหมือนกันที่ไปยุ่งเรื่องผัว ๆ เมีย ๆ บอกตัวเองเลยว่าพอล่ะ ต่อไปนี้กูจะไม่ยุ่งเรื่องผัว ๆ เมีย ๆ มันจะตีกัน ฆ่ากันก็ปล่อย เพราะพอเขาทะเลาะกัน ก็เล่ามาหมดมันเ-ี้ย โน่นนี่นั่น พอดีกันก็คงจะเอาเรื่องที่คุยปรึกษาไปพูดกับแฟนตัวเอง คือเราไม่คิดว่าที่นางระบายตอนทะเลาะกับผัว แล้วเราให้คำแนะนำ คำปรึกษาไปเนี่ยไม่คิดว่ามันจะเป็นปัญหาตามมาอะไรขนาดนี้
ยอมรับว่าอยู่แบบอึดอัดมากนะคะที่รู้สึกไม่เหมือนเดิมกับน้องชายแฟน ก็คิดว่าไม่น่าหลงผิดไปให้คำปรึกษาผญ.เลย ล่าสุดหลัง ๆ มา แม่แฟนรู้ว่าน้องชายแฟนระหองระแหงกับเราก็เลยเคลียร์กันอีกค่ะ เราก็พูดไปเลยว่าน้องมันคงโกรธตอนที่หนูปรึกษาแม่ตอนนั้นแหละ ก็พูดบอกแม่อย่างที่น้องผญ. บอก เราก็บอกแม่ไปว่าก็เฉย ๆ ก็ไม่ได้อะไรกับน้องอยู่แล้ว (ใจเราจริงๆคือเริ่มเอือมกับผัวเมียคู่นี้แล้ว คืออยากไม่สนใจแล้ว) แม่ก็บอกว่า "แม่ก็รู้สึกไม่ดีที่ลูกจะมาทะเลาะกัน แม่ไม่ได้เข้าข้างใครนะ เพราะแม่ก็โตก็รู้ว่าใครเป็นยังไง แม่ก็พูดเรื่องงานบ้าน บอกว่าเห็นว่าพื้นมันเหนียวๆ แล้วไม่ถูเนี่ยมันมาจากห้องใคร (นางชอบทำอาหารกินกัน แล้วบางครั้งครัวเละเทะมาก) แม่ก็คุยกับนางผญ.แล้ว แล้วเรื่องงานบ้านถ้าเหนื่อยก็ไม่ต้องทำลูก มันหงุดหงิด แม่รู้ว่ากลับมาก็เหนื่อยกันแล้ว เดี๋ยวแม่ก็ทำเอง มีอะไรก็มาคุยกับแม่ แล้วที่นี่ก็เป็นบ้านแม่ คนที่ตัดสินว่าใครจะอยู่หรือไปคือแม่ แต่แม่มีเหตุผลพอไม่ใช่แม่ไม่มีเหตุผล" แม่ก็พูดเยอะเหมือนกัน เราก็ค่ะ ค่ะ 5555 คือไม่อยากสนใจแล้ว อยากเฉยๆ แม่ก็ให้ครีมบำรุงเรา (แม่แฟนน่ารักกับเราตลอด) แม่ก็เคลียร์กับเราเสร็จก็รอเคลียร์กับน้องเพราะนางยังไม่ตื่นกัน ก็ไม่รู้ว่าคุยไรกันเพราะเราไปทำธุระข้างนอก ก็จบไป
หลัง ๆ มาเห็นทั้งคู่ unfriend เราใน FB เราก็คิดว่าคงโกรธที่แม่เคลียร์ด้วยครั้งล่าสุด ผญ.ก็ทักมาบอกว่า "คุยกับแม่แฟนแล้ว ไม่ต้องคิดมากที่น้องชายแฟนพูดอะไร นางก็บอกว่าที่ unfriend เพราะเพื่อนให้ un" (ก็คิดว่าแหม่ แกไม่โดนพูดใส่แกจะไปรู้สึกอะไรล่ะ ลองให้แฟนชั้นพูดกับแกไหม - -* และอีกอย่างเราก็งงว่าทำไม่เพื่อนถึงให้ un เลยถามว่ามีเหตุผลไหม นางก็บอกว่า "ไม่รู้ บอกมันไปว่าอยากทำอะไรก็ทำ" เลยถึงบางอ้อว่า อ้ออออ น้องชายแฟนมันคงเอาไปลบ เราเลยไปบล็อก เพราะลำใยร้อยสวนเหมือนกัน ตอนนี้อยู่แบบอึดอัดไปอีก เพราะยังต้องเจอหน้ากันแต่ก็ต้องอดทน ไม่น่าไปยุ่งเรื่องผัว ๆ เมีย ๆ เลย เราเคยร้องไห้กับแฟนด้วยนะคะ แฟนก็พูดปลอบใจแหละค่ะว่าต่อไปนี้ไม่ต้องไปสนใจแล้ว มันจะเป็นยังไงก็ปล่อยไป บอกแล้วตั้งแต่แรกว่าอย่าไปดีด้วยก็ไม่เชื่อ พวกนั้นเป็นลูกเทวดาอยู่ก็อยู่แบบสบาย เราก็เห้อออ จากนั้นมาเรากับแฟนก็ไม่เก็บขยะไปทิ้งให้แล้วค่ะ อะไรที่ 2 คนนางทำก็เก็บกันเอาเอง เราก็เอาไปทิ้งแต่ของเรา ตอนนี้ 2 คนนั้นก็กลายเป็นอากาศไปเลย เราไม่ได้เป็นห่วงอะไรเหมือนตอนแรก ๆ แล้ว ก็เหมือนว่าจะมองหน้ากันไม่ติดแล้วค่ะ
สรุปพอกันทั้ง 2 เราคิดว่ามันเป็นเรื่องเล็กมากแต่ทำไมมันก็กลับกลายเป็นเรื่องที่อึดอัดอะไรได้ขนาดนี้ ทุกวันนี้ก็คิดนะคะว่าเราอยู่ไม่ได้เพราะมันก็จะอึดอัดแบบนี้ นี่มันก็บ้านเขาจริงๆแหละ มาอยู่บ้านเขาก็เป็นแบบนี้แหละเนอะ เรากับแฟนก็คุยกัน ก็มีวางแผนว่าจะเก็บเงินซื้อบ้าน จะได้ไม่ต้องมีปัญหาแล้วอีกอย่างจะได้ห่างๆกันไป ไม่ต้องมาอึดอัด แต่ก็คงอีกนานนน กว่าจะเก็บได้ รอต่อไปค่ะ
สรุปว่าปัญหาที่เกิด เกิดจากที่ไปปรึกษาแม่แฟนที่ลูกชายคนเล็กทุบตีแฟน ทุกวันนี้ก็คิดว่าเราผิดเอง และไม่น่าจะยุ่งเรื่องของเขา ไม่น่ากระแดะเป็นห่วงทั้ง ๆ ที่เขาก็เป็นแค่คนอื่นเหมือนกัน เรื่องของเขาควรให้เขาไปเคลียร์กันเอาเอง