ก่อนอื่นต้องแจ้งก่อนว่านี่คือกระทู้แรก และใช้เวลาคิดนานมากว่าจะเผยแพร่ข้อมูลนี้หรือไม่
เรื่องนี้เกิดขึ้นจากประสบการณืจริง กระทู้นี้ตั้งมาเพื่อขอคำปรึกษา พูดคุยสนทนาและให้เพื่อเป็นแนวทางสำหรับผู้ที่กำลังลงทุนในระบบเงินดิจิตอล หรือหลายๆ คนเรียกว่า Bitcoin.
เริ่มเลยแล้วกัน ผิดพลาดประการใด ต้องขออภัยด้วย ต้องขอเกริ่นตั่งแต่เกิดเรื่องเลยนะคะ เราเป็นพนักงานเงินเดือนบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ซึ่งรับเหมาก่อสร้างค่ะ เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2560 ช่วงบ่ายวันนั้น มีตำรวจนำหมายจับและหมายค้นมาที่บ้าน ซึ่งช่วงเวลานั้นยังทำงานอยู่และมีแฟน(ฝรั่ง)อยู่ที่บ้านกับเพื่อน จึงได้โทรให้มาดู ตำรวจโชว์เอกสารและจับกุม คือ ช่วงเวลานั้นคือ งง มากเลยค่ะ ทางตำรวจแจ้งว่า เราเป็น แก็งค์คอลเซ็นเตอร์ ต้องจับกุมไปสอบสวนที่ สน. ในขอนแก่น เราก็พยายามถามว่าเราเป็นแก็งค์คอลเซ็นเตอร์แบบไหน? ไปหลอกลวงใคร? เหตุเกิดยังไง? แต่ไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจน มีแต่แจ้งว่าทางเราโทรไปหลอกลวงผู้เสียหายให้โอนเงินเข้าบัญชี. ตำรวจจับกุมตัวเรากับแฟนค่ะ ทางฝั้งเราก็พยายามติดต่อทนายว่ามีเรื่องนะให้ไปหาที่ สน. (มีการเอาเอกสารมาให้ทางเราเซ็นต์แต่เราไม่เซ็นต์อะไรทั้งสิ้นค่ะ ซึ่งจะบอกว่าเป็นผลดีในภายหลังมากๆ)
ในวันเดียวกันนั้นช่วงเย็นทางตำรวจก็นำเราไปสอบสวนที่ตึกสักแห่งหนึ่ง ไม่ใช่สถานีตำรวจนะคะ ใช้เวลานานมาก เราก็ปฎิเสธทุกข้อกล่าวหา ตอนนั้นเรากลัวมากเลยค่ะ ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น. มีการยึดของกลางทุกอย่างที่อยู่ในบ้าน สมุดบัญชี มือถือ โน๊ตบุ๊ค ATM รถยนต์ (ในส่วนของรถยนต์ทางตำรวจแจ้งว่าเลขทะเบียนไม่ตรงกับเล่ม อันนี้ ทะเบียนที่ใช้อยู่เป็นทะเบียนรถมอเตอร์ไซค์ ส่วนเลขเครื่องเป็นรถยต์รุ่นเดียวกันแต่คนละสี และมีทะเบียนอยู่ภาคใต้ อันนี้คือ งง มากค่ะ รถเราซื้อมือ 2 มาจากเพื่อนและกำลังทำเรื่องโอน มีเล่มทะเบียน ลงรายละเอียดทุกอย่าง พรบ+ภาษี ประกันฯ ครบ) ประมาณช่วงเวลา 2-3ทุ่ม ทางตำรวจนำเราไปฝากขังในคุก 1 คืน ขอย้ำนะคะ ว่าคุกจริงๆ ขาเราแทบก้าวไม่ออก นี่เป็นครั้งแรกที่ย่างกายเข้ามาในนี้ ไม่สามารถนอนหรือสงบสติอารมณ์ได้ นั่งร้องไห้ทั้งคืน ได้แต่มองหน้าแฟนตัวเองว่าเกิดอะไรขึ้น คือทางเราไม่ทราบอะไรเลยค่ะ จนถึงเช้าเขาก็นำตัวเราและแฟนไปส่งที่ ขอนแก่น
วันที่ 10 พฤศจิกายน 2560 ตำรวจนำตัวเราส่งไปที่ขอนแก่น พอไปถึงก็เย็นมากแล้วค่ะ ก็พาเราเข้าไปในห้องสอบสวน และให้เราดูข้อมูลว่ามีผู้เสียหายโดนหลอกให้โอนเงินมูลค่า 1.6 ล้านบาท เข้าบัญชีประมาณ 5 บัญชี และมีเงินเข้าบัญชีแฟนเรา 200,000 บาท และในวันเดียวกัน แฟนเราก็โอนเงินเข้าบัญชีเรา2 205,000 บาท และมีการกดเงินออกมาผ่าน ATM ผู้เสียหายแจ้งว่ามีผู้แอบอ้างเป็นตำรวจภาค 4 โทรมาหาผู้เสียหายเพื่อขอตรวจสอบบัญชี เพราะอาจจะเกี่ยวข้องกับกระบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติและฟอกเงิน โดยให้ผู้เสียหายโอนเงินเข้าบัญชีตามที่เขาแจ้งมา และหลังจากตรวจสอบแล้วจะมีการโอนเงินคืนให้ดังเดิม เริ่มจากตอนแรกผู้เสียหายแจ้งว่ามีคนที่ทำงานในไปรษณีย์โทรแจ้งว่ามีพัสดุของผู้เสียหายตกค้างอยู่ที่หลักสี่ และได้ทำการแสกนดูเห็นว่ามีสมุดบัญชี 30 เล่มและบัตร ATM จำนวนมาก พร้อมเงินสด 100,000 บาท จึงได้ทำการส่งให้ตำรวจ และหลังจากนั้นก็มีผู้แอบอ้างเป็นตำรวจโทรหา โดยเบอร์ที่โทรเป็นเบอร์โทรของ สน. ภาค 4 จริงๆ (คุณเชื่อไหมว่า เขาคุยกันเกือบครึ่งวัน โดยมีการเปลี่ยนคนคุยด้วยและบอกให้ผู้เสียหายโอนเงินเข้าบัญชีแฟนเราประมาณ 200,000 บาท แต่ไม่ให้โอนผ่านบัญชีโดยตรง โดยให้ฝากผ่านตู้ฝากเงินสดเท่านั้น แต่เขาไม่ระแวงอะไรเลย ว่าจะโดนหลอก) ทางตำรวจเอาภาพต่างๆ มาให้เราดู ถามว่าทางเรารู้จักคนนี้ไหม? หลายรูปมาก ซึ่งเราก็ปฎิเสธไปทุกอย่าง และแจ้งว่า เราได้เงินมาจากการ ซื้อ - ขาย Bitcoin ซึ่งเราทำธุรกิจเกี่ยวกับ Bitcoin มาได้ประมาณ 2-3 ปีแล้ว พร้อมโชว์ข้อความที่พูดคุยซื้อ-ขายกันผ่าน โปรแกรม (ต้องชี้แจงก่อนว่าทางเราเปิดบริษัทฯขึ้นมาสำหรับซื้อ-ขาย bitcoin ด้วยนะคะ และเราก็มีข้อมูลการซื้อ-ขายกับลูกค้าด้วย ) คนที่เล่น Bitcoin น่าจะเข้าใจว่าการที่จะซื้อ-ขาย Bitcoin กัน ไม่จำเป็นต้องเจอหน้ากันหรือขอข้อมูลอะไรเลยสำหรับคนที่มาซื้อกับเรา สิ่งที่สำคัญแค่ทางลูก้าแจ้ง Wallet มาให้เราโอน Bitcoin ให้เพียงเท่านั้น
ทางเราก็ให้ความร่วมมือกับตำรวจเต็มที่ในการให้ข้อมูล แต่คุณรู้ไหมค่ะ ว่าไม่มีใครสักคนเลยที่รู้จัก "Bitcoin"
คำถามที่เขาถามเราซ้ำๆและบ่อยๆ คือคำว่า "Bitcoin คืออะไร"
ผ่านไปหลายชั่วโมง ตำรวจต้องนำตัวเราส่งต่อไปยังพื้นที่ ที่เกิดเหตุ โดยมาเจ้าหน้าที่ตำรวจมารอรับแล้ว โดยก่อนที่จะส่งไป มีตำรวจเรียกเราเข้าไปคุย ต่างๆ นาๆ บอกว่าเรา ฟอกเงินบ้างละ ฉ้อโกงคนอื่นบ้างละ และจะส่งคนที่บ้านพ่อแม่เราเพื่อไปยึดทรัพย์ ต่างๆ นาๆ ที่เขาอยากจะพูดและจะคัดค้านการประกันตัวเรา แต่เราคงทำได้แค่ร้องไห้ค่ะ ไม่ใช่ว่ากลัวที่โดนขู่นะคะ แต่ งง ว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะเรามีหลักฐานทุกอย่างให้ทางเขาดู แต่ไม่มีใครเชือเลย
วันที่ 11 พฤศจิกายน 2561 ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวเราส่งศาลค่ะ (วันเสาร์ศาลเปิดครึ่งวัน) ศาลมีคำสั่งฝากขัง 12 วันค่ะ คือขาสั่นเลยค่ะ เดินไม่ออก ทนายพยายามประกันตัวค่ะ แต่ตำรวจคัดค้านการประกันตัวเพราะกลัวผู้ต้องหาหลบหนี และแฟนเราเป็นต่างชาติด้วย ทนายก็เลยแยกคำขอประกันตัวออกแค่เราคนเดียว ก็ไม่สามารถประกันตัวได้ ช่วงบ่ายศาลส่งตัวเข้าเรือนจำ คือ...................(คุณเข้าใจไหมค่ะว่า อยู่ดีๆ ก็โดนจับ ได้ไปนอนที่คุกและในเรือนจำ โดยที่เราไม่สามารถทำอะไรได้เลย) การที่เราเข้าไปอยู่ในเรือนจำมันยากมากเลยนะคะ ที่จะหาข้อมูลมาต่อสู้ในชั้นศาล
ตอนอยู่ในเรือนจำเราเปลี่ยนทนายไปเกือบ 6 คนได้ค่ะ เงินที่ทำงานมาทั้งชวิตและเงินเก็บหมดไปกับทนายและค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เกิดขึ้น เพราะเราไม่สามารถออกไปหาเอกสารมาต่อสู้ได้เลย. ในขณะที่เราโดนฝากขังอยู่นั้น ก็มีคนโดนจับมาในคดีเดียวกันและผู้เสียหายคนเดียวกันกับเราอีก 4 คน ซึ่งเป็นชสย 1 คน และผู้หญิง 3 คน แต่ละคนอยู่คนละจังหวัด 3 คนโดนชักชวนให้เปิดบัญชีค่ะ และเขาก็ได้ค่าตอบแทน ในใจเราคือเขาก็ทำผิดจริงๆ แต่มองที่เราสิ เราไม่ได้ทำอะไรผิดเลย น้ำหนักลดเป็น 10 กิโล ผู้ชายที่โดนจับมายอมรับสารภาพว่าเป็นนายหน้าหาคนรับจ้างเปิดบัญชีและเขาจะได้ค่าคอมมิชชั่นค่ะ ศาลตัดสินจำคุก 3 ปี แต่ให้การรับสารภาพลดเหลือ 1 ปี 6 เดือน และทำการชดใช้เงินให้ผู้เสียหาย 1.6 ล้านบาท.
8 เดือนค่ะ สำหรับการใช้ชีวิตอยู่เรือนจำ จนถึงวันสอบสวน ศาลใช้เวลาสอบสวนถึง 4 วันค่ะ ในวันสอบสวน ผู้หญิง 2 คนที่โดนจับมาทีหลังยอมรับสารภาพทั้งน้ำตาเพราะว่าไม่มีหลักฐานที่จะเอาไปสู้ และทางเขาก็รับจ้างเปิดบัญชีจริง แต่เขาไม่ใช้แก็งค์ที่โทรหลอกลวงผู้เสียหาย ศาลตัดสินจำคุก 1 ปี 6 เดือน พร้อมชดใช้เงินคืน. ประมาณปลายเดือนมิถุนายน 2561 ศาลมีคำสั่งยกฟ้อง เราและแฟนค่ะ ดีใจมากทั้งร้องไห้ เหมือนตายแล้วเกิดใหม่ ขอบคุณศาลที่เมตตาเราและเห็นในหลักฐานที่เราให้ไป และตอนนี้ทางโจทย์กำลังยื่นอุธรณ์ต่อค่ะ ก็ไม่รู้ว่าจะเป็นยังไงต่อไป เราก็เลยเอามาแชร์ให้ทุกคนได้รู้และระวังตัวไว้เพื่อไม่ให้ตกเป็นเป้าหมายของพวกหากินบนความทุกข์ของคนอื่นค่ะ
ไม่ใช่แค่ Bitcoin เท่านั้นนะคะ บางทีคนที่ค้าขายออนไลน์หลายคนอาจจะเคยโดนแบบนี้มาแล้วก็ได้
ปล. 1.ทางเราขาย Bitcoin ใน กระดาน website (ไม่แน่ใจว่าเอ่ยชื่อในนี้ได้ไหม เอาเป็นว่าใครอยากรู้ก็ IB มาถามได้ค่ะ)
2.เรารู้จักและเริ่มเล่น Bitcoin ตั้งแต่ราคา 10,XXX ต่อ 1 Bit ค่ะ
3. บัญชีที่ผู้เสียหายโอนเงินเข้ามีเงินเข้าออกบัญชีตลอดค่ะ และเปิดมานาน
จากซ์้อ-ขาย Bitcoin กลายเป็น gang call center และโดนหมายจับคดีร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ได้อย่างไร??
เรื่องนี้เกิดขึ้นจากประสบการณืจริง กระทู้นี้ตั้งมาเพื่อขอคำปรึกษา พูดคุยสนทนาและให้เพื่อเป็นแนวทางสำหรับผู้ที่กำลังลงทุนในระบบเงินดิจิตอล หรือหลายๆ คนเรียกว่า Bitcoin.
เริ่มเลยแล้วกัน ผิดพลาดประการใด ต้องขออภัยด้วย ต้องขอเกริ่นตั่งแต่เกิดเรื่องเลยนะคะ เราเป็นพนักงานเงินเดือนบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ซึ่งรับเหมาก่อสร้างค่ะ เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2560 ช่วงบ่ายวันนั้น มีตำรวจนำหมายจับและหมายค้นมาที่บ้าน ซึ่งช่วงเวลานั้นยังทำงานอยู่และมีแฟน(ฝรั่ง)อยู่ที่บ้านกับเพื่อน จึงได้โทรให้มาดู ตำรวจโชว์เอกสารและจับกุม คือ ช่วงเวลานั้นคือ งง มากเลยค่ะ ทางตำรวจแจ้งว่า เราเป็น แก็งค์คอลเซ็นเตอร์ ต้องจับกุมไปสอบสวนที่ สน. ในขอนแก่น เราก็พยายามถามว่าเราเป็นแก็งค์คอลเซ็นเตอร์แบบไหน? ไปหลอกลวงใคร? เหตุเกิดยังไง? แต่ไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจน มีแต่แจ้งว่าทางเราโทรไปหลอกลวงผู้เสียหายให้โอนเงินเข้าบัญชี. ตำรวจจับกุมตัวเรากับแฟนค่ะ ทางฝั้งเราก็พยายามติดต่อทนายว่ามีเรื่องนะให้ไปหาที่ สน. (มีการเอาเอกสารมาให้ทางเราเซ็นต์แต่เราไม่เซ็นต์อะไรทั้งสิ้นค่ะ ซึ่งจะบอกว่าเป็นผลดีในภายหลังมากๆ)
ในวันเดียวกันนั้นช่วงเย็นทางตำรวจก็นำเราไปสอบสวนที่ตึกสักแห่งหนึ่ง ไม่ใช่สถานีตำรวจนะคะ ใช้เวลานานมาก เราก็ปฎิเสธทุกข้อกล่าวหา ตอนนั้นเรากลัวมากเลยค่ะ ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น. มีการยึดของกลางทุกอย่างที่อยู่ในบ้าน สมุดบัญชี มือถือ โน๊ตบุ๊ค ATM รถยนต์ (ในส่วนของรถยนต์ทางตำรวจแจ้งว่าเลขทะเบียนไม่ตรงกับเล่ม อันนี้ ทะเบียนที่ใช้อยู่เป็นทะเบียนรถมอเตอร์ไซค์ ส่วนเลขเครื่องเป็นรถยต์รุ่นเดียวกันแต่คนละสี และมีทะเบียนอยู่ภาคใต้ อันนี้คือ งง มากค่ะ รถเราซื้อมือ 2 มาจากเพื่อนและกำลังทำเรื่องโอน มีเล่มทะเบียน ลงรายละเอียดทุกอย่าง พรบ+ภาษี ประกันฯ ครบ) ประมาณช่วงเวลา 2-3ทุ่ม ทางตำรวจนำเราไปฝากขังในคุก 1 คืน ขอย้ำนะคะ ว่าคุกจริงๆ ขาเราแทบก้าวไม่ออก นี่เป็นครั้งแรกที่ย่างกายเข้ามาในนี้ ไม่สามารถนอนหรือสงบสติอารมณ์ได้ นั่งร้องไห้ทั้งคืน ได้แต่มองหน้าแฟนตัวเองว่าเกิดอะไรขึ้น คือทางเราไม่ทราบอะไรเลยค่ะ จนถึงเช้าเขาก็นำตัวเราและแฟนไปส่งที่ ขอนแก่น
วันที่ 10 พฤศจิกายน 2560 ตำรวจนำตัวเราส่งไปที่ขอนแก่น พอไปถึงก็เย็นมากแล้วค่ะ ก็พาเราเข้าไปในห้องสอบสวน และให้เราดูข้อมูลว่ามีผู้เสียหายโดนหลอกให้โอนเงินมูลค่า 1.6 ล้านบาท เข้าบัญชีประมาณ 5 บัญชี และมีเงินเข้าบัญชีแฟนเรา 200,000 บาท และในวันเดียวกัน แฟนเราก็โอนเงินเข้าบัญชีเรา2 205,000 บาท และมีการกดเงินออกมาผ่าน ATM ผู้เสียหายแจ้งว่ามีผู้แอบอ้างเป็นตำรวจภาค 4 โทรมาหาผู้เสียหายเพื่อขอตรวจสอบบัญชี เพราะอาจจะเกี่ยวข้องกับกระบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติและฟอกเงิน โดยให้ผู้เสียหายโอนเงินเข้าบัญชีตามที่เขาแจ้งมา และหลังจากตรวจสอบแล้วจะมีการโอนเงินคืนให้ดังเดิม เริ่มจากตอนแรกผู้เสียหายแจ้งว่ามีคนที่ทำงานในไปรษณีย์โทรแจ้งว่ามีพัสดุของผู้เสียหายตกค้างอยู่ที่หลักสี่ และได้ทำการแสกนดูเห็นว่ามีสมุดบัญชี 30 เล่มและบัตร ATM จำนวนมาก พร้อมเงินสด 100,000 บาท จึงได้ทำการส่งให้ตำรวจ และหลังจากนั้นก็มีผู้แอบอ้างเป็นตำรวจโทรหา โดยเบอร์ที่โทรเป็นเบอร์โทรของ สน. ภาค 4 จริงๆ (คุณเชื่อไหมว่า เขาคุยกันเกือบครึ่งวัน โดยมีการเปลี่ยนคนคุยด้วยและบอกให้ผู้เสียหายโอนเงินเข้าบัญชีแฟนเราประมาณ 200,000 บาท แต่ไม่ให้โอนผ่านบัญชีโดยตรง โดยให้ฝากผ่านตู้ฝากเงินสดเท่านั้น แต่เขาไม่ระแวงอะไรเลย ว่าจะโดนหลอก) ทางตำรวจเอาภาพต่างๆ มาให้เราดู ถามว่าทางเรารู้จักคนนี้ไหม? หลายรูปมาก ซึ่งเราก็ปฎิเสธไปทุกอย่าง และแจ้งว่า เราได้เงินมาจากการ ซื้อ - ขาย Bitcoin ซึ่งเราทำธุรกิจเกี่ยวกับ Bitcoin มาได้ประมาณ 2-3 ปีแล้ว พร้อมโชว์ข้อความที่พูดคุยซื้อ-ขายกันผ่าน โปรแกรม (ต้องชี้แจงก่อนว่าทางเราเปิดบริษัทฯขึ้นมาสำหรับซื้อ-ขาย bitcoin ด้วยนะคะ และเราก็มีข้อมูลการซื้อ-ขายกับลูกค้าด้วย ) คนที่เล่น Bitcoin น่าจะเข้าใจว่าการที่จะซื้อ-ขาย Bitcoin กัน ไม่จำเป็นต้องเจอหน้ากันหรือขอข้อมูลอะไรเลยสำหรับคนที่มาซื้อกับเรา สิ่งที่สำคัญแค่ทางลูก้าแจ้ง Wallet มาให้เราโอน Bitcoin ให้เพียงเท่านั้น
ทางเราก็ให้ความร่วมมือกับตำรวจเต็มที่ในการให้ข้อมูล แต่คุณรู้ไหมค่ะ ว่าไม่มีใครสักคนเลยที่รู้จัก "Bitcoin"
คำถามที่เขาถามเราซ้ำๆและบ่อยๆ คือคำว่า "Bitcoin คืออะไร"
ผ่านไปหลายชั่วโมง ตำรวจต้องนำตัวเราส่งต่อไปยังพื้นที่ ที่เกิดเหตุ โดยมาเจ้าหน้าที่ตำรวจมารอรับแล้ว โดยก่อนที่จะส่งไป มีตำรวจเรียกเราเข้าไปคุย ต่างๆ นาๆ บอกว่าเรา ฟอกเงินบ้างละ ฉ้อโกงคนอื่นบ้างละ และจะส่งคนที่บ้านพ่อแม่เราเพื่อไปยึดทรัพย์ ต่างๆ นาๆ ที่เขาอยากจะพูดและจะคัดค้านการประกันตัวเรา แต่เราคงทำได้แค่ร้องไห้ค่ะ ไม่ใช่ว่ากลัวที่โดนขู่นะคะ แต่ งง ว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะเรามีหลักฐานทุกอย่างให้ทางเขาดู แต่ไม่มีใครเชือเลย
วันที่ 11 พฤศจิกายน 2561 ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวเราส่งศาลค่ะ (วันเสาร์ศาลเปิดครึ่งวัน) ศาลมีคำสั่งฝากขัง 12 วันค่ะ คือขาสั่นเลยค่ะ เดินไม่ออก ทนายพยายามประกันตัวค่ะ แต่ตำรวจคัดค้านการประกันตัวเพราะกลัวผู้ต้องหาหลบหนี และแฟนเราเป็นต่างชาติด้วย ทนายก็เลยแยกคำขอประกันตัวออกแค่เราคนเดียว ก็ไม่สามารถประกันตัวได้ ช่วงบ่ายศาลส่งตัวเข้าเรือนจำ คือ...................(คุณเข้าใจไหมค่ะว่า อยู่ดีๆ ก็โดนจับ ได้ไปนอนที่คุกและในเรือนจำ โดยที่เราไม่สามารถทำอะไรได้เลย) การที่เราเข้าไปอยู่ในเรือนจำมันยากมากเลยนะคะ ที่จะหาข้อมูลมาต่อสู้ในชั้นศาล
ตอนอยู่ในเรือนจำเราเปลี่ยนทนายไปเกือบ 6 คนได้ค่ะ เงินที่ทำงานมาทั้งชวิตและเงินเก็บหมดไปกับทนายและค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เกิดขึ้น เพราะเราไม่สามารถออกไปหาเอกสารมาต่อสู้ได้เลย. ในขณะที่เราโดนฝากขังอยู่นั้น ก็มีคนโดนจับมาในคดีเดียวกันและผู้เสียหายคนเดียวกันกับเราอีก 4 คน ซึ่งเป็นชสย 1 คน และผู้หญิง 3 คน แต่ละคนอยู่คนละจังหวัด 3 คนโดนชักชวนให้เปิดบัญชีค่ะ และเขาก็ได้ค่าตอบแทน ในใจเราคือเขาก็ทำผิดจริงๆ แต่มองที่เราสิ เราไม่ได้ทำอะไรผิดเลย น้ำหนักลดเป็น 10 กิโล ผู้ชายที่โดนจับมายอมรับสารภาพว่าเป็นนายหน้าหาคนรับจ้างเปิดบัญชีและเขาจะได้ค่าคอมมิชชั่นค่ะ ศาลตัดสินจำคุก 3 ปี แต่ให้การรับสารภาพลดเหลือ 1 ปี 6 เดือน และทำการชดใช้เงินให้ผู้เสียหาย 1.6 ล้านบาท.
8 เดือนค่ะ สำหรับการใช้ชีวิตอยู่เรือนจำ จนถึงวันสอบสวน ศาลใช้เวลาสอบสวนถึง 4 วันค่ะ ในวันสอบสวน ผู้หญิง 2 คนที่โดนจับมาทีหลังยอมรับสารภาพทั้งน้ำตาเพราะว่าไม่มีหลักฐานที่จะเอาไปสู้ และทางเขาก็รับจ้างเปิดบัญชีจริง แต่เขาไม่ใช้แก็งค์ที่โทรหลอกลวงผู้เสียหาย ศาลตัดสินจำคุก 1 ปี 6 เดือน พร้อมชดใช้เงินคืน. ประมาณปลายเดือนมิถุนายน 2561 ศาลมีคำสั่งยกฟ้อง เราและแฟนค่ะ ดีใจมากทั้งร้องไห้ เหมือนตายแล้วเกิดใหม่ ขอบคุณศาลที่เมตตาเราและเห็นในหลักฐานที่เราให้ไป และตอนนี้ทางโจทย์กำลังยื่นอุธรณ์ต่อค่ะ ก็ไม่รู้ว่าจะเป็นยังไงต่อไป เราก็เลยเอามาแชร์ให้ทุกคนได้รู้และระวังตัวไว้เพื่อไม่ให้ตกเป็นเป้าหมายของพวกหากินบนความทุกข์ของคนอื่นค่ะ
ไม่ใช่แค่ Bitcoin เท่านั้นนะคะ บางทีคนที่ค้าขายออนไลน์หลายคนอาจจะเคยโดนแบบนี้มาแล้วก็ได้
ปล. 1.ทางเราขาย Bitcoin ใน กระดาน website (ไม่แน่ใจว่าเอ่ยชื่อในนี้ได้ไหม เอาเป็นว่าใครอยากรู้ก็ IB มาถามได้ค่ะ)
2.เรารู้จักและเริ่มเล่น Bitcoin ตั้งแต่ราคา 10,XXX ต่อ 1 Bit ค่ะ
3. บัญชีที่ผู้เสียหายโอนเงินเข้ามีเงินเข้าออกบัญชีตลอดค่ะ และเปิดมานาน