สวัสดีครับ ออกตัวก่อนเลยนะครับว่าผมเพิ่งตั้งกระทู้นี้เป็นครั้งแรก ผิดพลาดประการใด ก็ติชมผมได้นะครับ และเรื่องที่ผมจะเล่าต่อไปนี้เป็นเรื่องจริงที่อยากให้แฟนเก่าของผมมาเห็นมากๆครับเอ้า! เข้าเรื่องของผมเลยละกันนะครับ
สวัสดีครับ ผมชื่อ พละ(นามสมมติ)ครับ ผมเคยอ้วนในสมัยประถม และคิดว่า จะไม่มีแฟนเอาซะแล้ว และก็ด้วยเหตผลนี้แหล่ะครับที่ทำให้ผมลดน้ำหนักพยายามเปลี่ยนตัวเองให้ดีขึ้นในทุกๆด้าน แต่คุณเชื่อมั้ยครับว่า ในสิ่งที่เราคิดว่าตัวเราไม่มีอะไรดี แต่ถ้าเราค้นหาตัวเราดีๆเราจะพบว่า เราก็มีดีเหมือนกันครับ ใช่ครับ ผมกำลังจะบอกว่า ผมเป็นเด็กผู้ชายอ้วนๆ ที่เรียนเก่งครับ และตอนประถมปลาย ผมตั้งมั่นว่า ผมจะผอมก่อนเข้ามัธยมต้นครับ. และพอมาตอนมัธยมต้น ผมเริ่มผอม หุ่นเริ่มดี และที่บอกว่าผมเรียนเก่งก็เลยทำให้ผมสอบติดห้องพิเศษ(วิทย์-คณิต)หรือเรียกอีกอย่างว่าห้อง giftedนั่นแหล่ะครับ ก่อนที่ผมจะเข้า ม.ต้น ตอนที่อยู่ ป.6 อ่ะครับ ผมนี่อยากมีแฟนเอามากๆเลยครับ ชอบใคร จะจีบใครผมนี่ไม่สนเลยนะครับว่าเค้าจะมีแฟนแล้ว กำลังคุย หรือว่า แอบชอบใครอยู่ ผมนี่ไม่สนเลยครับ ผมใช้คติของผมเองว่า ถ้าชอบละไม่กล้าจีบก็ไม่ต้องไปมีหรอกแฟนอ่ะ ผมเลยจีบเลยครับ ด้วยความที่ตอนนั้น(ป.6)ผมอ้วนมากแต่หน้าตาผมก็ไม่เลวร้าย หรือแย่อะไรมาก ก็เลยมั่นใจในตัวเองนิดๆว่า เรานี่ถึงจะอ้วนแต่ก็หน้าตาพอใช้ได้ น่าจะจีบติดละมีแฟนได้เหมือนคนอื่นๆเค้าน่าาา แต่.. ก็ไม่เป็นแบบนั้นครับ ผมจีบใครไม่ติดสักคนเลยครับ แต่สุดท้ายผมก็พยายามจีบ จนได้มาคนนึงครับ อันนี้ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าจีบติดหรือเปล่า และก็ไม่รู้ว่าเค้าได้ชอบผมเหมือนที่ผมชอบเค้าหรือไม่ แต่ผมก็คุยกับเค้าทุกวัน(เค้าคนนี้อยู่ต่าง รร กับผมครับ) สำหรับผม ผมเรียกว่าคนคุยครับเค้าก็เรียนเก่งเหมือนผมครับ ละผมก็ได้ชวนเค้า ไปสอบ รร ระดับอำเภอที่เดียวกับที่ผมจะไปสอบครับ แต่เค้าก็ยังยืนยันว่าไม่ไป ละจะเรียนต่อที่เดิม(รรของเค้า มีถึงระดับชั้น ม.3) พอถึงตอนนี้ ผมก็คิดละนะครับว่ายังไง ผมก็ได้คบแน่กับคนนี้ แต่เค้าก็เหมือนจะรู้อ่ะครับ ว่าเราไปเจอผู้คนมากมาย เดะก็เลิกกับเค้า เค้าเลยไม่โอเคที่จะคบกับผมในตอนนั้นครับ และก็เหมือนที่เค้าได้บอกไว้เลยครับ การที่เราได้พบเจอใครต่างๆอีกมากมายก็อาจจะลืมหรือเลิกกับเค้า ผมก็คุยมาได้สักพักครับละสุดท้ายผมก็เลิกคุยกันไป พอผมเข้า รร ระดับอำเภอนี้ได้ ผมเริ่มเห่อกับการที่ผมเริ่มมีหุ่นที่ดีขึ้น หน้าตาดีขึ้นและก็บวกกับการที่เราเรียนห้องพิเศษด้วยแล้วนี่ ยิ่งทำให้ผมมีความมั่นใจเข้าไปใหญ่ ตอนนั้นผมนี่ จีบไปทั่วเลยครับ โดยไม่สนว่าจะติดหรือไม่ติดคิดแค่ว่าจีบๆไปก่อน จีบซัก 100 คน จะไม่ติดซัก 100 คนเลยรึไง555 ใช่ครับ ผมก็จีบติดหลายคนนะครับ แต่ด้วยความที่ผมไม่ได้จะจีบจริงจังอยู่แล้ว ก็เลยไม่ได้คุยต่อหรืออะไรครับ จนกระทั่งวันนึง รร จัดอบรมอะไรซักอย่างครับที่หอประชุม ละเค้าก็ให้ตัวแทนห้อง ห้องละ 3 คนเข้าไปอบรมครับ ละผมก็ได้เป็นตัวแทนของห้องไปอบรมครับ ในวันนั้น ผมได้เจอผู้หญิงคนหนึ่ง เธอขาว สวย ดูดีไปหมดครับ ผมตกหลุมรักเธอเข้าแล้ว ถึงผมจะมั่นใจในตัวเองแต่ก็แอบหวั่นไม่กล้าจีบเธอเหมือนกันนะครับ คุณเคยได้ยินเรื่องเกี่ยวกับ”พรหมลิขิต”มั้ยครับ ของผมก็ออกแนวๆนั้นครับ แต่ของผม ผมขอเรียกว่า “พรหมลิควิด”ละกันนะครับ555 ที่เรียกแบบนี้มันเป็นเพราะ ตอนที่เข้าไปอบรมเธอดันมายืมลิควิดผม เพื่อไปลบอะไรบางอย่างน่ะครับ แล้วผมก็ได้ให้ยืนไป จังหวะสบตาตอนให้ลิควิด ก็ทำให้... เธอชอบผมครับ พอตกเย็นวันนั้น ผมนั่งเล่นเกมส์ตามปกติของเด็กผู้ชายน่ะครับ เธอคนนั้นก็ได้ทักผมมา แต่ผมก็ไม่ได้รู้จักมักคุ้นอะไรกับเธอมาก่อนนะครับ ก็เลยไม่ได้ตื่นเต้นอะไรที่เห็นเธอทักมา ก็เลยสไลด์ข้อความเธอทิ้งไป แต่เมื่อเล่นเกมเสร็จ ผมก็สงสัยว่าใครทักมา ก็ได้เข้าไปดู ปรากฏว่าเป็นเธอคนนั้นครับ เค้าทักผมมา ละก็ประมาณชวนผมคุยน่ะครับ ละด้วยความที่ผมก็ชอบเธออยู่แล้วก็เลยทำให้เราคุยกันมาสักพัก(1อาทิตย์) ผมก็ได้ขอเธอเป็นแฟนครับ แต่เธอก็ปฏิเสธผมไป ไม่ใช่ว่าเธอไม่อยากคบนะครับ แต่เธออยากให้ผมมาขอต่อหน้าไม่ใช่ขอทางโซเชียลอ่ะครับ แต่ผมก็ไม่กล้า สุดท้ายเราก็เลิกคุยกันไปเพราะความไม่กล้าของผมทั้งๆที่เธอก็รอเพียงแค่ให้เราไปขอต่อหน้าแล้วอ่ะครับแต่ผมก็ทำพลาด เรื่องในตอนนี้เป็นเรื่องในตอนม.1 ครับ ผมมีเรื่องเล่าเยอะมากๆ เรียกได้ว่า วีรกรรมเกี่ยวกับผู้หญิงของผมนี่สุดยอดมากครับเยอะไปหมด คนต่อไปที่ผมจะเล่าเป็นเรื่องของแฟนคนแรกเลยครับ ในตอนนั้นจากที่ผมได้เลิกคุยกับคนนั้นไป(คนที่ผมไม่กล้าไปขอคบต่อหน้า) ผมก็เลยกลับมาอยู่ในที่ๆของผม เพลาๆเรื่องผู้หญิงหน่อย แต่ใครจะไปรู้ครับ ผมไม่เคยสนใจผู้หญิงในห้องเลย ละก็เพิ่งสังเกตดูผมเพิ่งเจอเด็กผู้หญิงในห้องผม เธอนั้นน่ารักมากๆครับ ผมนี่หลงรักเธอเข้าอีกแล้ว ละจะทำไงล่ะครับทีนี้ ผมรวบรวมความกล้าทักไปประโยคเดียวสั้นๆกับเธอเลยครับว่า “พรุ่งนี้มีการบ้านไรที่ต้องส่งมั้ย” 555 ผมก็กล้าได้แค่นี้อ่ะครับ ใครจะกล้าไปรุกแรงมากอ่ะครับก็เป็นเพื่อนในห้องผมหนิ แต่เราก็คุยกันมาเรื่อยๆครับ จนสุดท้ายเราก็คบกัน คบกันวันเสาร์ ตอนประมาณจะเที่ยงๆอ่ะครับ เป็นช่วงเวลาที่เธอกำลังเรียนพิเศษอยู่ด้วย(เป็นไงล่ะผมจำแม่นนะครับ) เราก็คบกันมาเรื่อยๆ คบแบบเปิดเผยนะครับ คือพ่อแม่ก็รู้ว่าคบกันอะไรแบบนี่อ่ะครับ แต่สุดท้ายก็เลิกกัน เพราะความที่ผมเจ้าชู้ครับ ผมมีแฟนเป็นเค้า แต่ผมก็ได้แอบคุยกับเพื่อนของเค้า บอกเลิกเค้า แต่เพื่อนของเค้าก็ไม่ได้มาคบกับผมนะครับ ด้วยความที่เราคบกันเปิดเผย พอพ่อแม่ของแฟนรู้ว่า เราเลิกกัน เพราะเหตุผลอะไร ผมก็โดนตำหนิตามระเบียบครับ ด้วยความที่พ่อหวงลูกสาว แม่ของแฟนก็บอกผมว่า แฟนผมคนนี้อ่ะ
(ผมขอย่อเป็นป.ปลาละกันนะครับจะได้ไม่สับสน) รักผมมากครับ ขนาดที่ว่าทะเลาะกับพ่อของเค้าเลยครับเรื่องที่ว่า พ่อของ ป. บอกว่าผมไม่รักเค้าจริงหรอก แต่ ป. ก็ได้เถียงกับไปครับว่า ผมน่ะรักจริงไม่ได้มาหลอกเค้าหรอก พอผมได้รู้เรื่องนี้แล้วยิ่งทำให้รู้สึกผิดเข้าไปใหญ่เลย ผมก็เลยกลับไปง้อครับ เค้ายังรู้สึกดีกับผมนะครับ แต่เค้าแค่ไม่อยากกลับมาเสียใจแล้ว ก็เลยไม่ได้กลับมาคบกัน แต่ก็เป็นเพื่อนกันได้นะครับ มีคนเคยบอกว่า ถ้าเราเป็นแฟนกันแล้วเลิกกันไป แต่ยังกลับมาเป็นเพื่อนกันได้นี่ มี อยู่ 2 เหตุผลคือ 1.รักกันมาก 2.ไม่เคยรักกันเลย ในกรณีผมนี้ ผมขอเลือกเป็นอันแรกละกันนะครับ เพราะผมรักมากๆเหมือนกันแต่มันก็คงไม่มากพอที่จะหยุดความเจ้าชู้ของผมไ้ด้ พอถึงตอนนี้แล้ว ผมก็กลับไปเป็นนิสัยเดิมครับ คุยๆ คบๆเลิกๆ ไม่ได้จริงจังอะไร ละผมก็เริ่มดัง มีคนรู้จักมากขึ้นเรื่อยๆ เรียกได้ว่า ถ้าคุณถามชื่อผมใน รรนะครับ ก็คงจะตอบคุณได้เลยอ่ะครับว่าผมเป็นใคร ละก็คนที่ผมเคยจีบไว้ในตอนป.6 ก็เริ่มทักผมมาอะไรแบบนี้อ่ะครับแต่ผมก็หยิ่งนะครับก็ปฏิเสธไปหลายคนอยู่เหมือนกันนะครับ เรื่องราวความรักของผมในตอน ม.1 ก็จบลงไปแล้วนะครับ แต่ตอนนี้ผมอยู่ ม.ปลายแล้ว เรื่องราวความรักของผม ที่บอกว่าลืมแฟนเก่าไม่ได้ซักที แฟนผมคนนั้นจะเป็นคนไหนกัน ฝากติดตามเรื่องราวของผมด้วยนะครับ
ปล. ผิดพลาดประการใดผมกราบขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ
คุณเคยคิดถึงแฟนเก่าคุณมากๆหรือเปล่า? แล้วถ้าเป็นแบบนั้นคุณเคยคิดจะเอาเค้ากลับมาหรือไม่.
สวัสดีครับ ผมชื่อ พละ(นามสมมติ)ครับ ผมเคยอ้วนในสมัยประถม และคิดว่า จะไม่มีแฟนเอาซะแล้ว และก็ด้วยเหตผลนี้แหล่ะครับที่ทำให้ผมลดน้ำหนักพยายามเปลี่ยนตัวเองให้ดีขึ้นในทุกๆด้าน แต่คุณเชื่อมั้ยครับว่า ในสิ่งที่เราคิดว่าตัวเราไม่มีอะไรดี แต่ถ้าเราค้นหาตัวเราดีๆเราจะพบว่า เราก็มีดีเหมือนกันครับ ใช่ครับ ผมกำลังจะบอกว่า ผมเป็นเด็กผู้ชายอ้วนๆ ที่เรียนเก่งครับ และตอนประถมปลาย ผมตั้งมั่นว่า ผมจะผอมก่อนเข้ามัธยมต้นครับ. และพอมาตอนมัธยมต้น ผมเริ่มผอม หุ่นเริ่มดี และที่บอกว่าผมเรียนเก่งก็เลยทำให้ผมสอบติดห้องพิเศษ(วิทย์-คณิต)หรือเรียกอีกอย่างว่าห้อง giftedนั่นแหล่ะครับ ก่อนที่ผมจะเข้า ม.ต้น ตอนที่อยู่ ป.6 อ่ะครับ ผมนี่อยากมีแฟนเอามากๆเลยครับ ชอบใคร จะจีบใครผมนี่ไม่สนเลยนะครับว่าเค้าจะมีแฟนแล้ว กำลังคุย หรือว่า แอบชอบใครอยู่ ผมนี่ไม่สนเลยครับ ผมใช้คติของผมเองว่า ถ้าชอบละไม่กล้าจีบก็ไม่ต้องไปมีหรอกแฟนอ่ะ ผมเลยจีบเลยครับ ด้วยความที่ตอนนั้น(ป.6)ผมอ้วนมากแต่หน้าตาผมก็ไม่เลวร้าย หรือแย่อะไรมาก ก็เลยมั่นใจในตัวเองนิดๆว่า เรานี่ถึงจะอ้วนแต่ก็หน้าตาพอใช้ได้ น่าจะจีบติดละมีแฟนได้เหมือนคนอื่นๆเค้าน่าาา แต่.. ก็ไม่เป็นแบบนั้นครับ ผมจีบใครไม่ติดสักคนเลยครับ แต่สุดท้ายผมก็พยายามจีบ จนได้มาคนนึงครับ อันนี้ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าจีบติดหรือเปล่า และก็ไม่รู้ว่าเค้าได้ชอบผมเหมือนที่ผมชอบเค้าหรือไม่ แต่ผมก็คุยกับเค้าทุกวัน(เค้าคนนี้อยู่ต่าง รร กับผมครับ) สำหรับผม ผมเรียกว่าคนคุยครับเค้าก็เรียนเก่งเหมือนผมครับ ละผมก็ได้ชวนเค้า ไปสอบ รร ระดับอำเภอที่เดียวกับที่ผมจะไปสอบครับ แต่เค้าก็ยังยืนยันว่าไม่ไป ละจะเรียนต่อที่เดิม(รรของเค้า มีถึงระดับชั้น ม.3) พอถึงตอนนี้ ผมก็คิดละนะครับว่ายังไง ผมก็ได้คบแน่กับคนนี้ แต่เค้าก็เหมือนจะรู้อ่ะครับ ว่าเราไปเจอผู้คนมากมาย เดะก็เลิกกับเค้า เค้าเลยไม่โอเคที่จะคบกับผมในตอนนั้นครับ และก็เหมือนที่เค้าได้บอกไว้เลยครับ การที่เราได้พบเจอใครต่างๆอีกมากมายก็อาจจะลืมหรือเลิกกับเค้า ผมก็คุยมาได้สักพักครับละสุดท้ายผมก็เลิกคุยกันไป พอผมเข้า รร ระดับอำเภอนี้ได้ ผมเริ่มเห่อกับการที่ผมเริ่มมีหุ่นที่ดีขึ้น หน้าตาดีขึ้นและก็บวกกับการที่เราเรียนห้องพิเศษด้วยแล้วนี่ ยิ่งทำให้ผมมีความมั่นใจเข้าไปใหญ่ ตอนนั้นผมนี่ จีบไปทั่วเลยครับ โดยไม่สนว่าจะติดหรือไม่ติดคิดแค่ว่าจีบๆไปก่อน จีบซัก 100 คน จะไม่ติดซัก 100 คนเลยรึไง555 ใช่ครับ ผมก็จีบติดหลายคนนะครับ แต่ด้วยความที่ผมไม่ได้จะจีบจริงจังอยู่แล้ว ก็เลยไม่ได้คุยต่อหรืออะไรครับ จนกระทั่งวันนึง รร จัดอบรมอะไรซักอย่างครับที่หอประชุม ละเค้าก็ให้ตัวแทนห้อง ห้องละ 3 คนเข้าไปอบรมครับ ละผมก็ได้เป็นตัวแทนของห้องไปอบรมครับ ในวันนั้น ผมได้เจอผู้หญิงคนหนึ่ง เธอขาว สวย ดูดีไปหมดครับ ผมตกหลุมรักเธอเข้าแล้ว ถึงผมจะมั่นใจในตัวเองแต่ก็แอบหวั่นไม่กล้าจีบเธอเหมือนกันนะครับ คุณเคยได้ยินเรื่องเกี่ยวกับ”พรหมลิขิต”มั้ยครับ ของผมก็ออกแนวๆนั้นครับ แต่ของผม ผมขอเรียกว่า “พรหมลิควิด”ละกันนะครับ555 ที่เรียกแบบนี้มันเป็นเพราะ ตอนที่เข้าไปอบรมเธอดันมายืมลิควิดผม เพื่อไปลบอะไรบางอย่างน่ะครับ แล้วผมก็ได้ให้ยืนไป จังหวะสบตาตอนให้ลิควิด ก็ทำให้... เธอชอบผมครับ พอตกเย็นวันนั้น ผมนั่งเล่นเกมส์ตามปกติของเด็กผู้ชายน่ะครับ เธอคนนั้นก็ได้ทักผมมา แต่ผมก็ไม่ได้รู้จักมักคุ้นอะไรกับเธอมาก่อนนะครับ ก็เลยไม่ได้ตื่นเต้นอะไรที่เห็นเธอทักมา ก็เลยสไลด์ข้อความเธอทิ้งไป แต่เมื่อเล่นเกมเสร็จ ผมก็สงสัยว่าใครทักมา ก็ได้เข้าไปดู ปรากฏว่าเป็นเธอคนนั้นครับ เค้าทักผมมา ละก็ประมาณชวนผมคุยน่ะครับ ละด้วยความที่ผมก็ชอบเธออยู่แล้วก็เลยทำให้เราคุยกันมาสักพัก(1อาทิตย์) ผมก็ได้ขอเธอเป็นแฟนครับ แต่เธอก็ปฏิเสธผมไป ไม่ใช่ว่าเธอไม่อยากคบนะครับ แต่เธออยากให้ผมมาขอต่อหน้าไม่ใช่ขอทางโซเชียลอ่ะครับ แต่ผมก็ไม่กล้า สุดท้ายเราก็เลิกคุยกันไปเพราะความไม่กล้าของผมทั้งๆที่เธอก็รอเพียงแค่ให้เราไปขอต่อหน้าแล้วอ่ะครับแต่ผมก็ทำพลาด เรื่องในตอนนี้เป็นเรื่องในตอนม.1 ครับ ผมมีเรื่องเล่าเยอะมากๆ เรียกได้ว่า วีรกรรมเกี่ยวกับผู้หญิงของผมนี่สุดยอดมากครับเยอะไปหมด คนต่อไปที่ผมจะเล่าเป็นเรื่องของแฟนคนแรกเลยครับ ในตอนนั้นจากที่ผมได้เลิกคุยกับคนนั้นไป(คนที่ผมไม่กล้าไปขอคบต่อหน้า) ผมก็เลยกลับมาอยู่ในที่ๆของผม เพลาๆเรื่องผู้หญิงหน่อย แต่ใครจะไปรู้ครับ ผมไม่เคยสนใจผู้หญิงในห้องเลย ละก็เพิ่งสังเกตดูผมเพิ่งเจอเด็กผู้หญิงในห้องผม เธอนั้นน่ารักมากๆครับ ผมนี่หลงรักเธอเข้าอีกแล้ว ละจะทำไงล่ะครับทีนี้ ผมรวบรวมความกล้าทักไปประโยคเดียวสั้นๆกับเธอเลยครับว่า “พรุ่งนี้มีการบ้านไรที่ต้องส่งมั้ย” 555 ผมก็กล้าได้แค่นี้อ่ะครับ ใครจะกล้าไปรุกแรงมากอ่ะครับก็เป็นเพื่อนในห้องผมหนิ แต่เราก็คุยกันมาเรื่อยๆครับ จนสุดท้ายเราก็คบกัน คบกันวันเสาร์ ตอนประมาณจะเที่ยงๆอ่ะครับ เป็นช่วงเวลาที่เธอกำลังเรียนพิเศษอยู่ด้วย(เป็นไงล่ะผมจำแม่นนะครับ) เราก็คบกันมาเรื่อยๆ คบแบบเปิดเผยนะครับ คือพ่อแม่ก็รู้ว่าคบกันอะไรแบบนี่อ่ะครับ แต่สุดท้ายก็เลิกกัน เพราะความที่ผมเจ้าชู้ครับ ผมมีแฟนเป็นเค้า แต่ผมก็ได้แอบคุยกับเพื่อนของเค้า บอกเลิกเค้า แต่เพื่อนของเค้าก็ไม่ได้มาคบกับผมนะครับ ด้วยความที่เราคบกันเปิดเผย พอพ่อแม่ของแฟนรู้ว่า เราเลิกกัน เพราะเหตุผลอะไร ผมก็โดนตำหนิตามระเบียบครับ ด้วยความที่พ่อหวงลูกสาว แม่ของแฟนก็บอกผมว่า แฟนผมคนนี้อ่ะ
(ผมขอย่อเป็นป.ปลาละกันนะครับจะได้ไม่สับสน) รักผมมากครับ ขนาดที่ว่าทะเลาะกับพ่อของเค้าเลยครับเรื่องที่ว่า พ่อของ ป. บอกว่าผมไม่รักเค้าจริงหรอก แต่ ป. ก็ได้เถียงกับไปครับว่า ผมน่ะรักจริงไม่ได้มาหลอกเค้าหรอก พอผมได้รู้เรื่องนี้แล้วยิ่งทำให้รู้สึกผิดเข้าไปใหญ่เลย ผมก็เลยกลับไปง้อครับ เค้ายังรู้สึกดีกับผมนะครับ แต่เค้าแค่ไม่อยากกลับมาเสียใจแล้ว ก็เลยไม่ได้กลับมาคบกัน แต่ก็เป็นเพื่อนกันได้นะครับ มีคนเคยบอกว่า ถ้าเราเป็นแฟนกันแล้วเลิกกันไป แต่ยังกลับมาเป็นเพื่อนกันได้นี่ มี อยู่ 2 เหตุผลคือ 1.รักกันมาก 2.ไม่เคยรักกันเลย ในกรณีผมนี้ ผมขอเลือกเป็นอันแรกละกันนะครับ เพราะผมรักมากๆเหมือนกันแต่มันก็คงไม่มากพอที่จะหยุดความเจ้าชู้ของผมไ้ด้ พอถึงตอนนี้แล้ว ผมก็กลับไปเป็นนิสัยเดิมครับ คุยๆ คบๆเลิกๆ ไม่ได้จริงจังอะไร ละผมก็เริ่มดัง มีคนรู้จักมากขึ้นเรื่อยๆ เรียกได้ว่า ถ้าคุณถามชื่อผมใน รรนะครับ ก็คงจะตอบคุณได้เลยอ่ะครับว่าผมเป็นใคร ละก็คนที่ผมเคยจีบไว้ในตอนป.6 ก็เริ่มทักผมมาอะไรแบบนี้อ่ะครับแต่ผมก็หยิ่งนะครับก็ปฏิเสธไปหลายคนอยู่เหมือนกันนะครับ เรื่องราวความรักของผมในตอน ม.1 ก็จบลงไปแล้วนะครับ แต่ตอนนี้ผมอยู่ ม.ปลายแล้ว เรื่องราวความรักของผม ที่บอกว่าลืมแฟนเก่าไม่ได้ซักที แฟนผมคนนั้นจะเป็นคนไหนกัน ฝากติดตามเรื่องราวของผมด้วยนะครับ
ปล. ผิดพลาดประการใดผมกราบขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ