คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 5
ตอบอย่างนี้นะครับว่า...
1. ไฟล์ข้อมูลทุกไฟล์ มีขนาดจริง...และขนาดทางตรรกะ
1.1 เช่น ไ ฟล์ ขนาด 10 Byte ไม่ใช่หมายความว่าจะเก็บข้อมูลในคอมพิวเตอร์จริงๆ 10 Byte
1.2 ขนาด 10 Byte จะถูกแทนที่ด้วย ขนาดของ Cluster ใน ตาราง FAT ซึ่งขนาด คลัสเตอร์จะแตกต่างกันไป
1.3 ยิ่ง Cluster มีขนาดใหญ่มากยิ่งเพิ่มความเร็วในการอ่านเขียนไฟล์เร็วมากขึ้น...แต่
1.3.1 จะสูญเสียฟองอากาศขนาดใหญ่มาก เช่น 10 Byte เมื่อกี่ ต่อ 8192 Byte จะสูญเสียฟองอากาศ ขนาด 8182 Byte (โอ มหาศาล)
1.3.2 และยิ่งเก็บข้อมูลแบบ ไม่กี่ Byte จำนวนมากๆ ยิ่งสูญเสียข้อมูลในส่วนนี้...(จึงทำให้เป็นส่วนต่างการจัดเก็บขนาดมหาศาล)
13.3 ทำให้ โปรแกรมบีบอัดข้อมูลได้ประโยชน์ตรงนี้เต็มๆ (แต่ไม่ใช่ทั้งหมด) ทำให้การแอคไดว์ข้อมูลโดยทั่วไปจะทำอัตราการจัด
เก็บข้อมูลประหยัดเนื้อที่มากยิ่งขึ้น...จึงทำให้ FAT NTFS ถามคุณเสมอว่า...จะบีบอัดข้อมูลขณะจัดเก็บไหม...!?
2. ขนาดจริงที่เรียกว่า หน่วยเก็บข้อมูล...บอกจริงๆ คำนวณซับซ้อนมาก ตั้งแต่เรื่องการจัดเก็บของ
2.2 แพลตเทิล รวมๆ กัน แต่ละหน้า แต่ละหัวอ่าน ตัดกับแทร็ก และ เซคเตอร์ เรียก ไซลินเดอร์ ตัวแปรสำคัญไม่ใช่พวกมัน
แต่เป็นสิ่งที่ต้องจำเสมอคือ "คลัสเตอร์" (หน่วยหรือกลุ่มก้อนข้อมูลที่เชื่อมต่อ ระบบปฏิบัติเพื่ออ่านเขียนข้อมูล กับเนื้อที่จริง
ของ Hard disk "บางคนเข้าใจว่าเป็น เซ็ตเตอร์ ตัด กับ แทร็ก ขอบอกว่าไม่ใช่" ซึ่งคลัสเตอร์จะถูกระบบปฏิบัติการอ่างถึง
ขนาดของมันเป็นตัวยกกำลังฐานสอง เช่น 512 1024 2048 ถูกอ้างอิงขนาดเก็บ ใน MBR และ ตารางพาร์ทิชั่น แต่ละไดร์ฟ
จึง ทำให้ค่า "คลัสเตอร์" แต่ละไดร์ฟต่างกัน และ "เป็นเทคนิคสำคัญเพิ่มความเร็วการอ่านเขียนไฟล์หนังขนาดใหญ่ละดับกิกกะไบต์"
2.3 การคำนวนขนาดของ ข้อมูล สำหรับการอ้างภายในดิสก์ไดร์ฟนั้น จะคำนวนโดยตรงจากผลรวมของ "คลัสเตอร์"
2.3 การคำนวนเนื้อที่การจัดเก็บข้อมูลของไฟล์ ระบบปฏบัติการต้องไล่รวม "เนื้อที่ Byte" จึงทำให้เกิดผลต่างแม่แต่ไฟล์เดียว
กันเนื้อที่จัดเก็บไม่ตรงกันตามภาพครับ...จบ
https://www.picz.in.th/image/tSa6uV
1. ไฟล์ข้อมูลทุกไฟล์ มีขนาดจริง...และขนาดทางตรรกะ
1.1 เช่น ไ ฟล์ ขนาด 10 Byte ไม่ใช่หมายความว่าจะเก็บข้อมูลในคอมพิวเตอร์จริงๆ 10 Byte
1.2 ขนาด 10 Byte จะถูกแทนที่ด้วย ขนาดของ Cluster ใน ตาราง FAT ซึ่งขนาด คลัสเตอร์จะแตกต่างกันไป
1.3 ยิ่ง Cluster มีขนาดใหญ่มากยิ่งเพิ่มความเร็วในการอ่านเขียนไฟล์เร็วมากขึ้น...แต่
1.3.1 จะสูญเสียฟองอากาศขนาดใหญ่มาก เช่น 10 Byte เมื่อกี่ ต่อ 8192 Byte จะสูญเสียฟองอากาศ ขนาด 8182 Byte (โอ มหาศาล)
1.3.2 และยิ่งเก็บข้อมูลแบบ ไม่กี่ Byte จำนวนมากๆ ยิ่งสูญเสียข้อมูลในส่วนนี้...(จึงทำให้เป็นส่วนต่างการจัดเก็บขนาดมหาศาล)
13.3 ทำให้ โปรแกรมบีบอัดข้อมูลได้ประโยชน์ตรงนี้เต็มๆ (แต่ไม่ใช่ทั้งหมด) ทำให้การแอคไดว์ข้อมูลโดยทั่วไปจะทำอัตราการจัด
เก็บข้อมูลประหยัดเนื้อที่มากยิ่งขึ้น...จึงทำให้ FAT NTFS ถามคุณเสมอว่า...จะบีบอัดข้อมูลขณะจัดเก็บไหม...!?
2. ขนาดจริงที่เรียกว่า หน่วยเก็บข้อมูล...บอกจริงๆ คำนวณซับซ้อนมาก ตั้งแต่เรื่องการจัดเก็บของ
2.2 แพลตเทิล รวมๆ กัน แต่ละหน้า แต่ละหัวอ่าน ตัดกับแทร็ก และ เซคเตอร์ เรียก ไซลินเดอร์ ตัวแปรสำคัญไม่ใช่พวกมัน
แต่เป็นสิ่งที่ต้องจำเสมอคือ "คลัสเตอร์" (หน่วยหรือกลุ่มก้อนข้อมูลที่เชื่อมต่อ ระบบปฏิบัติเพื่ออ่านเขียนข้อมูล กับเนื้อที่จริง
ของ Hard disk "บางคนเข้าใจว่าเป็น เซ็ตเตอร์ ตัด กับ แทร็ก ขอบอกว่าไม่ใช่" ซึ่งคลัสเตอร์จะถูกระบบปฏิบัติการอ่างถึง
ขนาดของมันเป็นตัวยกกำลังฐานสอง เช่น 512 1024 2048 ถูกอ้างอิงขนาดเก็บ ใน MBR และ ตารางพาร์ทิชั่น แต่ละไดร์ฟ
จึง ทำให้ค่า "คลัสเตอร์" แต่ละไดร์ฟต่างกัน และ "เป็นเทคนิคสำคัญเพิ่มความเร็วการอ่านเขียนไฟล์หนังขนาดใหญ่ละดับกิกกะไบต์"
2.3 การคำนวนขนาดของ ข้อมูล สำหรับการอ้างภายในดิสก์ไดร์ฟนั้น จะคำนวนโดยตรงจากผลรวมของ "คลัสเตอร์"
2.3 การคำนวนเนื้อที่การจัดเก็บข้อมูลของไฟล์ ระบบปฏบัติการต้องไล่รวม "เนื้อที่ Byte" จึงทำให้เกิดผลต่างแม่แต่ไฟล์เดียว
กันเนื้อที่จัดเก็บไม่ตรงกันตามภาพครับ...จบ
https://www.picz.in.th/image/tSa6uV
แสดงความคิดเห็น
แสดงขนาดของไฟล์ เมื่อเรียกดู ทำไมจึงไม่เท่ากัน
แต่เมื่อทดลองเลือกไฟล์ทั้งหมด แล้ว ดูที่ Properties อีกครั้ง จะได้ขนาดของไฟล์ไม่เท่ากัน เห็นแค่ 93.9 GB เท่านั้น ซึ่งผิดกันมาก